อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 170 เป่ยเป่ยเรียกหานาง
ตอนพิเศษ 170 เป่ยเป่ยเรียกหานาง
ตอนพิเศษ 170 เป่ยเป่ยเรียกหานาง
เนี่ยนเนี่ยนแอบสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “ฮูหยินเฒ่า เมื่อวานท่านสัญญากับข้าไว้ว่าอย่างไรเจ้าคะ? หากท่านยังรับประทานอาหารมันเยิ้มเป็นมื้อเช้า ร่างกายของท่านจะดีขึ้นได้อย่างไรเจ้าคะ?”
ฮูหยินเฒ่าไป๋ลังเลจนไม่รู้ว่าจะวางตะเกียบไว้ตรงไหนดี “แต่ว่า…”
“เจ้าช่างบังอาจนัก เป็นแค่สาวใช้ต่ำต้อย แต่กล้าบังคับเจ้านาย” เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากนอกประตู ทันทีหลังจากนั้นไป๋ชูเฟิงก็ก้าวเข้ามา
ทันทีที่เขาเข้าประตูมา สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่เนี่ยนเนี่ยน
เนี่ยนเนี่ยนเคยชินกับถูกสายตาคมกริบของเย่ซิวตู๋จ้องมองมาตลอด สายตาของซูกั๋วกงจึงไม่อาจส่งผลกระทบต่อนางได้ นางไม่ได้ตัวสั่นเทาหรือหวาดกลัวเลย
นางวางหม้อหมูตุ๋นไว้ตรงตำแหน่งที่ไกลที่สุดบนโต๊ะ แล้ววางจานอาหารมังสวิรัติไว้บนโต๊ะตรงหน้าฮูหยินเฒ่าไป๋ “ฮูหยินเฒ่าเจ้าคะ เช้านี้กินสิ่งนี้เถิดเจ้าค่ะ”
สีหน้าของฮูหยินเฒ่าไป๋เปลี่ยนไป นางมองจานที่มีแต่ผักด้วยท่าทางลำบากใจ
ซูกั๋วกงเห็นว่าเนี่ยนเนี่ยนเริ่มเหิมเกริมมากขึ้น จนถึงขั้นจำกัดอาหารที่มารดาของเขาสามารถกินได้ สีหน้าของเขาจึงเกรี้ยวกราดกว่าเดิม เขาตะโกนออกไปข้างนอก “มานี่ พาสาวใช้ต่ำต้อยคนนี้ออกไป…”
“นายท่านใหญ่เจ้าคะ… ข้าเป็นหมอ” เนี่ยนเนี่ยนขัดจังหวะซูกั๋วกงอย่างเสียไม่ได้
ซูกั๋วกงไม่มีข้อบกพร่องจริง ๆ แต่เขาเข้มงวดเกินไป
ไป๋ชูเฟิงขมวดคิ้ว “แล้วอย่างไร?”
“นายท่านใหญ่ ท่านลืมเรื่องที่ฮูหยินเฒ่าเป็นลมเมื่อวานนี้หรือเจ้าคะ? เป็นเพราะฮูหยินเฒ่ากินเนื้อสัตว์มันเยิ้มมาก ร่างกายจึงทรุดโทรม แม้ข้าจะควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด แต่ข้าก็ทำไปเพราะเห็นแก่ฮูหยินเฒ่าจริง ๆ เจ้าค่ะ นายท่านใหญ่ก็อยากให้ฮูหยินเฒ่าแข็งแรงขึ้นเช่นกันใช่หรือไม่เจ้าคะ?” เนี่ยนเนี่ยนพูดด้วยท่าทางจริงจังเป็นพิเศษ
ไป๋ชูเฟิงได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว
แต่เนี่ยนเนี่ยนยังพูดต่อไปว่า “ข้ารู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสีย ฮูหยินเฒ่าก็เป็นหัวหน้าครอบครัว นายท่านใหญ่เป็นลูกกตัญญู จึงทนไม่ได้ที่จะทำลายความชอบของฮูหยินเฒ่า แต่เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายของฮูหยินเฒ่า ข้าจึงจำต้องเป็นคนใจร้ายเช่นนี้เจ้าค่ะ”
ไป๋ชูเฟิงกระแอมเบา ๆ หญิงสาวคนนี้ทำให้เขาจนมุม อันที่จริงครั้งหนึ่งเขาเคยถามหมอเว่ย และหมอเว่ยก็บอกเขาอ้อม ๆ ว่าฮูหยินเฒ่ากินเนื้อสัตว์มากเกินไป ควรควบคุมจึงจะดีที่สุด
แต่นางเป็นมารดาของเขา เขาทนสั่งฮูหยินเฒ่าให้ไม่กินสิ่งนี้หรือกินสิ่งนั้นไม่ได้ ตอนนี้คงจะดี ถ้าสาวใช้ที่ชื่ออวี้ซีสามารถทำให้แม่ของเขาเปลี่ยนใจได้
กระนั้นเขาก็ยังคงอธิบายว่า “ค่อย ๆ ฟื้นฟูร่างกายไป นาน ๆ ทีกินก็ได้ ไม่เป็นอะไร อย่าหักดิบเกินไป ไม่เช่นนั้นร่างกายอาจจะทนไม่ไหว”
เนี่ยนเนี่ยนคลี่ยิ้ม “เจ้าค่ะ”
จากนั้นไป๋ชูเฟิงก็ทำความเคารพฮูหยินเฒ่า เขายังมีสิ่งที่ต้องทำจึงอยู่ต่อไปไม่ได้ และจากไปหลังจากพูดคุยไม่กี่คำ
เนี่ยนเนี่ยนยกยิ้ม ก่อนจะเลื่อนจานอาหารมังสวิรัติไว้ตรงหน้าฮูหยินเฒ่าด้วยรอยยิ้ม “กินเถิดเจ้าค่ะ”
สายตาของฮูหยินเฒ่าไป๋จับจ้องไปที่จานหมูตุ๋น แม้จะรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย แต่นางก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากกินโจ๊กครึ่งชามกับอาหารมังสวิรัติที่เนี่ยนเนี่ยนแนะนำให้ จากนั้นก็กินซาลาเปาไส้เนื้อ
เนี่ยนเนี่ยนลูบหน้าผากตัวเอง จากนั้นเก็บจานให้เรียบร้อย แล้วออกไป… นอนต่อ
แม่นมอวี๋จ้องมองแผ่นหลังของนาง แล้วกระซิบกับฮูหยินเฒ่าไป๋ว่า “ฮูหยินเฒ่าใจดีกับอวี้ซีเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?”
นางได้รับอนุญาตให้ไปนอนหลับ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวเลย
ฮูหยินเฒ่าไป๋หัวเราะ “เมื่อข้าเห็นนาง ข้ามักจะนึกถึงหญิงที่ชื่อชิงลั่วคนนั้น ข้าจึงปฏิบัติกับนางเหมือนสาวใช้ไม่ได้จริง ๆ อันที่จริง ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าการกินเนื้อสัตว์มากเกินไปนั้นไม่ดี แต่ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้ และเจ้าก็ไม่กล้าควบคุมข้าด้วย แต่ดูนางสิ นางเป็นสาวใช้ที่น่าสนใจมาก ดูสิ่งที่นางพูดในวันนี้ แม้แต่ชูเฟิงก็ยังเถียงไม่ได้ นางเลือกสรรเสริญชูเฟิงด้วยคำว่าลูกกตัญญู ซึ่งทำให้เขายากที่จะโกรธ”
แม่นมอวี๋ถอนหายใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แล้วหัวเราะด้วย “มีอะไรน่าสนใจหรือเจ้าคะ? นั่นเป็นเพราะฮูหยินเฒ่าคิดถึงนางมาก ถือเป็นความโชคดีของนางที่ได้พบท่าน แต่นางก็ดูแลร่างกายของฮูหยินเฒ่าด้วย ข้าคิดว่าถ้านางทำสำเร็จ ในอนาคตสุขภาพของท่านก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ”
“เจ้าคิดได้ดี” ฮูหยินเฒ่าไป๋ส่ายหน้าแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ยาว
เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้กลับไปนอนต่อ ทันทีที่นางกลับมาถึงห้อง นางก็เห็นจดหมายอยู่ใต้หมอน
นางหยิบมันออกมาดู และพบว่ามันเป็นลายมือของเป่ยเป่ย ไม่มีอะไรอยู่บนนั้นเลยนอกจากคำสองคำ
เนี่ยนเนี่ยนเข้าใจว่าเป่ยเป่ยกำลังเรียกหานาง นางคิดได้ดังนั้นก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินไปตามมุมในจวนซูกั๋วกง ก่อนจะกระโดดแอบหนีออกไปจากจวน
เป่ยเป่ยอาจอยู่ในโรงเตี๊ยมที่พวกนางพักเมื่อมาถึงเมืองหลวง นางเดินเข้าไปจนสุด และขึ้นไปบนชั้นสองอย่างรวดเร็ว
เหวินหย่ารอนางอยู่ข้างในแล้ว เมื่อเห็นนางเข้ามาก็รีบปิดประตูทันที “เนี่ยนเนี่ยน”
เนี่ยนเนี่ยนมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่ไม่เห็นเย่ฉิงเป่ย นางจึงอดขมวดคิ้วไม่ได้ “เป่ยเป่ยอยู่ไหน?”
“เขาต้องออกไปทำบางอย่างข้างนอก แต่ให้ข้ารอเจ้าที่ห้อง เขาบอกว่าเขาจะกลับมาในอีกสักครู่” เหวินหย่าเริ่มกวาดสายตามองเนี่ยนเนี่ยน เมื่อเห็นว่านางยังปลอดภัยดี แม้ไม่มีตนอยู่เคียงข้าง นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่เมื่อนึกถึงการลอบทำร้ายที่นางเผชิญครั้งล่าสุด สีหน้าของนางก็จริงจังอีกครั้ง แล้วถามเบา ๆ ว่า “เนี่ยนเนี่ยน อยู่ใกล้คุณชายไป๋แล้วเจ้าไม่ปลอดภัยหรือ? พวกคนที่เจ้าเจอครั้งล่าสุดเป็นใคร?”
“อ๋อ ไม่เป็นอะไร” เนี่ยนเนี่ยนโบกมือทันที นางไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเหวินย่าจะมีความรู้สึกไม่ดีต่อไป๋หลิวอี้ “ก็แค่มีบางคนไม่ต้องการให้เขาสอบไป่กวนผ่าน จึงจ้างมือมืดมาทำร้ายเขา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ขุนนางทั่วไปล้วนมีศัตรูทางการเมือง ไม่ใช่แค่ซูกั๋วกงหรอก ตำหนักอ๋องซิวของเราก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
เหวินหย่ายังคงไม่ค่อยสบายใจ แต่สิ่งที่เนี่ยนเนี่ยนพูดก็มีเหตุผล นางทำได้เพียงระงับความกังวลในใจของนาง แล้วถามนางว่าอยู่ในจวนซูกั๋วกงในช่วงสองสามวันมานี้ นางเป็นอย่างไรบ้าง มีใครทำให้นางลำบากหรือรังแกนางหรือไม่ โม่เพียวดูแลนางดีหรือเปล่า
เนี่ยนเนี่ยนเบือนหน้าหนีเงียบ ๆ หวังว่าเป่ยเป่ยจะกลับมาเร็ว ๆ และรีบเปิดประตูเข้ามา
“เนี่ยนเนี่ยน เจ้าตอบคำถามของข้าให้ดี” เหวินหย่ารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทีสบาย ๆ ของนาง
เนี่ยนเนี่ยนไอแห้ง ๆ แล้วรีบพูดว่า “ข้าสบายดี ดูผิวมีเลือดฝาดของข้าสิ สุขภาพดีปานนี้ ใครจะรังแกข้าได้?”
เหวินหย่ารู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่โชคดีที่มีเสียงฝีเท้าอยู่นอกประตู และเสียงเคาะประตูของเป่ยเป่ยก็ดังขึ้นในไม่ช้า
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วก้าวไปเปิดประตูอย่างกระตือรือร้น จากนั้นดึงเย่ฉิงเป่ยที่ดูประหลาดใจเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่ฉิงเป่ยดูสับสน ท่าทางของเนี่ยนเนี่ยนผิดปกติไปเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร” เนี่ยนเนี่ยนพูดอย่างจริงจัง “ข้าแค่อยากจะถามเจ้า ว่าเหตุใดถึงให้ข้ามาที่นี่อย่างเร่งด่วน”
เย่ฉิงเป่ยนึกถึงจุดประสงค์ที่เรียกนางมา สีหน้าของเขากลายเป็นจริงจัง แล้วดึงเนี่ยนเนี่ยนไปนั่ง
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ครองใจฮูหยินเฒ่าได้แล้ว ต่อไปก็ทางสะดวกแล้วล่ะ
เป่ยเป่ยจะมาคุยเรื่องอะไรกับพี่สาวหนอ?
ไหหม่า(海馬)