อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 146 เขา! มี! คู่หมั้น! แล้ว!
ตอนพิเศษ 146 เขา! มี! คู่หมั้น! แล้ว!
ตอนพิเศษ 146 เขา! มี! คู่หมั้น! แล้ว!
คนรับใช้ในวังผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเขาก็มีความสุข พยักหน้าขณะมองนาง
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจเบา ๆ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อันที่จริง มันไม่สำคัญว่าคุณชายจะชอบสตรีแบบใด? ไม่ว่าองค์หญิงสิบสามจะมีความสามารถและงดงามเพียงใด มันก็ไม่สำคัญ”
“เพราะเหตุใดกัน?” ใบหน้าของคนรับใช้ในวังบูดบึ้งทันทีเมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น
เนี่ยนเนี่ยนยังคงยกยิ้ม “เพราะคุณชายมีสัญญาหมั้นหมายกับใครบางคนแล้ว เขาหมั้นหมายแล้ว”
“หมั้นงั้นหรือ?” คนรับใช้ในวังขมวดคิ้วมุ่น แต่จู่ ๆ ก็ยิ้มหลังจากนั้นครู่หนึ่งด้วยท่าทางไม่แยแส “ไม่สำคัญว่าหมั้นหมายหรือยัง ไม่ว่าจะมีสัญญาหมั้นหมายกับหญิงคนใดก็ตาม หญิงคนนั้นก็ไม่อาจเทียบองค์หญิงสิบสามของเราได้ องค์หญิงเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้และเหล่าราชวงศ์ ถ้านางชอบคุณชายไป๋ ตราบใดที่ฮ่องเต้ออกราชโองการ ไม่ว่าหญิงจากตระกูลไหนที่อยากแต่งงานกับคุณชายไป๋ ก็ต้องหลีกทางให้ทั้งนั้น”
เนี่ยนเนี่ยนแอบหัวเราะเย้ยหยัน “เหตุใดท่านไม่ถามเล่าว่าสตรีนางใดหมั้นหมายกับคุณชายไป๋?”
“ไม่ว่าจะเป็นสตรีหน้าไหน นางก็ไม่กล้าแย่งคุณชายไปจากองค์หญิงสิบสามของเราหรอก” แม้ว่าคุณชายไป๋จะเป็นคุณชายแห่งจวนซูกั๋วกง แต่เขาก็ยังเป็นลูกนอกสมรสอยู่ดี ดังนั้นหญิงที่มีสัญญาหมั้นหมายกับเขาก่อนจะสอบไป่กวนนั้นจึงน่าจะไม่ใช่คนในตระกูลสูงส่ง
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาและพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านคิดว่าธิดาของอุปราชแห่งอาณาจักรเฟิงชางกับองค์หญิงเทียนฝูแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ จะไม่กล้าแย่งองค์หญิงสิบสามหรือ?”
เดี๋ยวนะ แย่งอะไร? เดิมทีไป๋หลิวอี้เป็นของนางอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
เห็นได้ชัดว่าคนที่เป็นมือที่สามคือองค์หญิงสิบสามต่างหาก และนางเป็นคู่หมั้นอย่างเป็นทางการ
คนรับใช้ในวังตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นขมวดคิ้วและพูดทวนว่า “ธิดาของอุปราชแห่งอาณาจักรเฟิงชาง และองค์หญิงเทียนฝูแห่งอาณาจักรเทียนอวี่งั้นหรือ?” ทันใดนั้นเขาก็ตกใจจนเปล่งเสียงดังขึ้น “เจ้าหมายความว่าคนที่มีสัญญาหมั้นหมายกับคุณชายไป๋ เป็นธิดาของอุปราชกับองค์หญิงเทียนฝูหรือ?”
“ใช่ขอรับ” เนี่ยนเนี่ยนตอบอย่างมั่นใจ
สีหน้าของคนรับใช้ในวังเปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที แม้ว่าเขาจะยังเด็ก และไม่เคยเจอองค์หญิงเทียนฝูมาก่อน แต่เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในวัง และเติบโตมากับการฟังคำบอกเล่าของเหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ในวัง
เรื่องที่ทำให้เขาประทับใจที่สุด คือเรื่องธิดาบุญธรรมของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน องค์หญิงที่ได้รับการกล่าวขานว่าช่วยชีวิตฮ่องเต้ และเป็นที่รักของฮ่องเต้กับฮองเฮายิ่ง เป็นหญิงคนเดียวที่ใช้สกุลต่างอาณาจักร นามว่าองค์หญิงเทียนฝู
ว่ากันว่านางแต่งงานกับอุปราชแห่งอาณาจักรเฟิงชาง และนางก็มีสถานะสูงส่ง
ว่ากันว่าตอนที่นางแต่งงาน องค์ชายสององค์จากอาณาจักรเทียนอวี่ก็ไปร่วมงานด้วย และผู้มีเกียรติบางคนของตระกูลไป๋และตระกูลลู่ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับองค์หญิงก็ไปร่วมงานด้วยเช่นกัน
ว่ากันว่านางคือหมอปีศาจผู้โด่งดังระดับโลก ที่มีทักษะทางการแพทย์อันล้ำเลิศที่ไม่มีใครเทียบได้ นางกับหมอเฒ่าฉยงซานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์สูงพอกัน และเป็นสหายที่ไม่ได้พบกันมาหลายปี เหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน ก็ต้องขอบคุณหมอเฒ่าฉยงซาน ที่ทำให้อาณาจักรเทียนอวี่ไม่ต้องเผชิญสถานการณ์สิ้นหวัง
ว่ากันว่าแม้แต่ฮองเฮาก็ยังยกคนที่ไว้ใจที่สุดอย่างแม่นมเซียวและแม่นางหงเย่ ให้ไปคอยรับใช้องค์หญิงเทียนฝูด้วย
ว่ากันว่าองค์หญิงรู้จักผู้คนมากมายในโลก ซึ่งล้วนแล้วแต่นับถือนาง
ว่ากันว่านางมีลูกชายสองคนและลูกสาวหนึ่งคน และลูกสาวคนนั้น… เป็นที่รักของคนนับพัน ยิ่งกว่านั้น ทันทีที่นางเกิดมา นางก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นจวิ้นจู่น้อยแห่งอาณาจักรเฟิงชาง และนางก็ได้รับรางวัลมากมายจากฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งอาณาจักรเฟิงชางด้วย แม้แต่ในวันเกิดของนางในทุกปี ฮ่องเต้ ฮองเฮาและคนในราชวงศ์เทียนอวี่ ก็จะส่งคนไปมอบของขวัญให้กับนาง นับว่าเป็นการปฏิบัติดีกว่าที่องค์หญิงสิบสามได้รับเสียอีก
เมื่อคนรับใช้ในวังนึกถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของเขาก็ยิ่งซีดลง
จะเป็นไปได้อย่างไร? คุณชายไป๋ ลูกนอกสมรสแห่งจวนซูกั๋วกง จะได้ทำสัญญาหมั้นหมายกับหญิงสาวเช่นนั้นได้อย่างไร? นั่น… เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว องค์หญิงสิบสามไม่มีโอกาสชนะเลย
ไม่ต้องพูดถึงว่าอุปราชแห่งอาณาจักรเฟิงชางเป็นถึงบุคคลในตำนาน เขาจะไม่มีวันยอมแน่ หากองค์หญิงสิบสามกล้ารังควานบุตรีของเขา
ถึงเวลานั้น ทั้งสองอาณาจักรอาจจะถึงขั้นทำศึกกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มาก
ยิ่งไปกว่านั้น ฮ่องเต้และไท่จื่อจะไม่ยอมให้คุณชายไป๋เลิกหมั้นหมายกับจวิ้นจู่น้อย และรับเขาเป็นเขยคนที่สิบสามแน่นอน
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเห็นสีหน้าตกใจมากของเขา นางก็ตบไหล่เขาด้วยความพึงพอใจ “ตอนนี้ท่านเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ ว่าเป็นเรื่องยากเพียงใด หากองค์หญิงสิบสามคิดจะเป็นกิ่งทองใบหยกกับคุณชาย?”
คิดจะมาแย่งนางงั้นหรือ? เป็นความคิดที่ดี แต่โชคดีที่นางฉลาด นางหมั้นหมายกับไป๋หลิวอี้ตั้งแต่นางยังเด็ก
… เดี๋ยวนะ
นางกำลังคิดอะไรอยู่? เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะกัดลิ้นตัวเอง
คนรับใช้ในวังจากไปด้วยใบหน้าซีดเซียว โดยไม่แม้แต่จะมองเนี่ยนเนี่ยนอีก
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่น่าไว้ใจ และนางไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาง นางจึงจากไปทันที
แต่ว่า…
นางพลิกเศษเงินในมือไปมา โชคดีที่นางหาเงินได้บ้าง จะได้เก็บไว้ซื้อขนมให้โม่เพียวกิน
ไม่มีใครอยู่ในห้องโถงแล้ว เนี่ยนเนี่ยนจึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้น หน้าอกของนางถูกรัดไว้แน่นจนนางอยากจะนั่งพักผ่อนบนเก้าอี้
โชคดีที่นางเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นี่ นางหยิบถ้วยชาและกินของว่างอย่างสบายใจ พลางมองนาฬิกาทรายข้าง ๆ เพื่อดูเวลา
ชั่วขณะหนึ่งผ่านไปแล้ว ไม่รู้ว่าไป๋หลิวอี้กำลังทำอะไรอยู่ในห้องโถงใหญ่?
เขากินยาของนางไปแล้ว ดังนั้นอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขา ก็น่าจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เนี่ยนเนี่ยนกินของว่างสองชิ้นอย่างช้า ๆ จนหมด ประตูห้องโถงก็เปิดออก
คนรับใช้ในวังเดินนำไป๋หลิวอี้มาจากด้านนอก ทันทีที่เขาเข้ามา เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกได้ว่าสีหน้าของเขาแย่กว่าเมื่อเช้าเล็กน้อย
นางรีบลุกขึ้นก้าวเข้าไป และได้ยินคนรับใช้ในวังพูดกับไป๋หลิวอี้ว่า “คุณชายไป๋พักที่นี่หนึ่งชั่วยาม เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นจึงค่อยไปสอบต่อในช่วงบ่าย เพื่อให้การสอบเป็นไปอย่างยุติธรรมและโปร่งใส แนะนำว่าท่านไม่ควรออกจากบริเวณนี้ในช่วงนี้ขอรับ”
คนรับใช้ในวังคนนี้น่าจะมีสถานะสูงส่ง เขาพูดอย่างมั่นใจมากกว่าคนรับใช้ในวังสองสามคนก่อนหน้านี้
ไป๋หลิวอี้พยักหน้าให้เขา แล้วคนรับใช้ในวังก็จากไป
เนี่ยนเนี่ยนรีบเข้าไปประคองให้เขานั่งบนเก้าอี้ แล้วยื่นมือไปตรวจสอบบาดแผลที่เอวของเขา
ไป๋หลิวอี้จับมือนางด้วยรอยยิ้ม ก่อนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “อย่ากังวล แผลไม่เปิด แค่เหนื่อยนิดหน่อย”
การสอบไป่กวนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ตั้งแต่เช้า ขุนนางเหล่านั้นถามคำถามเรื่อย ๆ ทีละคำถาม แต่ละคำถามเฉียบคมและยากมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะบรรดาขุนนางที่ต้องการทำให้ซูกั๋วกงขายหน้า พวกเขาต่างตั้งคำถามพิสดารมาก
หากไม่ใช่เพราะการสอบไป่กวนมีขอบเขตที่จำกัด คนเหล่านั้นคงจะตั้งคำถามหนักกว่านี้
แต่การสอบครั้งนี้ไม่ง่ายเลย
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปอยู่ข้างหลังเขาทันที และช่วยนวดไหล่ให้เขา
นางเชี่ยวชาญเรื่องจุดฝังเข็มบนร่างกายมนุษย์เป็นอย่างดี ดังนั้นการกดด้วยแรงที่มากขึ้นเช่นนี้ จึงทำให้ไป๋หลิวอี้รู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายขึ้นทันที
แน่นอนว่าการพานางมาที่นี่เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง
“แล้วสอบตอนเช้าเป็นอย่างไรบ้าง? สอบผ่านหรือไม่?”
“อืม” ไป๋หลิวอี้ยังหลับตาลง และพิงนางราวกับไม่สนใจอะไร
เนี่ยนเนี่ยน: “…” ช่างเถอะ แค่พิงเท่านั้น ไม่ได้เสียหายอะไร
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ยอมรับซะเถอะว่าชอบเขาแล้วน่ะเนี่ยนเนี่ยน ไม่งั้นไม่เถียงกลับคอเป็นเอ็นแบบนี้หรอก
ไหหม่า(海馬)