อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 171 เรื่องดีมาก
ตอนพิเศษ 171 เรื่องดีมาก
ตอนพิเศษ 171 เรื่องดีมาก
“มีบางอย่างที่ข้าต้องการให้เจ้าช่วยตรวจสอบ” เย่ฉิงเป่ยขยิบตาให้เหวินหย่า ฝ่ายหลังเดินอยู่ตรงประตูทันที เพื่อเฝ้าดูการเคลื่อนไหวนอกประตูเงียบๆ
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของพวกเขา เนี่ยนเนี่ยนก็จริงจังเช่นกัน นางพยักหน้าเล็กน้อย นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วพูดว่า “บอกข้าสิ เจ้าต้องการให้ข้าตรวจสอบอะไร?”
“ข้าได้เบาะแสบางอย่าง เกี่ยวกับเรื่องที่เสด็จลุงขอให้ข้าตรวจสอบแล้ว” เย่ฉิงเป่ยลดเสียงลง “เมื่อคืนนี้ข้าพบบุคคลต้องสงสัย ข้าจงใจทำร้ายเขา แต่ก็ไม่ร้ายแรงเกินไป เพราะข้าต้องการตามไปสืบดูว่าเขาเป็นใคร แต่ไม่คาดคิดว่า… เขาจะเข้าไปในจวนซูกั๋วกง”
จวนของซูกั๋วกง? เมื่อคืนนี้หรือ?
“เนี่ยนเนี่ยน ข้าไม่รู้ว่าเขามาจากจวนซูกั๋วกง หรือบังเอิญเข้าไปซ่อนตัวในจวนซูกั๋วกง แต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ ข้าได้ส่งคนไปเฝ้าดูอยู่นอกจวน และไม่พบว่าเขาออกมาจากจวน ซึ่งก็หมายความว่าเขาน่าจะยังอยู่ในจวนซูกั๋วกง เจ้ากลับไปแล้วก็ควรรีบตรวจสอบให้เร็วที่สุด พยายามค้นหาตัวตนของเขาให้ได้เร็วที่สุด”
หากการบุกเข้าไปซ่อนตัวในจวนซูกั๋วกงเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ ก็ไม่เป็นอะไร แต่เกรงว่าคนผู้นั้นจะมาจากจวนไป๋ หรืออาจจะ… มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซูกั๋วกง
หากซูกั๋วกงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนจริง ๆ มันคงจะแย่มาก
ทั้งแม่และพี่ใหญ่ของเขาต่างชื่นชมซูกั๋วกงมาก และเขาแทบไม่สงสัยจวนซูกั๋วกงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ถ้าความจริงมันโหดร้ายถึงเพียงนั้น ก็เกรงว่าแม่และพี่ใหญ่ของเขาจะต้องเสียใจมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เนี่ยนเนี่ยนมีความประทับใจที่ดีต่อไป๋หลิวอี้… แม้ว่าเสด็จลุงจะบอกว่าไป๋หลิวอี้ไม่น่าสงสัย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะซับซ้อนและค่อนข้างน่าอาย
“เป่ยเป่ย ชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายหรือเปล่า?” เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาถามทันที ร่างหนึ่งแวบเข้ามาในความคิดอย่างรวดเร็ว ร่างในชุดผ้าทอที่มีบาดแผลลึกที่แขน
เย่ฉิงเป่ยตกตะลึง จากนั้นพยักหน้า “เป็นแขนซ้ายจริงๆ เกิดอะไรขึ้น? เจ้าเห็นหรือ?”
“เป็นเรื่องบังเอิญ ที่เมื่อคืนมีสาวใช้คนหนึ่งมาค้นข้าวของของข้า ข้าจึงเดินตามนางไปเพื่อดูว่านางกำลังช่วยใคร คาดไม่ถึงว่าจะไปถึงเรือนของหลิ่วซื่อ แล้วข้าก็บังเอิญเห็นชายคนหนึ่งที่บาดเจ็บที่แขนวิ่งเข้ามาเงียบ ๆ” เนี่ยนเนี่ยนยกยิ้ม กะพริบตาแล้วพูดว่า “ชายคนนั้นเรียกหลิ่วซื่อว่า… ท่านป้า”
ป้างั้นหรือ?
รูม่านตาของเย่ฉิงเป่ยหดตัวเล็กน้อย “ชายคนนั้นมาจากตระกูลหลิ่วงั้นหรือ?”
“อืม ดูเหมือนจะชื่อหลิ่วเหวย” เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าข้อแก้ตัวของหลิ่วเหวยเมื่อคืนนี้เต็มไปด้วยช่องโหว่ นางอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ และใครทำร้ายเขา ปรากฏว่าคนที่ทำร้ายเขาคือเป่ยเป่ย
เย่ฉิงเป่ยถูมือเบา ๆ บนโต๊ะ มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย “ตระกูลหลิ่ว… “เขานิ่งไปชั่วครู่ แล้วถามว่า “หลิ่วซื่อรู้หรือไม่ว่าเหตุใดหลิ่วเหวยถึงได้รับบาดเจ็บ? นางมีส่วนร่วมหรือเปล่า? “
“นางไม่รู้ ฟังจากความหมายของคำพูดของหลิ่วเหวย ไม่น่ามีใครในจวนไป๋รู้เลย” หลิ่วเหวยบอกหลิ่วซื่อว่าอย่าบอกไป๋หลิวเจวี๋ยและซูกั๋วกงเรื่องอาการบาดเจ็บของเขา อาจเป็นเพราะเขาไม่ต้องการทำให้พวกเขาระแวงสงสัย
เขาบุกเข้าไปในจวนซูกั๋วกงเช่นนี้ น่าจะเพราะทำอะไรไม่ถูก
เย่ฉิงเป่ยลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยตระกูลไป๋ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะให้คนที่คอยเฝ้าติดตามจวนไป๋ถอนตัวออกมา” คนในจวนไป๋ไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากถูกติดตามเป็นเวลานาน จะต้องรู้ตัวในไม่ช้า
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า “ในเมื่อเจ้ามีเป้าหมายแล้ว เจ้าควรระวังตัวให้ดี หากข้าออกมานานเกินไป อาจกระตุ้นความสงสัยได้ ดังนั้นข้าจะกลับไปที่จวนของจวนซูกั๋วกงก่อน”
“…” เย่ฉิงเป่ยมองดูนางยืนขึ้น ดูนางออกจากห้องไปอย่างสบายใจ หลังเห็นนางหายไปหลังประตู จู่ ๆ ก็อยากจะเตือนนางว่าจุดประสงค์เดิมที่นางไปจวนไป๋คือเพื่อตรวจสอบจวนไป๋ ตอนนี้ความสงสัยจวนไป๋ได้ถูกลบออกไปแล้ว นางไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นั่นอีกต่อไป
เหวินหย่าก็ต้องการเตือนนางเช่นกัน แต่เมื่อเห็นเป่ยเป่ยยกมือให้นาง ในที่สุดนางก็ปิดปาก
เย่ฉิงเป่ยหัวเราะ ยืดหลังขึ้นเล็กน้อย “ข้าคิดว่าเราคงจะได้ดื่มฉลองงานแต่งงานเร็ว ๆ นี้ เหวินหย่า ตอนนี้เจ้าคิดได้เลยว่าจะอยู่ในอาณาจักรเทียนอวี่ หรือกลับไปที่อาณาจักรเฟิงชาง”
เหวินหย่าต้องการดูแลเนี่ยนเนี่ยนอย่างสุดหัวใจ แต่พ่อแม่ของนางยังคงอยู่ที่ตำหนักอ๋องซิว และพวกเขายังต้องตัดสินใจเองด้วยว่าอยากให้นางอยู่ที่ไหนในอนาคต
“…” มุมปากของเหวินหย่ากระตุก ก่อนหันหลังเดินจากไป
อันที่จริงเนี่ยนเนี่ยนรู้อยู่แล้ว นางรู้ว่าจวนไป๋ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอีกต่อไป แต่นางแค่ต้องการกลับไป
นางรู้สึกว่าตอนนี้แม่เฒ่าไป๋สุขภาพไม่ค่อยดี นางย่อมปล่อยไปไม่ได้ใช่หรือไม่? เรื่องนี้ไร้มนุษยธรรม ไม่ชอบธรรม ไม่ซื่อสัตย์และอกตัญญู ดังนั้นภารกิจหลักตอนนี้ของนาง คือต้องช่วยแม่เฒ่าไป๋ฟื้นฟูร่างกาย
ยิ่งไปกว่านั้น หลิ่วเหวยตระกูลหลิ่วยังเกี่ยวข้องกับจวนไป๋ด้วยการแต่งงาน เพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลหลิ่วเข้ามายุ่งเกี่ยวกับจวนไป๋ และลากจวนไป๋ลงไปในน้ำด้วย จะเป็นการดีกว่าหากนางคอยเฝ้าดูไว้
นางจะไม่ยอมรับว่านางต้องการมีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับไป๋หลิวอี้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเนี่ยนเนี่ยนก็เป็นปกติ และรีบออกจากโรงเตี๊ยม
ทว่าไม่นานหลังจากที่นางจากไป ติงเซียงที่อยู่ไม่ไกลก็ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ “อวี้ซีหรือ? เหตุใดนางถึงออกจากจวน? แล้วนางไปทำอะไรในโรงเตี๊ยมนั่น?”
ติงเซียงรู้สึกว่าอวี้ซีมาสถานที่น่าสงสัยจริง ๆ นางจึงคิดจะบอกหลิ่วยางยางโดยไม่รู้ตัว
แต่เมื่อนึกถึงนิสัยโหดเหี้ยมของหลิ่วยางยาง และคำสั่งของคุณชายใหญ่ นางก็ยกเลิกความคิดนั้นทันที
ถ้าอย่างนั้นบอกคุณชายใหญ่ดีหรือไม่?
แต่อวี้ซีเป็นคนที่คุณชายใหญ่โปรดปราน แม้ว่านางจะบอกไป คุณชายใหญ่ก็อาจไม่เชื่อ
ติงเซียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็รู้สึกว่านางควรบอกอาเวิน เพราะอาเวินเป็นคนที่มีความสามารถ และคุณชายใหญ่ไว้วางใจเขามากที่สุด คุณชายใหญ่จึงน่าจะฟังสิ่งที่เขาพูด
ติงเซียงสูดหายใจ ก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นเล็กน้อย และเดินไปตามทางไปยังจวนซูกั๋วกง
ในที่สุดนางก็เข้าไปในจวนก่อนเนี่ยนเนี่ยน
หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วยาม เนี่ยนเนี่ยนก็เดินไปตามมุมกำแพง และปีนข้ามกำแพงอีกครั้ง
นางแสร้งทำเป็นเดินสบาย ๆ ไปทางโถงเล่อฝู เมื่อนางผ่านสวนดอกไม้ ฝีเท้าของนางก็หยุดลง เมื่อวานนี้โม่เพียวขอให้คนทำน้ำแกงงูใช่หรือไม่?
คาดไม่ถึงว่าหลังจากหยุดชั่วคราว จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งพุ่งออกมาหา
โม่เพียวคว้าข้อมือนางวิ่งหนีไปที่มุมหนึ่ง ดวงตาของนางเป็นประกาย “คุณหนู เรื่องใหญ่ เกิดเรื่องดีมากขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนถูกดึงจนโงนเงนและเกือบล้มลง มุมปากของนางกระตุกหลายครั้ง ในที่สุดนางก็สามารถยืนนิ่งได้ จากนั้นนางก็สะบัดมือออกทันที แล้วถามว่า “เรื่องดีอะไรนักหนา? มันคุ้มกับการรีบเร่งของเจ้าหรือ? ฮึ่ม เจ้าเกือบดึงข้อมือข้าหลุดอยู่แล้ว”
โม่เพียวผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ แล้วแลบลิ้นออกมา “ข้ารีบไปหน่อยเจ้าค่ะ อย่าฆ่าข้าเลยนะเจ้าคะ”
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เรื่องดีมากที่ว่าคือเรื่องอะไรกันหนอ?
ไหหม่า(海馬)