อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 200 ชัดเจนว่าจงใจ
ชตอนพิเศษ 200 ชัดเจนว่าจงใจ
วินาทีต่อมา หน้าต่างก็เปิดออกเงียบ ๆ และศีรษะหนึ่งค่อย ๆ โผล่เข้ามา
ไป๋หลิวอี้หรี่ตาลง รอยยิ้มอ่อนปรากฏที่มุมปาก จากนั้นก็รีบหลับตาลง
เนี่ยนเนี่ยนพลิกตัวเข้ามาทางหน้าต่างลงสู่พื้นเงียบ ๆ เมื่อนางมาถึงเตียงของไป๋หลิวอี้แล้วเห็นว่าเขากำลังนอนหลับอยู่ นางก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจเบา ๆ
“ต่อให้เจ้าจะโกรธ แต่ไม่ยอมอยู่บ้านเช่นนี้ก็ได้หรือ? เรื่องใหญ่แบบนี้ข้าจะยอมให้เจ้าแก้แค้นแล้วกัน” เนี่ยนเนี่ยนนั่งลงบนขอบเตียง แล้วมองหน้าเขาใกล้ ๆ เมื่อสังเกตเห็นว่าใต้ตาของเขามีรอยคล้ำ นางก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ดูเหมือนจะไม่ได้นอนมาสองสามวันแล้ว นี่คือการทรมานตัวเองแล้วไม่ใช่หรือ?”
ไป๋หลิวอี้แทบกลั้นหัวเราะไม่ได้ นางคิดว่าที่เขาไม่กลับจวนสองสามวันเป็นเพราะเขาโกรธนางงั้นหรือ? แม่สาวน้อยนี่ช่าง…
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก ค่อย ๆ ยื่นนิ้วออกมาแตะบนเปลือกตาของเขา
ปลายนิ้วนุ่มนิ่มของนางช่างอ่อนโยนนัก การสัมผัสเช่นนั้นชวนให้รู้สึกดี จนไป๋หลิวอี้แทบจะพ่นลมหายใจออกมาด้วยความสบาย
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่ายิ่งมองดูอีกฝ่ายก็ยิ่งดูดี ปลายจมูกโด่งคมสัน ริมฝีปากบางได้รูป ผิวพรรณเนียนละเอียดกว่าคนทั่วไป หากคนเช่นนี้มีลูก ลูกที่เกิดมาก็จะต้องดูดีเช่นกัน
ขณะที่นางคิดในใจ นิ้วของนางก็เริ่มขยับโดยไม่รู้ตัว
“…” ไป๋หลิวอี้อดขมวดคิ้วไม่ได้ หากแค่ใช้นิ้วแตะเปลือกตาเงียบ ๆ ก็ไม่เป็นอะไร แต่การลูบไล้ไปมาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? จะแกล้งเขาหรือ?
ประมาทโดยไม่นึกถึงผลที่จะตามมาเลย
เปลือกตาที่ถูกสัมผัสเริ่มร้อนผ่าว จิตใจของไป๋หลิวอี้สั่นสะท้าน ในที่สุดเขาก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขาลืมตาทันที ขณะที่นางกำลังงุนงงอยู่นั้น เขาก็เอื้อมมือไปโอบเอวนาง แล้วดึงนางนอนลงบนเตียงด้วยกันทันที
“อ๊า…” เนี่ยนเนี่ยนกรีดร้อง เขารีบปิดปากนางทันที
นางมองคนที่อยู่บนตัวนางด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของนางเบิกกว้างขณะพึมพำว่า “เจ้า เจ้าตื่นแล้วหรือ?”
“ข้ากำลังจะนอน แต่เจ้าเข้ามาปลุกข้า”
คนโกหก ไม่เห็นมีวี่แววของความง่วงงุนในดวงตาของเขาเลย
นางจ้องมองเขาด้วยความโกรธ ไป๋หลิวอี้ก็มองนางด้วยรอยยิ้ม “เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่?”
เนี่ยนเนี่ยนนึกถึงจุดประสงค์ของตัวเองได้ทันใด และรีบละสายตาจากเขา หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของนางก็อ่อนโยนลง และกลายเป็นใสซื่อทันที “ข้ามาที่นี่เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต”
ไป๋หลิวอี้ตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าเนี่ยนเนี่ยนจะมีความสามารถเช่นนี้ด้วย นางเปลี่ยนอารมณ์เร็วกว่าเปลี่ยนหน้าหนังสืออีก
แต่ว่า เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่า… น่าสนใจมาก?
“อันที่จริงเจ้าไม่ต้องปิดบังข้าหรอก ข้ารู้ว่าการที่ข้าปกปิดตัวตนของตัวเองนั้นไม่ดีเลย แต่… ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำ เพราะอย่างไรเสีย ข้าก็ไม่เคยรู้จักเจ้ามาก่อน ใช่หรือไม่? จู่ ๆ ก็มาให้ข้าแต่งงานกับเจ้า ข้าจึงรู้สึกตื่นตระหนก ข้าจึงอยากรู้จักเจ้ามากขึ้น ข้าจึงต้องปลอมตัวเป็นสาวใช้ เพื่อดูว่าเจ้าเป็นคนเช่นไร…”
ตื่นตระหนกงั้นหรือ? ไป๋หลิวอี้เลิกคิ้วขึ้น “แล้วเจ้ารู้หรือยังว่าตอนนี้ข้าเป็นคนเช่นไร? เจ้าคิดอย่างไรกับข้า? แล้วเจ้ายังตื่นตระหนกอยู่หรือเปล่า?”
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าท่าทางของนางกับเขาตอนนี้ค่อนข้างแปลก ดูไม่เหมาะสม
แต่นางรู้สึกผิดอยู่ในใจ จึงไม่กล้าขยับตัว ทำได้เพียงปล่อยให้ตัวเองอยู่ใต้ร่างของเขาเช่นนี้ด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“ข้าคิดว่าเจ้าเป็น… คนดีมาก”
ไป๋หลิวอี้ก็หัวเราะ “แค่นั้นเองหรือ?”
“คนดีมาก สามคำนี้ก็เยอะพอแล้ว…” ความจริงยังมีความรักและความชื่นชมที่นางมีต่อเขา รวมถึงคำขอโทษในใจนางด้วย
ไป๋หลิวอี้อารมณ์ดีทันที ในที่สุดเขาก็พลิกตัวนอนตะแคง เหมือนกับจะปล่อยนางไป แต่แขนของเขายังคงโอบกระหวัดรอบเอวของนางไว้
ตอนนี้นางเป็นคู่หมั้นที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาแล้ว เขาสามารถเพลิดเพลินไปกับสิทธิ์อันชอบธรรมของตัวเองได้แล้ว
เนี่ยนเนี่ยนลอบถอนหายใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา
ไป๋หลิวอี้มองม่านเตียงเหนือหัว แล้วพูดเสียงเบาว่า “ข้าคิดว่า… เจ้าก็ดีมากเช่นกัน แต่เจ้ายังเป็นสาวใช้ได้ไม่ดีพอ”
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง “มันแย่ถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”
ไป๋หลิวอี้เลิกคิ้วขึ้น “แน่ใจหรือว่าอยากให้ข้าบอก?”
เนี่ยนเนี่ยนเริ่มรู้สึกผิดอีกแล้ว อันที่จริงนางก็รู้ตัวอยู่แล้วว่านาง… ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นสาวใช้จริง ๆ หากจะบอกว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ไม่เหมาะ ก็คงพูดเป็นข้อได้เต็มปากเต็มคำว่า หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า
เมื่อคิดได้ดังนั้น นางก็รีบเปลี่ยนเรื่อง “เจ้าดูเหนื่อยมาก เมื่อคืนเจ้านอนไม่ค่อยหลับหรือเปล่า?”
“อืม ข้าไม่ได้นอนมาสองวันแล้ว”
“…” เนี่ยนเนี่ยนลุกขึ้นนั่งทันที แล้วขมวดคิ้วมองเขา “เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องพูดมาก รีบนอนเถอะ”
เมื่อคิดว่ามันไม่ปกติ นางก็เอื้อมมือไปเปิดดูบาดแผลที่เขาได้รับบาดเจ็บครั้งล่าสุด
ไป๋หลิวอี้สูดลมหายใจเบา ๆ สีหน้าของเนี่ยนเนี่ยนเปลี่ยนไป นางเห็นว่าบาดแผลของเขามีการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ
นางหงุดหงิดทันที “เจ้านี่มัน…”
นางรีบพลิกตัวลุกขึ้นจากเตียง แล้วกระโดดออกจากหน้าต่างไปทันที
“…” มุมปากของไป๋หลิวอี้กระตุก นางลืมไปหรือเปล่าว่าห้องของเขามีประตูอีกบาน?
หลังจากนั้นไม่นาน เนี่ยนเนี่ยนก็กลับเข้ามาทางหน้าต่างอีกครั้ง
ไป๋หลิวอี้ยังไม่ทันได้เตือนนาง เนี่ยนเนี่ยนก็เริ่มรักษาบาดแผลของเขาแล้ว
จากนั้นนางก็หยิบยาออกมายัดเข้าไปในปากของเขา แล้วพูดเสียงเรียบว่า “กลืนลงไป”
ไป๋หลิวอี้รู้สึกว่า การที่เนี่ยนเนี่ยนมาช่วยรักษาบาดแผล และรักษาอาการป่วยของเขานั้น… ช่างกล้าหาญเป็นพิเศษ
เขากลืนลงไปอย่างเชื่อฟัง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกว่าเปลือกตาหนักอึ้ง และรู้สึกง่วงนอน
แม่สาวน้อยนี่ให้ยานอนหลับ เพื่อทำให้เขาหลับสนิทงั้นหรือ?
เขาหัวเราะ เมื่อเห็นเนี่ยนเนี่ยนจัดเสื้อผ้าของเขากลับเข้าที่ เขาก็คิดว่ายังมีเรื่องที่เขายังไม่ได้พูด เขาจึงทำได้เพียงหลับตาลง แล้วพูดด้วยความยากลำบากว่า “มีอีกเรื่องที่ข้าลืมบอกเจ้าไป”
เนี่ยนเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้น “เจ้าค่อยบอกตอนตื่นแล้วก็ได้”
ไป๋หลิวอี้เม้มปาก แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ช่วงนี้ที่ข้าไม่อยู่จวน ข้าไม่ได้หลบหน้าเจ้า ไม่ได้โกรธเจ้า แต่เป็นเพราะจู่ ๆ ไท่จื่อก็สั่งให้ข้าทำภารกิจ…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็หลับสนิทไปแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนตัวแข็งทื่อไปหมด ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเหมือนมีม้านับพันตัววิ่งห้ออยู่ในใจ
หมายความว่าอย่างไร? สรุปคือนางรู้สึกผิดไปเองทั้งหมดงั้นหรือ?
แล้วเหตุใดเขาถึงไม่บอกตั้งแต่แรก แต่รอจนกว่านางจะกล่าวคำขอโทษมากมาย ก่อนที่จะอธิบายถึงสาเหตุที่เขาหายไปจากจวนไป๋ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา… ชัด เจน ว่า จงใจ!
เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองชายผู้หลับใหลด้วยสายตาดุร้าย ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไปลูบหน้าเขาแรง ๆ หยิกแก้มเขาสองครั้ง จากนั้นก็ชักมือออกด้วยสีหน้าโล่งใจ เมื่อเห็นแก้มแดงระเรื่อของเขาที่เกิดจากการที่นางลูบ นางก็ถอนหายใจ
หลังจากนั่งอยู่บนขอบเตียงครู่หนึ่ง นางก็พ่นลมหายใจ ขณะห่มผ้านวมให้เขาอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นยืนขึ้น แล้วเดินออกไปทางประตูอย่างสง่างาม
อาเวินที่กำลังเดินมาทางนี้พลันตกตะลึง เขาหันไปมองนาง และแน่ใจว่าเขาไม่เห็นเนี่ยนเนี่ยนจวิ้นจู่เข้ามา นางมาจากทางไหน?
เนี่ยนเนี่ยนเดินมาหาเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “คุณชายใหญ่ของพวกเจ้าหลับไปแล้ว อย่าเข้าไปรบกวนเขา”
“…” อาเวินมีสีหน้าแปลกใจ
เนี่ยนเนี่ยนเดินออกจากสวนจิ่นเฟิง คาดไม่ถึงว่าเมื่อนางก้าวไปเพียงสองก้าว ก็ได้ยินเสียงแหลมดังมาจากทางด้านซ้ายของสวน
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ชอบคู่นี้จัง มันดูรู้ทันกันอยู่ในทีอะ แต่เนี่ยนเนี่ยนต้องตามคุณชายใหญ่ให้ทันนะ
ไหหม่า(海馬)