อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 191 สังหารนาง
ตอนพิเศษ 191 สังหารนาง
เมื่อออกมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
ฮ่องเต้สั่งให้องครักษ์ส่งนางกลับไปที่จวนซูกั๋วกงด้วยตัวเอง
หัวหน้าไป๋ได้รับข่าวแล้ว ตอนนี้เขาจึงกำลังยืนรอนางอยู่ที่ประตู
ท่าทางของหัวหน้าไป๋แตกต่างจากครั้งก่อน ขณะนี้เห็นได้ชัดว่าเขาใจดีและนอบน้อมมากขึ้น “จวิ้นจู่ขอรับ นายท่านใหญ่ได้สั่งให้คนรับใช้ไปทำความสะอาดหอหลินเยว่ ที่อยู่ติดกับสวนจิ่นเฟิง เพื่อให้จวิ้นจู่ได้อาศัยอยู่ที่นั่นชั่วคราวก่อนขอรับ วันนี้เริ่มดึกแล้ว นายท่านใหญ่บอกว่าจวิ้นจู่ก็น่าจะเหนื่อยเช่นกัน จึงขอให้พักผ่อนก่อน แล้วค่อยแนะนำตัวจวิ้นจู่อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ขอรับ”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า แล้วพาเหวินหย่าไปยังหอหลินเยว่
ถึงยามไฮ่แล้ว มันค่อนข้างดึกไปแล้วจริง ๆ
เนี่ยนเนี่ยนนอนไม่หลับ หลังจากพลิกตัวบนเตียงสักพัก ในที่สุดนางก็ตัดสินใจลุกขึ้น เหวินหย่าได้ยินเสียงจึงเดินเข้าไปหา “เนี่ยนเนี่ยน มีอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไร ข้าแค่จะออกไปดู”
เหวินหย่าอ้าปาก แต่ไม่ได้หยุดนางไว้ นางก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ว่าแต่แม่สาวน้อยโม่เพียวหายไปไหน? นางควรจะอยู่รอให้เนี่ยนเนี่ยนกลับมาที่นี่ แต่เหตุใดพวกนางถึงไม่เห็นนางตั้งแต่กลับมา?
เนี่ยนเนี่ยนลังเลที่จะไปที่สวนจิ่นเฟิง นางไปซ่อนอยู่ใต้หน้าต่างห้องของไป๋หลิวอี้เงียบ ๆ และฟังข้างใน
ไม่มีใครอยู่หรือ? นางชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดหน้าต่างแล้วเข้าไป
ห้องเย็นสบาย แต่ไม่มีวี่แววของคน นับประสาอะไรกับตัวเขา
แปลกมาก ดึกมากแล้ว ไป๋หลิวอี้ไปไหน?
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว ยืนอยู่ในห้องครู่หนึ่ง จากนั้นลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปยังโถงเล่อฝู
โถงเล่อฝูเงียบสงัด เนี่ยนเนี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเดินเข้าไปใกล้ลานบ้านเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาดังมาจากข้างใน
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง ฮูหยินเฒ่ายังไม่นอนอีกหรือ?
นางขมวดคิ้วและกำลังจะเข้าไปแกล้งหยอกนาง ทว่าเสียงนั้นกลับดังขึ้นเล็กน้อย “ไม่เจ้าค่ะ ข้าทำไม่ได้”
รูม่านตาของเนี่ยนเนี่ยนหดลง นางกลั้นหายใจชั่วขณะ เสียงของคนพูดยังสาวมาก และค่อนข้างร้อนรน “นายน้อยเปี่ยว โปรดไว้ชีวิตบ่าวด้วยเจ้าค่ะ บ่าวไม่กล้าจริง ๆ”
นายน้อยเปี่ยว… บ่าวงั้นหรือ?
เนี่ยนเนี่ยนฟังอย่างตั้งใจ และตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเจ้าของเสียงนี้ คือเฟิงหลิงสาวใช้ข้างกายฮูหยินเฒ่างั้นหรือ?
คาดไม่ถึงเลยว่าเฟิงหลิงที่เคยอยู่ร่วมห้องกับนางนั้น เป็นคนของหลิ่วซื่อ และเฟิงหลิงคนนี้ก็เกี่ยวพันกับหลิ่วเหวย นายน้อยสกุลหลิ่ว
กลางดึกเช่นนี้ หลิ่วเหวยช่างกล้าหาญนัก ถึงได้มาที่ห้องของฮูหยินเฒ่า
เขาหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว คิดจะก่อเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า?
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตา สีหน้าของนางจริงจัง
ในไม่ช้าเสียงของหลิ่วเหวยก็ตามมา “เจ้าไม่กล้างั้นหรือ? ต่อให้ไม่กล้าเจ้าก็ต้องทำ อย่าลืมสถานะของเจ้า ถ้าเจ้ากล้าปฏิเสธอีกครั้ง ข้าจะฆ่าเจ้าและครอบครัวของเจ้าเสีย”
เฟิงหลิงแทบจะร้องไห้ “นายน้อยเปี่ยว แต่ แต่บ่าวไม่เคยทำมาก่อน ถ้าบ่าวล้มเหลว บ่าวจะยังมีชีวิตอยู่หรือเจ้าคะ?”
“ถ้าเจ้าไม่ทำเดี๋ยวก็ต้องตาย เชื่อฟังข้า รับสิ่งนี้ไปใส่ชาของนางเมื่อนางไม่สนใจ อย่ากังวล สิ่งนี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่น และจะไม่ออกฤทธิ์ทันที แม้ว่านางจะตาย ก็ไม่อาจสาวมาถึงตัวเจ้าได้” น้ำเสียงของหลิ่วเหวยแฝงไปด้วยความร้ายกาจและความโหดเหี้ยม
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว พยายามจะสังหารใครกัน? ฮูหยินเฒ่าไป๋หรือ?
“แต่ แต่ว่าอวี้ซีเป็นหมอ หากวางยานาง นางก็จะต้องรู้ตัว แล้วนางจะสามารถแก้พิษเองได้หรือไม่เจ้าคะ?” เสียงของเฟิงหลิงยังคงสั่นเครือ “อีกทั้งแม่ของนางยังเป็นหมอปีศาจด้วย ทักษะทางการแพทย์ของนางจึงไม่ธรรมดาแน่นอนเจ้าค่ะ”
“…” รูม่านตาของเนี่ยนเนี่ยนหดลง นางกะพริบตาด้วยความไม่เชื่อ
นาง นาง นางได้ยินถูกต้องแล้วหรือเปล่า คนที่หลิ่วเหวยและเฟิงหลิงแอบวางแผนสังหาร ก็คือ… นางเองหรือ?
มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า นางไม่เคยมีความบาดหมางกับพวกเขาในอดีต และปัจจุบันก็ไม่ได้มีความขุ่นเคืองใจ นางยังไม่เคยเผชิญหน้ากับหลิ่วเหวยแบบตัวต่อตัวเลย แล้วเหตุใดเขาถึงต้องการสังหารนาง?
สองคนนี้บ้าหรือเปล่า?
สีหน้าของเนี่ยนเนี่ยนเปลี่ยนไป นางรู้สึกหงุดหงิดมาก มีเพียงสี่คำในใจ ‘โชคร้ายมาแบบคาดไม่ถึง’
นางเผลอไปยั่วยุใครเข้า?
หลิ่วเหวยหรี่ตาและหัวเราะ “แม้ว่าจะแก้พิษได้ แต่ก็ต้องดูว่านางสามารถหายาสมุนไพร เพื่อนำมาทำยาแก้พิษได้หรือไม่” ยาพิษนี้แก้ยากหรือไม่ บอกเลยว่าไม่ยาก เพียงแต่วัตถุดิบที่ใช้ทำยาแก้นั้นหาได้ยากยิ่งนัก
และหากไม่แก้พิษภายในเวลาไม่กี่ชั่วยาม ต่อให้จะใช้ยาแก้พิษก็ไร้ประโยชน์
เย่ชิ่นซีเป็นลูกสาวของหมอปีศาจ แต่จากการสืบสวนของเขา ทักษะทางการแพทย์ของหญิงคนนี้ไม่ดีเท่าหมอปีศาจ นางไม่ได้มีชื่อเสียงในอาณาจักรเฟิงชาง ว่ากันว่านางรักษาคนให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่ก็เป็นเพียงคนที่ไม่ได้ป่วยหนักอย่างไป๋หลิวอี้และฮูหยินเฒ่าไป๋
เมื่อใดก็ตามที่มีคนป่วยเป็นโรคร้ายแรง ก็ดูเหมือนว่าหมอปีศาจจะเป็นคนไปรักษาด้วยตนเอง สุดท้ายแล้วนางก็ได้เย็บปักถักร้อยอยู่ในตำหนักอ๋องซิว
อีกทั้งนางยังเป็นจวิ้นจู่น้อยผู้ได้รับความโปรดปราน เป็นลูกสาวของครอบครัวที่มีชื่อเสียง แล้วนางจะพยายามเพื่อเรียนรู้เรื่องเหล่านี้อย่างหนักไปเพื่ออะไร?
เขาได้ยินหมอหลิวประจำจวนของเขาบอกว่า การเรียนหมอเป็นงานที่หนักมาก ไม่เพียงแต่ต้องจดจำสมุนไพรทั้งหมด รวมไปถึงอาการของโรค และจุดต่าง ๆ บนร่างกายเท่านั้น แต่ยังต้องมีพรสวรรค์ เวลา และพลังกายและใจอีกด้วย ตำราทางการแพทย์เหล่านั้นเพียงเล่มเดียว ก็สามารถทำให้คนรู้สึกเหมือนเป็นวัวได้ บางครั้งโรคสองโรคที่แตกต่างกัน ก็อาจจะมีอาการเหมือนกัน หากใช้ยาผิดประเภทโดยไม่ได้ตั้งใจ คนป่วยก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ บางครั้งต้องนอนเฝ้าดูสรรพคุณยาทั้งคืน หากไม่มีความกล้าหาญพอ ก็ยากที่จะเผชิญกับความเป็นความตายของคนป่วยได้
เขายอมรับว่าเย่ชิ่นซีอาจสืบทอดพรสวรรค์ของหมอปีศาจ แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะร่ำเรียนวิชาแพทย์อย่างหนัก ในเมื่อนางเป็นที่รักของผู้คนนับพัน ท่านอ๋องซิวย่อมไม่ยอมให้นางทำงานหนักเช่นนั้น
อีกทั้งนางกำลังจะแต่งงานด้วย นางจึงต้องเรียนรู้การเป็นแม่ศรีเรือน และหาความรู้ให้รอบด้าน แล้วนางจะเจียดเวลามากมายไปเรียนแพทย์ได้อย่างไร?
เช่นเดียวกับหลิ่วยางยางน้องสาวของเขา และแม้แต่หลิ่วซื่อผู้เป็นป้าของเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้วิธีการครองเรือน แม้แต่หมอปีศาจในตอนนั้น ก็เป็นได้เพราะสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ว่ากันว่าทักษะทางการแพทย์ของนาง พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะนางต้องการช่วยชีวิตลูกชายของนาง เช่นนั้นแล้วนางจะกลายเป็นหมอปีศาจรุ่นต่อไปได้อย่างไร?
สุดท้ายก็มีหมอปีศาจเพียงคนเดียว หากบอกว่าเย่ชิ่นซีจะเก่งกาจกว่าแม่ของนาง ก็คงเป็นเรื่องเหลวไหล
เฟิงหลิงยังคงไม่มั่นใจ นางเคยเห็นตอนที่เนี่ยนเนี่ยนนวดให้ฮูหยินเฒ่า
นางบอกนายน้อยเปี่ยวแล้ว แต่นายน้อยเปี่ยวไม่สนใจเลย เขามีความคิดเหยียดหยามอยู่ในใจ เขาดูถูกสตรีและเอาแต่ใจตัวเอง เขาจึงไม่รับฟัง
“เอาล่ะ เมื่อเรื่องนี้เรียบร้อย ข้าจะรับเจ้าเป็นนางบำเรอ จะได้ไม่ต้องรับใช้คนอื่นอีก ดีหรือไม่?” หลิ่วเหวยเย้าแหย่นาง
ใบหน้าของเฟิงหลิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่เก็บยาไปเงียบ ๆ
เนี่ยนเนี่ยนลอบส่ายหน้า สตรีล้วนชอบฟังคำพูดหวานหยาดเยิ้ม เห็นได้ชัดว่าหลิ่วเหวยเพิ่งจะหยอดคำหวานใส่นาง
นางส่ายหัวและแอบถอนหายใจ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างใน “ใครกำลังพูดอยู่ข้างนอก?”
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มารผจญยังไม่ปล่อยเนี่ยนเนี่ยนอีกน่ะ ต้องเจอยาแรงก่อนใช่ไหมถึงจะยอมถอย
ไหหม่า(海馬)