อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 998 พาตัวเหมิงกุ้ยเฟยกลับมาด้วย
ตอนที่ 998 พาตัวเหมิงกุ้ยเฟยกลับมาด้วย
ตอนที่ 998 พาตัวเหมิงกุ้ยเฟยกลับมาด้วย
เจียงอวิ๋นเซิงตกตะลึงกับการร้องไห้ของนาง “แม่นางเสี่ยวเสี่ยว ท่านเสิ่นยังไม่ตายนะ เจ้าร้องไห้ตอนนี้มันจะเร็วเกินไปหรือไม่”
“…” เสียงกรีดร้องทิ่มแทงใจหยุดลงในทันที บนแก้มของฟ่านเสี่ยวเสี่ยวยังคงมีคราบน้ำตาสองสาย นางลุงขึ้นมาดังพรึ่บ คว้าคอเสื้อของเจียงอวิ๋นเซิงเอาไว้ “เมื่อครู่ท่านว่าอะไรนะ เสิ่นอิงยังไม่ตายหรือ?”
“ใช่น่ะสิ ข้าฝังเข็มให้เขา อีกทั้งยังให้ยาของหนานหนานด้วย ดูอาการตอนนี้แล้วก็ถือว่าดีขึ้นเล็กน้อย แต่ฝีมือการแพทย์ของข้าทำได้เพียงเท่านี้ ต่อจากนี้ต้องรอแม่นางอวี้กลับมาค่อยว่ากัน ดูว่าแม่นางอวี้จะช่วยให้ท่านเสิ่นฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใด”
บาดเจ็บสาหัสเพียงนั้น ร่างกายจะต้องเสียหายอย่างแน่นอน อาการของเสิ่นอิงหนักหนามาก ถึงแม้จะช่วยชีวิตเอาไว้ได้แล้ว แต่ก็เกรงว่าผลข้างเคียงที่เหลืออยู่จะไม่ดีเท่าไรนัก
แต่ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร หากไม่ใช่เรื่องที่ถึงแก่ชีวิต ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวก็ถอนหายใจยาวออกมาได้อย่างโล่งอกแล้ว
นางปล่อยมือที่จับคอเสื้อของเจียงอวิ๋นเซิง รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้า จากนั้นก็ราวกับคิดอะไรออก รีบปัดเสื้อผ้าของเจียงอวิ๋นเซิง ช่วยให้เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ของเขาเรียบร้อยขึ้น และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นก็ดีๆ ขอบคุณมากท่านหมอเจียง เช่นนั้น เช่นนั้นข้าเข้าไปดูเขาได้หรือไม่?”
“อย่าเพิ่งเลยดีกว่า ตอนนี้ท่านเสิ่นต้องพักผ่อน” ด้วยอารมณ์ของฟ่านเสี่ยวเสี่ยว…เกรงว่าจะทำให้ท่านเสิ่นไม่ได้รับความสงบ
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวเชื่อฟังเป็นอย่างมาก รีบพยักหน้า “ได้ๆๆ ข้าจะไม่เข้าไปรบกวนเขา ข้าจะนั่งอยู่ข้างนอกนี่ รอให้เข้าไปหาเขาได้ก่อน แล้วข้าค่อยเข้าไป”
นางกล่าว จากนั้นก็หมุนตัวเลื่อนเก้าอี้มาวางไว้ตรงประตู นั่งตัวตรงอยู่ตรงนั้น
สายตาของทุกคนมองตามไปที่นาง ในเมื่อเสิ่นอิงไม่เป็นอะไรแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็สามารถวางใจได้แล้ว
แต่เป็นความเคลื่อนไหวของฟ่านเสี่ยวเสี่ยวที่ดึงดูดสายตาของทุกคน
โดยเฉพาะฟ่านฉี่อวิ๋น เขาหรี่ตาเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ย่อตัวลงข้างกายนาง เงยหน้ามองท่าทางของนางที่ดูมีความสุข “เสี่ยวเสี่ยว เจ้า… สนิทสนมกับเสิ่นอิงมากเลยหรือ? อีกอย่าง เจ้าไม่ได้อยู่ที่เมืองตันหยาง แล้วมาอยู่ที่เมืองหลวงได้อย่างไร?”
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวชะงัก ทันใดนั้นก็หันหน้าไปมองฟ่านฉี่อวิ๋น ต่อจากนั้นก็ลงมาจากเก้าอี้ “พี่ พี่สาม เหตุใดพี่จึงมาอยู่ที่นี่ พี่มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไรหรือ”
ฟ่านฉี่อวิ๋นสีหน้าเคร่งเครียดอย่างมาก อีกนิดก็จะกระเด้งตัวไปบิดหูของนางแล้ว “ข้ายืนอยู่ข้างเจ้ามาตั้งนานมากๆ แล้ว เจ้ากลับเพิ่งเห็นว่าข้ามีตัวตนตอนนี้น่ะหรือ?”
เข้าใจอะไรผิดหรือไม่? เมื่อครู่ก็ช่วยพานางออกมา เป็นเขาเองที่ปลอบนาง แต่นางนี่สิกลับเมินตนเสียอย่างนั้น
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวยิ้มแห้งหนึ่งครั้ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างเงียบๆ มองไปยังผู้คนรอบๆ ห้อง “เอ่อ… ทำไมมีคนมาเยอะจังเลย สวัสดีเจ้าค่ะ”
“ดีกับผีน่ะสิ ฟ่านเสี่ยวเสี่ยว เจ้าบอกข้ามาตามตรงเลยนะ ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ อีกอย่าง เจ้ากับเสิ่นอิงเป็นอะไรกัน?” ฟ่านฉี่อวิ๋นมีสีหน้าไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก เขาอายุไม่มาก ปกติก็มีแต่ยิ้มแย้ม ยากนักที่จะแสดงออกถึงสีหน้าเช่นนี้
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวตัวแข็งทื่อ แต่ต่อจากนั้นก็มองไปยังฟ่านฉี่อวิ๋นอย่างหยิ่งยโสทันที “พี่สาม ท่านกล้าตะโกนใส่ข้าหรือ ท่านกล้าตะโกนใส่ข้าด้วยหรือ หากท่านยังพูดหยาบคายอีก ข้าจะไปบอกพี่ใหญ่กับพี่รองว่าท่านรังแกข้า อีกเดี๋ยวท่านรอถูกถลกหนังได้เลย”
“ข้า…” ฟ่านฉี่อวิ๋นยังคิดจะกล่าวเสียงดัง แต่เพียงเห็นสีหน้าขมวดคิ้วจ้องมองอย่างโกรธเกรี้ยวของฟ่านเสี่ยวเสี่ยว ความโอหังของเขาก็หายไป
หนานหนานที่อยู่ด้านข้างมองดูก็ตกตะลึง ดึงแขนเสื้อของเย่ซิวตู๋อย่างเงียบๆ “ท่านพ่อ นางเป็นน้องสาวของท่านอาสามจริงๆ หรือ ไม่ใช่พี่สาวหรือ?”
“…” เขาเองก็คิดว่าฟ่านเสี่ยวเสี่ยวดูเหมือนเป็นพี่สาวของเขาเสียมากกว่า
เย่ซิวตู๋กระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง มองฟ่านฉี่อวิ๋นกัดฟันแต่ก็ทั้งยังกระอักกระอ่วนอย่างจนปัญญา ก็กล่าวช่วย “ฉี่อวิ๋น เสี่ยวเสี่ยวมากับหมอเจียงน่ะ”
มากับเจียงอวิ๋นเซิงหรือ
แววตาของฟ่านฉี่อวิ๋นมองไปที่เขาทันที
เจียงอวิ๋นเซิงรีบโบกมือปฏิเสธความสัมพันธ์ กล่าวอธิบาย “ตอนที่ข้าออกเดินทางนั้นไม่รู้เลยว่าแม่นางเสี่ยวเสี่ยวแอบอยู่ในกลุ่ม จนกระทั่งตอนที่ข้ารู้เข้าก็เดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว”
แววตาโกรธเกรี้ยวของฟ่านฉี่อวิ๋นจับจ้องไปยังฟ่านเสี่ยวเสี่ยว อีกฝ่ายเงยหน้ามองฟ้า “ทำไมล่ะ ข้าไม่เคยมาเมืองหลวงมาก่อน พี่กับพี่ใหญ่พี่รองก็มากันหมดแล้ว ทิ้งข้าไว้ที่เมืองตันหยางคนเดียวได้อย่างไร อย่างไรข้าก็ต้องมาด้วย”
“เฮอะ” ฟ่านฉี่อวิ๋นส่งเสียงไม่พอใจ “เช่นนั้นเจ้าบอกข้ามา เจ้ารู้จักเสิ่นอิงได้อย่างไร?”
ฟ่านฉี่อวิ๋นรู้ดี ตอนนั้นที่เย่ซิวตู๋มาเมืองตันหยาง ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้อยู่ที่บ้านพักซิ่วจิ่ง นางอยู่ที่คฤหาสน์หลังอื่น
ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวไม่เคยพบแม้แต่เย่ซิวตู๋ แล้วจะเคยเห็นเสิ่นอิงได้อย่างไร
สีหน้าของฟ่านเสี่ยวเสี่ยวยิ่งดูไม่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ส่งเสียงแหะๆ สองครั้ง จากนั้นก็กล่าว “จริงๆ แล้ว จริงๆ แล้วตอนที่พวกท่านอ๋องมาถึงเมืองตันหยาง ข้าแอบกลับไปที่บ้านพักซิ่วจิ่ง และได้พบเสิ่นอิง”
ฟ่านฉี่อวิ๋นตะลึงงัน “จากนั้นเล่า?”
“จากนั้นหรือ?” ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวเม้มปาก ทำลายชื่อเสียงของตนโดยตรง ยืดคอแล้วกล่าว “จากนั้นข้าก็ตกหลุมรักเสิ่นอิงตั้งแต่แรกเห็น ข้าจะแต่งงานกับเขา”
“อุ๊บ…” จินหลิวหลีเพิ่งดื่มชาไปอึกหนึ่งก็ต้องพ่นออกมาทั้งหมด
เย่ฮ่าวหรานยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นางอย่างเอาใจใส่ หัวเราะใส่นาง “เจ้าดูสิ แม่นางผู้นั้นยังกล้าหาญกว่าเจ้าเมื่อตอนนั้นตั้งมาก หากตอนนั้นเจ้ายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าชอบข้า ข้าก็คงไม่ต้องลำบากเพียงนี้แล้ว”
จินหลิวหลีถลึงตามองเขา “ท่านก็อย่าไปร่วมสนุกกับเขาสิ”
นางเบนสายตากลับมามองที่ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวอีกครั้ง อีกฝ่ายดูขาดความมั่นใจเล็กน้อย กล่าวประโยคนั้นจบก็ถอยหลังไปสองก้าว
ฟ่านฉี่อวิ๋นกลับแทบจะกระอักเลือด “เจ้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าอายุเท่าไรแล้ว?”
“อายุสิบสาม อีกไม่ช้าข้าก็จะถึงวัยออกเรือนแล้ว”
“อีกไม่ช้าอะไรกัน? ยังเหลืออีกตั้งสองปี สองปี เจ้ารู้ไหมว่าอะไรคือการตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ เป็นเพียงเด็กน้อยเท่านั้น จะมาแต่งหรือไม่แต่งอะไรกัน?” จริงๆ เลย พี่ใหญ่พี่รองรวมถึงเขายังไม่ได้แต่งงานเสียด้วยซ้ำ แล้วน้องสาวที่ยังไม่โตเต็มวัยคนนี้กลับบอกว่าจะแต่งงานหรือ? เพียงคิดก็ปวดใจเสียจนทนไม่ไหวแล้ว
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวกลอกตา “อย่างไรข้าก็หมายมั่นในตัวเสิ่นอิงไว้แล้ว พี่สาม เพียงเพราะพี่ใหญ่และพี่รองไม่สนใจในความรัก แล้วจะมาห้ามไม่ให้ข้าไม่สนใจด้วยไม่ได้นะ เรื่องนี้ข้ารู้เยอะกว่าท่านมาก”
ตอนนั้นที่เมืองตันหยาง เสิ่นอิงขับรถม้าของอวี้ชิงลั่วเข้าไปในป่า แกล้งตายเพื่อหลอกอวี๋จั้วหลิน ดังนั้นเมื่อเสิ่นอิงเข้าไปในบ้านพักซิ่วจิ่ง ก็จะไปช้ากว่าคนอื่นก้าวหนึ่ง และด้วยเหตุนั้นจึงได้พบเข้ากับฟ่านเสี่ยวเสี่ยวที่แอบลักลอบกลับไปยังบ้านพักซิ่วจิ่งเพราะอยากดูพวกเย่ซิวตู๋
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกถูกตาต้องใจเสิ่นอิงในตอนนั้น เสิ่นอิงกลับเห็นว่านางอายุยังน้อยจึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวกลับใจแข็งต้องการจะอยู่กับเขาให้ได้ เสิ่นอิงเกรงว่าจะทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่กล้านำเรื่องนี้ไปบอกให้คนอื่นๆ รู้
ตอนนั้นอวี้ชิงลั่วอยู่ที่บ้านพักซิ่วจิ่งเห็นเขาทำท่าทางลับๆ ล่อๆ ก็คิดว่าเขาทำเรื่องเลวร้าย จริงๆ แล้วตอนนั้นเสิ่นอิงซ่อนตัวฟ่านเสี่ยวเสี่ยวเอวไว้ เพื่อไม่ให้คนมาเห็นแล้วคิดว่าพวกเขามาอยู่ด้วยกันตามลำพัง
ใครจะไปคิดว่าครั้งนี้ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวจะตามมาที่เมืองหลวง?
ฟ่านฉี่อวิ๋นโกรธเสียจนควันแทบขึ้น และเมื่อเขาจะจูงมือนางไปหาฟ่านผิงอวิ๋น ก็เห็นฟ่านผิงอวิ๋นวิ่งมาจากไกลๆ
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวตกใจเสียจนแทบตาย รีบหดตัวไปอยู่ข้างหลังฟ่านฉี่อวิ๋น
ฟ่านผิงอวิ๋นกลับไม่มองนางแม้แต่แวบเดียว โน้มตัวใกล้หูของเย่ซิวตู๋แล้วกล่าว “ท่านอ๋อง เหล่าสหายที่แม่นางอวี้ส่งไปยังกองพันตะวันตกกลับมาแล้วขอรับ อีกทั้ง… ยังพาเหมิงกุ้ยเฟยกลับมาด้วย”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โอ้ นึกว่าตอนนั้นเสิ่นอิงทำอะไรลับๆ ล่อ ๆ ที่แท้ก็ซ่อนแม่สาวจอมแก่นคนนี้ไว้นี่เอง
ที่จับมาได้เป็นตัวจริงหรือเปล่า? คนฉลาดอย่างเหมิงกุ้ยเฟยไม่น่าโดนจับง่ายๆ นะ
ไหหม่า(海馬)