อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 993 ฆ่าให้หมด ยกเว้นเด็กคนนั้น
ตอนที่ 993 ฆ่าให้หมด ยกเว้นเด็กคนนั้น
ตอนที่ 993 ฆ่าให้หมด ยกเว้นเด็กคนนั้น
จินหลิวหลีอุ้มเขาออกมาจากรถม้า ขมวดคิ้วและพูดว่า “มีอะไรหรือ?”
“วิท… วิทยายุทธ์ของเผิงอิงล้ำเลิศถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”
จินหลิวหลีหันหน้าไปมองทันที สีหน้าของนางจริงจัง ขณะพูดเย้ยหยัน “เกรงว่าเขาคงซ่อนเร้นความแข็งแกร่งของตัวเองไว้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
หนานหนานเม้มปากแน่น พูดตามตรง เขาก็ยังไม่อาจยอมรับความจริงที่ว่าท่านลุงเผิงเป็นไส้ศึกได้
เห็นได้ชัดว่าเขาช่วยท่านพ่อทุกเรื่องอย่างเต็มที่ เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อกิจการของตำหนัก และเห็นได้ชัดว่าเขาปฏิบัติต่อตัวเขาเองเป็นอย่างดี
แต่ว่า แต่ว่า… ท่านน้าจินรอบคอบมาก นางย่อมไม่กล่าวโทษเขาโดยไม่มีเหตุผลแน่นอน เพราะเรื่องเช่นนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของตำหนักท่านอ๋องซิว
“บ้าเอ๊ย” ทันใดนั้นเสียงสบถแผ่วเบาก็ดังขึ้นข้างหูเขา
หนานหนานรีบสลัดความคิดยุ่งเหยิงเหล่านั้นในใจออกไป แล้วเงยหน้าขึ้นมองจินหลิวหลีที่กำลังขมวดคิ้ว “ท่านน้าจิน เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ?”
“หนานหนาน เจ้าอยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟังไปก่อน น้าจะเข้าไปช่วย” ใบหน้าของจินหลิวหลีซีดเผือด เผิงอิงผู้นี้ซ่อนเร้นได้แนบเนียนจริง ๆ คาดไม่ถึงเลยว่าทักษะของเขาจะดีถึงเพียงนี้
หนานหนานมองคนทั้งสองที่กำลังต่อสู้กัน และดูเหมือนว่าท่านอาแปดใกล้เพลี่ยงพล้ำแล้ว
“ท่านไปเลย ท่านรีบไปเดี๋ยวนี้เลยขอรับ”
จินหลิวหลีบีบมือเขา แล้วกระโจนเข้าไปอยู่ตรงหน้าทั้งสองคนที่กำลังสู้กัน
ทักษะของเผิงอิงนั้นดีมาก แต่เมื่อมีจินหลิวหลีเพิ่มเข้ามา การเคลื่อนไหวของเขาก็ช้าลงมากอย่างเห็นได้ชัด
“องค์ชายแปด แม่นางจิน พวกท่านหมายความว่าอย่างไรขอรับ?” หลังจากต่อสู้กันอยู่นาน เผิงอิงก็ถามด้วยความโกรธเกรี้ยว
เย่ฮ่าวหรานหัวเราะเยาะ “เผิงอิง ในเวลาเช่นนี้ เจ้ายังต้องเสแสร้งอีกหรือ? หมู่เฟยของข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีจริงๆ”
“ฮึ่ม” เผิงอิงตะคอกอย่างเย็นชา “องค์ชายแปด อย่าลืมว่าท่านถูกเนรเทศออกจากเมืองหลวงแล้ว และจะไม่มีวันได้กลับมาอีก แต่ตอนนี้ท่านอยู่ที่นี่ นับว่าขัดต่อพระราชกฤษฎีกาหรือไม่?”
“เรื่องนี้ เจ้าไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อทูลต่อหน้าเอาเองเถิด หลีเอ๋อร์ ไม่ต้องปรานี หากจับเป็นไม่ได้ ก็อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้”
“ได้เลย” แส้ของจินหลิวหลีที่โบกสะบัดรุนแรงส่งเสียงดัง ‘ฟึ่บ’
เนื่องจากเผิงอิงเป็นไส้ศึก เดิมทีพวกเขาจึงวางแผนที่จะจับกุมเขา เพื่อส่งตัวให้เย่ซิวตู๋จัดการ แต่คาดไม่ถึงว่าทักษะของเผิงอิงจะถูกซ่อนเร้นเอาไว้ ตอนนี้จึงดูเหมือนว่าไม่ง่ายเลยที่จะจับเป็นเขาได้
สีหน้าของเผิงอิงเปลี่ยนไป และการเคลื่อนไหวของเขาก็รวดเร็วยิ่งขึ้น
ไม่ไกลนัก หนานหนานกำมือแน่น แล้วก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว
ทันใดนั้นเผิงอิงก็พบช่องว่าง เขายกมือขวาขึ้นมาแล้วเป่าเสียงหวีดแหลม
หนานหนานตกใจ และในวินาทีต่อมา เขาก็เห็นชายชุดดำประมาณยี่สิบคน รีบวิ่งมาจากด้านหลังของเผิงอิง ทุกคนมีสีหน้าจริงจัง และวิ่งกรูเข้าหาพวกเขา
ขณะนั้นสีหน้าของเย่ฮ่าวหรานและจินหลิวหลีก็เปลี่ยนไปเช่นกัน พวกเขาถอยหลังไม่กี่ก้าว
เผิงอิงหัวเราะเยาะ แล้วพูดกับเหล่าชายชุดดำว่า “ฆ่าให้หมด ยกเว้นเด็กคนนั้น”
“ขอรับ” ชายชุดดำตอบตามระเบียบ แล้วมุ่งเป้าไปที่เย่ฮ่าวหรานและจินหลิวหลี
จินหลิวหลีล่าถอยครั้งแล้วครั้งเล่า และพยายามหาโอกาสวิ่งไปข้างหนานหนาน แต่ในไม่ช้าก็ถูกชายชุดดำหลายสิบคนปิดล้อม
เช่นเดียวกับเย่ฮ่าวหรานในอีกด้านหนึ่ง เขาไม่สามารถหลบหนีได้เลย
ส่วนเผิงอิงที่เดิมทีถูกพวกเขาปิดล้อม ได้ถอยออกจากวงล้อมแล้ว เขากอดอกมองทั้งสองด้วยสายตาเย็นชา
“ลงมือ” เขาออกคำสั่ง แล้วชายชุดดำกว่ายี่สิบคนก็เปิดฉากโจมตีพร้อมเพรียงกัน
จินหลิวหลีและเย่ฮ่าวหรานจดจ่อกับการรับมือคนเหล่านั้น
เมื่อนึกถึงหนานหนานที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมาได้ เย่ฮ่าวหรานก็รีบตะโกนว่า “หนานหนาน รีบหนีไป”
“อ๊ะ…” สิ้นเสียงนั้น เขาก็ถูกดาบฟันเข้าที่แขน
เผิงอิงหัวเราะ “องค์ชายแปด พวกเขาล้วนเป็นมือสังหารชั้นหนึ่ง หากท่านยังไม่ยอมเอาจริง ต่อไปดาบจะเล็งที่คอของท่านแล้ว”
ใบหน้าของเย่ฮ่าวหรานซีดเผือด ทันใดนั้นเขาก็เหวี่ยงคมดาบเข้าหาชายชุดดำตรงหน้าเขา แล้วถีบอกชายอีกคนที่อยู่ทางด้านซ้าย
หนานหนานอ้าปากค้าง เขาจะเชื่อสิ่งที่เย่ฮ่าวหรานพูดได้อย่างไร
ท่านอาแปดของเขาได้รับบาดเจ็บ เขาจะจากไปเช่นนี้ได้อย่างไร
ร่างเล็กเกร็งขึ้นทันที เข็มเงินสองสามเล่มปรากฏขึ้นในมือของเขา หลังจากแตะเท้าแล้ว เขาก็พุ่งเข้าหาชายชุดดำ
ทว่าหลังจากก้าวไปข้างหน้าได้ไม่กี่ก้าว เผิงอิงก็พุ่งเข้ามาขวางหน้าเขาไว้ทันที “หนานหนาน หากเจ้าไม่ต้องการให้ท่านอาแปดและท่านน้าจินของเจ้าต้องตาย เจ้าก็ควรจะปฏิบัติตามข้าอย่างเชื่อฟัง”
หนานหนานส่งเสียง ‘หึ’ แล้วพูดว่า “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ หากข้าไปกับเจ้า เจ้าก็จะไม่ปล่อยท่านอาแปดและท่านน้าจินของข้าอยู่ดี”
“โอ้ ข้าลืมไป เจ้าฉลาดกว่าเด็กธรรมดาทั่วไป”
“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นฝีมือของเจ้าเองใช่หรือไม่? ความจริงแล้วท่านน้าเป่าเอ๋อร์ยังไม่ได้ออกจากวัง”
“แล้วอย่างไร?” เผิงอิงไม่ได้ปฏิเสธ ในเช้าวันนั้น เขาอยู่ที่นั่นจริง ๆ เขาได้ยินหนานหนานพูดกับอวี้ชิงลั่วเรื่องอวี้เป่าเอ๋อร์ที่ถูกขังอยู่ในตำหนักของคังเฟยอย่างชัดเจน เพียงแต่เขาไม่มีเวลาไปแจ้งคังเฟยที่ตำหนัก เพื่อให้ทำการย้ายเป้าหมาย แม้ว่าเขาจะไปทัน มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะย้ายออกมาจากวังที่เต็มไปด้วยคนของเย่ซิวตู๋
ดังนั้นเขาจึงไปพบขันทีคนนั้น ให้แสร้งทำเป็นแจ้งให้เสิ่นอิงทราบในตอนที่หนานหนานอยู่ด้วย อันที่จริงแม้ว่าหนานหนานจะไม่ได้อยู่ที่นั่นในตอนนั้น เขาก็คงจะบอกเรื่องนี้กับหนานหนานด้วยวิธีอื่น
เผิงอิงรู้จักนิสัยของเสิ่นอิงดี ช่วงนี้ท่านอ๋องซิวไม่ได้มอบหมายภารกิจให้องครักษ์ทั้งสามทำเลย หากมองอย่างผิวเผินจะคิดว่าเสิ่นอิงดูปกติดี แต่เขารู้อยู่ในใจว่าท่านอ๋องซิวไม่ไว้วางใจพวกเขาทั้งสามคนอีกต่อไปแล้ว เขาจึงต้องการพิสูจน์ความภักดีของตัวเอง
เพื่อไปช่วยอวี้เป่าเอ๋อร์ หากไม่มีแม่นางอวี้และท่านอ๋อง เสิ่นอิงต้องหาคนไปกับเขาด้วยแน่นอน และเขาก็บังเอิญเป็นคนที่ไปช่วยเสิ่นอิงพอดี
เขารู้ว่าหนานหนานแอบตามพวกเขามา และยังแอบฟังด้วย แต่ในเวลานั้นเสิ่นอิงกังวลจนไม่ได้สนใจ
สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เขากลับได้พบกับเย่ฮ่าวหรานและจินหลิวหลีที่รีบกลับมาทำลายความโชคดีของเขา
“ท่านลุงเผิง คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้” หนานหนานกำมือเล็ก ๆ ของตนแน่น แล้วต่อยหน้าเผิงอิงทันที
รูม่านตาของเผิงอิงหดตัวลง เขาถอยหลังไปสองก้าวทันที ทันทีที่เขาเพิ่งจะยืนนิ่งได้ มีดสั้นในมือซ้ายของหนานหนานก็พุ่งมาตรงหน้าเขาแล้ว
เผิงอิงขมวดคิ้วและพลิกตัวบนพื้นทันที ก่อนจะกลิ้งไปมาเพื่อหลบอย่างรวดเร็ว
แต่ในวินาทีต่อมา ฝีเท้าของเขาก็โซเซ ส่วนหนานหนานก็ตามมาติด ๆ อีกครั้ง จากนั้นมีดสั้นก็กรีดผ่านแขนเสื้อของเผิงอิงดังแควก คราบเลือดไหลลงมาอาบแขนของเขา ทำให้เสื้อผ้าของเขากลายเป็นสีแดงฉาน
เผิงอิงรีบถอยห่างออกไปราวยี่สิบหมี่ ก่อนจะอุ้มชายชุดดำขึ้นมา แล้วผลักเขาไปทางหนานหนาน
ปลายดาบของชายชุดดำแทงตรงไปยังหนานหนาน สีหน้าของหนานหนานแข็งทื่อ เขาหันหลังกลับและหลบได้ทัน
ชายชุดดำไล่ตามเขาทันที พยายามแทงเขาด้วยปลายดาบ
หนานหนานเม้มปาก และกำลังจะหันหลังหนีไป แต่ทันใดนั้นเอง ดาบเล่มหนึ่งก็พุ่งมาจากด้านหลัง และแทงเข้าที่หัวใจของชายชุดดำ
หนานหนานหันหน้าไปมองทันที ดวงตาของเขาเป็นประกาย เมื่อเห็นคนสองคนที่วิ่งมาจากข้างหลังตน
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ซ่อนตัวเนียนหลายปีมากจนสนิทสนมไว้ใจ พอเผยตัวตนแท้จริงออกมาจะไม่เสียใจไงไหว
ไหหม่า(海馬)