อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 153 ภาพลวงตาของการถูกตามใจ
ตอนพิเศษ 153 ภาพลวงตาของการถูกตามใจ
ตอนพิเศษ 153 ภาพลวงตาของการถูกตามใจ
เนี่ยนเนี่ยนยื่นมือออกไป คิดว่าควรจะผลักเขาออกไปดีหรือไม่ แต่ก็กังวลว่าหากผลักเขาสุ่มสี่สุ่มห้า นางอาจจะทำให้เขายิ่งเจ็บปวดกว่าเดิม
นางกะพริบถี่ ไม่รู้ว่าจะวางมือเท้าอย่างไรดี
หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋หลิวอี้ก็ปล่อยนาง เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของนาง เขาก็หรี่ตาลง แล้วพูดช้า ๆ ว่า “ขอโทษ ข้าดีใจมากจนลืมตัวไปชั่วขณะ”
ดีใจมากงั้นหรือ?
เนี่ยนเนี่ยนมองเขาด้วยความตื่นเต้น แล้วถามว่า “ท่านสอบผ่านหรือเจ้าคะ?”
“อืม” ไป๋หลิวอี้ก็หัวเราะและโน้มตัวไปหานางอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ได้กอดนางแน่น แต่ทั้งสองกลับแนบชิดกันมากขึ้น
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว และกำลังจะผลักเขาออกไป แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเหนื่อยล้าของไป๋หลิวอี้ “ข้าเหนื่อยนิดหน่อย โปรดช่วยประคองข้าที”
เนี่ยนเนี่ยนนึกขึ้นได้ว่าเขาง่วนอยู่กับการสอบไป่กวนเป็นเวลาวันคืนหนึ่ง มองหน้าเขาแล้ว นางก็รู้ว่าไม่ใช่เวลาขัดขืน นางจึงไม่สนใจมากนัก และช่วยประคองเขาเข้าไปข้างในทันที
รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของไป๋หลิวอี้ แต่สายตาของเขามองไปที่ทางเดินอย่างมีเลศนัย
เย่ฉิงเป่ยตรงนั้นกำลังยืนพิงคานอย่างเกียจคร้าน พลางส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าไป๋หลิวอี้ผู้นี้เป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่า แม้ว่าเนี่ยนเนี่ยนจะฉลาด แต่เมื่อเทียบกับไป๋หลิวอี้ ก็เห็นได้ชัดว่านางไม่มีอำนาจที่จะปัดป้อง
ไม่น่าแปลกใจที่จะตกหลุมพรางอย่างรวดเร็ว
เขาส่ายหน้า เนื่องจากการสอบสิ้นสุดลงแล้ว เขาจึงจากไป
เนี่ยนเนี่ยนพยุงไป๋หลิวอี้ให้นั่งลงบนเก้าอี้ยาว ก่อนจะรีบรินน้ำหนึ่งแก้วยื่นให้เขา “ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงสอบเสร็จเร็วนัก?”
“อืม มีการถามคำถามครบหมดแล้ว มันย่อมเสร็จสิ้น”
เนี่ยนเนี่ยนนั่งข้างเขาทันที แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “อู่หยวนโหวผู้นั้นไม่ได้ทำให้ท่านลำบากหรือเจ้าคะ?”
พูดถึงเรื่องนี้…
ไป๋หลิวอี้วางถ้วยชาลง แล้วจ้องมองนางด้วยรอยยิ้มอ่อน “ดูเหมือนเขาจะไม่สบายขึ้นมากลางคัน เขาแทบรอไม่ไหวที่จะจากไปหลังจากถามคำถามง่าย ๆ”
เนี่ยนเนี่ยนตาเป็นประกาย “แล้วเขาถามคำถามว่าอะไรหรือเจ้าคะ?”
ไป๋หลิวอี้หัวเราะ แน่นอนว่าเป็นฝีมือนางจริง ๆ
เพราะนางไม่ถามเลยว่าเหตุใดเขาถึงไม่สบาย นางรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นอะไร
“สามสิบหกกลยุทธ์”
“พรืด…” เนี่ยนเนี่ยนอดหัวเราะไม่ได้ นางไม่ได้ตั้งใจจะล้อเลียนอู่หยวนโหวจริง ๆ
ความจริง… นางรู้สึกว่าไม่ว่าจะแย่แค่ไหน ก็ไม่น่าจะถามคำถามง่าย ๆ ที่แม้แต่นางเองก็ยังรู้ เห็นได้ชัดว่า… ดูถูกไป๋หลิวอี้ ใช่แล้ว มันต้องเป็นการดูถูก
นางนึกถึงเรื่องนี้แล้วอยากจะหัวเราะอีกครั้ง
เมื่อเห็นสีหน้ามีความสุขของนาง ไป๋หลิวอี้ก็รู้สึกดีขึ้นทันที
แม่สาวน้อย เหตุใดเจ้าลงมือแล้วไม่ขอรับความดีความชอบเลยเล่า?
“ว่าแต่ท่านสอบผ่านแล้ว ท่านอยากเป็นขุนนางด้านใดหรือเจ้าคะ?”
ไป๋หลิวอี้ครุ่นคิด แล้วถามนางว่า “เจ้าคิดว่าควรจะเป็นขุนนางด้านใดเล่า?”
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ถามนางเช่นนี้ได้อย่างไร?
นางกะพริบตา “ข้า… ข้าเป็นเพียงสาวใช้ผู้ต่ำต้อย ข้าจะรู้ได้อย่างไร”
เรื่องนี้สามารถตัดสินใจโดยพลการได้หรือ? ถามสาวใช้จะดีหรือ? จะพูดอย่างไรดี เขาควรคุยเรื่องนี้กับซูกั๋วกง
“ดี ถ้าอย่างนั้นในฐานะสาวใช้” ไป๋หลิวอี้เอนหลังพิงเก้าอี้ด้านหลังเขาอย่างผ่อนคลาย แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าอยากให้คุณชายใหญ่อย่างข้าเป็นขุนนางแบบใด?”
เนี่ยนเนี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางลังเลก่อนพูดเสียงเบาว่า “ข้าคิดว่า… เป็นการดีที่สุดที่จะเอาชนะอู่หยวนโหว หรือขุนนางระดับเดียวกับเขา เกรงว่าครั้งหน้าหากเขามารังแกท่านอีก แล้วสู้ไม่ได้ขึ้นมาจะเสียใจเพียงใด”
ไป๋หลิวอี้พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “สิ่งที่เจ้าพูดมีเหตุผล ข้าเข้าใจ แต่ถ้าต้องการจะเอาชนะอู่หยวนโหว ข้าเกรงว่าจะไม่ได้ผล”
อู่หยวนโหวมีชื่อเรียกต่าง ๆ ทั้งอ๋อง ท่าน ท่านขุนนาง ขุนพล นายท่าน คุณชาย หากต้องการเหนือกว่าเขา เขาสามารถเป็นได้แค่ท่านขุนนางและท่านเท่านั้น เขายังไม่ได้ประสบความสำเร็จทางการเมือง เขาจึงไม่สามารถขึ้นเป็นอ๋องได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ซูกั๋วกงคนปัจจุบันคือพ่อของเขา จึงไม่อาจข้ามเขาไปได้
ตอนนี้เขา… สนใจแค่เสนาบดี
ปัจจุบันอาณาจักรเทียนอวี่มีเสนาบดีฝั่งซ้าย แต่เดิมเสนาบดีฝั่งซ้ายให้ความช่วยเหลือเฉพาะฮ่องเต้และไท่จื่อเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องบริหารราชการแผ่นดิน เพียงแต่ว่าฮ่องเต้และไท่จื่อไม่ได้กล่าวถึงเสนาบดีฝั่งขวา หลังจากที่เสนาบดีฝั่งขวาคนล่าสุดหมดวาระไปแล้ว เสนาบดีฝั่งซ้ายจึงต้องเริ่มรับผิดชอบหน้าที่ของเสนาบดีฝั่งขวาไปด้วย
ความจริงแล้ว เป้าหมายตั้งแต่แรกของไป๋หลิวอี้ คือการได้เป็นเสนาบดีฝั่งขวา
ไท่จื่อก็ยังออกปากพูดไว้แล้วด้วยว่าตำแหน่งนี้จงใจ… สงวนไว้สำหรับเขา
ไป๋หลิวอี้นึกถึงเรื่องนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
เมื่อหันไปเห็นเนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวของนาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แต่เจ้าไม่ต้องกังวล อู่หยวนโหวไม่อาจรังแกข้าได้หรอก”
นางร้องว่า ‘โอ้’ แต่ความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่มือที่กำลังลูบหัวนางในตอนนี้
ไม่สามารถบอกได้ว่ารู้สึกอย่างไร มันเป็นเพียง… ภาพลวงตาจากการได้รับการตามใจที่อธิบายไม่ถูก
เนี่ยนเนี่ยนส่ายหน้าอย่างแรง เมื่อนางหยุดนิ่ง ไป๋หลิวอี้ก็เอามือออกแล้ว
“ดึกแล้ว กลับจวนกันเถอะ” ออกเดินทางในเวลานี้ กว่าจะถึงจวนซูกั๋วกงก็เกือบจะรุ่งสาง
เนี่ยนเนี่ยนดึงสติกลับคืนมา และรีบลุกขึ้นยืน
นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างอธิบายไม่ถูก นางรู้สึกว่าตอนนี้นางกับไป๋หลิวอี้เข้ากันได้ดี แต่ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว
แต่บอกไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีวันนี้ไป๋หลิวอี้อาจจะตื่นเต้นเกินไป ตื่นเต้นเกินไป เหนื่อยเกินไป เขาจึงลืมตัวไปหน่อย
อีกทั้งนางก็ค่อนข้างเหนื่อยล้า จิตใจจึงไม่แจ่มใส ควรกลับไปพักผ่อนให้เร็วที่สุด
เมื่อทั้งสองออกมาจากโถงจินหยาง คนรับใช้ในวังก็พาพวกเขาออกจากประตูวังหลวง
ตลอดทางเนี่ยนเนี่ยนไม่ได้พูดอะไรอีก และนั่งพิงกำแพงรถม้าเงียบ ๆ
ไป๋หลิวอี้ก็นั่งไกลออกไป เมื่อเห็นนางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็เห็นว่าเป็นสัญญาณที่ดี อย่างน้อยนางก็ไม่โกรธจากสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่นี้
เขาปล่อยให้นางคิด เม้มปาก หลับตาลงและเริ่มสงบสติอารมณ์
เวลาเป็นไปตามที่คาดไว้ ทันทีที่รถม้าจอดหน้าจวนซูกั๋วกง ประตูจวนก็เปิดออก
เมื่อคนรับใช้เห็นว่าไป๋หลิวอี้กลับมาอย่างปลอดภัย ดวงตาของเขาก็เป็นประกายทันที และรีบต้อนรับเขาด้วยความเคารพ
คนรับใช้ทุกคนในสวนจิ่นเฟิงไม่นอนทั้งคืน พวกเขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณชายใหญ่ของพวกเขาหากเขาสอบไป่กวนไม่ผ่าน พวกเขาจึงกังวลเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา
ยิ่งกว่านั้นติงเซียงเป็นหัวหน้าสาวใช้ อนาคตของนางจึงขึ้นอยู่กับไป๋หลิวอี้
ขณะนี้เมื่อนางเห็นคนสองคนมาแต่ไกล นางก็รีบกุมหน้าอกทันที แล้วตะโกนว่า ‘พระโพธิสัตว์คุ้มครอง’ แล้วรีบไปหาพวกเขา
ไป๋หลิวอี้หันไปพูดกับเนี่ยนเนี่ยนว่า “เจ้าไม่ได้นอนมาทั้งคืน กลับไปพักผ่อนก่อน แล้วค่อยกลับมาเมื่อเจ้าพักผ่อนเพียงพอ”
“เจ้าค่ะ” เนี่ยนเนี่ยนอยากกลับไปที่ห้องตัวเองทันที ตอนนี้จิตใจนางกำลังสับสนเล็กน้อย
ไป๋หลิวอี้พูดกับติงเซียงว่า “ไปเอาน้ำให้อวี้ซีล้างหน้าให้สดชื่น อาเวินอยู่ไหน?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของติงเซียงเจื่อนลงทันที เสียงของนางก็เบาลงเล็กน้อย “เจ้าค่ะคุณชาย อาเวินกำลังรอท่านอยู่ในเรือนเจ้าค่ะ”
“อืม” ไป๋หลิวอี้พยักหน้าแล้วเดินเข้าไป
เนี่ยนเนี่ยนไม่พูดอะไรมาก และเดินไปทางห้องด้านซ้าย
ติงเซียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นมองเนี่ยนเนี่ยนด้วยความเย้ยหยัน ทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะหัวเราะด้วยความสะใจ
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มันคือความหวั่นไหวค่ะเนี่ยนเนี่ยน ลืมจุดประสงค์ที่จะวางยาเขาไปแล้วล่ะสิ
ไหหม่า(海馬)
—————————————————————————————-