อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 183 เรื่องความเป็นความตาย
ตอนพิเศษ 183 เรื่องความเป็นความตาย
ตอนพิเศษ 183 เรื่องความเป็นความตาย
“เหรียญทองจากฮ่องเต้งั้นหรือ?” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากประตู ซูกั๋วกงกับไป๋อีเฟิงกลับมาทีหลัง และ… ไป๋หลิวเจวี๋ยด้วย
ไป๋อีเฟิงที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเนี่ยนเนี่ยนพลันมุมปากกระตุก รู้สึกผิดเล็กน้อย
ส่วนซูกั๋วกงมองสิ่งของในมือของเนี่ยนเนี่ยนด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
องค์หญิงสิบสามร้องลั่น “เจ้า เหตุใดเจ้าถึงมีสิ่งนี้?”
“เหตุใดข้าถึงมีสิ่งนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” เนี่ยนเนี่ยนหยิบเหรียญทองกลับมา แล้วยกยิ้มเย่อหยิ่ง “บอกข้ามาสิ สิ่งนี้สามารถช่วยชีวิตหงหยาได้หรือไม่?”
องค์หญิงสิบสามจ้องมองเนี่ยนเนี่ยน ราวกับว่าเห็นดอกไม้ติดอยู่บนหน้านาง
ทุกคนในห้องหยุดเคลื่อนไหว สายตาต่างจับจ้องไปที่เนี่ยนเนี่ยน
รูม่านตาของฮูหยินเฒ่าไป๋หดลงอย่างแรง โม่เพียวเรียกนางว่าคุณหนู อีกทั้งนางยังมีเหรียญทองพระราชทานของฮ่องเต้ติดตัวไว้ด้วย ตัวตนของผู้หญิงคนนี้… เกรงว่าจะไม่ธรรมดา
ซูกั๋วกงประหลาดใจมาก หญิงคนนี้มีเหรียญทองพระราชทานจริง ๆ ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองไป๋อีเฟิงที่อยู่ข้างเขา
ไป๋อีเฟิงหัวเราะแห้ง ๆ เขารู้สึกผิดมากกว่าเดิม จึงพูดเสียงเบาว่า “พี่ชาย คอยดูก่อน คอยดูก่อนขอรับ”
ไป๋ชูเฟิงจ้องมองเขาด้วยสายตาดุดัน แต่ก็ค่อย ๆ สงบลง และเฝ้าดูสถานการณ์เงียบ ๆ
ไป๋หลิวเจวี๋ยก็ตกใจเช่นกัน สาวใช้คนนี้มาจากไหนกันแน่?
มุมปากของหลิ่วซื่อและหลิ่วยางยางเผยอออกเล็กน้อย ทว่าไม่อาจโต้ตอบได้ เหตุใดสาวใช้ต่ำต้อยถึงมีของสำคัญเช่นนี้อยู่ในมือได้
ติงเซียงอ้าปากหลายครั้ง แต่ในที่สุดก็ปิดปาก มองเนี่ยนเนี่ยนด้วยสายตาจริงจังขึ้น
หงหยาค่อนข้างสับสน เหรียญทองจากราชสำนักงั้นหรือ? เหรียญทองหรือ? สิ่งนั้น… เป็นสิ่งที่สามารถช่วยนางจากความตายได้ อวี้ซีไม่ได้โกหกนาง นางสามารถช่วยชีวิตตนไว้ได้จริง ๆ
ทันใดนั้นร่างกายของหงหยาก็ผ่อนคลาย นางเอนกายพิงร่างของโม่เพียวอย่างอ่อนแรง แล้วถอนหายใจยาว
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเห็นว่าทั้งห้องเงียบกริบ และองค์หญิงสิบสามก็ไม่พูด นางจึงได้แต่มุ่งความสนใจไปที่ถังอวี้เทียน แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “องค์ชายเก้า หงหยาไม่ตกอยู่ในอันตรายแล้วใช่หรือไม่?”
องค์ชายเก้าใช้เวลานานกว่าจะตอบสนอง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็กลืนน้ำลาย แล้วพูดด้วยความลำบากใจว่า “ด้วยเหรียญทองที่ฮ่องเต้ประทานให้ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะช่วยชีวิตของหญิงสาวคนนี้ไว้ได้ มันก็แค่… บอกข้าทีว่าเจ้าได้เหรียญทองในมือ… มาจากที่ใด?”
“ไม่จริง ไม่จริง นั่นมันของปลอม เหรียญทองนั่นต้องเป็นของปลอม” จู่ ๆ องค์หญิงสิบสามก็กรีดร้อง ก่อนจะชี้หน้าเนี่ยนเนี่ยนและตะโกนว่า “พี่เก้า อย่าหลงกลนาง เหรียญทองในมือนางต้องเป็นของปลอม มันเป็นของปลอมแน่เพคะ”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก นางหยิบเหรียญทองออกมาอีกครั้ง แล้วโยนใส่มือของถังอวี้เทียน “องค์ชายเก้าสามารถตรวจสอบได้”
ถังอวี้เทียนเป็นคนที่รอบคอบ ตอนนี้เหรียญทองอยู่ในมือของเขาแล้ว เขาย่อมต้องการตรวจดูมันให้แน่ใจ
หลังจากดูเสร็จแล้ว สีหน้าของเขาก็จริงจังมากขึ้น แล้วพูดกับองค์หญิงสิบสามที่กำลังมองดูเขาอย่างมีความหวังว่า “น้องหญิงสิบสาม เหรียญทองนี้เป็นของจริง เรื่องนี้ได้ข้อสรุปแล้ว”
“ข้าไม่เชื่อ” องค์หญิงสิบสามคว้ามันมาจากมือของเขาทันที แล้วเริ่มมองดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่หลังจากดูจนถี่ถ้วนแล้ว ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ และยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับ “เจ้าบอกมานะ ว่าเจ้าไปขโมยมันมาจากไหน? เจ้าช่างบังอาจเสียจริง ถึงขนาดกล้าขโมยเหรียญทองจากราชสำนัก “
เนี่ยนเนี่ยนอยากจะถ่มน้ำลายรดหน้านางจริง ๆ ขโมยมางั้นหรือ? จินตนาการของนางช่างบรรเจิดเสียจริง
เพียงแค่นางสะบัดตัวและพุ่งไปด้วยฝีเท้า นางก็มายืนอยู่ตรงหน้าองค์หญิงสิบสาม แล้วดึงเหรียญทองกลับคืนมา
“ช่างเป็นการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้” องค์ชายเก้าและไป๋หลิวเจวี๋ยอุทานพร้อมกัน
ดวงตาของไป๋หลิวอี้เป็นประกาย ดูเหมือนว่าแม่สาวน้อยจะประสบความสำเร็จในการฝึกวรยุทธ์แล้ว
สายตาของซูกั๋วกงเฉียบคมขึ้น ฝีเท้าเช่นนี้… เขาค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคย ดูเหมือนว่าจะเคยเห็นในดินแดนเหมิง
เขาหันกลับมาทันที แล้วก้าวไปหาไป๋อีเฟิงอย่างสงบ ก่อนจะถามเขาด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “บอกข้ามา ว่าเจ้าพบหญิงคนนี้ที่ไหน?”
ไป๋อีเฟิงแหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยใบหน้าใสซื่อ
เนี่ยนเนี่ยนเก็บเหรียญทองอีกครั้ง แล้วพูดกับโม่เพียวว่า “เจ้าช่วยพยุงสองคนนี้ขึ้นมา”
“เจ้าค่ะ” โม่เพียวรีบยื่นมือออกไปช่วยพยุงติงเซียงและหงหยา ให้ลุกขึ้นทีละคน จากนั้นเดินไปอยู่หลังเนี่ยนเนี่ยน
ฟันของหลิ่วยางยางแทบจะหัก อวี้ซีคนนี้มาจากไหนกันแน่?
องค์หญิงสิบสามสูดหายใจเข้าลึก ๆ สองครั้ง เมื่อครู่นี้ตอนที่เนี่ยนเนี่ยนคว้าเหรียญทองจากมือของนาง ก็ได้ใช้เล็บข่วนฝ่ามือของนางด้วย นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไร แต่นางรู้สึกเจ็บปวดที่นิ้วมือ และตอนนี้ก็ยังคงเจ็บอยู่
เมื่อสงบสติอารมณ์ลงได้ จึงถามนางเสียงดังว่า “เจ้าได้เหรียญทองนี้มาจากที่ใด? ถ้าเจ้าไม่สามารถบอกได้ เจ้าจะต้องตามข้าเข้าวังไปพบเสด็จพี่ บัดนี้ข้าสงสัยว่าเจ้าเป็นคนร้าย”
เนี่ยนเนี่ยนเบือนหน้าหนีเงียบ ๆ เหตุใดนางถึงยังคิดแผนการเพื่อจะฆ่านางอีก
องค์ชายเก้าไม่อาจทนได้อีกต่อไป วันนี้องค์หญิงสิบสามสร้างปัญหามากเกินไป เขาจับมือนางและเตือนด้วยเสียงแผ่วเบา “น้องหญิงสิบสาม พอแล้ว มันสายแล้ว ตามข้ากลับวัง”
องค์หญิงสิบสามไม่เต็มใจที่จะจากไป หากนางจากไปตอนนี้ นางคงเสียหน้ามากจริง ๆ แล้วนางจะไม่ถูกทุกคนเยาะเย้ยในอนาคตหรือ?
แต่องค์ชายเก้ากลับรู้สึกว่า หากนางไม่ยอมออกไปด้วยตัวเองตอนนี้ นางอาจเสียหน้ายิ่งกว่าเดิม
แม้ว่าเขาจะต้องการรู้ว่าอวี้ซีได้เหรียญทองมาจากไหน แต่ตอนนี้… ไม่ใช่เวลา นางกล้าแสดงเหรียญทองให้ทุกคนเห็นเต็มตา โดยไม่กลัวถูกถาม ดังนั้นสถานะของนางอาจมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเสด็จพ่อมาก
“พี่เก้า หากเรื่องนี้ไม่กระจ่าง เราจะอธิบายอย่างไร เมื่อเสด็จพี่ถามหลังจากกลับไปที่วัง?” องค์หญิงสิบสามยังยืนกรานจะสู้กับเนี่ยนเนี่ยนให้ได้ในวันนี้
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่นางพูดจบ จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านนอกประตู “หากท่านต้องการอธิบายต่อไท่จื่อ เหตุใดต้องกลับไปที่วังหลวงก่อนเล่า เหตุใดไม่อธิบายที่นี่เลย?”
คนในห้องอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นหญิงท่าทางเย็นชาเดินเข้ามาจากข้างนอก
เหวินหย่าทนไม่ได้มานานแล้ว เพราะอยากมาที่จวนซูกั๋วกง ตอนนี้นางสามารถยืนเคียงข้างเนี่ยนเนี่ยนได้อย่างเปิดเผย
นัยน์ตาของโม่เพียวเป็นประกาย นางรีบไปหาเหวินหย่าด้วยความตื่นเต้น “เหวินหย่า ในที่สุดเจ้าก็มา ข้ากลัวแทบตาย มีคนมากมายจะกลั่นแกล้งคุณหนูของเรา มันน่ากลัวเกินไป”
เหวินหย่าตบหัวนาง “โม่เพียว เจ้าสัญญากับข้าไว้ว่าอย่างไร? เจ้าบอกว่าจะปกป้องคุณหนูเป็นอย่างดี แล้วตอนนี้เล่า?”
โม่เพียวผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหดคอ แล้วไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเนี่ยนเนี่ยนทันทีด้วยความรู้สึกผิด
เมื่อเห็นเหวินหย่าปรากฏตัว เนี่ยนเนี่ยนก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ จึงหันไปมองโม่เพียว “เจ้าแจ้งไปหรือ?”
“มันเป็นเรื่องความเป็นความตาย ข้าคิดว่ามันจะดีกว่าหากบอกให้เหวินหย่ารู้เจ้าค่ะ” โม่เพียวหัวเราะแห้ง ๆ
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เชิญค่ะ คนตำหนักอ๋องซิวเชิญมากันให้หมดเลยค่ะ มาตบหน้าองค์หญิงบ้องตื้นนี่สักที
ไหหม่า(海馬)