อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 118 แค่พาออกมา
ตอนพิเศษ 118 แค่พาออกมา
ตอนพิเศษ 118 แค่พาออกมา
เมื่อเห็นเขาหยุด เหล่าบริวารที่อยู่รอบกายก็อดไม่ได้ที่จะเรียก “นายน้อย?”
“ไปกันเถอะ” ชายผู้นั้นรีบตั้งสติ ก่อนบอกคนสองสามคนรอบกายเขา แล้วรีบก้าวออกจากประตูโรงเตี๊ยม
ทันทีที่ร่างของพวกเขาหายไป เนี่ยนเนี่ยนก็หันไปมองบริเวณที่พวกเขายืนอยู่เมื่อครู่นี้
หลังจากที่เป่ยเป่ยคุยกับเสี่ยวเอ้อจบ เมื่อเขาหันกลับมา ก็เห็นนางเม้มปากครุ่นคิด “มีอะไรหรือ?”
“… เอ่อ ไม่มีอะไร” เมื่อครู่นี้นางรู้สึกเหมือนว่ามีคนจ้องมองนางอยู่
เป่ยเป่ยเลิกคิ้วและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากประตู ดูจากเสื้อผ้าแล้วก็น่าจะเป็นเสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยม
เสี่ยวเอ้อหยุดตรงหน้าเป่ยเป่ยและเนี่ยนเนี่ยน หอบหายใจแล้วชี้ไปข้างนอก “แม่ แม่นาง…”
เนี่ยนเนี่ยนกับเป่ยเป่ยมองหน้ากัน เมื่อเห็นว่าเขายังคงหอบหายใจและพูดไม่ได้ ก็รู้สึกเป็นห่วงเขามาก
“…เจ้าค่อย ๆ พูด เกิดอะไรขึ้น?”
เสี่ยวเอ้อส่ายหน้าอย่างแรง “ค่อย ๆ พูดไม่ได้แล้ว แฮ่ก แฮ่ก… แม่นาง มีบางอย่างเกิดขึ้นกับสาวใช้ของท่าน”
สาวใช้ของนางหรือ? เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง และรู้ทันทีว่านั่นคือโม่เพียว
“แม่นาง” ในที่สุดเสี่ยวเอ้อก็หายใจปกติได้ และรีบอธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจน “ข้าเพิ่งเห็นว่าสาวใช้ของท่านถูกคุณชายตระกูลลู่ ตระกูลหวง ตระกูลเจี่ยง และตระกูลถงยืนล้อมไว้อยู่ คราวนี้เกิดหายนะจริงแน่”
รูม่านตาของเนี่ยนเนี่ยนหดตัวลง โม่เพียวจะทำให้คนจากตระกูลจอมยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ขุ่นเคืองได้อย่างไร
นางขมวดคิ้วเดินออกจากโรงเตี๊ยมพร้อมเป่ยเป่ยทันที แล้วเดินไปตามทางที่เสี่ยวเอ้อชี้เมื่อครู่นี้
บริเวณนั้นน่าจะอยู่ไม่ไกล แต่ถนนสายนี้กลับคับคั่งไปด้วยผู้คนตลอดสองข้างทาง
เนี่ยนเนี่ยนกับน้องชายรีบไป แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบกัน
“พวกเจ้าบอกมาสิว่า หญิงคนนั้นกลายเป็นเป้าหมายของคุณชายทั้งสี่แห่งตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร?”
“คนผู้นั้นโง่เขลาหรือ? กำปั้นไม่มีตา โดยเฉพาะของคุณชายทั้งสี่แห่งตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ หากไม่ระวังก็ถึงตายได้เลย”
“ใช่ มันจบลงแล้วจริง ๆ”
“นางกำลังทำอะไรอยู่น่ะ? ข้าเข้าใจแล้ว เห็นได้ชัดว่าหญิงคนนั้นจงใจเรียกร้องความสนใจของพวกเขา เจ้าไม่เห็นหรือว่าคุณชายของตระกูลใหญ่ทั้งสี่นั้นหล่อเหลานัก? มีใครในเมืองหลวงแห่งนี้บ้างที่ไม่รู้ว่าตราบใดที่ได้แต่งงานกับหนึ่งในนั้น ทุกคนคงอิจฉาแทบตาย”
“จุ๊ๆๆ ฟังจากน้ำเสียงของเจ้าแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าอยากจะแต่งงานกับหนึ่งในนั้นจริง ๆ ใช่หรือไม่? แต่น่าเสียดายที่คนชอบดูถูกคนอื่นอย่างเจ้า ยังเทียบหญิงคนนั้นบนเวทีประลองไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“เฮ้อ เจ้าคิดว่าหญิงบนเวทีประลองคนนั้นจะทำให้พวกเขาพึงใจได้จริงหรือ? ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นหรือตาย ข้าเคยเห็นสตรียั่วยวนคุณชายจากสี่ตระกูลใหญ่แบบนี้มามากแล้ว คุณชายย่อมไม่ถูกล่อลวงด้วยวิธีไร้ยางอายเช่นนี้หรอก ข้าคิดว่านางต้องการเรียกร้องความสนใจจากคุณชาย แต่ไม่ได้ส่องกระจกดูหน้าตัวเองเลยว่าเป็นอย่างไร… โอ๊ย ใครตีข้า?”
เนี่ยนเนี่ยนชักมือกลับด้วยสีหน้ามืดมน
คนพวกนี้กินอิ่มแล้วก็หาแต่เรื่องกันหรือ? พูดเรื่องไร้สาระโดยไม่รู้สถานการณ์อะไรเลย คิดว่าทุกคนจะบ้าบุรุษเหมือนตัวเองหรืออย่างไร?
นางยังคงเดินไปข้างหน้า เมื่อเข้าไปใกล้ เสียงพูดคุยกันเมื่อครู่นี้ก็หายไป เมื่อเทียบกับเสียงพึมพำในตอนนี้ เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ มันก็เงียบสนิท แทบไม่มีเสียงใดเลย
เนี่ยนเนี่ยนเงยหน้าขึ้น แน่นอนว่านางเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีสี่คนยืนอยู่ไม่ไกลนักบนเวทีสี่เหลี่ยมยกสูง ชายหนุ่มทั้งสี่ผู้มีร่างสูงโปร่งและหน้าตาหล่อเหลา กำลังยืนล้อมคนที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งก็คือโม่เพียวที่มีสีหน้างุนงง
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก นางจับมือเป่ยเป่ยแล้วดึงไปข้างหน้า
ตอนนี้ผู้คนในพื้นที่เล็ก ๆ นี้ต่างจ้องเขม็งไปที่เวทีด้วยความงุนงง ไม่พูดไม่จาหรือขยับเขยื้อน ทำให้พวกนางเบียดเข้าไปได้ง่าย
แต่ด้วยเหตุนี้ เมื่อทั้งสองคนเดินฝ่าเข้าไปในฝูงชนที่เงียบสงบ คนบนเวทีจึงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ดวงตาของโม่เพียวเป็นประกายทันที “คุณหนู…”
เสียงเรียกนี้ขัดจังหวะฝูงชนที่เงียบงัน แม้แต่คนทั้งสี่บนเวทีก็มองตามสายตาของโม่เพียว
เนี่ยนเนี่ยนกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนทันที เมื่อเห็นว่าโม่เพียวปลอดภัยดี มุมปากของนางก็อดไม่ได้ที่จะกระตุก และคิดจะหันหลังเดินจากไปโดยพลัน
“คุณหนู ช่วยด้วย…” เสียงอันน่าเวทนาของโม่เพียวแว่วเข้าหูนาง
เนี่ยนเนี่ยนลูบหน้าผากตัวเอง แล้วเดินไปด้านหน้าเวที เงยหน้าขึ้นมองโม่เพียว แล้วถามว่า “เจ้าไม่ได้ไปซื้อของหรือ? นี่มัน… เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้า ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าแค่เห็นคนเยอะตรงนี้เลยวิ่งมาดู ไม่คิดว่าจะโดนเบียดขึ้นไปบนเวทีแบบไม่มีเหตุผล แล้วจู่ ๆ พวกเขาทั้งสี่ที่กำลังต่อสู้กันบนเวทีก็หยุด พวกเขายืนล้อมจ้องมองข้าจนถึงตอนนี้…” เมื่อเห็นเนี่ยนเนี่ยน โม่เพียวก็สงบลงทันทีและพูดอย่างเรียบร้อย
ในเวลานี้นางยังคงเชื่อถือได้มาก และนางอธิบายเหตุและผลได้ชัดเจนภายในสองประโยค
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก “ในเมื่อมันไม่ใช่ธุระของเจ้า เช่นนั้นก็ลงมา”
“ขาข้าอ่อนแรง… ลงไปไม่ได้” คลื่นพลังบนเวทีที่ทะลุผ่านตัวนางแรงเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำอะไรนาง และไม่ได้ถูกฝังเข็ม แต่นางก็รู้สึกเหมือนทั้งร่างกายนางถูกแช่แข็ง ทำให้ขยับไม่ได้
เนี่ยนเนี่ยนครุ่นคิด ใช่แล้ว อาณาจักรเทียนอวี่โดดเด่นเรื่องวรยุทธ์ ซึ่งในบรรดาตระกูลจอมยุทธ์ที่สำคัญ ตระกูลทั้งสี่นั้นทรงพลังที่สุด
เมื่อมองดูสี่คนนี้ตอนนี้ก็รู้ได้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา และเมื่อนึกถึงบทสนทนาของคนทั่วไปเมื่อครู่นี้ พวกเขาทุกคนก็น่าจะเป็นบุรุษที่มาจากตระกูลเหล่านั้นนั่นเอง
เหล่าบุรุษในตระกูลเหล่านั้นย่อมมีวรยุทธ์แกร่งกล้า หากถูกพวกเขายืนล้อมอยู่สี่มุมเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงโม่เพียวหรอก แม้แต่ชายบางคนที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งและกำลังแข็งแรงดุจอาชาก็อาจจะไม่กล้าขยับเช่นกัน
เนี่ยนเนี่ยนลูบหน้าผากตัวเองด้วยความเหนื่อยใจ แม้ว่าทักษะของโม่เพียวจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่นางก็ไม่น่าจะถูกฝูงชนเบียดให้ขึ้นเวทีไปจนกลายเป็นเป้าหมายของคนทั้งสี่นี้ เหตุใดนิสัยคลั่งไคล้ผู้ชายของนางถึงได้มาปรากฏอีกครั้งเมื่อมาถึงเมืองหลวง?
“คุณหนู ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?” โม่เพียวไม่กล้าแม้แต่จะขยับศีรษะ ทำได้เพียงกะพริบตามองเนี่ยนเนี่ยนอย่างไร้เดียงสา
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุกแล้วหัวเราะ อยากจะหันไปหาเป่ยเป่ย
แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป่ยเป่ยที่ยังอยู่ข้างนางเมื่อครู่นี้ หายไปอยู่ที่ใดแล้ว น้องชายของนางไว้ใจไม่ได้เลย
เนี่ยนเนี่ยนก่นด่าในใจ จากนั้นหันหน้ามองไปรอบ ๆ ในที่สุดสายตาของนางก็จับจ้องไปยังขั้นบันไดที่อยู่ไม่ไกล
เวทีด้านหน้ามีความสูงมากกว่าหนึ่งหมี่ และมีบันไดสองด้านเพื่อให้คนเดินขึ้นไปบนเวทีได้
เนี่ยนเนี่ยนไม่ต้องการปีนขึ้นไปให้เสียภาพลักษณ์ นางจึงเดินไปที่บันไดด้านซ้าย
ย่างก้าวของนางมั่นคง ปราศจากความขลาดกลัวหรือลังเล นางก้าวขึ้นบันได ผ่านระหว่างคุณชายชายสองคนจากตระกูลถงและตระกูลหวง แล้วตรงไปที่โม่เพียว
ผู้ชมทุกคนต่างเบิกตากว้างจ้องมอง ในที่สุดฝูงชนที่เงียบมานานก็เปล่งเสียงอุทานออกมาว่า “ว้าว”
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ ขณะมองดูเนี่ยนเนี่ยนเดินไปยืนข้างโม่เพียว จากนั้นจับมือนางโดยไม่พูดอะไร ก่อนเดินผ่านระหว่างคุณชายทั้งสองจากตระกูลลู่และตระกูลเจี่ยง แล้วเดินลงบันไดทางด้านขวา
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ติ่งผู้ชายจนได้เรื่องเลยโม่เพียวเอ๊ย ลำบากเนี่ยนเนี่ยนพาลงมาอีก
ไหหม่า(海馬)