อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 172 ทำงานหนักโดยไม่ได้รับความดีความชอบ
ตอนพิเศษ 172 ทำงานหนักโดยไม่ได้รับความดีความชอบ
ตอนพิเศษ 172 ทำงานหนักโดยไม่ได้รับความดีความชอบ
เนี่ยนเนี่ยนมองไปรอบ ๆ แล้วไม่เห็นใคร จึงเลิกคิ้วถามนางว่า “เกิดเรื่องดีอะไรนักหนา?”
“เมื่อครู่นี้มีคนจากวังหลวง ที่บอกว่าเป็นคนรับใช้ของฝ่าบาทมาที่จวนซูกั๋วกง เพื่อประกาศราชโองการว่าตอนนี้คุณชายใหญ่เป็นเสนาบดีฝั่งขวาของอาณาจักรเทียนอวี่แล้ว เสนาบดีฝั่งขวามีอำนาจเทียบเท่าท่านเสนาบดีหลีเลยไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ว่ากันว่าสามารถจัดตั้งและจัดการจวนเองได้อย่างอิสระ คุณหนู จากนี้ไปท่านสามารถออกจากจวนซูกั๋วกงไปกับคุณชายใหญ่ได้แล้ว ไม่ต้องสนใจหลิ่วยางยางและกั๋วกงฮูหยินอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ” โม่เพียวอารมณ์ดีมาก ดวงตาของนางเป็นประกายขณะพูด
เนี่ยนเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง สีหน้าของนางงุนงงเล็กน้อย
สิ่งที่เขาพูดเป็นจริงแล้ว เขาได้เป็นเสนาบดีฝั่งขวาจริง ๆ จากนี้ไปจะไม่มีใครรังแกเขาได้อีกแล้ว
ไม่ใช่แค่ในจวนซูกั๋วกง แต่ในราชสำนักก็เช่นกัน
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างอธิบายไม่ถูก คนผู้นี้มีอำนาจมากจริง ๆ แล้วใช่หรือไม่?
นางหัวเราะเบา ๆ และทันใดนั้นก็ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างได้ นางหันไปมองโม่เพียว “เจ้าเพิ่งพูดถึงกั๋วกงฮูหยิน… ทำไม เจ้ามีปัญหากับนางหรือ?”
“ไม่หยุดหย่อนเลยเจ้าค่ะ” โม่เพียวพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองระคนดูถูกเหยียดหยาม “นางเรียกหาข้าเมื่อเช้านี้ และพูดมากเจ้าค่ะ”
“พูดว่าอะไรบ้าง?” เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้น แน่นอนว่าหลิ่วซื่อกำลังวางแผนโจมตีโม่เพียว และนางก็เคลื่อนไหวเร็วมาก
โม่เพียวยักไหล่ “ถามคำถามเกี่ยวกับการปลูกและการดูแลดอกไม้ต้นไม้ คำถามต่าง ๆ ที่ถามข้าค่อนข้างปัญญาอ่อน ข้าไม่อยากตอบเลยจริง ๆ ต่อมาก็เริ่มถามเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านอารองไป๋”
เนี่ยนเนี่ยนคิดว่านึกแล้ว หลิ่วซื่อไม่สามารถรอได้จริง ๆ
“ข้าบอกว่าไม่มีอะไรสำคัญ แต่นางก็ยังไม่เชื่อ บอกว่าถ้าไม่สำคัญ เขาจะพาข้ามาทำงานในจวนซูกั๋วกงเพื่ออะไร”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า หากเป็นนาง นางก็คงไม่เชื่อ
โม่เพียวถอนหายใจแล้วเล่าว่า “ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบอกความจริง ข้าบอกว่าพ่อของข้ากับท่านอารองไป๋เป็นสหายนักดื่ม แต่มันแปลกมากเจ้าค่ะ หลังจากได้ยินเช่นนั้น นางก็มองข้าด้วยสายตาดูถูก ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดนางถึงดูถูกข้า สายตานั้นเหยียดหยามมาก”
เนี่ยนเนี่ยนเกือบจะหัวเราะออกมาดังลั่น เมื่อพูดถึงสหายนักดื่ม คนปกติก็จะนึกถึงเพื่อนที่พากันสำมะเลเทเมา แต่จากมุมมองของโม่เพียว พ่อของนางและไป๋อีเฟิงเป็นเพื่อนที่ดี ที่คอยแลกเปลี่ยนวิธีการผลิตสุรา แต่จากมุมมองของหลิ่วซื่อ พ่อของโม่เพียวเป็นเพียงคนขี้เมา
แน่นอนว่านางดูถูกลูกสาวของคนขี้เมาเป็นอย่างมาก
“ต่อมานางถามข้าต่อ ว่าความสัมพันธ์ของข้ากับท่านเป็นอย่างไร” โม่เพียวไม่สนใจสายตาของหลิ่วซื่อ พูดตามตรงคือนางยังดูถูกหลิ่วซื่ออีกด้วย “ข้าคิดว่าความสัมพันธ์ของเรามีหลายแบบเกินไป ตัวอย่างเช่นท่านเป็นคุณหนูของข้า เช่นพ่อของข้าเป็นองครักษ์ของท่านอ๋องซิว เช่นแม่ของข้าเป็นสาวใช้ของซิวหวางเฟย เช่นเราเป็นเพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน เช่นข้าคอยปกป้องท่านมาโดยตลอด…”
“พอแล้ว” เนี่ยนเนี่ยนน้ำตาจะไหล เห็นได้ชัดว่าคนที่คอยปกป้องนางคือเหวินย่า สิ่งที่โม่เพียวปกป้องมาตลอดคือดอกไม้และต้นไม้ของนาง นางยกมือขึ้นตบไหล่ของโม่เพียวด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วพูดว่า “สรุปเจ้าตอบว่าอะไรกันแน่?”
“ข้าคิดดูแล้วก็เลือกคำตอบที่มีความหมายใกล้เคียงมากที่สุด”
“หืม?”
“ข้าบอกว่าแม่ของท่านคือผู้ช่วยชีวิตแม่ของข้า”
“พรืด…” เนี่ยนเนี่ยนอดหัวเราะไม่ได้ “กั๋วกงฮูหยินไม่โกรธเจ้าจนกระอักเลือดหรือ?”
โม่เพียวกะพริบตา นางพูดถูกแล้ว ในตอนนั้นแม่ของนางถูกทรมานในจวนอวี๋ ถ้าซิวหวางเฟยไม่พาออกมา และโกงสัญญาซื้อขาย แม่ของนางจะมีชีวิตที่ดีอย่างในตอนนี้ได้อย่างไร? และยังได้พบกับพ่อผู้ให้กำเนิดลูกสาวแสนน่ารักเช่นนางด้วย
“นางไม่ได้โกรธเคืองข้าเลยเจ้าค่ะ แถมยังให้รางวัลข้าด้วยเงินชิ้นหนึ่ง” โม่เพียวยื่นมือออกมา แล้วเขย่าเงินชิ้นเล็ก ๆ ในมือ ก่อนหรี่ตาถามอย่างประจบสอพลอ “คุณหนู ข้านำเงินนี้ไปซื้อของนอกจวนได้หรือไม่เจ้าคะ?”
“… ได้สิ” นางคงเบื่อกับการอยู่ในจวนที่ไม่มีอิสระ
ดวงตาของโม่เพียวเป็นประกายทันที แล้วนางก็เก็บเงินกลับไป
เนี่ยนเนี่ยนเห็นว่าเริ่มจะสายแล้ว จึงพูดกับโม่เพียวอีกสองสามคำ จากนั้นหันหลังเดินจากไป
ทว่าเมื่อนางไปถึงประตูโถงเล่อฝู นางก็หยุดชั่วคราว แล้วหันหน้าเดินไปที่สวนจิ่นเฟิง
นางถือแผ่นหยกทรงสี่เหลี่ยมในมือ มันใหญ่กว่าแผ่นหยกที่ห้อยคอนางอยู่ แต่ลวดลายที่แกะสลักบนแผ่นหยกนั้นดูเหมาะกับบุรุษมากกว่า
แผ่นหยกแผ่นนี้เป็นแผ่นที่ดึงดูดสายตาของนาง ตอนที่นางเดินผ่านร้านหยกระหว่างทางกลับ
นางไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้นางซื้อสิ่งนี้มา ตอนนี้นางถือมันไว้ในอุ้งมือ รู้สึกอบอุ่นเมื่อสัมผัส
เมื่อนางเดินไปที่สวนจิ่นเฟิง หงหยาก็เห็นนางทันที นางมีสีหน้าแบบเดียวกับโม่เพียว ขณะรีบมาหา “แม่นางอวี้ซี…”
“…คุณชายใหญ่อยู่ในห้องหรือเปล่า?” จู่ ๆ เนี่ยนเนี่ยนก็คิดอยากจะหันหลังกลับ แต่นางไม่เต็มใจเลยสักนิด
หงหยาพยักหน้าเหมือนทุบกระเทียม “อยู่ๆๆ เมื่อครู่นี้ท่านแม่เฒ่า นายท่านกั๋วกง ซื่อจื่อและฮูหยิน ต่างมาแสดงความยินดีกับคุณชายใหญ่ แต่คุณชายใหญ่ป่วยอยู่ ไม่นานพวกเขาจึงจากไป คนจากวังหลวงมอบของขวัญให้มากมาย แม้แต่ท่านแม่เฒ่าและนายท่านกั๋วกง ก็ยังให้ของขวัญมากมายด้วย”
เนี่ยนเนี่ยนกำแผ่นหยกในมือแน่น มุมปากของนางกระตุก “เข้าใจแล้ว ข้าจะไม่รบกวนเจ้าแล้ว ข้าไปก่อนนะ”
หงหยาผงะไปครู่หนึ่ง ขณะที่นางกำลังจะรั้งตัวเนี่ยนเนี่ยนไว้ อาเวินที่อยู่ข้างในก็รีบออกมา
“แม่นางอวี้ซี คุณชายใหญ่ให้เจ้าเข้ามา”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก นางยืนอยู่ตรงนี้ แต่ไป๋หลิวอี้รู้หรือว่านางกำลังจะเข้าไป?
แต่ตอนนี้นางถูกค้นพบแล้ว คิดแล้วนางก็อยากจะจากไปอีกครั้ง
ทันใดนั้นนางก็กระแอมเบา ๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเดินเชิดหน้าตามอาเวินเข้าไปข้างใน
ไป๋หลิวอี้ลุกจากเตียงแล้ว และกำลังยืนพิงหน้าต่าง พร้อมกับอ่านหนังสืออยู่ในขณะนี้ เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็หันหน้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม “เจ้ามาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับข้าด้วยหรือ?”
เนี่ยนเนี่ยนบ่นพึมพำในใจ มีอะไรให้น่ายินดี เขาคิดว่านางดีใจหรือ? ที่เขาสามารถผ่านการสอบไป่กวนได้ และได้เป็นเสนาบดีฝั่งขวานั้น เป็นเพราะความดีความชอบของนางไม่ใช่หรือ?
“ไม่ใช่มาแสดงความยินดีเจ้าค่ะ ข้าแค่เสียใจเล็กน้อย และต้องการขอคำอธิบาย”
“ขอคำอธิบายหรือ?” ไป๋หลิวอี้หัวเราะเบา ๆ “อืม ต้องการคำอธิบายอะไร?”
“ข้าคิดว่าตอนที่ท่านสอบไป่กวน ข้าเป็นคนที่อยู่กับท่านตลอด เพื่อช่วยท่านพักฟื้นร่างกาย เมื่อท่านเหนื่อยจนยกมือขึ้นไม่ไหว ข้าก็ยังเป็นคนป้อนข้าวท่าน ข้าก็ทำงานหนักเหมือนกัน แต่กลับไม่ได้รับความดีความชอบใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
ไป๋หลิวอี้เม้มปากและพยักหน้า ดูเหมือนว่านางจะตกไปประเด็นหนึ่ง นางยังเป็นคนทำให้อู่หยวนโหวต้องผิดหวังด้วย
อาเวินที่อยู่ข้าง ๆ ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ป้อนข้าวงั้นหรือ? คุณชายใหญ่ให้อวี้ซีป้อนข้าวให้งั้นหรือ? น่ากลัวมาก
“แต่ข้าได้ยินมาว่าคุณชายใหญ่ได้รับของขวัญมากมายใช่หรือไม่? เช่นนั้นก็ควรมีส่วนของข้า ผู้มีความดีความชอบด้วยใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
อาเวินอดไม่ได้ที่จะก่ายหน้าผากตัวเอง แม่นางอวี้ซีคนนี้… ใจแคบเกินไปแล้ว นางยังมีหน้ามาขอรางวัลอีกหรือ?
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อยากได้อะไรเป็นรางวัลล่ะเนี่ยนเนี่ยน ลืมจุดประสงค์ตัวเองไปสนิทเลย
ไหหม่า(海馬)