อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 155 ขวัญหนีดีฝ่อ
ตอนพิเศษ 155 ขวัญหนีดีฝ่อ
ตอนพิเศษ 155 ขวัญหนีดีฝ่อ
ติงเซียงรีบวิ่งมาจนถึงหน้าสวนดอกไม้ นางโผล่หน้ามองเข้าไปข้างใน
ไม่มีเสียงอะไรเลย…
หัวใจติงเซียงเต้นแรง นางก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน
ใต้ฝ่าเท้าของนางเต็มไปด้วยกิ่งไม้และดอกไม้ นางรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว
หากนางจำไม่ผิด คุณหนูเปี่ยวบอกว่าเมื่ออวี้ซีเดินผ่านที่นี่ จะมีคนปล่อยงูพิษเข้าไปกัดอวี้ซีจนตาย
เมื่อวานนี้แม่นมอวี๋มาที่สวนจิ่นเฟิง และบอกว่าแม่เฒ่าต้องการพบอวี้ซี เมื่อวานนี้อวี้ซีเข้าไปในวังหลวงพร้อมคุณชายใหญ่ ติงเซียงจึงคิดว่าแม่นมอวี๋จะมาวันนี้
นางจึงรายงานคุณหนูเปี่ยวด้วยไปเช่นนั้น คุณหนูเปี่ยวจึงวางแผนจัดการอวี้ซีเช่นนั้น
เพราะจากสวนจิ่นเฟิงถึงโถงเล่อฝูที่แม่เฒ่าอาศัยอยู่ จะต้องเดินผ่านสวนดอกไม้ไป
แต่สิ่งที่ติงเซียงไม่คาดคิด ก็คือแม่นมอวี๋ยังไม่ทันได้มาหานางเลย แต่อวี้ซีกลับไปสวนดอกไม้ด้วยตัวเอง นี่มันเป็นการรนหาที่ตายเองไม่ใช่หรือ?
ขณะเดินไปนั้น หัวใจของนางเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ฝีเท้ายังคงก้าวไปข้างหน้า โดยไม่มีความตั้งใจจะล่าถอย
“อวี้ซี อวี้ซี… เจ้าอยู่ในนั้นหรือเปล่า?” นางส่งเสียงร้องเรียก
เนี่ยนเนี่ยนนั่งอยู่บนก้อนหินขณะคุยกับโม่เพียว โม่เพียวกำลังกินถังหูลู่ มุมปากเปรอะไปด้วยน้ำตาล แทบจะดูไม่ได้จริง ๆ
เมื่อจู่ ๆ ได้ยินเสียงของติงเซียง นางก็ตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ
เหตุใดติงเซียงถึงมาตามหานางที่นี่? ไม่ได้อยากจะทำให้นางลำบากใจอีกใช่หรือไม่?
ไม่สิ แม้ว่าติงเซียงจะต้องการกวนประสาทนาง แต่ก็คงไม่ ‘เดินไกลหมื่นลี้’ มาที่สวนดอกไม้
เป็นไปได้หรือไม่ว่าไป๋หลิวอี้เรียกหานาง?
เมื่อนึกได้ดังนั้น เนี่ยนเนี่ยนก็ลุกขึ้นยืน โม่เพียวเห็นเช่นนั้นก็ยืนขึ้นเช่นกัน แล้วถามเบา ๆ ว่า “คุณหนู มีอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ? ติงเซียงนั่นคิดจะทำอะไรอีก?”
“ไม่รู้สิ ไปดูเดี๋ยวก็รู้” เนี่ยนเนี่ยนพูดแล้วเดินไปข้างหน้า
ยิ่งติงเซียงเดินเข้าไปข้างในมากเท่าใด นางก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเท่านั้น ทั้งยังยิ่งลังเลมากขึ้นด้วย
หลังจากเดินไปจนถึงตรงกลาง นางก็เริ่มเสียใจ เหตุใดนางถึงใจดีเตือนอวี้ซี? อวี้ซีกับนางเคยเป็นคู่แข่งกันมาก่อน พวกนางขัดแย้งกัน แล้วเหตุใดถึงต้องสนใจความเป็นความตายของนางด้วย?
ติงเซียงกัดริมฝีปากตัวเอง และคิดว่าจะกลับไปดีหรือไม่
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากข้างหน้า
เมื่อติงเซียงเงยหน้าขึ้น นางก็เห็นเนี่ยนเนี่ยนกับสาวใช้ที่ดูสับสนกำลังเดินมาทางนี้
ทันใดนั้นสีหน้าของติงเซียงก็กลายเป็นยินดี ดวงตาของนางเป็นประกาย นางแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหยุดเดิน
เนี่ยนเนี่ยนหยุดเดิน แล้วมองนางด้วยความแปลกใจ “เจ้ามาตามหาข้าทำไม?”
“เจ้าคิดว่าข้าดีใจที่ได้พบเจ้าหรือ? เจ้าคือคนที่ข้าเกลียดที่สุดในชีวิต”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก สมองของคนผู้นี้ผิดปกติหรือเปล่า? มาถึงนี่เพียงเพื่อจะบอกว่าเกลียดนางมากแค่ไหนงั้นหรือ? หรือเป็นเพราะอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ?
โม่เพียวทนไม่ได้ “ในเมื่อเจ้าเกลียดแล้วมาทำอะไรที่นี่? ไป ๆๆ อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้า ไม่งั้นข้าจะหยาบคายกับเจ้า”
โม่เพียวปกป้องเนี่ยนเนี่ยนเสมอ นางไม่สนใจสถานะปัจจุบันของติงเซียง และตัวนางเองในจวนซูกั๋วกง ไม่มีใครมาด่าว่าคุณหนูของนางได้ ไม่เช่นนั้นนางจะสู้สุดใจ
ใบหน้าของติงเซียงซีดเผือดเมื่อโม่เพียวพูด จากนั้นนางก็เย้ยหยัน “เจ้าเป็นอะไร? เจ้ามีสิทธิ์พูดที่นี่ด้วยหรือ? เป็นแค่เด็กทำสวนในสวนดอกไม้ กล้าดีอย่างไรมาบอกให้ข้าออกไป?”
โม่เพียวเริ่มพับแขนเสื้อขึ้น เนี่ยนเนี่ยนยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก แล้วติงเซียงมาที่นี่เพื่ออะไร?
นางมองโม่เพียว เมื่อนางเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นนางก็เห็นคราบน้ำตาลติดอยู่ที่มุมปากของติงเซียง จึงเลิกคิ้วขึ้น
นางก็กินถังหูลู่ด้วยหรือ?
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก ในที่สุดก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการพบข้า เช่นนั้นก็แสดงว่าไม่มีอะไรให้ทำ ดังนั้นข้าขอตัวก่อนแล้วกัน”
หลังจากที่นางพูดจบ นางก็ดึงโม่เพียวหันหลังเดินจากไป
ติงเซียงชะงักและโพล่งออกมา “ช้าก่อน”
เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้ว จากนั้นค่อย ๆ หันไป “มีอะไรอีก?”
ติงเซียงเม้มปากแน่น นางอยากจะพูดอะไรบางอย่างในใจ แต่ก็ไม่อาจแสดงสีหน้าได้
โม่เพียวรู้สึกรำคาญมากที่สุด เมื่อเห็นท่าทางลังเลของนาง “มีอะไรจะพูดก็รีบสำรอกออกมาสิ”
“เหตุใดเจ้าถึงหยาบคายนัก?” เมื่อไม่สามารถพูดสิ่งที่อยากจะพูดกับเนี่ยนเนี่ยนได้ นางจึงทำได้เพียงมุ่งความสนใจไปที่โม่เพียว โดยเฉพาะหลังได้ยินน้ำเสียงของโม่เพียวก้าวร้าวมาก นางจึงโต้กลับโดยไม่ลังเล
เนี่ยนเนี่ยนแทบจะต้องคุกเข่าให้ทั้งสองคน ทั้งสองน่าจะคำนึงถึงการมีอยู่ของนางบ้างหรือไม่ ถ้าจะทะเลาะกันก็ช่วยพูดให้จบก่อนได้ไหม?
นางกลอกตา ไม่อยากฟังอีกต่อไป แล้วเดินจากไป
เมื่อติงเซียงเห็นเช่นนั้น นางก็พูดอย่างรวดเร็วว่า “อวี้ซี อย่าเข้าไปข้างในอีก มีคนกำลังจะฆ่าเจ้า มีงูพิษอยู่ในสวนแห่งนี้ ถ้าโดนมันกัดเข้า แม้แต่ทวยเทพก็ไม่อาจช่วยชีวิตได้”
เนี่ยนเนี่ยนหยุดชะงัก แล้วหันกลับมาด้วยความประหลาดใจ “เจ้าว่าอย่างไรนะ?”
“ข้า… ข้า…” คำพูดเมื่อครู่นี้เป็นการโพล่งออกมา เมื่อตอนนี้นางถูกขอให้พูดซ้ำอีกครั้ง ติงเซียงก็รู้สึกว่าไม่สามารถพูดได้อีก
นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดเบา ๆ ว่า “อย่างไร อย่างไรเสีย เจ้าก็ควรออกจากสวนดอกไม้เดี๋ยวนี้ แม้ว่าข้าจะไม่ชอบเจ้า เกลียดเจ้า แต่ข้าก็ไม่เคยคิดจะเอาชีวิตเจ้า…”
หลังจากที่นางพูดจบ นางก็หรี่ตาลงแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า “เอาล่ะ ข้าพูดจบแล้ว เจ้าออกมาเร็ว ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ ข้าต้องกลับไปทำงาน”
โม่เพียวคิดว่าคนผู้นี้มีปัญหาทางสมอง มีงูพิษอยู่ในสวนดอกไม้งั้นหรือ? นางเพิ่งบอกให้คุณหนูออกไปงั้นหรือ?
ไม่คิดบ้างหรือว่านางผู้เป็นคนดูแลสวนดอกไม้นั้นตกอยู่ในอันตรายกว่า? เหตุใดไม่ไปบอกให้คนมาจับงูล่ะ?
โม่เพียวมีสีหน้าขุ่นเคือง “เฮ้ ข้าว่าเจ้า…” ก่อนที่นางจะพูดจบ รูม่านตาของนางก็หดลงทันที สายตาของนางจับจ้องไปที่ต้นผลไม้ตรงหน้าติงเซียง
มีงูพิษหลากสีเลื้อยอยู่บนนั้น มันส่งเสียงขู่ แล้วพุ่งตรงไปหมายจะฉกติงเซียง
ทันทีที่ติงเซียงหันไป นางก็เห็นงูอยู่ใกล้ตนแล้ว ใบหน้าพลันซีดเซียวและยืนนิ่งอยู่กับที่ชั่วขณะ ไม่สามารถขยับได้ นางไม่สามารถแม้แต่จะกรีดร้องได้แม้จะต้องการ เพราะรู้สึกเหมือนคอถูกปิดกั้น ไม่สามารถส่งเสียงใดได้เลย
ขณะที่นางตกใจจนเกือบจะเป็นลม จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็แวบมาตรงหน้านาง ก่อนที่งูจะกัดจมูกของนาง คนผู้นั้นก็จับหางงูแล้วดึงเข้าหาตัว จากนั้นม้วนอย่างเรียบร้อย
ชั่วพริบตา งูพิษที่น่ากลัวเมื่อครู่นี้ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ติงเซียงเบิกตากว้าง และทรุดตัวลงนั่งบนพื้น
โม่เพียวรีบวิ่งไปอยู่ข้างเนี่ยนเนี่ยน พลางมองงูที่พันรอบแขนของนาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คืองูอู่ปู้นี่นา”
“อืม ข้ากำลังอยากได้ดีงูอยู่พอดี ข้าไม่ได้เจองูอู่ปู้มานานแล้ว”
“กินได้หรือไม่” โม่เพียวยังจำได้ว่าตอนที่อยู่ตำหนักอ๋องซิว คุณหนูมักสั่งให้คนทำน้ำแกงงูเป็นครั้งคราว ซึ่งมันอร่อยมาก
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก “เจ้าอยากกินหรือ?” นางกลัวว่าถ้านางส่งงูไปที่ครัว คนอื่นคงไม่กล้านำไปทำอาหาร
“อยาก…” โม่เพียวมองดูอย่างกระตือรือร้น
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจ แล้วคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร แต่เมื่อนางหันกลับไป นางก็พบว่าติงเซียงที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น กำลังมองมาที่นางด้วยสีหน้าตกใจกลัวสุดขีด
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ปล่อยงูมาให้เนี่ยนเนี่ยนก็เข้าทางน้องเลย น้องนี่เจ้าแห่งพิษเลยนะ
ไหหม่า(海馬)