อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 12 ฆ่าเลยก็ดี
ตอนพิเศษ 12 ฆ่าเลยก็ดี
ตอนพิเศษ 12 ฆ่าเลยก็ดี
ไม่เปิดโอกาสให้นางคิดต่อ หลานสุ่ยหยวนกับหลานสุ่ยเถียนก้าวมาข้างหน้าแล้ว
เมื่อเห็นหลานสุ่ยชิงปรากฏตัวที่นี่ ใบหน้าของทั้งสองก็ค่อนข้างบูดบึ้ง
“หลานสุ่ยชิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่ เจ้าไม่ได้พักผ่อนอยู่ในเรือนหรอกหรือ?” หลานสุ่ยหยวนก้าวมาข้างหน้า และพบว่ามีคนสองคนยืนอยู่ข้างนาง
ท่าทางก่อนหน้านี้ของนางดูร้ายกาจ แต่ทันใดนั้นนางก็ยับยั้งชั่งใจ ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “สองคนนี้คือ…”
“สหายของข้า” หลานสุ่ยชิงยืนประจันหน้ากับหลานสุ่ยหยวนโดยไม่รู้ตัว ปิดกั้นสายตาของนาง
เนี่ยนเนี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย นางไม่คิดว่าเพียงแค่พบกันครั้งแรก จะ… ปกป้องนางเลยหรือ?
นางเงยหน้าขึ้นมองคนทั้งสองที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น แล้วยกยิ้มทันที
ความงดงามเปล่งประกายแยงเข้าตาของหลานสุ่ยหยวนและน้องสาวทันที
นางหมั่นไส้คนเพศเดียวกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะสตรีที่สวยกว่าตัวเองมาก ซึ่งหลานสุ่ยหยวนและน้องสาวเกิดมาพร้อมความคิดน่ารังเกียจ และได้รับการตามใจเสมอ
แม้ว่าเนี่ยนเนี่ยนจะสวมเสื้อผ้าธรรมดา หรือบนใบหน้าของนางจะมีคราบสกปรก แต่นั่นก็ไม่อาจซ่อนใบหน้าหวานสวยของนางได้
หลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียนมองนางกลายเป็นศัตรูตั้งแต่แรกเห็นโดยไม่มีเหตุผล
“คิดไม่ถึงเลยว่าแม้ว่าเจ้าจะป่วย เจ้าก็ยังออกมาหาสหายนอกเรือนได้ อีกทั้งยัง…” หลานสุ่ยเถียนหัวเราะ ก่อนจะมองชุดของเนี่ยนเนี่ยนหัวจรดเท้า และคิดว่าสภาพมันแย่กว่าชุดของหลานสุ่ยชิงอีก “ไม่ต่างกันเลย เป็นคนเช่นไรก็ต้องหาสหายเช่นนั้นสินะ”
หญิงชั่วร้ายเช่นนี้ สหายที่นางคบหาก็ต้องชั่วร้ายด้วยเช่นกัน
เมื่อพิจารณาจากหน้าตาท่าทางของพวกนางสองคน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองเข้ากับนางไม่ได้แน่
“ไม่ทราบว่าแม่นางคนนี้เป็นลูกสาวขุนน้ำขุนนางคนใดหรือ?” หลานสุ่ยหยวนถาม
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเห็นนางจ้องมาที่ตน ก็กะพริบตาแล้วพูดช้า ๆ ว่า “บิดาของข้าไม่ใช่ขุนนาง”
เขาเป็นท่านอ๋องต่างหาก
เฮ้อ เป็นพวกนางที่ถามไม่ครอบคลุมเอง ถ้าพวกนางถามว่าบ้านของนางอยู่ที่ไหน และพ่อแม่ชื่ออะไร บางทีนางอาจจะบอกความจริงไปตามตรง
เมื่อถึงจุดนี้ มุมปากของเหวินหย่าก็กระตุก ขณะถอยไปที่มุมหนึ่งเงียบ ๆ เพื่อให้ไม่มีใครสนใจ นิสัยของเนี่ยนเนี่ยนที่ชอบพูดความจริงเพียงครึ่งเดียวได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
หลานสุ่ยหยวนวางก้อนหินก้อนใหญ่ในใจลง ใช่แล้ว ดูจากเครื่องแต่งกายของนางแล้ว นางดูไม่เหมือนลูกสาวขุนนางเลยจริง ๆ ไม่เช่นนั้นการมางานเลี้ยงด้วยสภาพเช่นนี้ จะเป็นการเสียมารยาทจริง ๆ บางทีนางอาจจะกำลังไปที่อื่นอยู่ก็ได้
“ไม่ใช่ลูกขุนนางหรือ?” สายตาของหลานสุ่ยหยวนจับจ้องไปที่หลานสุ่ยชิง ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มเหยียดหยาม “พี่สาวใหญ่ สหายที่เจ้าหามานั้น… ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง”
ทุกคนล้วนเป็นคนต่ำต้อย
ใบหน้าของหลานสุ่ยชิงมืดมนลง นางพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “อันที่จริงสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับข้าในการผูกมิตร คือความสนิทชิดเชื้อกัน ไม่เหมือนบางคนที่มองเพียงตัวตนภายนอกอย่างผิวเผิน แล้วเริ่มเรียกคนอื่นว่าสหายสนิท สหายเช่นนั้นข้าไม่ต้องการ”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
หลานสุ่ยชิงยกยิ้ม “ไม่มีอะไร แค่แบ่งปันประสบการณ์เรื่องการผูกมิตร ให้กับน้องรองและน้องสาม สุดท้ายในฐานะพี่สาวคนโต ข้าก็มีหน้าที่ต้องสั่งสอนพวกเจ้าด้วย”
หลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวหรี่ตาลงเล็กน้อย หลานสุ่ยชิงในวันนี้เปลี่ยนไปมาก นางรู้จักตอบโต้กลับ
เมื่อก่อนนางจะไม่กล้าเหิมเกริมเพราะเห็นแก่ชีวิตแม่ของนาง จึงทำตัวคนอ่อนโยนและเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอมา แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
เป็นไปได้หรือไม่ว่านางมีความคิดอื่น เมื่อออกมานอกจวน? อยากจะทำตัวเด่นงั้นหรือ?
เช่นนั้นก็ต้องไม่ให้นางปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ไม่ว่าจะต่อหน้าซิวหวางเฟยหรือต่อหน้าฮ่องเต้
หลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวรีบมองหน้ากัน จากนั้นเดินเข้าไปหาหลานสุ่ยชิง ทันใดนั้นก็โน้มตัวเข้าไปใกล้หูของนางแล้วกระซิบว่า “พี่ใหญ่เริ่มรู้จักสอนคนอื่นแล้วหรือ? แต่พี่ใหญ่อย่าลืมนะว่าสถานะของเจ้าในสกุลหลานนั้นน่าอายมาก หากกลับไปแล้วก็บอกเลยว่าชีวิตของพี่ใหญ่จะไม่ง่ายแน่ อ๊ะ ไม่สิ รวมถึงแม่และพี่เลี้ยงของเจ้าด้วยเช่นกัน พี่ใหญ่ลืมสีหน้าของสุ่ยเฝิ่นตอนที่กำลังจะตายเมื่อปีก่อนไปแล้วหรือ?”
ใบหน้าของหลานสุ่ยชิงซีดลงในทันใด สุ่ยเฝิ่นเป็นโรคหัวใจ นางพยายามช่วยพูดเพื่อให้นางได้รับการรักษาที่สมควรได้รับ แต่นางก็ถูกย่าและพ่อของนางสั่งฆ่าทันที โดยไม่ถามถึงสาเหตุและไม่ฟังคำแก้ตัวของนาง
แค่พูดไม่กี่คำย่าของนางก็ทนไม่ไหวแล้ว เพราะจนถึงทุกวันนี้ ท่านย่าและคนอื่น ๆ ก็ยังคงคลางแคลงใจในตัวตนของนาง ซึ่งเป็นเหมือนหนามทิ่มแทงใจพ่อและย่า
ดังนั้นไม่ว่านางจะพูดหรือทำอะไร พวกเขาจะไม่สนใจเลย และแม้ว่านางจะปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาก็ตาม พวกเขาก็จะคิดว่านางขวางหูขวางตา ตราบใดที่นางก้าวผิดแม้เพียงนิด นางจะนำพาความโชคร้ายแสนสาหัสมาสู่ตัวนางหรือแม่ของนาง
แต่ในขณะนี้ เนี่ยนเนี่ยนที่อยู่ข้างหลังนางคือความหวังของนางที่จะช่วยแม่ได้ นางไม่สามารถถอยหนีและปล่อยให้หลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวดูถูกนาง
หลานสุ่ยหยวนพอใจที่ได้เห็นสีหน้าเช่นนั้นของหลานสุ่ยชิง แล้วก้าวถอยหลังด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่ เจ้ายังต้องการสั่งสอนเราอยู่หรือไม่?”
“หากน้องรองและน้องสามทำผิด ในฐานะพี่สาว ข้าก็ย่อมต้องสั่งสอน” สีหน้าของหลานสุ่ยชิงหนักแน่นอย่างคาดไม่ถึง
หลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวตกตะลึง จากนั้นสีหน้าของพวกนางก็กลายเป็นโกรธขึ้ง คาดไม่ถึงเลยว่าเมื่อพวกนางพูดถึงสุ่ยเฝิ่น ความคิดของนางจะยังคงแข็งกร้าวอยู่อีก
สีหน้าของทั้งสองบ่งบอกว่าทนไม่ได้อีกต่อไป หลานสุ่ยเถียนกำหมัด และอยากจะหุนหันก้าวเข้าไปตบนาง
ทันใดนั้นเหวินหย่าก็ก้าวเข้าไปเตือนว่า “จวิ้นจู่จิ่นซิ่วเสด็จ”
หญิงสาวทั้งสี่ตกตะลึง คิ้วของเนี่ยนเนี่ยนยิ่งขมวดแน่นมากขึ้นไปอีก จากนั้นนางก็คว้ามือของหลานสุ่ยชิง แล้วพูดว่า “พวกเราหลบก่อนเถอะ”
หลานสุ่ยชิงงุนงง เหตุใดต้องหลบด้วย?
สำหรับพวกนางสองคน หลานสุ่ยหยวนหวังว่าพวกนางจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว และไม่มายุ่งเกี่ยวกับพวกนาง เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเป้าสายตา
นางจึงเปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนโยนทันที “ใช่แล้ว พี่ใหญ่ เจ้าไม่สบายอยู่ อีกทั้ง… สหายของเจ้าก็สกปรกด้วย เผชิญหน้ากับจวิ้นจู่ด้วยสภาพเช่นนี้จะไม่ขัดใจนางหรือ? หลบไปเสีย”
พูดจบนางก็ผลักหลานสุ่ยชิง
เนี่ยนเนี่ยนรีบพานางไปที่มุมหนึ่ง ส่วนจวิ้นจู่จิ่นซิ่วพาหญิงสาวสูงศักดิ์สองสามคนมาทางนี้แล้ว
หลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวรีบก้าวเข้าไปทักทาย แต่จิ่นซิ่วขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจนัก
“เหตุใดพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
“เอ่อ กราบทูลจวิ้นจู่ เราสองคนพี่น้องบังเอิญหลงมาที่นี่ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน…”
“พวกเจ้ารีบออกไปบัดเดี๋ยวนี้” จิ่นซิ่วขัดจังหวะพวกนาง น้ำเสียงของนางค่อนข้างเย็นชา “นี่เป็นเขตต้องห้าม ถ้าเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ระวังจะไม่ได้ออกไปอีก”
หัวใจของหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวเต้นผิดจังหวะ เขตต้องห้ามหรือ? แต่ แต่ไม่มีใครห้ามพวกนาง หรือบอกว่าพวกนางเข้ามาไม่ได้เลย แล้วมันจะเป็นเขตต้องห้ามได้อย่างไร?
“เอาล่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้” จิ่นซิ่วชำเลืองมองสวนสมุนไพรสองครั้ง จากนั้นหญิงสูงศักดิ์ที่นางพามาด้วยก็หันหลังเดินนำหน้าไป
หลานสุ่ยหยวนกับหลานสุ่ยเถียนมองหน้ากัน แล้วเดินตามนางอย่างเชื่อฟัง เพียงแต่รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏที่มุมปากของนาง เขตต้องห้ามงั้นหรือ? สองคนนั้นบุกรุกเข้าไปในเขตหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็โทษกันไม่ได้
จะเป็นการดีที่สุดหากองครักษ์ปฏิบัติต่อพวกนางเหมือนเป็นมือสังหาร ฆ่าไปเลยก็ดี
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ดูเหมือนพวกหล่อนจะเล่นผิดคนมากกว่านะ สาวน้อยที่แต่งตัวปอนๆ น่ะคือเจ้าของบ้านจ้ะ พวกหล่อนเป็นแขกแต่มาไร้มารยาทกับเจ้าบ้านเนี่ยเดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย
ไหหม่า(海馬)
————————————————————-