อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 152 เหตุใดเขาถึงกอดนาง
ตอนพิเศษ 152 เหตุใดเขาถึงกอดนาง?
ตอนพิเศษ 152 เหตุใดเขาถึงกอดนาง?
“ขอถามคุณชายไป๋ว่า สามสิบหกกลยุทธ์มีอะไรบ้าง?”
ทันทีที่คำถามนั้นออกมา ทุกคนก็ตกตะลึง แล้วมองไปที่อู่หยวนโหวตรงหน้าพวกเขา ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
พวกเขาอุตส่าห์กลั้นหายใจเงียบ ๆ ด้วยความคาดหวังว่าจะเป็นคำถามที่ยากที่สุด แต่กลับเป็นคำถามนี้งั้นหรือ?
สีหน้าของทุกคนในโถงดูแปลกไป เสียงพูดคุยแบบกระซิบกระซาบดังขึ้น
ทันทีที่อู่หยวนโหวพูดจบ เขาก็เพิ่งตระหนักในสิ่งที่เขาพูดขึ้นมาได้ ทันใดนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะกัดลิ้นตัวเอง และอยากจะถามเพิ่มอีกสักสองสามประโยคเพื่อกอบกู้สถานการณ์ทันที
แม้ว่าไป๋หลิวอี้จะดูสงบ แต่เขาก็ตัดโอกาสที่เขากำลังจะได้พูดอย่างหนักแน่น ด้วยการชิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สิ่งที่เรียกว่าสามสิบหกกลยุทธ์นั้น หนึ่งคือปิดฟ้าข้ามทะเล สองคือล้อมเวยช่วยจ้าว สามคือยืมดาบฆ่าคน สี่คือรอซ้ำยามเปลี้ย ห้าคือตีชิงตามไฟ หกคือส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม เจ็ดคือมีในไม่มี แปดคือ…”
เขาตอบช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบชวนฟังยิ่งนัก
แต่อู่หยวนโหวไม่มีใจจะฟังแล้ว คำตอบที่ไป๋หลิวอี้พูดตอนท้าย ๆ นั้น เขาฟังไม่ออกเลย เขารู้แค่ว่าดูเหมือนจะ… ท่าไม่ดีแล้ว
“สามสิบหกกลยุทธ์ มีดังที่กล่าวมาขอรับ” ในที่สุดเสียงของไป๋หลิวอี้ก็เงียบลง
หลังจากนั้นผู้ชมก็เงียบเช่นกัน แล้วสายตาของทุกคนก็หันไปจับจ้องอู่หยวนโหว
คุณชายสกุลไป่ได้ตอบเสร็จสิ้นทุกกลยุทธ์แล้ว เหตุใดอู่หยวนโหวจึงยังไม่ตอบสนองอีก? คำตอบนี้น่าพอใจหรือไม่? ยังไม่พอใจหรือ?
ลูกสมุนที่อยู่ข้างหลังอู่หยวนโหวรู้สึกกังวลเล็กน้อย เกิดอะไรขึ้นกับท่านโหว? ไม่ได้บอกว่าจะทำให้ไป๋หลิวอี้ขายหน้าหรอกหรือ? สามสิบหกกลยุทธ์บ้าอะไรเนี่ย?
เรื่องนี้แม้แต่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมก็ยังท่องได้ ท่านโหวถามคำถามเช่นนี้ได้อย่างไร?
ถ้าท่านโหวทำเช่นนี้ ก็จะต้องเปลี่ยนคำถามภายหลังใช่หรือไม่?
ไม่ ต้องมีต่ออีก ท่านโหวต้องมีกลอุบายจัดการเขาอยู่อีก
เมื่อนึกได้ดังนั้น ลูกสมุนก็อดไม่ได้ที่จะสะกิดอู่หยวนโหว
อู่หยวนโหวกัดฟันกลั้นหายใจ ในที่สุดก็ได้สติ แล้วมองไปที่ไป๋หลิวอี้
ไป๋หลิวอี้ยกยิ้ม “ท่านขุนนาง ข้าตอบเสร็จแล้วขอรับ หรือว่าท่านต้องการให้ข้าอธิบายแต่ละสามสิบหกกลยุทธ์อย่างละเอียด? ไม่มีปัญหาขอรับ ปิดฟ้าข้ามทะเล การมองข้ามสิ่งตระเตรียมไว้…”
“ไม่จำเป็น” อู่หยวนโหวจะรอให้เขาอธิบายทีละอย่างได้อย่างไร เมื่อใดจะอธิบายเสร็จ? เขาพูดเสียงดังทันที ในที่สุดก็ไม่สนใจอะไรแล้วในตอนนี้ และรีบพูดว่า “คุณชายไป๋ตอบได้ดีมาก ข้าพอใจมาก ไม่มีการโต้แย้ง”
ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับอู่หยวนโหว?
ถังมู่เทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น คำถามของอู่หยวนโหวก็จบลงแล้ว คำถามต่อไป…”
“ฝ่าบาท กระหม่อมค่อนข้างเหนื่อย ขอลาไปก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ”
ถังมู่เทียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “อู่หยวนโหวทำงานหนักแล้ว”
แม้ว่าอู่หยวนโหวจะหันหลังกลับ แต่เขาก็ค่อย ๆ เดินไปที่ประตูอย่างใจเย็นที่สุดทีละก้าว
แต่หลายคนก็มองออกว่าท่าเดินของเขาดูไม่เป็นธรรมชาติ และเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ
ลูกสมุนคนสนิทยิ่งตะลึงงัน นี่… ท่านโหวไม่ได้วางแผนจะทำให้คุณชายไป๋อับอายหรอกหรือ? หรือว่าต้องการให้คุณชายไป๋ผ่านการสอบไป่กวนก่อน แล้วค่อยจัดการกับเขาอย่างรุนแรง หลังจากที่เขาได้เป็นขุนนางในราชสำนักแล้ว?
คนสนิทมีสีหน้าขมขื่น อยากจะจับเขาไว้ แล้วถามว่าเขาหมายความว่าอย่างไรกันแน่
แต่อู่หยวนโหวได้ออกจากโถงไปนานแล้ว ทันทีที่เขาออกไป เขาก็ก้าวโซซัดโซเซ
ลู่อวี่และคนอื่น ๆ มองหน้ากันอย่างงุนงง ไม่ได้หมายความว่ายังมีปัญหาอื่นรอไป๋หลิวอี้อยู่ใช่หรือไม่? เสร็จสิ้นแล้วหรือ?
ถังมู่เทียนเอนกายลงบนบัลลังก์อย่างครุ่นคิด และมีรอยยิ้มบนริมฝีปากตั้งแต่ต้นจนจบ หลังจากที่อู่หยวนโหวจากไป เขาก็ไม่มีคำพูดใด ๆ เพิ่มเติม และการสอบก็ดำเนินต่อไป
หากไม่มีอู่หยวนโหวทำให้เรื่องยุ่งยาก คำถามในการสอบที่ตามมาก็ง่ายขึ้น
คนสนิทครุ่นคิดอยู่นาน แล้วจึงเลือกคำถามเกี่ยวกับการป้องกันภัยมาถาม ซึ่งไป๋หลิวอี้ก็ยังคงตอบได้ครบถ้วนสมบูรณ์
การสอบตอนกลางคืนใช้เวลาน้อยกว่าที่คาดไว้
เมื่อถึงช่วงพักครึ่ง ถังมู่เทียนก็เห็นว่ามีคนถามเหลืออยู่อีกสามคน เขาจึงหันหน้าไปถามไป๋หลิวอี้ว่า “คุณชายไป๋ต้องการพักหรือไม่?”
“ไม่จำเป็นพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” ไป๋หลิวอี้ยืนอยู่ข้างโต๊ะ พร้อมกับกลยุทธ์ที่เขาเพิ่งเขียนเสร็จในมือ จากนั้นขอให้ข้าราชบริพารส่งมอบให้กับขุนพลที่เพิ่งถามคำถามนี้
ถังมู่เทียนพยักหน้า แล้วปล่อยให้ทั้งสามถามคำถามต่อไป
ท่านอ๋องเลี่ยพอใจไป๋หลิวอี้มาก ครั้งล่าสุดเขาก็ได้รับภารกิจปราบโจรจากชายหนุ่มคนนี้ เขาจึงรักและเอ็นดูไป๋หลิวอี้มาตั้งแต่ตอนนั้น ดังนั้นคำถามสุดท้ายของเขา จึงง่ายกว่าคำถามของอู่หยวนโหวอีก
การสอบไป่กวนหนึ่งวันหนึ่งคืนสิ้นสุดลงเร็วกว่าที่คาดไว้
ถังมู่เทียนลุกขึ้นจากบัลลังก์ ก่อนเดินไปอยู่ข้างไป๋หลิวอี้ จากนั้นเอื้อมมือไปตบไหล่เขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดีมาก คุณชายไป๋มีพรสวรรค์จริง ๆ ความสามารถล้ำเลิศ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครคัดค้านผลการสอบครั้งนี้ บัดนี้เริ่มดึกแล้ว ทุกท่านควรกลับไปพักผ่อนก่อน แล้วค่อยแสดงความยินดีกับครอบครัวไป๋ในภายหลัง”
ทุกคนต่างอ่อนเพลียกันแล้ว แต่พวกเขายังคงโค้งคำนับและแสดงความยินดีกับถังมู่เทียน
ถังมู่เทียนโบกมือ ก่อนจะส่งยิ้มให้ไป๋หลิวอี้อีกครั้ง แล้วหันหลังเดินไปที่โถงชั้นใน
ไป๋หลิวอี้ถอนหายใจช้า ๆ หันหลังกลับและเดินออกไปข้างนอก
แต่ทันทีที่เขาก้าวไป ผู้คนก็เข้ามารุมล้อมแสดงความยินดีและความใส่ใจเขา
สุดท้ายเมื่อราชโองการลงมา สถานะของไป๋หลิวอี้ก็จะไม่ธรรมดา เขาอาจกลายเป็นเจ้านายของพวกเขาในไม่ช้า ดังนั้นจึงต้องรีบประจบประแจงให้เร็วที่สุด
ส่วนลู่อวี่และสหายที่มาเป็นพยานอยู่ตลอด ทำได้เพียงแค่ยักไหล่และยืนอยู่ข้าง ๆ
ไป๋หลิวอี้ผ่านการสอบไป่กวน ถือว่าไม่ธรรมดา พวกเขาต้องรีบกลับไปที่จวนโดยเร็วที่สุด และบอกท่านพ่อที่กำลังเฝ้ารอข่าวเรื่องนี้อยู่
ตอนนี้มีความวุ่นวายเล็กน้อยในราชสำนัก ซึ่งอาจส่งผลอย่างมากต่อคนในตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ไม่ต้องพูดถึงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถผ่านการสอบไป่กวนได้ และตอนนี้มีเพิ่มมาอีกคนแล้ว เกรงว่าพรุ่งนี้ทั้งเมืองหลวงคงสั่นสะเทือนเป็นแน่
ไป๋หลิวอี้พยายามหลีกเลี่ยงการประจบประแจงของทุกคน จากนั้นรีบกลับไปที่โถงจินหยาง
ไม่ไกลจากประตู เขาเห็นเนี่ยนเนี่ยนเดินไปมาอยู่ บางทีนางอาจอยากจะดูทางเดินในห้องโถง
ใช่แล้ว มันเลยช่วงพักไปแล้ว แต่เขายังไม่ปรากฏตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่นางจะกังวล
ไป๋หลิวอี้รู้สึกว่าความเมื่อยล้าทั่วร่างกายของเขาหายไป ความหงุดหงิดจากการถูกล้อม และคำพูดประจบสอพลอเมื่อครู่นี้ก็พลันมลายหายไปสิ้น เขารีบเดินเร็วขึ้นมาก ราวกับว่าเขากำลังจะได้พบกับภรรยาที่กำลังรอเขากลับบ้าน เขารีบเดินไปหานางหน้าประตู
ทันทีที่เนี่ยนเนี่ยนเงยหน้าขึ้น นางก็ถูกอ้อมแขนของเขากอดไว้แน่น ชั่วขณะหนึ่ง ปลายจมูกของนางอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจากกายเขา
ทันใดนั้นนางก็เบิกตากว้าง และจ้องมองไปข้างหน้าด้วยความไม่เชื่อ
เขา เขา เขา เขากำลังทำอะไรอยู่? เหตุใดเขาถึงกอดนาง?
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เขากำลังขอบคุณเธอไง ฐานะช่วยทำให้เขาพ้นอันตรายไปได้
ไหหม่า(海馬)