อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 164 เริ่มจากโม่เพียว
ตอนพิเศษ 164 เริ่มจากโม่เพียว
ตอนพิเศษ 164 เริ่มจากโม่เพียว
เนี่ยนเนี่ยนครุ่นคิดว่าสุขภาพของฮูหยินเฒ่าไป๋ไม่ค่อยดีนัก กระนั้นนางสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายได้
อย่างไรเสีย หากแม่รู้ว่านางอยู่ในจวนไป๋ และฮูหยินเฒ่าไป๋ต้องไม่สบาย ก็เป็นการไม่สมควร
แม้ว่านางจะรู้อยู่ในใจว่าแม่นมอวี๋ต้องการให้นางอยู่เพราะอะไร
นางพยักหน้า “ได้เจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ที่นี่จนกว่าร่างกายของท่านแม่เฒ่าจะฟื้นตัว เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะกลับไปเก็บข้าวของที่สวนจิ่นเฟิง และจะกลับมาหลังจากคุยกับคุณชายใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
แม่นมอวี๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็เผยรอยยิ้มโล่งใจบนใบหน้า “ดี ขอบคุณที่ทำงานหนัก”
จากนั้นเนี่ยนเนี่ยนหันหลังเดินจากไป หลิ่วซื่อหรี่ตาเฝ้าดูแผ่นหลังของนางค่อย ๆ หายไป พร้อมกับครุ่นคิด
หลังจากนั้นไม่นาน เฟิงหลิงก็พาท่านหมอเว่ยมาที่เรือน เมื่อเห็นความยุ่งเหยิงในห้อง หลิ่วซื่อจึงเดินออกจากห้องไป โดยใช้ประโยชน์จากตอนที่นางออกไปสั่งให้สาวใช้ไปเอายา
นางกวักมือเรียกหัวหน้าสาวใช้ในเรือนของนางที่รออยู่ด้านข้าง แล้วถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อวี้ซีคนนั้นคือใคร?”
มีทักษะทางการแพทย์งั้นหรือ? ทั้งยังรับใช้อยู่เคียงข้างไป๋หลิวอี้ รูปร่างหน้าตาของนางก็งดงาม ดึงดูดใจคนได้จริง ๆ
อาหลานขยับเข้ามาใกล้นาง ลดเสียงลงขณะตอบว่า “อวี้ซีเป็นสาวใช้ที่นายท่านรองนำมาให้ หญิงสาวที่ชื่อโม่เพียวที่สวนดอกไม้ก็มาพร้อมนางด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองดูเหมือนจะดีเจ้าค่ะ”
อาหลานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เมื่อสองวันก่อนตอนที่อวี้ซีมาเป็นสาวใช้ข้างกายคุณชายใหญ่ นางได้บอกฮูหยินเรื่องนี้แล้ว
แต่ตอนนั้นฮูหยินบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง สาวใช้ไม่ก่อปัญหาหรอก
เหตุใดถึงเพิ่งจะมาสนใจมากตอนนี้?
หลิ่วซื่อหรี่ตาลง “นายท่านรองพามางั้นหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่านายท่านรองได้นางมาจากไหน?” นางไม่เคยมีความประทับใจที่ดีต่อไป๋อีเฟิง เขาไม่มีอะไรดีมากไปกว่าการเป็นที่โปรดปรานของฮูหยินเฒ่า เมื่อก่อนตอนที่นางจัดการไป๋หลิวอี้ เขาชอบเข้ามาจุ้นจ้านเรื่องของนาง
ย้อนกลับไปในตอนนั้น ถ้าเขาไม่พาไป๋หลิวอี้ไปอาณาจักรเฟิงชางพร้อมกับเรื่องยุ่ง ๆ ธิดาของท่านอ๋องซิวก็คงไม่คิดจะสนใจเขา เพราะมันทำให้เขามีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง จนแม้แต่ไท่จื่อองค์ปัจจุบันก็ยังมองเขาด้วยความชื่นชม
แต่น่าเสียดายที่นางไม่สามารถฆ่าเขาในตอนนั้นได้ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมีอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เขาสอบไป่กวนผ่านแล้ว สถานะในอนาคตของเขาจึงไม่อาจเพิกเฉยได้ แม้แต่การพูดคุยต่อหน้าเขา นางก็ยังต้องสำรวมขึ้นเล็กน้อย
อาหลานส่ายหน้า “ไม่มีผู้ใดรู้ว่านายท่านรองไปพบสองคนนี้ที่ไหน แต่บ่าวก็ไปสอบถามข่าวมาเจ้าค่ะ ได้ยินว่าหญิงที่ชื่ออวี้ซีคนนี้มีทักษะทางการแพทย์เล็กน้อยด้วย เมื่อคุณชายใหญ่ได้รับบาดเจ็บ นางก็คอยดูแลอยู่เคียงข้างอย่างสุดหัวใจเจ้าค่ะ ว่ากันว่าทัศนคติของคุณชายใหญ่ที่มีต่อนางนั้น แตกต่างจากคนทั่วไป เพราะแม้แต่ติงเซียงที่เคยพูดคุยกับคุณชายใหญ่อยู่เสมอ ก็ถูกย้ายให้ไปดูแลพวกสาวใช้ต่ำต้อยแทน ด้วยเหตุนี้คุณหนูเปี่ยวจึงอิจฉานางมาก และมักอารมณ์เสียอยู่ในสวนหลิงสุ่ยเจ้าค่ะ”
เมื่อหลิ่วซื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของนางก็เคร่งขรึมขึ้น “ยางยางเริ่มสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ ชอบใครไม่ชอบ ดันไปชอบไป๋หลิวอี้ คนเช่นนั้นมีอะไรดี แต่ตอนนี้ไป๋หลิวอี้ไม่ใช่อย่างที่เคยเป็น หากนางแต่งงานกับเขาก็อาจได้ผลประโยชน์”
อาหลานที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ได้พูด หลิ่วซื่อตำหนิคุณหนูเปี่ยวได้ แต่นางไม่สามารถพูดจาเหลวไหลได้
“… เมื่อครู่เจ้าบอกว่ามีสาวใช้อีกคนที่นายท่านรองพามาด้วยงั้นหรือ? นางทำงานในสวนดอกไม้หรือ?” จู่ ๆ หลิ่วซื่อก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จึงถามเสียงเบา
อาหลานพยักหน้า “เจ้าค่ะ บ่าวถามแม่เฒ่าเซินในสวนดอกไม้ เด็กสาวที่ชื่อโม่เพียวคนนี้มีความรู้เรื่องดอกไม้ ต้นไม้เยอะมาก นางค่อนข้างซุ่มซ่ามและโง่เขลาเล็กน้อย แต่นางขยันมากเจ้าค่ะ”
หลิ่วซื่อหรี่ตาแล้วพูดว่า “เข้ามาพร้อมกัน คนหนึ่งได้กลายเป็นสาวใช้ข้างกายคุณชายใหญ่ และได้รับการยกย่องอย่างสูงจากเจ้านาย ส่วนอีกคนได้เป็นคนสวนในสวนดอกไม้เล็ก ๆ ที่ไม่มีอนาคต ความเหลื่อมล้ำทางสถานะนั้นช่างมากเหลือเกิน… ไป๋อีเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่? อาหลาน!”
“เจ้าค่ะฮูหยิน”
หลิ่วซื่อยืดหลังตรง “เจ้าลองหาโอกาสทดสอบโม่เพียวคนนั้นสิ เนื่องจากนางค่อนข้างโง่เขลา จึงน่าจะสามารถแงะเบาะแสหนึ่งหรือสองคำออกจากปากนางได้บ้าง”
“เจ้าค่ะ” อาหลานพยักหน้ารับคำ
หลิ่วซื่อสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันหลังเดินกลับไปในเรือน
เมื่อพวกเขาทั้งสองออกจากชายคา ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงมุมหนึ่ง ร่างนั้นกะพริบตาและขมวดคิ้ว
เดิมทีหงหยามาหาอวี้ซี เมื่อคุณชายใหญ่ตื่น อาเวินก็เรียกให้อวี้ซีมาเปลี่ยนยาให้ นางจึงอาสาออกจากสวนจิ่นเฟิง หลังจากสอบถามเรื่องนี้ระหว่างทาง นางก็รู้ว่าอวี้ซีถูกแม่นมอวี๋พามาที่โถงเล่อฝู
เมื่อครู่นี้ฮูหยินเฒ่าเป็นลม และโถงเล่อฝูก็ยุ่งเหยิง อีกทั้งฮูหยินก็อยู่ที่นี่ด้วย มีคนรับใช้เดินไปไปมา เมื่อนางสบโอกาสจึงถือวิสาสะเดินเข้าไป
ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้ขณะที่ยืนนิ่งอยู่ที่ทางเดิน
หงหยารู้สึกวิตกและหวาดกลัว น้ำเสียงของฮูหยินดูไม่พอใจอวี้ซีมาก หากนางรู้สึกว่าอวี้ซีกำลังขัดขวางคุณหนูเปี่ยว นางจะทำร้ายอวี้ซีหรือไม่?
นางกำหมัดแน่น ก่อนรีบออกจากโถงเล่อฝูเงียบ ๆ แล้วรีบไปที่สวนจิ่นเฟิง
คาดไม่ถึงว่าวิ่งไปได้เพียงครึ่งทาง นางก็บังเอิญเห็นอวี้ซีเดินนำหน้าอยู่ ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยดีใจ และรีบวิ่งไปหานาง “อวี้ อวี้ซี…”
หงหยาเหนื่อยหอบ ยืนก้มตัวจับเข่าอยู่ตรงหน้านาง
เนี่ยนเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง “เกิดอะไรขึ้น?”
หงหยามองไปรอบ ๆ เมื่อไม่เห็นว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ ก็รีบลากนางไปที่มุมหนึ่ง แล้วกระซิบเล่าเรื่องแผนการของฮูหยิน และในที่สุดก็พูดอย่างเป็นกังวลว่า “…แม้แต่ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกัน อวี้ซี เจ้ามาจากไหน และเหตุใดเจ้าถึงกลายเป็นหัวหน้าสาวใช้ของคุณชายใหญ่ทันทีที่มาถึง แต่ข้าคิดว่าที่เจ้าไม่บอก คงเพราะเป็นทางเลือกสุดท้ายของเจ้า เราทุกคนล้วนเป็นสาวใช้ และมันไม่ง่ายเลย ดังนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการให้ฮูหยินรู้ เจ้าก็ต้องเตือนโม่เพียวในสวนดอกไม้ให้ระวังอาหลานให้มากขึ้น”
เนี่ยนเนี่ยนชอบหงหยามากขึ้นเรื่อย ๆ สาวน้อยคนนี้ตัวเล็กแต่มีเหตุผลมาก
นางยกยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล แม้ว่าปกติแล้วโม่เพียวจะดูสับสนไปบ้าง แต่นางก็ไม่ได้ถูกหลอกได้ง่าย ๆ”
โม่เพียวจะจัดการกับทุกเรื่องที่เกี่ยวกับนางด้วยพลังเต็มร้อย
“ดีแล้ว ไม่ต้องห่วง เจ้าไม่ได้บอกว่าคุณชายใหญ่ตื่นแล้วหรอกหรือ? เช่นนั้นกลับไปที่สวนจิ่นเฟิงกันเถอะ”
หงหยาขมวดคิ้วและต้องการเตือนอีกสองสามคำ แต่เมื่อเห็นว่าอวี้ซีไม่กังวลเลย นางจึงได้แต่อ้าปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินตามนางกลับสวนจิ่นเฟิงอย่างเชื่อฟัง
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่นางเดินเข้าไปในสวนจิ่นเฟิง และมาถึงประตูห้องหลัก นางก็เห็นสาวใช้สองคนยืนอยู่ที่ประตู
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาลงทันใด นางจำหนึ่งในนั้นได้ นางคือหัวหน้าสาวใช้ข้างกายหลิ่วยางยาง
เช่นนั้นหลิ่วยางยางก็อยู่ในห้องงั้นหรือ?
สีหน้านางมืดมนในชั่วพริบตา แล้วนางก็เดินเข้าไปข้างใน
……………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มีคนปองร้ายเสียแล้ว โม่เพียวสู้ๆ นะคะ
ไหหม่า(海馬)