อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 10 ล่ามโซ่ขังเจ้า
ตอนพิเศษ 10 ล่ามโซ่ขังเจ้า
ตอนพิเศษ 10 ล่ามโซ่ขังเจ้า
หลานสุ่ยชิงกวักมือเรียกเยียนจือให้มาหา แล้วกระซิบข้างหูนางสองสามคำ
เยียนจือพยักหน้า สักพักก็เปิดประตูออกไปทักทายแม่นมที่ด้านนอกประตู
“แม่นมทำงานมาเหนื่อยนัก ดังนั้นมาเถิดเจ้าค่ะ นั่งพักก่อน” เยียนจือยกเก้าอี้มาไว้หลังนางด้วยท่าทางนอบน้อม “คุณหนูกำลังพักผ่อนอยู่ข้างใน ข้าจะอยู่คุยกับแม่นมที่นี่เองเจ้าค่ะ”
แม่นมชำเลืองมองนาง สีหน้าไร้อารมณ์ของนางอ่อนลงเล็กน้อย พอใจกับการเอาอกเอาใจของเยียนจือมาก และนั่งลงอย่างใจกว้าง
เยียนจือก็นั่งข้างนางเช่นกัน จากนั้นหยิบถุงผ้าใบเล็กที่คาดเอวไว้ออกมา แล้วล้วงเอาขนมโก๋ข้างในออกมา
“แม่นมอยากกินหรือไม่เจ้าคะ?”
แม่นมส่ายหน้า แล้วถามนางด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “คุณหนูของเจ้าป่วยเป็นอะไร?”
“ไม่ได้ป่วย แค่เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ ทำให้อ่อนเพลียมาก จึงควรพักผ่อนเพื่อไม่ให้อาการหนักกว่าเดิมเจ้าค่ะ”
แม่นมพยักหน้าและเงียบอีกครั้ง
เยียนจือเงยหน้าขึ้นแอบเหลือบมองแม่นม นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามเสียงเบาว่า “แม่นมเห็นซิวหวางเฟยหรือไม่เจ้าคะ? ข้าได้ยินมาว่าซิวหวางเฟยมีรูปโฉมงดงาม เป็นคนดีและไม่ถือตัว”
นี่เป็นข้อมูลอย่างเดียวที่เยียนจือสามารถค้นหาได้ในสองวันที่ผ่านมา รู้แค่ว่าอวี้ชิงลั่วไม่ถือตัว ส่วนนางจะเป็นคนดีหรือไม่นั้น… ดูเหมือนว่าต่างคนต่างก็มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ว่ากันว่ามีคนมากมายที่ถูกนางลงโทษ
เมื่อพูดถึงอวี้ชิงลั่ว แม่นมก็หัวเราะ “หวางเฟยย่อมเป็นคนดีอยู่แล้ว ข้าใช้ชีวิตมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว ข้าได้พบเจอผู้คนมามากมาย แต่ตำหนักอ๋องซิวแห่งนี้เป็นที่พำนักที่สงบและอบอุ่นที่สุดในบรรดาจวนของผู้สูงศักดิ์ ที่นี่เจ้านายเมตตาคนรับใช้มาก แต่ความคิดเห็นของคนนอกที่มีต่อหวางเฟยก็หลากหลาย คนที่ว่าร้ายหวางเฟยของเราล้วนโง่เขลา ดังนั้นอย่าไปสนใจเลย”
พ่อบ้านหยางบอกนางก่อนจากไปว่าหญิงสาวสกุลหลานคนนี้แตกต่างจากหญิงสาวทั่วไป และนางควรได้รับการปฏิบัติอย่างดี ไม่แน่ว่าสถานะของบุตรีคนโตแห่งสกุลหลานคนนี้อาจสูงส่งในอนาคต
ดังนั้นต่อให้ปกตินางจะไม่ใช่คนพูดมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะใจดีกับเยียนจือ
อีกทั้งบุตรีคนโตจากสกุลหลานก็ยังดูดีมาก ทั้งสุภาพเรียบร้อยและยังให้เกียรติแม่นมมาตลอดทางด้วย
เยียนจือรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คำพูดของแม่นมคนนี้พยายามปกป้องซิวหวางเฟย และ… ดูเหมือนจะเป็นการปกป้องแบบไร้ข้อกังขา ราวกับว่าต่อให้ซิวหวางเฟยจะเป็นคนผิด พวกเขาก็จะยังพูดอย่างเปิดเผยว่าคนอื่นไม่รู้จริง
เยียนจืออดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เหตุใดหวางเฟยผู้นี้ถึงฟังดูเป็นคนเผด็จการนัก?
แต่เมื่อหลานสุ่ยชิงได้ยินสิ่งที่แม่นมพูด นางก็คิดอีกแบบหนึ่งโนเวล-พีดีเอฟ
การไว้ใจให้แม่นมในจวนต้อนรับแขกหน้าประตู และทำให้แม่นมพูดจาปกป้องได้ เห็นได้ชัดว่าซิวหวางเฟยเป็นมิตรกับคนรับใช้ในจวนมาก ในเมื่อปฏิบัติเช่นนี้กับคนรับใช้ในจวน กับคนอื่นก็คงไม่เลวร้ายเกินไป
ความมั่นใจของหลานสุ่ยชิงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ดวงตาของหลานสุ่ยชิงก็เป็นประกายขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน นางก็กระแอมออกมาสองครั้งทันที
เยียนจือที่อยู่นอกประตูเข้าใจ และพูดกับแม่นมอีกสองสามคำ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม จู่ ๆ นางก็ชี้ไปไกลแล้วร้องว่า “เอ๊ะ นั่นอะไรน่ะ? เหมือนมีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านไป”
“หือ?” แม่นมเลิกคิ้วขึ้น แต่ไม่ขยับหรือก้าวไปข้างหน้า
เยียนจือตกตะลึงไปครู่หนึ่ง นางตั้งใจจะเบี่ยงเบนความสนใจของแม่นม แต่นางคาดไม่ถึงว่าแม่นมจะมีท่าทางปราศจากความอยากรู้อยากเห็น
“แม่นม พวกเราไปดูกันเถิดเจ้าค่ะว่ามีอะไรแปลก ๆ หรือไม่?”
แม่นมส่ายหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตำหนักแห่งนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะมันมีสิ่งอันตรายจริง ๆ แต่มันจะไม่ถูกปล่อยออกมาหรอก”
ตัวอย่างเช่นนางจะคอยดูแลงูพิษและแมงป่องที่เนี่ยนเนี่ยนเลี้ยงไว้อย่างดี
ส่วนสัตว์ชนิดอื่น ๆ เช่นกระต่ายและแมวไม่ถือว่าเป็นอันตราย จึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจ
มุมปากของเยียนจือกระตุก เหตุใดตำหนักอ๋องซิวถึงได้แปลกพิกลนัก?
แต่นางก็อดลุ้นไม่ได้ว่าคุณหนูจะออกไปอย่างไร?
หลานสุ่ยชิงที่อยู่ในห้องถูหว่างคิ้วด้วยความเหนื่อยใจเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง สายตาของนางก็จับจ้องไปที่หน้าต่างตรงข้ามประตู
ดูเหมือนว่าถ้าไม่สามารถออกไปประตูหลักได้ ก็ทำได้เพียงออกทางหน้าต่างเท่านั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าหากมีคนมาเห็นเข้าแล้วจะเสียภาพพจน์หรือไม่
หลานสุ่ยชิงไม่สนใจอีกต่อไป เปิดหน้าต่างเงียบ ๆ หูก็เงี่ยฟังการสนทนานอกห้อง ขณะค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนเก้าอี้และปีนขึ้นไปที่ขอบเตียง จากนั้นหันออกไปนอกหน้าต่างเงียบ ๆ พร้อมกับจับชายกระโปรงไว้
จนกระทั่งลงสู่พื้นได้ นางถึงค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก จากนั้นปิดหน้าต่างอีกครั้ง แล้วเดินไปหลังเรือนทีละก้าว
ด้านหลังเรือนหย่าเฟิงเป็นสวนเล็กๆ ไม่ใหญ่นัก แต่เดินผ่านแล้วรู้สึกเย็นสบายมาก
หลานสุ่ยชิงไม่รู้ว่าอวี้ชิงลั่วอาศัยอยู่ที่ไหน นางจึงได้แต่คิดเรื่องนี้ขณะเดินไป
สวนได้รับการทำความสะอาดอย่างดีมาก หญ้าและใบไม้เขียวขจีเป็นระเบียบเรียบร้อย เสียงแมลงและนกร้องเป็นครั้งคราว ช่างไพเราะเสนาะหูนัก
หลานสุ่ยชิงเดินออกจากสวน แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือพบสวนที่ปลูกสมุนไพรหลากหลายชนิด
นางชะงักไปครู่หนึ่ง และเห็นร่างหนึ่งขยับอยู่ในสวน
เมื่อก้าวไปข้างหน้า คนคนหนึ่งก็กระโดดออกมาตรงหน้านาง และยื่นมือออกมาขวางนางทันที
“เจ้าเป็นใคร? เป็นคุณหนูจากตระกูลไหน เหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่?” คนผู้นั้นมองนางแล้วขมวดคิ้ว
หลานสุ่ยชิงมองหญิงสาวที่แต่งตัวเรียบร้อยตรงหน้านาง ผมของนางถูกรวบไว้อย่างเรียบง่าย มีท่าทางค่อนข้างเหมือนอันธพาล แต่ก็ดูงดงามมาก ขณะที่นางเอียงคอมองผู้มาเยือน ก็มีความน่ารักแฝงอยู่
นางรีบถอยห่าง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขออภัย ข้าดูเหมือนจะหลงทาง”
หญิงสาวยกมือขึ้นชี้ แล้วพูดว่า “งานเลี้ยงดอกบัวอยู่ที่นั่น ถ้าเจ้าเดินไปทางนี้ อีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว”
มันอยู่ไม่ไกลจริง ๆ หลานสุ่ยชิงที่ยืนอยู่ที่นี่ดูเหมือนจะได้ยินเสียงสตรีที่มาก่อนหน้านี้คุยกัน แม้จะได้ยินไม่ค่อยชัดนัก แต่ก็นับว่าอยู่ใกล้มาก
การออกแบบตำหนักแห่งนี้ช่างซับซ้อนจริง ๆ เห็นได้ชัดว่านางเดินตามพี่เลี้ยงไปทางเรือนหย่าเฟิง ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับที่ที่หลานสุ่ยหยวนและคนอื่น ๆ อยู่โดยสิ้นเชิง แต่นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนจะสามารถไปงานเลี้ยงได้ทันที หากเดินตัดผ่านสวนเล็ก ๆ นี้ไป
หลานสุ่ยชิงขมวดคิ้ว แต่หากเป็นเช่นนั้น การตามหาซิวหวางเฟยจะง่ายเพียงใด?
“ขอบคุณแม่นางที่ช่วยชี้ทาง” หลานสุ่ยชิงพยักหน้าเล็กน้อยให้นาง แล้วเดินช้า ๆ ไปที่งานเลี้ยง
เพียงแต่หางตาของนางเหม่อมองไปทางสวน หลังจากเดินไปเพียงสองก้าว นางก็เห็นใครบางคนกำลังนั่งยอง ๆ ครุ่นคิดอยู่หน้าต้นสมุนไพร ร่างที่นั่งหันหลังให้นางยืนขึ้นช้า ๆ แล้วเอาสมุนไพรในมือใส่เข้าปาก
หญิงสาวที่ขวางนางก่อนหน้านี้ขมวดคิ้วทันที ก่อนจะรีบเดินไปหานาง แล้วโยนสมุนไพรในมือทิ้งไป และพูดด้วยความโกรธว่า “เนี่ยนเนี่ยน”
เนี่ยนเนี่ยนลูบหลังมือสีแดงถูกนางตบ ด้วยความรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “เหวินหย่า ข้ารู้อยู่แล้ว”
“แค่รู้ในใจนั้นไม่พอ ถ้ามันมีพิษ แล้วเจ้าพิสูจน์ด้วยตัวเองอีกครั้ง คราวหน้าเจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสวนอีก ข้าจะล่ามโซ่เจ้าไว้ในบ้าน ไม่อนุญาตให้เจ้าไปไหนอีกเลย”
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าเหวินหย่าช่างเป็นอันธพาลจริง ๆ แต่นางก็โยนสมุนไพรลงบนพื้นอย่างเชื่อฟัง
วินาทีต่อมา นางก็หันมาชำเลืองมองหลานสุ่ยชิงทันที แล้วยกยิ้มอย่างมีเลศนัย
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอ๋ น้องเนี่ยนเนี่ยนมีแผนอะไรหรือเปล่านะ จะไปเรียกพี่ชายมาหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)