อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 995 เตรียมงานศพ
ตอนที่ 995 เตรียมงานศพ
ตอนที่ 995 เตรียมงานศพ
“ท่านลุงเสิ่น” หนานหนานร้องลั่น แล้วรีบวิ่งไปหา
ทันใดนั้นคนอื่น ๆ ก็มองไปยังเสิ่นอิง เผิงอิงหรี่ตาลง แล้วตะโกนบอกชายชุดดำที่เหลืออีกเจ็ดหรือแปดคน “ถอย”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็วิ่งนำหน้าหนีเข้าไปในป่า
แส้ของจินหลิวหลีพันตัวชายชุดดำคนสุดท้าย แล้วฟาดลงกับพื้นอย่างแรง จนเขาตายทันที
ส่วนคนอื่น ๆ จากไปหมดแล้ว
เย่ฮ่าวหรานและจินหลิวหลีมองหน้ากัน แล้วรีบวิ่งไปหาเสิ่นอิง
ฟ่านฉี่อวิ๋นประคองให้เขานั่งอย่างระมัดระวัง ขณะเสิ่นอิงกระอักเลือดออกมาอีกคำหนึ่ง
หนานหนานรีบคุ้ยกระเป๋าหายา เมื่อพบแล้วก็รีบยัดเข้าไปในปากของเสิ่นอิง “ท่านลุงเสิ่น รีบกินเร็วเข้า”
เสิ่นอิงพยายามกลืนยาของหนานหนานในปาก แล้วยกยิ้มให้เขา “ไม่ ข้าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกังวล”
จะไม่เป็นอะไรได้อย่างไร? เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งเผิงอิงยังซัดฝ่ามือใส่อย่างรุนแรง เขาจึงล้มกระแทกเข้ากับโขดหิน ดังนั้นอวัยวะภายในของเขาน่าจะเสียหายไปแล้ว
“ไปเถิด พาเขากลับไปที่ตำหนักท่านอ๋องซิวก่อน” จินหลิวหลีเห็นว่าอาการของเสิ่นอิงรุนแรงมาก นางจึงรีบพูดกับทุกคน
เย่ฮ่าวหรานและฟ่านฉี่อวิ๋นพยักหน้าพร้อมกัน แล้วช่วยกันยกตัวเขาเข้าไปในรถม้าอย่างระมัดระวัง
หนานหนานและจินหลิวหลีคอยดูแลเขา ทั้งสองคนขับรถม้ามุ่งไปยังตำหนักท่านอ๋องซิว
ทันทีที่มาถึงประตูตำหนักท่านอ๋องซิว ฟ่านฉี่อวิ๋นก็พูดกับคนรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอกว่า “รีบไปตามหมอ”
“อวี้ชิงลั่วไม่อยู่หรือ?” เย่ฮ่าวหรานถามด้วยความประหลาดใจ
ฟ่านฉี่อวิ๋นส่ายหัว “แม่นางอวี้ไปช่วยอวี้เป่าเอ๋อร์ที่วัง นางไม่ได้อยู่ในตำหนัก” หากต้องเข้าวังไปตามอวี้ชิงลั่ว ไปตามหมอน่าจะเร็วกว่า
เย่ฮ่าวหรานพยักหน้า และสั่งให้คนรับใช้ของตำหนักท่านอ๋องซิวรีบนำเก้าอี้ยาวมาให้ แล้วแบกเสิ่นอิงที่หมดสติเข้าไปในตำหนัก
เมื่อโม่เสียนและพ่อบ้านหยางได้ยินการเคลื่อนไหว พวกเขาก็รีบมาทันที
เมื่อเห็นเย่ฮ่าวหรานและจินหลิวหลี พวกเขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่วินาทีต่อมา เมื่อสายตาของพวกเขามองเห็นเสิ่นอิงที่นอนอยู่บนเก้าอี้ยาว ก็อ้าปากค้างทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” โม่เสียนอดไม่ได้ที่จะดวงตาเบิกกว้าง ด้วยสีหน้าตกใจ
“พาเขาเข้าไปก่อนเถิด แล้วค่อยคุยกัน”
ไม่มีเวลาอธิบายใดๆ ทุกคนรีบเข้าไปในห้อง
ท่านหมอเข้ามาอย่างรวดเร็ว โม่เสียนรีบดึงเขามาตรงหน้าเสิ่นอิง “ท่านรีบตรวจเขาเร็ว”
ท่านหมอตัวสั่นสะท้าน ก่อนรีบยื่นมือออกไปจับชีพจรของเสิ่นอิง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าของเขาก็ซีดลง พลันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดว่า “ทุกคน ใต้เท้าทุกท่าน คุณชายผู้นี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้า ข้าทำอะไรไม่ได้แล้วขอรับ”
โม่เสียนสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะก้มลงไปกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมา “เจ้าว่าอย่างไรนะ? พูดอีกครั้งได้หรือไม่?”
“ข้าทำอะไรไม่ได้จริง ๆ ขอรับ อา อาการบาดเจ็บนี้สาหัสเกินไป โดยเฉพาะการถูกฝ่ามือซัดเข้าที่หน้าอก มันถึงตายได้จริง ๆ ข้าไม่สามารถรักษาเขาได้จริง ๆ พวกท่านควรเตรียมงานศพเลยขอรับ”
“อย่าพูดเหลวไหล” หนานหนานตะโกน ดวงตาของเขาแดงก่ำ ก่อนจะหันหลังวิ่งออกจากห้องไป
จินหลิวหลีรีบตามไป “หนานหนาน”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัดชวนขนลุก ท่านหมอที่กำลังตัวสั่นคุกเข่าลงบนพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนในห้องเงียบ ๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็แนะนำด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้า ข้าได้ยินมาว่าแม่นางหมอปีศาจอยู่ในตำหนักท่านอ๋องซิว พวกใต้เท้า พวกใต้เท้าควรขอให้นางมารักษา ทักษะทางการแพทย์ของหมอปีศาจนั้น ไม่มีใครในโลกนี้เทียบเทียมได้ นางน่าจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น ดังนั้น…”
“หุบปาก” โม่เสียนตะคอกอย่างเย็นชา แน่นอนว่าเขารู้ว่าหากแม่นางอวี้อยู่ที่นี่ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลมากนัก
แต่ตอนนี้แม่นางอวี้อยู่ลึกเข้าไปในวังหลวง และกำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่รู้ด้วยว่านางอยู่ที่ไหน แม้ว่าพวกเขาจะต้องการส่งข้อความไปหา ก็เกรงว่าคงเป็นเรื่องยาก
ขณะที่ไฟกำลังลุกโหมกระหน่ำ หนานหนานที่วิ่งออกไปเมื่อสักครู่นี้ก็วิ่งเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับถือขวดยาจำนวนมากไว้ในมือ แล้วนำมากองไว้ข้างเตียงของเสิ่นอิงทั้งหมด
“หนานหนาน พวกนี้มีไว้ทำอะไร?” เย่ฮ่าวหรานถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
หนานหนานก้มหน้าลงและเริ่มค้นหา “นี่คือขวดยาของท่านแม่ พวกมันมีค่ามาก ข้ากำลังหาอยู่ขอรับ”
ขณะที่เขาพูดก็ไม่ได้หยุดมือเลย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เปิดขวดเล็กสีน้ำตาล ใบหน้าของเขายิ้มแย้มแจ่มใสด้วยดีใจ “นี่แหละ สิ่งนี้มีประโยชน์มากสำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บภายใน ครั้งล่าสุดที่ท่านยายฮ่วนบาดเจ็บ ท่านแม่กก็ใช้ยานี้ขอรับ”
หนานหนานเทยาออกมาสองเม็ดทันที แล้วยัดเข้าไปในปากของเสิ่นอิง
หมอที่คุกเข่าอยู่บนพื้นตกใจ และรีบหยุดเขา “เฮ้ ซื่อจื่อน้อย ซื่อจื่อน้อย ท่านไม่สามารถใช้ยานี้โดยพลการ”
“เจ้าหุบปากซะ” โม่เสียนตวาดใส่เขาอีกครั้ง
แม้ว่าหนานหนานจะเป็นเด็ก แต่เขาก็ไปไหนมาไหนกับอวี้ชิงลั่วตลอดทั้งปี แม้ว่าเขาจะไม่มีทักษะทางการแพทย์ แต่เขาก็เคยผ่านหูผ่านตา จึงได้ซึมซับความรู้ทางการแพทย์มาบ้าง
โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตาย เขาจะไม่ล้อเล่นแน่นอน
เขาบอกว่ายาได้ผล ดังนั้นมันก็ต้องได้ผล
คนอื่นก็ไม่ได้คิดจะหยุดเขาเช่นกัน พวกเขาแค่มองเสิ่นอิงด้วยสายตาวิตกกังวล
หากยังไม่รู้สึกดีขึ้นหลังจากกินยานี้ ก็แสดงว่า…
หมอมองไปรอบ ๆ แล้วแอบก่นด่าอยู่ในใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนี้หลังจากกินยา ก็อย่าได้มาโทษเขาเลย
หนานหนานป้อนยาเสร็จแล้ว ก็รีบดึงตัวหมอขึ้น “ท่านรีบตรวจท่านลุงเสิ่นดูอีกครั้งเร็วเข้า”
ท่านหมอเอาแต่บ่นพึมพำ แล้วจับชีพจรอีกครั้ง
จากนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย “ยานี้ดูเหมือนจะมีประโยชน์ แต่…”
“แต่อะไร?”
ท่านหมอถอนหายใจ “อาการบาดเจ็บรุนแรงเกินไป ยานี้สามารถช่วยต่อชีวิตเขาได้เพียงชั่วขณะหนึ่ง”
“ท่านพูดเหลวไหลอะไรกัน?”
“ท่านโม่ ท่านอ๋องเสด็จกลับมาแล้วขอรับ” ทันใดนั้น เสียงของพ่อบ้านหยางก็ดังมาจากประตู
หนานหนานยืนขึ้นทันที แล้วรีบวิ่งออกไปที่ประตู
เขาเห็นเย่ซิวตู๋กำลังเดินมาจากระยะไกล และรีบเดินตรงมาทางนี้
ตลอดทั้งวันทั้งคืน หนานหนานทนทุกข์ทรมานกับแรงกดดันทางจิตใจมากเกินไป ตอนแรกเขาต้องเฝ้าดูอวี้เป่าเอ๋อร์ถูกทรมานทั้งคืน จากนั้นก็ค้นพบว่าเผิงอิงทรยศ และตอนนี้เขาก็รู้ว่าเสิ่นอิงอาจจะไม่รอด ร่างกายของเขาจึงเหมือนกับกำลังจะแหลกสลาย
ฝีเท้าของเขาเริ่มสั่นเล็กน้อย ขณะก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อไปหาเย่ซิวตู๋ และสะดุดขาตัวเอง
เย่ซิวตู๋รู้สึกชัดเจนว่าหนานหนานแปลกไป เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะล้มลง ก็รีบอุ้มเขาด้วยมือข้างเดียว
“ระวังด้วย”
“ท่านพ่อ เสิ่นอิง ท่านลุงเสิ่น… บาดเจ็บสาหัสเกินไป ท่านหมอบอกว่า… เขากำลังจะตายขอรับ”
น้ำตาไหลออกจากหางตาของหนานหนาน ทำให้เย่ซิวตู๋รู้สึกเจ็บปวดใจมาก เขารีบลูบหลังหนานหนาน ขณะเดินไปข้างหน้าพร้อมอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน แล้วปลอบโยนแผ่วเบา “ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร พ่ออยู่ตรงนี้แล้ว จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอ๊ะ?”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ จู่ ๆ ก็มีคนวิ่งผ่านไป และรีบเข้าไปในห้องของเสิ่นอิง
หนานหนานชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองร่างที่วิ่งผ่านพวกเขาไป “ท่านพ่อ นั่น…”
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แง ท่านเสิ่นจะรอดไหม
ใครวิ่งผ่านไปน่ะ?
ไหหม่า(海馬)