อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 140 อย่างมากก็นางบำเรอ
ตอนพิเศษ 140 อย่างมากก็นางบำเรอ
ตอนพิเศษ 140 อย่างมากก็นางบำเรอ
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปถึงประตูแล้วขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติอยู่เสมอ
เจ้านายอย่างเขามองสาวใช้ในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า? นางพูดอะไรเขาก็เชื่อโดยไม่มีเงื่อนไขเลยงั้นหรือ?
อืม แต่จะพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูก พวกเขาปฏิบัติต่อคนรับใช้ในจวนเป็นอย่างดีเสมอ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
แต่ปัญหาคือนางเพิ่งมาที่นี่ได้สองวัน เป็นเพราะนางถูกนายท่านรองพามาอย่างนั้นหรือ? หรือเป็นเพราะนางรักษาอาการบาดเจ็บของไป๋หลิวอี้?
เหตุใดเขาถึงประทับใจนัก?
อืม ข้อนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจ แล้ววิ่งไปกินข้าวที่ห้องครัวเล็กในสวนจิ่นเฟิง
นี่คือห้องครัวขนาดเล็กของไป๋หลิวอี้ สาวใช้ทั่วไปจะกินข้าวร่วมกันในห้องครัวใหญ่ของเรือน แน่นอนว่าหัวหน้าสาวใช้อย่างเนี่ยนเนี่ยนสามารถกินข้าวที่นี่ได้
ในตอนนี้นอกจากเนี่ยนเนี่ยนแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งอยู่ในครัวด้วย
ติงเซียงมองนางด้วยสายตาเย้ยหยัน ใบหน้านางบึ้งตึง ข้างกายนางมีเด็กสาวคอยยกอาหารมาให้
หลังจากคิดดูแล้ว การเป็นหัวหน้าสาวใช้ก็มีประโยชน์มากมายเช่นกัน เพราะในที่ส่วนตัวก็สามารถทำตัวเหมือนคุณหนูตระกูลใหญ่ได้
เมื่อนางนั่งลง นางก็ได้ยินการหาเรื่องของติงเซียง “เจ้าอย่าได้ชะล่าใจเร็วเกินไป แม้คุณชายใหญ่จะชอบเจ้าจริง ๆ แต่ด้วยสถานะของเจ้า เจ้าก็เป็นได้แค่สาวใช้ อย่างมากก็นางบำเรอเท่านั้น ยังต้องมีนายหญิงใหญ่คอยกดหัวเจ้าไว้อยู่ ข้าจะแนะนำเจ้า หากเจ้าต้องการอยู่กับคุณชายใหญ่จริง ๆ ก็จงพยายามเอาใจคุณหนูเปี่ยวไว้ บางทีชีวิตในอนาคตจะได้ไม่รันทดเกินไป”
หลังจากการเฝ้าสังเกตเป็นเวลาสองวัน ติงเซียงก็ยืนยันได้แล้วว่าเนี่ยนเนี่ยนมาที่นี่เพื่อปีนขึ้นไปบนเตียงของคุณชายใหญ่ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับนายท่านรองที่นางเล่านั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องโกหก แต่นางก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ช่างน่ารังเกียจนัก
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปตักโจ๊กบนเตาและเครื่องเคียงด้วยตัวเอง มันดูน่ากินมาก จนความอยากอาหารของนางพลุ่งพล่าน
เมื่อได้ยินคำพูดของติงเซียง นางก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะกลืนโจ๊กในปากแล้วถามว่า “เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่านายหญิงใหญ่ในอนาคตจะเป็นคุณหนูเปี่ยว? เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าคุณชายใหญ่ได้ทำสัญญาหมั้นหมายกับหญิงคนอื่นแล้ว? บางทีนายหญิงใหญ่ในอนาคต อาจเป็นหญิงคนนั้นก็ได้ไม่ใช่หรือ?”
“โอ้ เจ้าช่างน่าทึ่งนัก มีใครรู้บ้างว่าหญิงคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร และอยู่ที่ไหน? อีกทั้งต่อให้นางจะปรากฏตัว นางก็ไม่อาจเทียบกับความสัมพันธ์ระหว่างคุณชายใหญ่กับคุณหนูเปี่ยวได้ จะทำอย่างไรถ้าหญิงคนนั้นหน้าตาอัปลักษณ์ เตี้ย อ้วน สกปรกและหยาบคาย? คุณชายใหญ่จะชอบหรือ? และในด้านสถานะและความรู้ จะมีใครเหมาะสมไปกว่าคุณหนูเปี่ยวอีก?”
สำหรับหญิงที่มีสัญญาหมั้นหมายกับไป๋หลิวอี้ ติงเซียงไม่ค่อยรู้ข้อมูลชัดเจนนัก
คิดดูแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเป็นสัญญาปากเปล่า เป็นสัญญาที่เด็กสองคนทำขึ้นเอง แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่สามารถประกาศในวงกว้างได้ ดังนั้นไป๋หลิวอี้จึงบอกเรื่องนี้กับไป๋ชูเฟิง ฮูหยินของไป๋ชูเฟิง และแม่เฒ่าไป๋เท่านั้น
หลิ่วซื่อผู้เป็นฮูหยินของซูกั๋วกงยิ่งเกลียดไป๋หลิวอี้มากกว่าเดิมเพราะเรื่องนี้ ลูกชายของนางถูกปฏิเสธ แต่ไป๋หลิวอี้ได้รับความโปรดปรานจากจวิ้นจู่น้อยแห่งตำหนักอ๋องซิว หลิ่วซื่อจะทนได้อย่างไร
คิดดูแล้วมันก็เป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้า แน่นอนว่านางไม่ต้องการให้คนนอกรู้เรื่องนี้
ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องราวภายในที่เกิดขึ้นในตอนนั้น คนอื่นที่รู้เพียงผิวเผินก็เป็นคนรับใช้ที่รับใช้เจ้านายในตอนนั้น
เดิมทีเหตุการณ์นี้เกือบจะถูกลืมไปแล้ว แต่ไป๋หลิวอี้จดจำได้อย่างชัดเจนในใจ และเขายังเสนอให้ซูกั๋วกงและแม่เฒ่าไป๋ปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายด้วย
ผู้เฒ่าทั้งสองรู้จักอวี้ชิงลั่วและหนานหนานเป็นอย่างดี แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักจวิ้นจู่น้อยเนี่ยนเนี่ยนผู้เป็นที่รักของทุกคน แต่ก็ยังรู้สึกเห็นด้วยอยู่ดี จึงตอบตกลง
เรื่องที่ไป๋หลิวอี้ส่งจดหมายขอแต่งงานไปยังอาณาจักรเฟิงชางนั้นยังอยู่ในขั้นตอนที่เป็นความลับ
มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ติงเซียงรู้ และนางยังไปถามคนรับใช้เก่าในตอนนั้นด้วย แต่หลังจากนั้นก็รู้ข้อมูลภายในน้อยมาก รู้เพียงว่าตอนนี้หญิงคนนั้นอยู่ในอาณาจักรเฟิงชาง และไม่เคยติดต่อกับจวนของซูกั๋วกงเลยเป็นเวลาหลายปี
ติงเซียงคิดว่าคนที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีตัวตนอยู่หรือไม่ ก็เป็นเพียงพระจันทร์ในเงาน้ำ ดอกไม้ในกระจกเงา ดังนั้นการเกาะขาคุณหนูเปี่ยวไว้ให้แน่นจึงเป็นวิธีที่ดีกว่า
แล้วถ้ามีตัวตนอยู่จริงล่ะ? ก็ยังไม่รู้ว่าคนผู้นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร นิสัยเป็นอย่างไร
คนธรรมดาจะคู่ควรกับเทพบุตรอย่างคุณชายใหญ่ได้อย่างไร?
หลังจากได้ยินนางพูด เนี่ยนเนี่ยนก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล นางจึงไม่พูดอะไร ได้แต่กินข้าวต่อไปเงียบ ๆ
แต่เด็กสาวข้างกายติงเซียงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อย คุณชายใหญ่มีสัญญาหมั้นหมายกับหญิงอื่นหรือ? นางล่วงรู้เรื่องน่ากลัวเข้าแล้วหรือเปล่า?
หากเป็นเช่นนี้ ก็ยังไม่ทราบว่าคุณหนูเปี่ยวจะได้เป็นนายหญิงใหญ่หรือไม่ ทั้งยังมีคนที่นางไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วย แล้วนางจะเข้าข้างใครดี?
เนี่ยนเนี่ยนกินเสร็จอย่างรวดเร็ว นางจำได้คำพูดของไป๋หลิวอี้ได้ว่าหลังจากนี้เขามีเรื่องจะคุยกับนาง
เมื่อเห็นท่าทางเฉยเมยของนาง ติงเซียงก็รู้สึกโมโห นางกัดซาลาเปาในมือสองคำ พลางจ้องมองแผ่นหลังของเนี่ยนเนี่ยนด้วยความโกรธ ขณะที่ลุกขึ้นและจากไป
“หึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย รอให้คุณหนูเปี่ยวมาถึงประตูก่อนเถอะ แล้วมาดูกันว่าเจ้าจะทำอะไรได้”
เด็กสาวที่อยู่ข้างนางมองนางขณะลังเลที่จะพูด แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้พูดอะไร
เนี่ยนเนี่ยนกลับไปที่ห้องหลัก ไป๋หลิวอี้กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
เนี่ยนเนี่ยนเหลือบมองเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะเป็นตำราประวัติศาสตร์ เขาพยายามอย่างหนักจริง ๆ
“แม้จะบอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันสอบไป่กวน และใกล้จะหมดเวลาแล้ว แต่ก็อย่าหักโหมเกินไปเลยเจ้าค่ะ” เนี่ยนเนี่ยนเดินไปข้างเตียง สายตาจับจ้องหนังสือในมือเขา
ไป๋หลิวอี้ยกยิ้ม ก่อนจะวางหนังสือลง “ก็แค่ฆ่าเวลาเท่านั้น”
“โอ้” เนี่ยนเนี่ยนทำแก้มป่อง แล้วถามเขาว่า “ท่านบอกว่าท่านมีเรื่องจะคุยกับข้า มีอะไรหรือเจ้าคะ?”
“เอาชุดนั้นไปลอง” เขาชี้ไปยังเสื้อผ้าชุดหนึ่งบนชั้นวางไม่ไกล
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปดู และพบว่ามันเป็นเสื้อผ้าที่คนรับใช้ชายสวมใส่ปกติ
“พรุ่งนี้เจ้าต้องตามข้าเข้าไปในวังหลวง แน่นอนว่าเจ้าต้องแต่งตัวให้ดี ใส่ชุดสาวใช้คงไม่เหมาะ เจ้าลองเปลี่ยนเป็นชุดนี้ดู” ไป๋หลิวอี้อธิบาย
เนี่ยนเนี่ยนเขย่าชุดนั้น แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไป๋หลิวอี้เผยรอยยิ้มอ่อนโยน “อย่ากังวล มันไม่เคยถูกคนอื่นสวมใส่มาก่อน ข้าอธิบายไปเมื่อวานแล้ว และให้คนไล่เขาออกไปในชั่วข้ามคืน”
มันเป็นขนาดของนาง ดังนั้นมันน่าจะพอดีตัว “ไปลองดูสิ”
เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้น ไป๋หลิวอี้ผู้นี้… ยังคงรอบคอบมาก
มุมปากนางกระตุกโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะวิ่งกลับไปที่ห้องด้านซ้าย พร้อมชุดในอ้อมแขน
นางลดสายตามองหน้าอกตัวเอง แล้วดึงผ้าแถบผืนหนึ่งออกมาพันรอบจนแน่น จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นชุดคนรับใช้ชาย
พูดตามตรงว่า…มันพอดีตัวจริง ๆ ไม่ยาวหรือสั้นเกินไป สวมใส่ได้พอดี
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าชุดคนรับใช้ชายนั้นสะดวกกว่าชุดของสาวใช้มาก หลังจากหมุนตัวไปมาสองครั้ง ก็เปิดประตูเดินไปที่ห้องหลัก
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่นางผลักประตูวิ่งเข้าไป นางก็ได้ยินเสียงพูดด้วยความโกรธ “เหลวไหลนัก เจ้าได้รับบาดเจ็บ แล้วเจ้าจะไปเข้าสอบไป่กวนได้อย่างไร?”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
รู้ตัวตนสาวคู่หมั้นคุณชายใหญ่แล้วจะหนาว ระวังชีวิตจะหาไม่นะติงเซียง
ไหหม่า(海馬)