อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 102 หนามยอกเอาหนามบ่ง
ตอนพิเศษ 102 หนามยอกเอาหนามบ่ง
ตอนพิเศษ 102 หนามยอกเอาหนามบ่ง
เมื่อไท่ฮูหยินตื่นขึ้นอีกครั้ง หลานสุ่ยชิงก็อยู่ที่ข้างเตียงนางแล้ว
ไท่ฮูหยินอ้าปาก แล้วก็รู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ นางคว้ามือของหลานสุ่ยชิงทันที แล้วถามว่า “เจ้า พ่อของเจ้าอยู่ที่ใด?”
“ท่านพ่อกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”
“ฝ่าบาทเล่า ฝ่าบาทตรัสว่าอย่างไร?”
“ฝ่าบาทตรัสว่าการอบรมสั่งสอนของจวนหลานไม่เข้มงวด จึงสั่งให้ท่านพ่อลางานอยู่บ้านชั่วคราว เพื่อปรับปรุงจวนหลานเจ้าค่ะ”
ไท่ฮูหยินหลับตาลง แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม่นมซ่งช่วยจัดมุมผ้าห่มให้เรียบร้อย แล้วพูดว่า “ไท่ฮูหยินเจ้าคะ นี่เป็นประกาศจากในวัง บ่าวแอบถามคนรับใช้ที่ไปฟังเรื่องนี้ คนรับใช้บอกว่าฝ่าบาททรงกริ้วยิ่งนัก และเกือบจะสั่งลงโทษทั้งตระกูลหลาน แต่หนานซื่อจื่อเป็นคนขอร้องไว้ โดยบอกว่าเขาไม่ต้องการให้ว่าที่พ่อตาของเขาถูกตัดสินลงโทษเพราะเขา พระองค์จึงรับสั่งให้นายท่านแค่หยุดอยู่บ้านเท่านั้น เพื่อแก้ไขปรับปรุงจวนหลานเจ้าค่ะ“
ไท่ฮูหยินลืมตามองแม่นมซ่งด้วยสีหน้าครุ่นคิด
สุดท้ายแม่นมซ่งก็รู้สึกผิดเล็กน้อย แต่นางพูดได้เพียงถ้อยคำเหล่านี้ นางใช้ชีวิตมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว และนางก็เป็นคนมีเหตุผล ตอนนี้ทั้งจวนหลาน คนเดียวที่มีอนาคตคือคุณหนูใหญ่ ในอนาคตหากสิ้นไท่ฮูหยินไป อู๋ซื่อก็จะได้เป็นผู้นำจวนหลาน ถ้าไม่ทำดีกับคุณหนูใหญ่ไว้ตั้งแต่ตอนนี้ แล้วจะรอถึงเมื่อใด?
ไท่ฮูหยินไม่ได้เอ่ยคำใด นางแค่ถอนหายใจ มองไปที่หลานสุ่ยชิงแล้วพูดว่า “ย่าทำผิดต่อเจ้าจริง ๆ ย่าไม่คาดคิดว่าสัตว์ร้ายสองตัวนั้นจะทำเรื่องเช่นนี้ได้ ย่าอุตส่าห์คิดว่าช่วงนี้พวกนางอยู่กันสงบสุข กลับกลายเป็นว่าพวกนางกำลังคิดแผนต่ำตมเช่นนั้น สุ่ยชิงเอ๋ย เจ้าช่วยคุยเรื่องนี้กับหนานซื่อจื่อ ให้โทษทัณฑ์ไม่หนักหนาถึงขั้นกุดหัวทุกคนในจวนหลานได้หรือไม่?”
“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ” หลานสุ่ยชิงเม้มปากแล้วยกยิ้ม จากนั้นขมวดคิ้ว “ซื่อจื่อจะไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ แต่เรื่องนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้ว ผู้คนย่อมกล่าวขานกันไปอีกนานเป็นแน่ แต่ความจริงเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ที่ท่านพ่อได้พักงาน เพื่อที่คนพวกนั้นจะไม่พูดเหลวไหล และทำให้ท่านพ่อไม่สบายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ว่า…”
ไท่ฮูหยินพยักหน้า แน่นอนว่าช่วงนี้รองเจ้ากรมหลานอยู่จวนหลานย่อมดีกว่า
“แต่ว่าอะไร?”
หลานสุ่ยชิงเม้มปากและถอนหายใจ “แต่ว่าชื่อเสียงของน้องรองกับน้องสาม ถูกทำลายจนป่นปี้ไปหมดหลังจากเหตุการณ์นี้เจ้าค่ะ”
ไท่ฮูหยินผงะไปครู่หนึ่ง แล้วพ่นลมหายใจเย็นชา “นั่นเป็นเพราะพวกนางทำตัวเอง สุ่ยชิงเอ๋ย เจ้าไม่ต้องไปสนใจเรื่องเหล่านี้หรอก ย่าจะสอนบทเรียนที่ดีให้พวกนางเอง ครั้งนี้พวกนางนำหายนะครั้งใหญ่มาสู่จวนหลาน ย่าแทบอดใจไม่ไหวที่จะถลกหนังพวกนางแล้ว”
นางโกรธจัด หากนางไม่พยายามระงับความคาวในลำคออย่างสุดความสามารถ นางก็คงกระอักเลือดออกมาอีกครั้งแล้ว
หลานสุ่ยชิงหลุบตาลง และไม่พูดอะไรมาก “ถ้าอย่างนั้นท่านย่าก็พักผ่อนให้เต็มที่ ข้าจะกลับไปก่อนนะเจ้าคะ”
“ได้”
หลานสุ่ยชิงเอียงตัวแล้วหันกลับไป มุมปากนางเผยรอยยิ้มอ่อน จากนั้นก็ค่อย ๆ เดินออกจากเรือนโยวหราน
เมื่อเดินผ่านสวนหลังบ้าน ก็เห็นลวี่หลัวสาวใช้คนสนิทของอนุหลัวยืนรออยู่ เมื่อเห็นนางมาแล้ว ก็รีบทักทายด้วยความดีใจทันที “คุณหนูใหญ่”
“อืม ไปบอกอนุหลัวว่าเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจวนหลานจะสงบ ไม่ว่าจะเป็นนางหรืออนุฉี ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้อีกต่อไป”
ลวี่หลัวสูดหายใจเข้าลึก ๆ “เจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่”
พูดจบนางก็วิ่งกลับไปทันที
ใช่แล้ว จากนี้ไปลวี่หลัวจะไม่ต้องอยู่กับความกลัวตลอดเวลาอีกต่อไป ไม่ต้องถูกสาวใช้ที่จินซื่อส่งมาคอยดูอนุหลัวทำร้าย และทุบตีอีกต่อไป โดยที่นางไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรสักคำ
ไม่ต้องเฝ้าดูอนุหลัวกัดฟันร้องไห้ขณะกินมื้อเย็นและตอนดึก ไม่ต้องทนกับคำเยาะเย้ยถากถาง ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นความตายของตัวเองตลอดเวลาอีก
ในที่สุดจินซื่อกับน้องสาวก็ล้มลง
หลานสุ่ยชิงก็หัวเราะ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขา เขารู้ว่านางกังวลเรื่องอะไร เขาจึงช่วยนางทำลายอุปสรรคต่าง ๆ ที่ขวางหน้าจนหมดสิ้น
ในโลกนี้ไม่มีใครดีกว่าเขาอีกแล้ว หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว
นางโชคดีที่ได้พบเขา ชาติที่แล้วนางคงทำกรรมดีไว้ ถึงได้รับโอกาสเช่นนี้
“อารมณ์ดีอะไร? มอบหัวใจให้ข้าแล้วใช่หรือเปล่า?” จู่ ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น เมื่อหลานสุ่ยชิงหันไป มือข้างหนึ่งก็จับอยู่ที่เอวของนางแน่นแล้ว ตลอดทางกลับไปที่เรือนสุ่ยสี
หลานสุ่ยชิงเอียงคอมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา ทันใดนั้นน้ำตานางก็คลอเบ้า
นางโน้มตัวไปจุมพิตคางของเขา
ทันใดนั้นรูม่านตาของหนานหนานก็ขยายใหญ่ขึ้น เท้าเสียหลักเล็กน้อย จนเกือบจะร่วงลงกับพื้น
หลานสุ่ยชิงรีบก้มหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะมองเขา
หัวใจของหนานหนานปั่นป่วนไปหมด เสียงนุ่มลอยเข้าหูนาง “เจ้าก็ชอบข้าเหมือนกันใช่หรือไม่?”
คนอะไรจะไร้ยางอายถึงเพียงนี้?
“ท่านแม่บอกว่าวันที่สองของเดือนหน้าจะเป็นวันดี”
“…” หลานสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้นทันใด ก่อนที่นางจะทันได้พูด ใบหน้าของเขาก็ใกล้เข้ามาแล้ว เขากัดริมฝีปากล่างของนางอย่างแผ่วเบา แล้วค่อย ๆ จุมพิตนาง
เมื่อหลานสุ่ยชิงรู้สึกตัว ก็ตระหนักได้ว่านางกับเขาลงมาบนหลังคาของเรือนสุ่ยสีตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้
นางทำได้เพียงจับเขาไว้อย่างอ่อนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองร่วงลงไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาสามารถทำทุกอย่างที่ต้องการได้สะดวกขึ้น
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หนานหนานก็ปล่อยนางด้วยความพึงพอใจ แล้วประคองนางนั่งลงบนหลังคาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะยกยิ้ม ขณะมองดวงจันทร์ที่กำลังทอแสงอยู่เหนือศีรษะ
หลานสุ่ยชิงรู้สึกว่าริมฝีปากของนางร้อนผ่าวไปหมด และรู้สึกเสียใจมากที่ขณะนั้น นางไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลย หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ นางคงไม่แกล้งเขาได้ เจ้านี่มันเสือหิวชัด ๆ
นางปิดปากจ้องมองเขา แล้วถามว่า “ถานซิ่วคนนั้น เจ้าติดสินบนนางอย่างไร?”
“ไม่ใช่เลย นางเป็นสาวใช้คนสนิทของหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาว แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ไท่ฮูหยินจึงย้ายนางไปรับใช้ตัวเองชั่วคราว ใจจึงไม่ได้อยู่กับพวกนางอีกต่อไป ยิ่งกว่านั้นคือเมื่อนางเจอเรื่องใหญ่เช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี นางกลัวตายและกังวลว่าแผนการจะไม่สำเร็จ แล้วคนแรกที่จะต้องตายก็คือตัวนางเอง ดังนั้นตราบใดที่มีสิ่งล่อใจแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถชนะใจนางได้ ข้าก็แค่ใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งเท่านั้น”
วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งงั้นหรือ?
หลานสุ่ยชิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบสนองทันที
ถูกต้องแล้ว จินซื่อซื้อตัวเสี่ยวจิ้งที่เป็นสาวใช้ข้างกายแม่ของนางไม่ใช่หรือ ทำให้พวกนางสองแม่ลูกมีชีวิตที่ยากลำบากมากว่าสิบปีใช่หรือไม่?
ตอนนี้พวกนางก็ถูกทำลายโดยสาวใช้เช่นกัน
“แล้วตอนนี้ถานซิ่วเป็นอย่างไรบ้าง?”
“สั่งให้ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าไปขโมยโฉนดซื้อขายตัวของนางแล้ว จากนั้นก็ให้เงินนางจำนวนหนึ่ง แล้วปล่อยให้นางไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง” เงินก้อนนั้นก็เพียงพอที่จะเลี้ยงนางได้ทั้งชีวิต อย่างไรเสีย ถานซิ่วก็เป็นคนทรยศเจ้านาย เขาจึงไม่ปล่อยให้นางอยู่ในจวนหลานข้างหลานสุ่ยชิงแน่นอน
แต่พวกเขาไม่ได้โหดเหี้ยมอำมหิตเหมือนพี่น้องจินซื่อ เพราะเขาพบว่าพี่น้องจินซื่อลงมือฆ่าปิดปากเสี่ยวจิ้งเลย
หลานสุ่ยชิงพยักหน้า ยุติธรรมดีแล้ว นางซบไหล่ของเขาแล้วเม้มปาก
เรือนสุ่ยสีเงียบสงัด แต่ไท่ฮูหยินในเรือนโยวหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย ใบหน้าที่เศร้าหมองของนางทำให้แม่นมซ่งกังวล…
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หนานหนานวางแผนแยบยลมาก เหตุการณ์ครั้งนี้รวบปีศาจจิ้งจอกได้หลายตัวเลย
ไหหม่า(海馬)