อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 134 ทุกคนกำลังเล่นละคร
ตอนพิเศษ 134 ทุกคนกำลังเล่นละคร
ตอนพิเศษ 134 ทุกคนกำลังเล่นละคร
“สามารถพาคนรับใช้ไปรอที่ห้องโถงด้านข้าง เพื่อคอยยกอาหารมาให้ได้”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะไปกับท่าน… ข้าหมายถึง ข้าเป็นหัวหน้าสาวใช้ของท่าน ท่านคือเจ้านายของข้า หนึ่งร่วงทุกคนล่ม หนึ่งโรจน์ทุกคนรุ่ง หากท่านเป็นอะไรขึ้นมา ข้าก็จะถูกทุกคนมองว่าเป็นตัวอัปมงคลเป็นแน่ เพราะท่านได้รับบาดเจ็บตั้งแต่วันแรกที่ข้ามาที่นี่ แล้วในอนาคตข้าก็จะไม่มีที่ไป ข้าพอจะมีทักษะทางการแพทย์บ้าง ซึ่งดีกว่าอาหลู่ ติงเซียงและคนอื่น ๆ เวลาที่ท่านพักผ่อน ข้าจะได้ดูแลท่านได้”
การมีหมอไปกับเขาด้วย ย่อมดีกว่าต่อสู้ที่นั่นเพียงลำพัง
ไป๋หลิวอี้ยังยิ้มกว้างกว่าเดิม “ถ้าอย่างนั้น… ต้องขอบคุณเจ้าด้วย”
“…นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ” เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มแปลกไป
เมื่อก้มหน้าลง จึงตระหนักได้ว่านางกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาขณะที่พูด
“…” เนี่ยนเนี่ยนรีบเอามือออกด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกดีใจที่นางสามารถเปลี่ยนชุดให้เขาได้โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว ไม่เช่นนั้นก็คงทำไม่ได้จริง ๆ
ขณะที่นางรู้สึกว่าตนค่อนข้างจัดการได้รวดเร็ว ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ทันใดนั้นเสียงของอาเวินก็ดังขึ้น “คุณชายใหญ่ ยาพร้อมแล้วขอรับ”
“อืม เข้ามาสิ” ไป๋หลิวอี้ยังคงหลับตาอยู่ รอยยิ้มที่มุมปากจางหายไปพร้อมกับสีหน้ากลับมาเฉยเมยดังเดิม
เมื่ออาเวินเข้ามา เขาก็เห็นเสื้อผ้าสะอาดอยู่บนร่างกายอีกฝ่ายแล้ว ขณะที่เนี่ยนเนี่ยนยืนหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ เขาเลิกคิ้ว วางยาลงแล้วออกไป
สายตาของเนี่ยนเนี่ยนจับจ้องไปที่ชามยาพลางสูดจมูกเบา ๆ เพียงนางได้กลิ่นก็รู้ส่วนผสมของยานี้คร่าว ๆ แล้ว
มันเป็นเพียงยาบำรุงเลือดรักษาบาดแผลทั่วไป สรรพคุณจึงไม่ค่อยดีนัก
นางเหลือบมองไป๋หลิวอี้ แล้วพูดอย่างลังเลว่า “ยาที่ข้าให้ท่านไปเมื่อครู่นี้ ออกฤทธิ์ตีกับยาในชามนี้ ท่านจึงไม่ควรดื่มยานี้เจ้าค่ะ”
“อืม เจ้าก็เอาไปเททิ้งให้ข้าสิ” เขาย่อมเชื่อคำพูดของเนี่ยนเนี่ยนมากอยู่แล้ว
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาไว้ใจนางมากถึงเพียงนั้นเลยหรือ?
หลังจากเกาศีรษะแล้ว เนี่ยนเนี่ยนก็หยิบยาข้างเตียง ก่อนกวาดสายตามองไปรอบห้อง ในที่สุดก็เห็นกระถางต้นไม้บนขอบหน้าต่าง
หลังจากคิดได้ นางก็ค่อย ๆ เทลงไปในดินทีละน้อย
แล้วมองดูของเหลวสีน้ำตาลค่อย ๆ ไหลลงไป นางยกยิ้มมุมปาก และไม่กลับไปที่ขอบเตียงจนกระทั่งชามว่างเปล่า
แต่ไป๋หลิวอี้บนเตียงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาจึงผล็อยหลับไป
เมื่อเห็นมุมปากของเขายังคงมีรอยยิ้มอ่อน ขณะที่ดวงตาปิดสนิท สีหน้าของเนี่ยนเนี่ยนก็แข็งทื่อทันที ในที่สุดนางก็รู้ตัวว่าเพิ่งทำอะไรลงไป
นางตบหน้าผากตัวเองอย่างแรง แย่มาก เหตุใดนางถึงช่วยเขา เหตุใดนางถึงยอมไปวังหลวงกับเขาเพื่อเข้าสอบ?
นางต้องการวางยาพิษเขาให้ตาย วางยาพิษเขาให้ตาย วางยาพิษเขาให้ตาย ตอนนี้นางกำลังรนหาที่ตายอยู่หรือเปล่า? เหตุใดนางต้องไปยุ่งด้วย?
เนี่ยนเนี่ยนคิดว่าคนผู้นี้ต้องรู้วิธีสะกดจิต ไม่อย่างนั้นนางจะลืมความตั้งใจเดิมของตัวเองได้อย่างไร?
ไม่ๆๆ เนี่ยนเนี่ยนรีบออกจากห้องไปพร้อมกับชามในมือ
ยังไม่ทันถึงทางเดิน นางก็ถอนหายใจยาว
“อวี้ซี เจ้าช่างเก่งกาจเสียจริง” ติงเซียงเดินมาอยู่ข้างนางตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ นางจ้องมองเนี่ยนเนี่ยนขณะพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
เนี่ยนเนี่ยนปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างแนบเนียน สีหน้านางกลับมาเรียบเฉยอีกครั้ง
นางหันหน้าไปมองติงเซียง ก่อนจะยัดชามยาใส่มือนาง แล้วพูดว่า “ขอบคุณสำหรับคำชม”
“เจ้า…” สีหน้าของติงเซียงโกรธมาก และอยากจะข่วนหน้านางสักสองที แต่เนี่ยนเนี่ยนจากไปแล้วโดยไม่หันกลับมามอง
ติงเซียงบีบชามยาในมือแน่น หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็เดินกระทืบเท้าด้วยความโกรธออกจากสวนจิ่นเฟิง
จากนั้นเลี้ยวไปทางซ้าย
เมื่อนางหยุดอีกครั้ง นางก็ยืนอยู่ที่ประตูเรือนที่มีชื่อว่า ‘สวนหลิงสุ่ย’
เมื่อสาวใช้ที่ประตูเห็นนางก็ต้อนรับนางทันที
ติงเซียงมองหลิ่วยางยางที่กำลังปักผ้า แล้วพูดด้วยความเคารพว่า “คุณหนูเปี่ยว อวี้ซีคนนั้นไม่ธรรมดาเลยเจ้าค่ะ”
“นางทำอะไร?” หลิ่วยางยางกะพริบตา มือหยุดการเคลื่อนไหว แล้วถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“บ่าวอยู่เคียงข้างคุณชายใหญ่มาหลายปีแล้ว และคุณชายใหญ่ไม่เคยให้บ่าวเข้าใกล้เลย แต่วันนี้เขาขอให้อวี้ซีช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ และทั้งสองคนก็อยู่กันตามลำพังในห้องเกือบครึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ” นางไม่กล้าเล่าเรื่องอาการบาดเจ็บของไป๋หลิวอี้
สุดท้ายนางก็ยังคงเป็นสาวใช้ในสวนจิ่นเฟิง และเจ้านายที่แท้จริงก็คือคุณชายใหญ่ นางยังรู้วิธีเก็บความลับของคุณชายใหญ่อยู่
ดังนั้นสิ่งที่นางพูดจึงมุ่งเป้าไปที่เนี่ยนเนี่ยน
สีหน้าของหลิ่วยางยางกลายเป็นเศร้าสร้อยทันที ไม่อาจเก็บซ่อนความโศกเศร้าบนใบหน้าได้
แต่คำพูดยังคงค่อนข้างเข้มแข็งและโอบอ้อมอารี “ในเมื่อตอนนี้อวี้ซีเป็นสาวใช้ของท่านพี่ มันก็ถูกต้องแล้วที่จะรับใช้เขา… และอวี้ซีก็หน้าตางดงามจริง ๆ… ในอนาคต หากท่านพี่ให้นางครองเรือนจริง มันก็สมเหตุสมผลแล้ว ในอนาคตเจ้าควรปฏิบัติต่อนางให้ดีกว่านี้ แล้วชีวิตของเจ้าจะง่ายขึ้น เข้าใจหรือไม่?”
ในฐานะหัวหน้าสาวใช้ ติงเซียงไม่อาจเก็บซ่อนความหึงหวง และความทะเยอทะยานได้ แต่นางก็ยังมีความฉลาดอยู่บ้าง
นางไม่เคยคิดเลยว่าคุณหนูเปี่ยวที่อยู่ตรงหน้านางจะอ่อนแอเหมือนกับท่าทางที่นางแสดงออกผิวเผิน ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ซื้อใจเด็กสาวไร้เดียงสาได้มากมายถึงเพียงนี้
คำพูดของนางบอกเป็นนัยว่าในอนาคตอวี้ซีจะเป็นเจ้านายของนาง หากตอนนี้นางไม่ระมัดระวัง ก็อาจทำให้ชีวิตของนางลำบากมากในอนาคต
สัมผัสได้ถึงความยั่วยุในถ้อยคำเหล่านี้ แต่การจี้จุดอ่อนนี้ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน แม้ว่านางจะรู้ว่าหลิ่วยางยางกำลังยั่วยุ แต่นางก็ยังต้องระวังอวี้ซี
ติงเซียงแอบสูดหายใจเข้าลึก ๆ แม้ว่านางจะรู้อยู่ในใจ แต่ในขณะนี้นางยังต้องการแสดงความภักดี “ครองเรือนหรือเจ้าคะ? เฮ้อ ด้วยวิธีการชั้นต่ำของนาง คุณชายใหญ่จะต้องไม่ตกหลุมรักนางแน่นอนเจ้าค่ะ แต่คงจะเพียงแค่เชยชมในฐานะที่ยังสดใหม่อยู่เท่านั้น คุณหนูเปี่ยวต่างหากที่จะเป็นนายหญิงที่แท้จริงเจ้าค่ะ”
หลิ่วยางยางพอใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ยังมีสีหน้ากังวล “ติงเซียง เจ้าต้องไม่ทำอะไรโง่ ๆ เข้าใจหรือไม่?”
“คุณหนูเปี่ยวอย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ บ่าวรู้ว่าต้องทำอะไร”
หลังจากติงเซียงพูดจบก็ถอยออกไป
นางเบะปากเล็กน้อย นางไม่ชอบอวี้ซี และไม่ต้องการให้นางอยู่ในตำแหน่งสูงสุด แต่นางจะไม่จัดการกับนางด้วยตัวเอง นางจึงมาที่นี่เพียงเพื่อเตือนคุณหนูเปี่ยว ด้วยการยกอวี้ซีขึ้นมาขู่คุณหนูเปี่ยว ดังนั้นคุณหนูเปี่ยวจะต้องจัดการแน่นอน
นางหน้าตาดีก็จริง แต่ในเรื่องสถานะ อวี้ซีย่อมไม่อาจเอาชนะคุณหนูเปี่ยวได้
ติงเซียงยักไหล่ แล้วกลับไปที่สวนจิ่นเฟิง
ทันทีที่นางจากไป ร่างหนึ่งก็เดินออกมาเงียบ ๆ ไม่ไกลนัก แล้วหรี่ตาจ้องมองแผ่นหลังของนาง
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ใจมันไม่เป็นของเราไปแล้วล่ะเนี่ยนเนี่ยนเอ๊ย ถึงขนาดติดตามเขาไปสอบแบบนี้
ใครแอบสอดแนมกันนะ
ไหหม่า(海馬)