อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 133 พาคนไปด้วยได้หรือไม่
ตอนพิเศษ 133 พาคนไปด้วยได้หรือไม่?
ตอนพิเศษ 133 พาคนไปด้วยได้หรือไม่?
ประเด็นที่เปลี่ยนไปอย่างชวนกระอักกระอ่วนนี้ทำให้เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกอับอายมากจนอยากจะกัดลิ้นตัวเอง
ไป๋หลิวอี้ตรงนั้นก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งเช่นกัน และเกือบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ
ยามมีสาวน้อยคนนี้อยู่เคียงข้าง ก็ดูเหมือนจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาก
แต่เขาไม่คิดจะเปิดโปงนางในตอนนี้ เพราะหากนางกลัวจนหนีไปก็คงจะไล่ตามนางได้ยาก เพราะตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บอยู่
เขาจึงกลั้นหัวเราะ แล้วอธิบายเรื่องการสอบไป่กวนให้นางฟัง
“… ตั้งแต่สมัยฮ่องเต้ไท่จู่ อาณาจักรเทียนอวี่มีขุนนางที่เก่งกาจคนหนึ่ง สามารถปกครองแผ่นดินได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เพียงแต่ว่างานราชสำนักนั้นซับซ้อน หากต้องการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงก็ต้องผ่านการประเมินและคัดเลือกตามลำดับชั้น อาจใช้เวลามากกว่าสิบปีกว่าจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งขุนนาง ครั้งหนึ่งเขาได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ไท่จู่โดยบังเอิญ ฮ่องเต้ไท่จู่โปรดปรานความสามารถของเขา และต้องการเลื่อนตำแหน่งให้เขาเป็นขุนนางชั้นสูง แต่ในเวลานั้นเป็นช่วงเริ่มก่อตั้งอาณาจักรเทียนอวี่ จึงมีวีรบุรุษและขุนพลมากมายที่ต่อต้านอย่างรุนแรง”
“คนเหล่านั้นทุกคนล้วนมีส่วนช่วยเหลืออาณาจักรเทียนอวี่ ไม่ว่าฮ่องเต้ไท่จู่จะโปรดปรานพรสวรรค์ของเขามากเพียงใด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเลื่อนตำแหน่งให้เขาเพราะการคัดค้านของทุกคน ต่อมาขุนนางคนนี้ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ควรจะจัดสอบไป่กวนขึ้น โดยเขาจะตอบคำถามของขุนนางในราชสำนักเหล่านั้น หากเขาสามารถตอบให้ทุกคนพอใจได้ ทุกคนก็ต้องไม่คัดค้าน หากเขาจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูง”
“ข้อเสนอนี้ได้รับการอนุมัติจากทุกคน และมีเหตุการณ์การสอบทั้งวันทั้งคืนจริง ๆ คำตอบของเขายอดเยี่ยมมาก และในที่สุดเขาก็ได้รับการยอมรับจากทุกคน เขากระโดดจากขุนนางชั้นผู้น้อยระดับเจ็ดไปเป็นขุนนางอันดับหนึ่ง ตั้งแต่นั้นมา อาณาจักรเทียนอวี่ก็ยึดเป็นแบบอย่างในการจัดสอบขุนนางเข้าราชสำนักเป็นร้อยคน ต่อมาใครที่มั่นใจในตัวเองและอยากได้ตำแหน่งสูง ก็ต้องใช้วิธีนี้ เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ต้องการ”
“แน่นอนว่าคนอย่างเขามีน้อยมาก เนื่องจากอาณาจักรเทียนอวี่ก่อตั้งขึ้นเกือบห้าร้อยปีที่แล้ว นอกจากขุนนางคนนั้น ก็มีเพียงสามคนเท่านั้นที่สอบผ่าน”
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง อาณาจักรเทียนอวี่ยังมีกฎเช่นนั้นอีกหรือ? หากเป็นเช่นนี้ อาณาจักรเฟิงชางก็ไม่ค่อยเคร่งครัดในเรื่องนี้เลย
อย่างน้อยท่านอาก็ใช้เวลาเพียงหกปี ถึงได้ตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายขวามาครอง
แต่นั่นเป็นเพราะเขาฉลาดและมีความสามารถ อีกทั้งเสด็จปู่ยังมีสายตาที่เฉียบแหลมอีกด้วย
ดูเหมือนจะรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ไป๋หลิวอี้ยกยิ้ม “แน่นอน มันใช้เวลาไม่นานนักในการขึ้นสู่ตำแหน่งเสนาบดีในตอนนี้ เพราะอย่างไรเสียขุนนางคนนั้นก็อยู่ในสมัยเริ่มก่อตั้งอาณาจักร และมีคนที่มีความสามารถออกมาจำนวนมาก แต่กฎการสอบแบบทางการนี้ได้ถูกสืบทอดมาแล้ว และวิธีการนี้ก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นตำนาน”
เนี่ยนเนี่ยนหันไปมองเขา “เจ้ามีความทะเยอทะยานสูงนัก” เขาต้องการจะเป็นตำนานจริง ๆ
ไป๋หลิวอี้ยกยิ้มจาง ประกายสดใสในดวงตาของเขาพลันหมองลง
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนทะเยอทะยาน แต่เพียงต้องการจะมีค่าคู่ควรกับนาง นางคือจวิ้นจู่น้อยแห่งอาณาจักรเฟิงชางผู้เป็นที่รักของผู้คนนับพัน และสถานะของนางในอาณาจักรเทียนอวี่ก็ไม่ได้ต่ำต้อยเลย นางฉลาด วรยุทธ์แกร่งกล้า และมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม
สตรีเช่นนี้ หากเขาไม่ทำตัวให้ดีขึ้น แล้วเขาจะคู่ควรกับนางได้อย่างไร?
เขาเป็นลูกอนุของจวนซูกั๋วกง ในแง่สถานะ เขามักจะติดอยู่ตรงกลางไม่สูงหรือต่ำ อีกทั้งไม่ได้มีตำแหน่งซื่อจื่อ เขาจึงทำได้เพียงค่อย ๆ ก้าวไปเป็นขุนนาง เพื่อเลื่อนขั้นทีละระดับแม้จะมีตราประทับของซูกั๋วกงเป็นดั่งตราบนร่างกายของเขา ทำให้ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะสามารถครองตำแหน่งสูงได้ด้วยความสามารถของตัวเอง
ด้วยวิธีนี้เท่านั้น เขาถึงจะสามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองได้ เพื่อให้ท่านอ๋องซิวมอบเนี่ยนเนี่ยนให้เขาได้อย่างสบายใจ
เนี่ยนเนี่ยนไม่รู้ว่าเขามีความคิดซับซ้อนเช่นนี้อยู่ในใจ แต่นางรู้สึกได้ว่าการต้องเผชิญกับการสอบขุนนางไป่กวนย่อมต้องรู้สึกกดดันอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาขุนนางหลายร้อยคน ยังมีทหารที่มีประสบการณ์สู้รบมามากมาย และยังมีพวกขุนนางที่เจ้าเล่ห์มากด้วยอุบายราวกับจิ้งจอก
ถ้าเจอคนที่มีราศีแข็งแกร่งเหมือนพ่อของนาง หากถูกมองแค่ปราดเดียว จะไม่ลงไปนอนกับพื้นแล้วหรือ?
อีกทั้งคนที่อยู่ข้างหน้านางยังได้รับบาดเจ็บด้วย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เนี่ยนเนี่ยนก็เม้มปากแน่น
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ถามขึ้นว่า “ทุกคนสามารถเข้าร่วมการสอบไป่กวนนี้ได้หรือ?”
“ก็ไม่เชิง” ไป๋หลิวอี้รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะมีแรงมากขึ้นหลังจากกินยาที่เนี่ยนเนี่ยนให้ แต่ก่อนหน้านั้นเขาเสียเลือดไปมาก เมื่อเผชิญกับคำถามของเนี่ยนเนี่ยน เขาก็พยายามอดทนมาโดยตลอด เพราะรู้สึกมีความสุขเมื่อได้ตอบนางทีละนิด
โดยเฉพาะเมื่อเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของนางตื่นเต้นทันทีหลังจากฟัง เขาก็รู้สึกพอใจมาก
“กว่าจะสอบไป่กวนได้ อย่างน้อยต้องมีการเตรียมใจ ว่าจะไม่เปลี่ยนใจไปตลอดชีวิต หากสอบไป่กวนล้มเหลว ก็คงไม่อาจกลับเมืองหลวงได้อีก และอาจจะเสียชีวิตลงเพราะการสอบ ดังนั้นในทุกยุคทุกสมัย จึงมีคนเข้าร่วมการสอบนี้น้อยมาก เพราะสุดท้ายมันก็เป็นการเอาชีวิตเข้าแลก”
การสอบเช่นนี้ยากลำบากและยิ่งใหญ่ จะจัดแบบไม่เป็นทางการได้อย่างไร?
หากเสียกำลังพลและทรัพยากรสิ้นเปลืองไปโดยเปล่าประโยชน์ แล้วผู้ที่มาสอบเป็นเพียงคนงี่เง่า ชาวโลกก็คงจะเยาะเย้ย
หลังจากที่เนี่ยนเนี่ยนได้ยินคำพูดของเขา สีหน้านางก็ยิ่งจริงจังกว่าเดิม หากเขาสอบตก เขาอาจเสียชีวิตหรือ?
“แล้ว… เลื่อนสอบได้หรือไม่?”
“ไม่ได้”
“แม้ว่าผู้สอบจะบาดเจ็บหรือตายก็ตามงั้นหรือ?”
“เลื่อนไม่ได้แน่นอน ข่าวประกาศออกไปแล้ว ขุนนางทุกคนก็คิดปัญหาไว้แล้ว หากล่าช้า ความพยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า เนื่องจากต้องไปสอบ ปัจจัยทั้งหมดจึงไม่อาจเป็นข้อแก้ตัวได้ แม้พ่อแม่จะเสียชีวิต บ้านแตกสาแหรกขาด หรือกระทั่งเหลือลมหายใจเพียงเฮือกสุดท้าย ก็ยังต้องไปสอบ”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนตึงขึ้นทันใด นางจ้องเขม็งไปที่ไป๋หลิวอี้ สีหน้าพลันไม่สบายใจอย่างยิ่ง
“แล้วตอนท่านทำข้อสอบ ท่านยืนหรือนั่ง?”
“ขุนนางได้นั่ง ส่วนข้าได้ยืน”
“ทั้งวันทั้งคืนเลยหรือ?”
“ใช่”
“ไม่มีเวลาพักผ่อนเลยหรือ?”
“ก็ไม่เชิง มีเวลาให้พักกินข้าวอยู่บ้าง”
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าคนผู้นี้บ้าไปแล้ว ยืนหนึ่งวันคืนก็หนักพออยู่แล้ว แต่เขายังบาดเจ็บอยู่ และอีกไม่นานก็จะถึงเวลาแล้ว การสอบนี้เป็นการสิ้นเปลืองทั้งแรงกายและแรงใจ จะทำได้ได้อย่างไร?
“เจ้าไม่ต้องห่วง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว หากจะเสียชื่อเสียง ชีวิตพังหรือจะสละชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่”
“เจ้าหุบปาก” เนี่ยนเนี่ยนตวาดใส่เขาทันที
ไป๋หลิวอี้เลิกคิ้วมองนาง เนี่ยนเนี่ยนรู้ตัวอย่างรวดเร็วว่าตอนนี้นางเป็นสาวใช้ นางจะตวาดใส่เจ้านายได้อย่างไร
นางกลืนน้ำลาย แล้วกระแอมเบา ๆ “ข้าก็แค่ไม่อยากให้คุณชายใหญ่พูดคำไม่ดีเจ้าค่ะ”
“อืม ข้าไม่โทษเจ้าหรอก ข้าเข้าใจ”
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่นางไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
ต่อให้จะมีกำลังกายและกำลังใจที่ดี แต่ก็ไม่น่าจะทนการสอบไป่กวนได้ แล้วตอนนี้สภาพเขาเป็นเช่นนี้อยู่ เขาจะยืนอยู่ได้อย่างไรทั้งวันทั้งคืน ไม่น่าแปลกใจที่ไป๋หลิวเจวี๋ยจะกังวลมาก
เนี่ยนเนี่ยนกัดฟันถามเขาว่า “ตอนที่ท่านสอบ ท่านพาคนไปด้วยได้หรือไม่?”
ไป๋หลิวอี้ยกยิ้ม
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สอบโหดมาก เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งเลยนะเนี่ย
เนี่ยนเนี่ยนจะเสนอตัวไปด้วยอย่างนั้นเหรอคะ
ไหหม่า(海馬)
—————————————————————————————-