อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 201 ขอบคุณ
ตอนพิเศษ 201 ขอบคุณ
เนี่ยนเนี่ยนหันไปมองด้วยความประหลาดใจ แลเะห็นร่างที่คุ้นเคยยืนหันหลังให้นางอยู่ไม่ไกล
หญิงสาวสองคนที่ยืนอยู่ข้างหน้านาง ดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้น เมื่อได้ยินหญิงคนหนึ่งพูดว่า “ติงเซียง อย่าโทษพวกเราเลย ใครบอกให้เจ้ามาสายเองเล่า เราไม่อาจจุดเตาให้เจ้าใหม่ได้หลังจากเพิ่งกินข้าวเสร็จใช่หรือไม่? เจ้าเป็นหัวหน้าสาวใช้ในเรือนคุณชายใหญ่ไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่ไปกินในครัวเล็กของสวนจิ่นเฟิงล่ะ? เจ้าได้กินของดีกว่านี้ไม่ใช่หรือ?”
“ไอ้หยา ว่านชิง เจ้าอย่าพูดเช่นนั้น มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่ไม่กลับมาหลายวันแล้ว ทุกวันนี้ครัวเล็กในสวนจิ่นเฟิงจึงไม่ได้จุดเตา และไม่มีวัตถุดิบด้วย แม่นางติงเซียงอาจจะลำบากใจ ที่จะมาร่วมเบียดเสียดกินข้าวกับพวกเราในครัวใหญ่ ช่างไม่เหมาะสมเลย”
“ก็จริง แต่แม่นางติงเซียงได้เงินเดือนเยอะ ต่อให้ครัวใหญ่จะปิดเตาแล้ว ก็ยังสามารถขอคนออกไปซื้อของกินข้างนอกได้ ช่างสะดวกสบายนัก”
“ไม่ได้แล้ว ตอนนี้การจัดการเรือนชั้นในและเรือนชั้นนอกเข้มงวดแล้ว นายท่านใหญ่ได้อธิบายแล้ว ว่าไม่อนุญาตให้ไปซื้อของส่วนตัว”
“เช่นนั้นแม่นางติงเซียงก็คงได้แต่หิว แต่จะไม่ตายเพราะความอดอยากหรอก เพราะแม่นางติงเซียงคงไปหาแม่นางเหวินหย่าและแม่นางโม่เพียวที่หอหลินเยว่ได้ ตอนนี้พวกนางสองคนเป็นคนดังในจวน หากเข้าไปพูดด้วยดี ๆ บางทีอาจจะได้กินของอร่อย ๆ อย่างไรเสียในอนาคตก็จะต้องอยู่รับใช้ภายใต้จวิ้นจู่ ฉะนั้นต้องรู้จักทำตัวให้กลมกลืน”
“เฮ้ เจ้าไปบอกแม่นางติงเซียงเช่นนั้นได้อย่างไร? มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าแม่นางติงเซียงเคยปฏิบัติไม่ดีต่อจวิ้นจู่มาก่อน หากให้นางไปที่นั่นจริง ก็เกรงว่านางจะมีปัญหา เฮ้อ หัวหน้าสาวใช้ผู้น่าสงสารที่ทำงานมาหลายปี เมื่อจวิ้นจู่แต่งงานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง”
หญิงสาวทั้งสองยังคงพูดสิ่งที่หาสาระไม่ได้ต่อไป ยิ่งพูดมากเท่าใด พวกนางก็ยิ่งดูไร้ยางอายมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยติงเซียงเลยแม้แต่น้อย
ทว่าติงเซียงดูเฉยเมยมาก หลังจากฟังอยู่นาน ในที่สุดนางก็พูดด้วยความเย้ยหยัน ขณะเชิดคางขึ้นเล็กน้อย “พวกเจ้าชอบประจบคนสูงกว่า และเหยียบย่ำคนต่ำกว่า ทั้งยังมีเล่ห์เหลี่ยมต่ำทรามยิ่งนัก”
ขณะที่เนี่ยนเนี่ยนฟัง นางก็เผลอเลิกคิ้วขึ้น คนที่ปรับตัวตามสถานการณ์ได้นั้นมีอยู่มากมายจริง ๆ หญิงสองคนนี้น่าจะมาจากครัวใหญ่ใช่หรือไม่? ไปได้ยินกันมาจากไหนว่าติงเซียงจะมีชะตากรรมไม่ดีในอนาคต?
มุมปากของนางกระตุก ขณะที่นางเดินไปข้างหน้า ฝีเท้าของนางหนักขึ้นเล็กน้อย
ไม่นานทั้งสามคนก็ได้ยินเสียงฝีเท้า และเงยหน้าขึ้นมอง
เมื่อเห็นว่าเป็นเนี่ยนเนี่ยน สีหน้าของหญิงสาวทั้งสองก็เปลี่ยนไป จากนั้นพวกนางก็รีบมาทักทายเนี่ยนเนี่ยน ด้วยท่าทางประจบสอพลอทันที
ติงเซียงค่อนข้างทำตัวไม่ถูก ตั้งแต่วันนั้นนางก็จงใจหลบเลี่ยงเนี่ยนเนี่ยน และไม่เคยไปพบนางอีกเลย ตอนนี้นางได้พบแล้ว เมื่อสถานะระหว่างพวกนางเปลี่ยนไปมาก นางก็รู้สึกอึดอัดใจทันที
แต่ถึงกระนั้น นางก็ยังก้าวไปข้างหน้า พร้อมย่อตัวลงทำความเคารพ “ถวายบังคมจวิ้นจู่เจ้าค่ะ”
การกระทำอ่อนน้อม แต่น้ำเสียงค่อนข้างหยิ่งผยอง
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่านิสัยของติงเซียงค่อนข้างแปลก ตอนแรกติงเซียงข่มขู่และหลอกล่อนาง พยายามหาทางทำให้นางลำบากใจ ต่อมาก็ทำเพื่ออนาคตของตัวเอง ด้วยการคอยติดตามหลิ่วยางยาง และรายงานให้ทราบเพื่อจัดการกับนาง
ทว่าเมื่อรู้ว่าหลิ่วยางยางกำลังจะฆ่านาง ติงเซียงกลับรีบวิ่งมาบอกข่าวด้วยอาการเหนื่อยหอบ
ตอนนี้ติงเซียงรู้ตัวตนที่แท้จริงของนางแล้ว ทั้งยังเข้าใจด้วยว่านางจะเป็นเจ้านายของตนในอนาคต ดูจากพฤติกรรมก่อนหน้านี้ นางก็คิดว่าติงเซียงจะปฏิบัติกับนางเหมือนที่ปฏิบัติกับหลิ่วยางยาง แต่คาดไม่ถึงเลยว่าติงเซียงจะทำเหมือนยอมตายโดยไม่แยแสใด ๆ ทั้งสิ้น จะถูกฆ่าแกงก็ไม่สนใจอะไร
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุกอีกครั้ง นิสัยของติงเซียงย้อนแย้งเกินไป
“จวิ้นจู่ บ่าวมีงานอื่นที่ต้องทำ ดังนั้นขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” ติงเซียงเห็นว่านางเงียบอยู่นาน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความลำบากใจ และรู้สึกอธิบายไม่ถูก นางจึงอยากจะหนีออกจากบริเวณนี้ไปให้เร็วที่สุด
นางไม่รู้ว่าเหตุใดตัวเองถึงไม่อาจทำตัวประจบประแจงเนี่ยนเนี่ยนได้
เหตุผลคือต้องทำเพื่ออนาคต นางควรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้อยู่ต่อ แต่นางกลับรู้สึกเสมอว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากัน เนี่ยนเนี่ยนจะคิดว่าตนทำอะไรไว้บ้างตอนที่นางยังเป็นอวี้ซี ทำให้รู้สึกอึดอัดมาก
เนี่ยนเนี่ยนกะพริบตา ทันใดนั้นก็พูดว่า “เอาล่ะ เช่นนั้นก็ไปทำงานเถอะ อย่างไรก็ขอบคุณสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในคราวที่แล้ว”
ติงเซียงตกตะลึง เช่นเดียวกับหญิงสาวสองคนที่เบิกตากว้าง
เนี่ยนเนี่ยนยิ้มแล้วกล่าวเสริมว่า “ข้ากำลังพูดถึงเหตุการณ์ในสวนดอกไม้ครั้งก่อน เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะตอบแทนเจ้าอย่างไร”
รูม่านตาของติงเซียงหดตัวทันที แล้วนางก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
แม้ว่าติงเซียงจะทำเป็นใจดีเตือนนางในเหตุการณ์ที่สวนดอกไม้ครั้งนั้น แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว สุดท้ายคนที่ช่วยชีวิตติงเซียงไว้ก็คือนาง
ตอนนั้นงูกำลังพุ่งเข้ามาฉกนาง หากไม่ใช่เพราะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเนี่ยนเนี่ยน ทำให้จับงูตัวนั้นไว้ได้ทัน ก็เกรงว่าคนที่จะถูกพิษงูเล่นงานคงเป็นนางเอง
ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้นางแน่ใจแล้วว่าแม้ว่านางจะไม่ได้ไปสวนดอกไม้ แต่เนี่ยนเนี่ยนและโม่เพียว… ก็คงจะไม่กลัวงูตัวนั้น แม้ว่าจะถูกงูกัดจริง ๆ ก็จะไม่อันตรายถึงชีวิต เพราะสองคนนี้เก่งกาจมาก
แต่เมื่อครู่นี้ นางพูดแบบนั้น…
ติงเซียงเหลือบมองหญิงทั้งสองด้วยหางตา
แน่นอนว่าหญิงทั้งสองก็ตกใจเช่นกัน จากนั้นสายตาของพวกนางที่มองนางก็เปลี่ยนไปมาก ร่องรอยของการดูถูกเหยียดหยามก่อนหน้านี้หายไปหมดสิ้น
นางเม้มปาก แล้วมองไปที่เนี่ยนเนี่ยน จู่ ๆ ก็รู้สึกคอแห้ง พูดไม่ได้ไปชั่วขณะ
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็พูดเสียงแผ่วเบาว่า “ข้า…” หลังจากพูดไปคำหนึ่ง ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อดี
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเนี่ยนเนี่ยน รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก เสียงของนางคมชัด “นั่นคือหน้าที่ของบ่าวอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการตอบแทนหรอกเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก ไม่พูดอะไรอีก แล้วหันไปมองหญิงสองคน “พวกเจ้ามาจากครัวใหญ่ใช่หรือไม่?”
“เจ้า เจ้าค่ะจวิ้นจู่” ทั้งสองรีบตอบ รู้สึกขนหัวลุกเล็กน้อย
“คุณชายใหญ่กลับมาแล้ว ไปบอกให้คนนำวัตถุดิบมาส่งที่ครัวเล็กในจินเฟิงหยวน เมื่อคุณชายใหญ่ตื่นขึ้น อาจจะต้องกินข้าว”
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ” ทั้งสองรีบตอบ จากนั้นมองหน้ากันแล้วจากไปเงียบ ๆ เพื่อรีบไปที่ห้องครัวใหญ่
จากนั้นติงเซียงก็หันหน้ามา เกาหัวด้วยความอึดอัด “ขอบคุณเจ้าค่ะ”
“เจ้านี่ช่างแปลกนัก” เนี่ยนเนี่ยนย่นจมูก ไม่สนใจนาง และหันกลับไปยังหอหลินเยว่
ติงเซียงทำหน้าไม่ถูก เห็นได้ชัดว่าคนที่แปลกคือนางต่างหาก แต่กลับว่าคนอื่นได้อย่างหน้าตาเฉย
เนี่ยนเนี่ยนเปลี่ยนชุดที่หอหลินเยว่ จากนั้นหันหลังกลับ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังครัวเล็ก
เหวินหย่าและโม่เพียวมองทิศทางที่นางมุ่งหน้าไปด้วยความสยดสยอง แล้วพวกนางก็พุ่งตัวไปพร้อมกัน “เนี่ยนเนี่ยน เจ้าจะทำอะไร?”
“ทำอาหาร” แล้วจะแตกตื่นอะไรกัน?
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ทำอาหารแน่เหรอเนี่ยนเนี่ยน ทำไมท่าทางบ่าวคนสนิทสองคนถึงดูแตกตื่นชอบกลล่ะ?
ไหหม่า(海馬)