อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 168 คิดมากหวาดระแวง
ตอนพิเศษ 168 คิดมากหวาดระแวง
ตอนพิเศษ 168 คิดมากหวาดระแวง
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตา ก่อนรีบพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง และนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากรู้สึกว่าเสียงฝีเท้าของเฟิงฉินไกลออกไปแล้ว นางก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป
การเคลื่อนไหวของนางแผ่วเบา เมื่อเดินตามหลังเฟิงฉินไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นนางเลี้ยวสองรอบและเข้าไปในเรือนมู่หลาน
รูม่านตาของเนี่ยนเนี่ยนหดตัว ถ้านางจำไม่ผิด เรือนมู่หลานคือที่ที่หลิ่วซื่ออาศัยอยู่
เฟิงฉิน… เป็นคนของหลิ่วซื่องั้นหรือ?
นางรีบกระโดดขึ้นไปบนกำแพง แล้วพิงต้นไม้ในสวนเฝ้าดูเงียบ ๆ
เฟิงฉินมองซ้ายมองขวาแต่ไม่เห็นใคร นางจึงเคาะประตูเบา ๆ สองครั้ง ไม่นานก็มีสาวใช้ออกมาจากข้างใน
คนผู้นั้นคืออาหลาน หนึ่งในสาวใช้ที่ติดตามหลิ่วซื่อไปที่โถงเล่อฝูในตอนกลางวัน เมื่อเห็นว่าเป็นนาง อาหลานก็รีบดึงนางเข้าไป
เนี่ยนเนี่ยนเดินตามประตูที่นางเปิดไว้และรีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนไปซ่อนตัวอยู่บนขื่อในห้อง แล้วดึงผ้าม่านออกมาปกปิดกายไว้
ในไม่ช้าเสียงของเฟิงฉินก็ดังขึ้นในห้อง “พี่อาหลาน ข้าได้ค้นข้าวของของอวี้ซีแล้ว”
ดวงตาของอาหลานเป็นประกาย แล้วรีบถามอย่างกระวนกระวาย “พบอะไรบ้าง?”
“นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ยังมีขวดยาและห่อยาอีกสองสามห่อ ดูเหมือนของที่หมอพกติดตัว”
เนี่ยนเนี่ยนที่นั่งอยู่บนขื่ออย่างเกียจคร้านแอบพ่นลมหายใจเย็นชา ของมีค่าทั้งหมดที่นางนำมายังคงอยู่ในสวนจิ่นเฟิง รวมถึงเหรียญหยกชิ้นเล็ก ๆ ที่ท่านน้าลู่มอบให้นาง ไม่เช่นนั้นนางจะหิ้วของเหล่านั้นไปรอบ ๆ และปล่อยให้มันถูกค้นในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างไร?
นางไม่ได้วางแผนจะอยู่ที่โถงเล่อฝูเป็นเวลานาน ดังนั้นสิ่งที่นางนำมาจึงมีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุด และยาบางอย่างที่ฮูหยินเฒ่าไป๋ต้องใช้ นางจึงล่อผีออกมาได้
เนี่ยนเนี่ยนนึกเย้ยหยันอยู่ด้านบน แต่ทันใดนั้นเสียงเกียจคร้านก็ดังมาจากในห้อง “ใครกำลังคุยกันอยู่ข้างนอก?”
อาหลานรีบกระซิบบอกเฟิงฉิน “ฮูหยินตื่นแล้ว เจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อน อีกสักครู่ข้าจะออกมา”
พูดจบแล้ว อาหลานก็รีบเดินเข้าไปในห้องชั้นใน
แต่หลังจากรออยู่พักหนึ่ง นางก็ประคองหลิ่วซื่อออกมาจากห้อง
วันนี้ซูกั๋วกงพักอยู่ที่ห้องอนุ ช่วงนี้หลิ่วซื่อจึงไม่มีความสุขมาก ทำให้นอนหลับไม่สนิท ทันทีที่อาหลานและเฟิงฉินคุยกันอยู่ข้างนอก นางจึงได้ยิน
หลิ่วซื่อที่นั่งบนเก้าอี้เหลือบมองเฟิงฉิน “เจ้าค้นข้าวของของคนที่ชื่ออวี้ซีแล้วหรือ?”
“เจ้าค่ะ” อาหลานทำความเคารพหลิ่วซื่อ แล้วตอบด้วยความเคารพ “น่าเสียดายที่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยเจ้าค่ะ”
“นางเพิ่งมาที่โถงเล่อฝู ข้าเดาว่าสิ่งของส่วนใหญ่ของนางยังคงอยู่ในสวนจิ่นเฟิง เป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะไม่พบอะไรเลย” หลิ่วซื่อรับชาที่อาหลานส่งให้มาจิบ เมื่อรู้สึกสบายคอขึ้น สักพักก็พูดต่อว่า “พวกเจ้าคอยจับตาดูนางต่อไป ว่านางมีพฤติกรรมอะไรผิดปกติหรือไม่ แล้วมาบอกข้าได้ทุกเมื่อ ว่าง ๆ ค่อยไปชวนนางคุย ข้าคิดว่ามีบางเรื่องที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากหญิงคนนั้นได้”
เฟิงฉินรีบพยักหน้าตอบรับ “เจ้าค่ะ”
“อืม เจ้าออกไปได้” หลิ่วซื่อโบกมือ จากนั้นเฟิงฉินก็ถอยออกไปด้วยความเคารพ
ทันทีที่นางจากไป อาหลานก็พูดเสียงเบาว่า “ฮูหยินเจ้าค่ะ บ่าวไปถามพ่อบ้านไป๋มาแล้วเจ้าค่ะ พ่อบ้านไป๋บอกว่านายท่านรองอาจส่งนางมาที่นี่เพื่อเป็นสาวใช้ของคุณชายใหญ่ และนางก็อาจกลายเป็นคนคุณชายใหญ่ในตอนนั้น แล้วพวกเราจะยังใช้นางได้หรือเจ้าคะ?”
“นางกลายเป็นคนของไป๋หลิวอี้แล้ว จะใช้ประโยชน์จากนางไม่ได้หรือ? นางเป็นแค่สาวใช้ต่ำต้อย จะไม่มีทางใดทำให้นางยอมจำนนได้เลยงั้นหรือ?” หลิ่วซื่อหรี่ตาเย้ยหยัน “เมื่อถึงเวลานั้นก็จะสามารถครอบงำนางจนโงหัวไม่ขึ้นได้”
“ฮูหยินพูดถูกเจ้าค่ะ” อาหลานพูดอย่างประจบสอพลอ
คิ้วของหลิ่วซื่อยังคงขมวดอยู่ นางลดเสียงลงพึมพำกับตัวเอง “ข้าเกรงว่าจุดประสงค์ของไป๋อีเฟิงที่ส่งหญิงคนนั้นมาที่นี่จะไม่ใช่แค่ให้เป็นสาวใช้เท่านั้นน่ะสิ ไป๋อีเฟิงคนนั้นมักเป็นคนแปลก ๆ เสมอ การส่งสาวใช้สองคนเข้ามาในจวนซูกั๋วกงโดยไม่มีเหตุผล เป็นเรื่องน่าสงสัยจริง ๆ หากไป๋อีเฟิงกับไป๋หลิวอี้สมรู้ร่วมคิดกัน หลิวเจวี๋ยก็อาจจะเสียตำแหน่งซื่อจื่อไป…”
ด้วยสถานะปัจจุบันของไป๋หลิวอี้ เขาย่อมสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ หากเขาเป็นที่โปรดปรานของไท่จื่อ และหลิวเจวี๋ยไม่ค่อยแยแสอะไร ตำแหน่งของนางกับลูกชายก็จะตกอยู่ในอันตราย
อาหลานตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ฮูหยินเจ้าคะ นายท่านรองจะมีความทะเยอทะยานเช่นนั้นจริงหรือเจ้าคะ?”
“ฮึ่ม เขาชอบไป๋หลิวอี้มากกว่ามาโดยตลอด ตอนที่เขาถูกผู้เฒ่าไป๋ไล่ออกจากจวนไป๋ เขาอาจไม่ได้เต็มใจมาโดยตลอด เป็นไปไม่ได้ที่จะรับประกันว่าเขาจะไม่กลับมาอีก “
ยิ่งกว่านั้น ไป๋อีเฟิงยังเป็นที่โปรดปรานของฮูหยินเฒ่าอย่างมาก หากเขาต้องการทำอะไรอุกอาจ ฮูหยินเฒ่าก็สามารถให้อภัยเขาได้อย่างง่ายดาย
“อีกทั้งตอนนี้อวี้ซีเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน แต่นางกลับได้รับความโปรดปรานจากฮูหยินเฒ่า ให้คอยอยู่เคียงข้างรับใช้เคียงข้างกาย เรื่องนี้ยิ่งทำให้ข้าสงสัยจุดประสงค์ของไป๋อีเฟิง”
เนี่ยนเนี่ยนที่อยู่บนขื่ออดไม่ได้ที่จะกลอกตา หลิ่วซื่อผู้นี้ชอบทฤษฎีสมคบคิดหรือคิดมากหวาดระแวงเสียจริง
นางคิดว่าทุกคนอยากได้ตำแหน่งซื่อจื่องั้นหรือ? ไป๋หลิวอี้สอบไป่กวนผ่านแล้ว อนาคตของเขาย่อมดีกว่าซื่อจื่อคนปัจจุบันไม่ใช่หรือ?
เรื่องเดียวที่นางคิดคือรักษาตำแหน่งซื่อจื่อของไป๋หลิวเจวี๋ย นางไม่เคยคิดหรือว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเลย?
“หากอวี้ซีคนนั้นมีความคิดเป็นของตัวเองและควบคุมไม่ได้ ก็จะดีกว่าถ้ารีบกำจัดนางให้เร็วที่สุด แต่หากเราสามารถใช้งานนางได้ เราก็สามารถรักษานางไว้ และเพลิดเพลินไปกับเกียรติยศและความมั่งคั่ง” หลิ่วซื่อจิบชาอีกครั้ง และในที่สุดก็ยืนขึ้น
อาหลานรีบก้าวเข้าไปช่วยประคองนางเข้าไปข้างใน ปากก็พูดเห็นด้วย “ฮูหยินพูดถูกเจ้าค่ะ ถ้าใช้ไม่ได้ เราก็สามารถกำจัดสาวใช้ต่ำต้อยนั้นได้เลย ไม่จำเป็นต้องออกแรงมากเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนอยากจะลงไปจากขื่อตอนนี้ แล้วให้พวกนางกำจัดนางทันที จะได้ไม่ต้องมัวคิดมาก
นางแอบส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าเวลาใกล้จะหมดลงแล้ว ถ้านางไม่กลับไป เฟิงฉินคงจะไปถึงโถงเล่อฝูแล้ว คิดได้ดังนั้นนางก็เตรียมกระโดดลงไป
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่นางขยับตัว ก็มีเสียงฝีเท้ากระวนกระวายอยู่ข้างนอก
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถอยกลับอีกครั้ง
แน่นอนว่าขณะที่อาหลานช่วยประคองหลิ่วซื่อเข้าไปในห้องชั้นใน ก็มีคนมาเคาะประตู
ทันทีหลังจากนั้น ก็มีเสียงที่จงใจให้แผ่วเบาลงดังมาจากข้างนอก “ฮูหยิน ฮูหยิน อาหลาน เปิดประตูเร็วเข้า”
อาหลานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปมองหลิ่วซื่อ แล้วพูดว่า “นั่นอาหมี่เจ้าค่ะ”
“ลุกลี้ลุกลนกลางดึกเช่นนี้เกิดอะไรขึ้น? เจ้าไปดูสิ” อาหมี่เป็นสาวใช้ข้างกายนางที่มีความสามารถ นางมีนิสัยค่อนข้างสงบนิ่ง เมื่อเห็นนางลนลาน หลิ่วซื่อก็ประหลาดใจ จึงรีบผลักอาหลานออกไปดู
อาหลานพยักหน้า แล้วรีบเดินออกไปเปิดประตู แต่เมื่อประตูเปิดออก นางก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วอ้าปากค้างทันที “อาหมี่ เจ้า เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”
เนี่ยนเนี่ยนยืดคอไปข้างหน้า เมื่อนางมองเห็นได้ชัดเจนก็ขมวดคิ้วมุ่น
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ขอโทษเถอะ กำจัดเนี่ยนเนี่ยนที่เป็นจวิ้นจู่เนี่ยนะ เอาอะไรคิด ถึงเวลาจริงๆ อีกฝ่ายแค่ดีดนิ้วก็สลายเป็นภัสม์ธุลีแล้วเถอะ
ไหหม่า(海馬)