อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 195 รอยข่วน
ตอนพิเศษ 195 รอยข่วน
เฟิงหลิง… ตายแล้วหรือ?
คิ้วของเนี่ยนเนี่ยนขมวดทันใด นางรีบพูดกับแม่นมอวี๋ว่า “พาข้าไปดูหน่อย”
จากนั้นนางก็หันกลับมาพูดกับแม่เฒ่าไป๋ว่า “ท่านรอข้าอยู่ตรงนี้ก่อน แล้วข้าจะให้โม่เพียวเข้ามารับใช้ท่านเจ้าค่ะ”
แม่เฒ่าไป๋อยากจะไปดู แต่เมื่อเห็นสายตาแน่วแน่ของเนี่ยนเนี่ยน นางจึงต้องพยักหน้าและอยู่ต่อ
เนี่ยนเนี่ยนรีบเรียกโม่เพียวเข้ามา แล้วสั่งให้นางคอยปกป้องแม่เฒ่าที่นี่ จากนั้นตามแม่นมอวี๋ไปที่ครัวเล็กด้านหลัง
หลายคนยืนอยู่ในครัวเล็กแล้ว เหวินย่าก็ยืนอยู่ข้างคนอื่นที่ต้องการดูอย่างใกล้ชิด แต่นางก็ห้ามไม่ให้ทุกคนเข้าไปใกล้ บางคนไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นคลื่นพลังที่น่าเกรงขามของเหวินย่า พวกนางจึงต้องถอยไปด้านข้างเงียบ ๆ
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเข้ามาใกล้ นางก็ก้าวเข้ามานางอธิบายเหตุการณ์สั้น ๆ ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เมื่อนางออกมาจากห้องครัว จู่ ๆ นางก็ล้มลงสิ้นใจอยู่บนพื้น ไม่ทราบสาเหตุการตาย”
เสียชีวิตกะทันหัน… มีหลายสาเหตุ
เนี่ยนเนี่ยนก้าวไปข้างหน้า แล้วถามขณะที่เดินไปว่า “ไม่เห็นใครโจมตีใช่หรือไม่?”
“ไม่มี” เหวินย่ายังคงมีความมั่นใจในตัวเอง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะมีใครกล้าลงมือใต้จมูกนางอย่างแนบเนียน
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว อาจเป็นเพราะเฟิงหลิงเองงั้นหรือ?
ขณะที่นางคิด นางก็เดินไปอยู่ข้างเฟิงหลิงแล้ว สาวใช้รอบกายนางกำลังคุยกันเรื่องนี้เบา ๆ เมื่อเห็นนางและแม่นมอวี๋เข้ามาพร้อมกัน พวกนางทุกคนก็ถอยไปยืนห่าง ๆ ด้วยความเคารพ
เนี่ยนเนี่ยนย่อตัวลงมองเฟิงหลิง
สีหน้าเฟิงหลิงนั้นดูสงบมาก ไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ ทั้งยังมีรอยยิ้มอ่อนที่มุมปากด้วย
เกรงว่านางคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่นางจะตาย
แม่นมอวี๋ที่อยู่ข้าง ๆ ถามว่า “เมื่อครู่นี้ ใครในบรรดาพวกเจ้ายืนอยู่แถวนี้ เห็นหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“… ข้า ข้ากำลังจะเข้าไปในครัว ข้าเห็นเฟิงหลิงจึงทักทายนาง” สาวใช้ตัวน้อยน่ารักลุกขึ้นยืนตัวสั่น ขณะพูดว่า “เฟิงหลิงบอกว่ากำลังจะเตรียมอาหารมังสวิรัติให้ท่านแม่เฒ่าและจวิ้นจู่ แต่จู่ ๆ นางก็ล้มลงกับพื้นขณะเดินอยู่ ข้าตกใจมาก เมื่อเดินไปหานาง ก็พบว่านางหมดลมหายใจเสียแล้วเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนหันไปมองเหวินย่า เหวินย่าพยักหน้า แสดงว่าเป็นจริงดังที่นางพูด
แม่นมอวี๋ถามคนอื่น ๆ มีสาวใช้และคนรับใช้ไม่มากนักในห้องครัวเล็ก จึงมีคนเห็นเหตุการณ์น้อย พวกเขาย่อมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง พวกเขาก็ทำได้เพียงมุ่งความสนใจไปที่สาวใช้คนนี้
สายตาของพวกเขาฉายคลางแคลงใจ เฟิงหลิงคุยกับนางก่อนที่จะเสียชีวิต จากนั้นก็ตายอย่างอธิบายไม่ได้…
ใบหน้าของสาวใช้ซีดเซียว นางคุกเข่าลงเสียงดัง แล้วรีบบอกแม่นมอวี๋ว่า “ไม่ได้เป็นเพราะข้า ข้าไม่เกี่ยวจริง ๆ ข้าแค่ทักทายนาง ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น”
คนรับใช้รอบ ๆ เริ่มกระซิบกัน และเว้นระยะห่างจากนางเล็กน้อยโดยไม่มีเหตุผล
เนี่ยนเนี่ยนเห็นแล้วก็แอบถอนหายใจ จะว่าไปแล้ว สาวใช้ในเรือนของแม่เฒ่า แตกต่างจากสาวใช้ในเรือนของไป๋หลิวอี้ อย่างน้อยก็ในแง่ของความสามัคคีปรองดอง ที่ไม่อาจเทียบกันได้เลย
แม่เฒ่าอายุมากขึ้น จึงไม่มีอำนาจมากพอ สาวใช้และคนรับใช้ที่อายุยังน้อยเหล่านี้ ดูเหมือนจะระมัดระวังเล็กน้อย และมองหาทางออกเตรียมไว้เผื่อแม่เฒ่าจากไป
เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้เอ่ยคำใด นางก้มหน้าลงตรวจสอบศพของเฟิงหลิง
วางยาพิษ!!
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว ใช่แล้ว เฟิงหลิงตายเพราะถูกวางยาพิษจริง ๆ
นางบีบมุมปากของเฟิงหลิง แล้วมองไปที่ลิ้นและฟันของนาง แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
ไม่ได้รับพิษทางปาก
นางมองไปที่คอและหัวอีกครั้ง แต่ก็ปราศจากร่องรอย
ในที่สุดสายตาของเนี่ยนเนี่ยนก็จับจ้องไปที่มือของเฟิงหลิง
ขณะที่นางกำลังจะหยิบมือซ้ายขึ้นมา ก็มีเสียงเอะอะดังมาจากด้านหลัง คนรับใช้ที่อยู่รอบ ๆ ต่างหลีกทางออกไป จากนั้นก็เห็นหลิ่วซื่อรีบวิ่งมาพร้อมกับสาวใช้ข้างกาย
นางมาที่นี่หลังจากรู้ข่าว แม้ว่าเฟิงหลิงจะเป็นสาวใช้ แต่นางก็อยู่เคียงข้างแม่เฒ่า นางเสียชีวิตอย่างแปลกประหลาดตอนกลางวันแสก ๆ เรื่องนี้จึงค่อนข้างร้ายแรง
ยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่เนี่ยนเนี่ยน เข้าจวนซูกั๋วกงอย่างเป็นทางการในฐานะจวิ้นจู่ หลิ่วซื่อจึงต้องรีบมา
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่มาถึง จะเห็นเนี่ยนเนี่ยนสัมผัสศพ นางจึงรีบพูดว่า “จวิ้นจู่รีบลุกขึ้นก่อนเจ้าค่ะ เฟิงหลิงผู้นี้ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องให้คนมาตรวจสอบกันก่อน การตายอย่างกะทันหันเช่นนี้ อาจเป็นเพราะติดเชื้อโรคบางอย่าง หากมันทำร้ายจวิ้นจู่ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงเจ้าค่ะ”
‘ฟึ่บ’ ทุกคนตกตะลึงและตอบสนองทันที ด้วยการถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อให้ห่างจากเฟิงหลิง
ใช่แล้ว การเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ก็มีโอกาสที่จะเกิดจากโรคบางชนิดเช่นกัน
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ หวังว่าจะไม่ใช่โรคระบาด ไม่เช่นนั้นต้องแย่เป็นแน่
แม่นมอวี๋ก็หน้าซีด จากนั้นนางก็รู้สึกตัว นางรีบดึงเนี่ยนเนี่ยนออกมา “จวิ้นจู่ ท่านอย่าแตะต้องมันเลยเจ้าค่ะ” นางสับสนมาก เหตุใดนางจึงไม่คิดถึงเรื่องนี้?
แม่นมอวี๋ยังคงตกใจ นางรีบหันหน้าไปสั่งสาวใช้ด้านข้างว่า “รีบไปเอาน้ำร้อนมาให้จวิ้นจู่ล้างมือเร็ว”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก พวกนางลืมไปแล้วหรือว่านางเป็นหมอ และมีทักษะทางการแพทย์ ‘นิด ๆ หน่อย ๆ’ นางสามารถบอกได้ว่าเป็นโรคติดเชื้อหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก
นางจับมือแม่นมอวี๋เพื่อปลอบโยน จากนั้นหันไปพูดกับหลิ่วซื่อว่า “ท่านป้าไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ ข้าเพิ่งตรวจดู มันไม่ใช่โรคติดต่อ แม้ว่าเฟิงหลิงจะสิ้นใจทันที แต่ก็ไม่ใช่เพราะโรคภัยไข้เจ็บ แต่เป็นเพราะถูกวางยาพิษเจ้าค่ะ”
“ถูกวางยาพิษหรือ?” หลิ่วซื่อผงะ เฟิงหลิงจะถูกวางยาพิษได้อย่างไร? ใครอยากจะโจมตีสาวใช้เช่นนี้?
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นแอบชิงดีชิงเด่นกันระหว่างสาวรับใช้?
หลิ่วซื่อขมวดคิ้ว “แล้วจวิ้นจู่รู้หรือไม่ว่าเฟิงหลิงถูกวางยาพิษได้อย่างไร? และมันเป็นพิษชนิดใด?”
ในฐานะที่หลิวซื่อเป็นฮูหยินของซูกั๋วกง เมื่อคนในจวนถูกวางยาโดยใครบางคน เรื่องนี้นางจึงต้องรับผิดชอบไม่น้อยเลย จึงต้อง… ค่อนข้างจริงจัง
เนี่ยนเนี่ยนย่อตัวลงอีกครั้ง จากนั้นเริ่มตรวจสอบมือของเฟิงหลิง
มือซ้ายของนางไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เมื่อมองข้อมือขวา คิ้วของนางก็ขมวดทันที
ข้อมือขวาของเฟิงหลิงมีรอยข่วนอยู่สามรอย และดูเหมือนว่าที่บาดแผลมีสีฟ้าติดอยู่ และเลือดก็จับตัวเกรอะกรัง
เหวินย่าที่อยู่ด้านข้างก็เห็นเช่นกัน “นี่คือ…”
เมื่อเห็นสีหน้าของพวกนาง ทุกคนก็รีบมองตาม มีคนร้องออกมาว่า “มันคือรอยเล็บแมวข่วน”
รอยเล็บแมว… นั่นมันแมวที่แม่เฒ่าเลี้ยงไว้ไม่ใช่หรือ?
เนี่ยนเนี่ยนและเหวินย่ามองหน้ากัน แล้วพูดเสียงเข้มว่า “พิษเข้าสู่ร่างกายของเฟิงหลิงผ่านกรงเล็บแมว ทำให้นางตาย”
สีหน้าของแม่นมอวี๋เปลี่ยนไปอย่างมาก นางรีบหันไปถามเสียงดังว่า “ตอนนี้เสี่ยวฮวาอยู่ที่ใด?”
เสี่ยวฮวาเป็นชื่อของแมวตัวนั้น