อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 197 ผงประหลาด
ตอนพิเศษ 197 ผงประหลาด
“ฮูหยิน พวกเราพบผงประหลาดอยู่ตรงมุมที่เสี่ยวฮวาเหวินนอนเมื่อครู่นี้เจ้าค่ะ” หญิงคนนั้นเทผงที่ว่าลงบนกระดาษอย่างระมัดระวัง แล้วยื่นให้หลิ่วซื่อ
หลิ่วซื่อไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องขวด เมื่อเห็นผงนั้นก็ยิ่งไม่กล้าแตะต้อง นางยิ้มเจื่อน แล้วบอกให้ส่งให้เนี่ยนเนี่ยน
เนี่ยนเนี่ยนยังคงมีรอยยิ้ม จากนั้นก็บอกให้คนหาห้องว่างให้นาง และนำทุกอย่างเข้าไปตรวจสอบ
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ผลลัพธ์ก็ออกมา
“ผงในขวดนี้เหมือนกับยาพิษที่สังหารเฟิงหลิง และเป็นแบบเดียวกับผงที่พบในอุ้งเท้าแมว และตามมุมห้องด้วย ปริมาณยาที่เหลือในขวดมีไม่ถึงครึ่ง ดูจากผงยาที่ติดอยู่ที่ปากขวด ก็ดูเหมือนว่าน่าจะมีคนทำหกโดยไม่ได้ตั้งใจ…”
เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจนนัก แต่แม่นมอวี๋และหลิ่วซื่อต่างก็เข้าใจได้
แม้แต่อาหลานที่อยู่ด้านข้างก็พูดทันทีว่า “แสดงว่ายาพิษนั้นจึงเป็นของเฟิงหลิงเอง มันหกโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วแมวก็เดินไปเหยียบมัน จากนั้นแมวก็ข่วนเฟิงหลิง ทำให้นางถูกพิษจนตายใช่หรือไม่? แต่คำถามคือพิษนั้นมาจากไหน? เฟิงหลิงมียาพิษนี้ได้อย่างไร?”
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก ประเด็นสำคัญของเรื่องอยู่ตรงนี้ไม่ใช่หรือ?
ในขณะนี้ ความสนใจของทุกคนจึงเริ่มเปลี่ยนจากการตายของเฟิงหลิง ไปสู่ที่มาของยาพิษที่เฟิงหลิงครอบครอง
หลิ่วซื่อหันมองเนี่ยนเนี่ยน แล้วถามนางว่า “จวิ้นจู่ ยาพิษนี้… มีคุณสมบัติอย่างไรเจ้าคะ?”
“ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีพิษร้ายแรง และยาแก้พิษยังเตรียมได้ยากมาก ผู้ที่ถูกพิษจะไม่รู้สึกอะไรเลยในตอนนั้น และเสียชีวิตอย่างลึกลับหลังจากนั้นไม่นาน เช่นเดียวกับที่เฟิงหลิงเป็น” เนี่ยนเนี่ยนกล่าวอย่างเชี่ยวชาญ “ยาพิษนี้ของเฟิงหลิงมาจากไหน? นางซ่อนยาพิษไว้เพื่ออะไร?”
ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ตรงหน้าล้วนบึ้งตึง แม่นมอวี๋กำมือแน่นยิ่งขึ้น “เฟิงหลิงจะคิดจะทำร้ายใครหรือเปล่าเจ้าคะ?”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น นางก็ทำตัวนางเอง ถือว่ากรรมตามสนองแล้ว” หลิ่วซื่อก็มีท่าทางจริงจังเช่นกัน
“ข้าจะรายงานเรื่องนี้กับฮูหยินเฒ่าก่อน ฮูหยิน ฝากที่นี่ด้วยนะเจ้าคะ” แม่นมอวี๋โค้งคำนับให้หลิ่วซื่อ แล้วเดินไปห้องหลักทันที
ยาพิษอยู่ใกล้ตัวฮูหยินเฒ่ามาก เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกได้ว่ามีเหงื่อเย็นท่วมเต็มแผ่นหลัง ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
ฮูหยินเฒ่ากำลังเอนกายหลับตาพิงหัวเตียง เมื่อเห็นเนี่ยนเนี่ยนและแม่นมอวี๋เข้ามาพร้อมกัน นางก็รีบยืดตัวขึ้น แล้วถามพวกนางว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”
แม่นมอวี๋ก้าวเข้าไปอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ฮูหยินเฒ่าขมวดคิ้วแน่น “เช่นนั้น เฟิงหลิงก็ถูกฆ่าด้วยยาพิษของตัวเองงั้นหรือ?”
“เกรงว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมอวี๋พูดถึงปิ่นปักผมมุก “เฟิงหลิงมีปิ่นปักผมมุกราคาแพงระยับอยู่กับตัว ข้าได้ยินจากเฟิงอู่ว่าช่วงนี้เฟิงหลิงให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาตัวเองมาก ทั้งยังเต็มใจซื้อแป้งชาดมาประทินโฉมด้วย พฤติกรรมนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ทั้งการแต่งตัวก็ประณีตขึ้นมาก บ่าวเองก็ยังรู้สึกว่าช่วงนี้เฟิงหลิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย และเมื่อคืนนี้ บ่าวได้ยินชัดเจนว่านางคุยกับใครบางคนข้างนอก แต่เมื่อออกไปถามนาง นางก็บอกว่านางกำลังตามหาแมวอยู่ หากนางกำลังหาแมว แล้วจะมีเสียงพูดคุยได้อย่างไรเจ้าคะ?”
นางรู้สึกแปลกใจในตอนนั้น แต่ด้วยเป็นเวลาดึกแล้วและนางก็ค่อนข้างง่วง จึงคิดว่าตนหูฝาดไป แต่ตอนนี้เมื่อนางคิดอย่างรอบคอบอีกครั้ง เฟิงหลิงจะต้องแอบคุยกับคนอื่นเป็นแน่
เนี่ยนเนี่ยนเหลือบมองแม่นมอวี๋ นับว่ามีคนฉลาดอยู่เคียงข้างฮูหยินเฒ่าแล้ว
สีหน้าของฮูหยินเฒ่าไป๋จริงจังยิ่งขึ้น คิ้วของนางแทบจะขมวดเป็นปม “มันไม่สมเหตุสมผลเลย จิตใจของนางเลวร้ายเพียงใด? นางจะใช้ยาพิษที่ติดตัวไปทำร้ายใคร?”
แม่นมอวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยความกังวลว่า “จวิ้นจู่บอกว่ายาพิษนี้ต่างจากยาพิษชนิดอื่น คนถูกพิษจะไม่แสดงอาการอะไรเลย หากเฟิงหลิงมีความคับข้องใจกับสาวใช้คนอื่น ก็คงไม่ลงทุนใช้ยาพิษหายากและแพงถึงเพียงนี้ เพื่อนำมาทำร้ายคนอื่นหรอกเจ้าค่ะ เกรงว่า… คนที่นางจะทำร้าย… จะเป็นเจ้านายในจวนเราเจ้าค่ะ”
สิ่งที่แม่นมอวี๋ไม่ได้พูดก็คือ ในบรรดาเจ้านายเหล่านั้น ฮูหยินเฒ่ามีความเป็นไปได้สูงสุด
ต้องมีคนอื่นมอบยาพิษให้เฟิงหลิง ต้องมีใครบางคนอยู่เบื้องหลัง ผู้บงการเบื้องหลังจะทำร้ายสาวใช้ธรรมดาได้อย่างไร? คนผู้นั้นไม่ได้มองใคร แต่กลับมองสาวใช้ข้างกายฮูหยินเฒ่า หากไม่ต้องการทำร้ายฮูหยินเฒ่า แล้วจะทำร้ายใครได้อีก?
“ตรวจสอบ เรื่องนี้ต้องตรวจสอบ ตรวจสอบดูให้กระจ่างแจ้ง” ฮูหยินเฒ่าไป๋พูดขึ้นทันที น้ำเสียงของนางหนักแน่น
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้นก็มีใครบางคนเปิดม่านประตูอย่างแรง แล้วเดินเข้ามา
ทันทีที่คนในห้องเงยหน้าขึ้น ก็เห็นซูกั๋วกงเดินมาหาฮูหยินเฒ่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ?”
ทันทีที่ออกมาจากวังหลวง เขาก็เห็นว่าหัวหน้าไป๋ส่งคนไปรอเขาที่ประตูวังหลวง โดยบอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่จวน
หลังจากที่เขาเข้ามาในจวน หัวหน้าไป๋ก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดทันที
เมื่อไป๋ชูเฟิงได้ยินว่าสาวใช้ในห้องของฮูหยินเฒ่าซ่อนยาพิษไว้ เขาก็รีบไปหาทันที และรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าฮูหยินเฒ่าปลอดภัยดี
“ชูเฟิง เรื่องนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด” ฮูหยินเฒ่าไป๋จับมือของไป๋ชูเฟิงแน่น แล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า “มีใครบางคนกำลังพยายามทำร้ายคนในครอบครัวของเรา เราจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้”
ไป๋ชูเฟิงพยักหน้า “ท่านแม่อย่ากังวลเลยขอรับ ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร”
เขาลูบหลังมือของฮูหยินเฒ่าไป๋ จากนั้นหันไปพูดกับเนี่ยนเนี่ยนว่า “เนี่ยนเนี่ยน ลองจับชีพจรท่านแม่ดู ว่ามีพิษอยู่ในตัวนางหรือไม่”
นางควรทำใจให้สบายมากกว่านี้
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า แล้วก้าวเข้าไปตรวจฮูหยินเฒ่าไป๋
“ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ตราบใดที่ฮูหยินเฒ่ากินอาหารมังสวิรัติมากขึ้น ร่างกายของนางก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ” เป็นประเด็นเดิมอีกแล้ว เมื่อนางพูดถึงอาหารมังสวิรัติ ทุกคนในห้องก็หัวเราะ
ฮูหยินเฒ่าไป๋พ่นลมหายใจ แล้วเขกหัวนาง “เจ้านี่นะ”
เนี่ยนเนี่ยนยิ้ม แล้วพูดกับไป๋ชูเฟิงว่า “ท่านลุงไป๋ ท่านไปทำงานเถิดเจ้าค่ะ ฮูหยินเฒ่ามีข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะปกป้องนางเองเจ้าค่ะ”
“รบกวนเจ้าแล้ว” จากนั้นไป๋ชูเฟิงก็หันหลังเดินจากไป
ปัญหาในจวนซูกั๋วกงได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและจริงจัง ซูกั๋วกงนั่งลงตรวจสอบพิษที่เฟิงหลิงซ่อนเอาไว้ด้วยตัวเอง โดยไม่กลัวว่าการเอะอะใหญ่โตจะทำให้เรื่องแย่ลง
เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องปกปิดและค่อย ๆ สืบสวนอีกต่อไป
ซูกั๋วกงสงสัยว่าคนนอกจวนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อาจเป็นศัตรูคู่แค้นของเขาเอง หรือศัตรูทางการเมืองก็ได้ การเคลื่อนไหวใหญ่โตของเขา อาจทำให้อีกฝ่ายเปิดเผยตัวตนออกมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้
ความตั้งใจเดิมของเนี่ยนเนี่ยนยังคงเหมือนเดิม แม้ว่านางจะรู้ว่าใครคือฆาตกรอยู่ในใจ แต่คนตระกูลหลิ่วก็มีเพียงบทบาทเล็ก ๆ ก่อนที่คนที่อยู่เบื้องหลังจะถูกเป่ยเป่ยสอบสวน ยิ่งมีคนรู้น้อยก็ยิ่งดี
ทว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ ซูกั๋วกงก็เตรียมพร้อมรับมือ และยิ่งเพิ่มความระมัดระวังขึ้น ซึ่งสุดท้ายก็นับว่าเป็นประโยชน์
สามวันต่อมา เหตุการณ์ก็เป็นไปแบบเหนือความคาดหมายของทุกคน
………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จะมีเรื่องราวหักมุมอะไรอีกไหมน้า ไม่ใช่ว่าที่เดาๆ มาผิดหมดนะ
ไหหม่า(海馬)