อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 205 ไม่เจอกันนาน
ตอนพิเศษ 205 ไม่เจอกันนาน
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตา ประสานนิ้วมือขวาเข้าด้วยกัน เตรียมจะรับคมดาบ
ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมดังมาจากทางด้านหลังชายคนนั้น พร้อมกับบางอย่างพุ่งแหวกอากาศตรงเข้ามา โจมตีแผ่นหลังของชายคนนั้นอย่างแรง
เนี่ยนเนี่ยนลดมือลง คลายนิ้วที่เกร็งแน่นออก แล้วหันไปมองด้านข้าง
ชายคนนั้นที่ดูแข็งแรงกำยำพลันโซเซเพราะบางอย่างที่พุ่งมากระทบหลัง ก่อนจะล้มลงกับพื้น ฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นมาทันที
เขาร้องครวญคราง เมื่อหันไปมองก็เห็นว่าสิ่งที่ฟาดลงกลางหลังเขาเมื่อครู่นี้คือฝักดาบ เขาเงยหน้าขึ้นทันที และเห็นหญิงสาวสวมใส่ผ้าคลุมหน้าท่าทางสง่างามคนหนึ่งเดินมาหาเขาแต่ไกล
“เจ้า เจ้าเป็นใคร?”
หญิงสาวคนนั้นไม่แม้แต่จะมองเขา นางเดินเข้าไปหาเขา ก้มลงหยิบฝักดาบขึ้นมา ขณะที่ชายคนนั้นกำลังจะพลิกตัว จู่ ๆ นางก็ใช้ฝักดาบฟาดที่ท้ายทอยของเขาจนสลบไป
เนี่ยนเนี่ยนมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้านาง ด้วยรอยยิ้มมุมปาก ก่อนจะหรี่ตาพูดว่า “เริ่นเมิ่ง…”
“ท่านจำข้าได้ด้วยหรือ?” เริ่นเมิ่งเปิดผ้าคลุมออก แล้วมองเนี่ยนเนี่ยน“ไม่เจอกันนาน”
ครู่หนึ่งเนี่ยนเนี่ยนก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วเอียงศีรษะมองนาง “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
“ข้าบังเอิญไปเห็นชายผู้นี้ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ จึงเกิดความสงสัย จากนั้นข้าก็เห็นเขาสะกดรอยตามท่านมา จึงคิดว่าเขาน่าจะคิดร้ายต่อท่าน ข้าจึงตามมา” เริ่นเมิ่งเตะคนที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความรังเกียจ
เนี่ยนเนี่ยนมองนางอยู่พักหนึ่ง เป็นเรื่องบังเอิญงั้นหรือ? พิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของนางแล้ว ก็ดูราวกับว่านางไปคลุกฝุ่นมา น่าจะเพิ่งกลับจากทำภารกิจ
แต่เป็นเรื่องปกติที่ผู้พิทักษ์ทมิฬจะออกจากเมืองหลวงไปทำภารกิจ นางจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้
“ใช่แล้ว วันนี้ขอบคุณเจ้ามาก” เนี่ยนเนี่ยนเหลือบมองชายที่นอนฟุบบนพื้น
เริ่นเมิ่งขมวดคิ้ว “ท่านทำให้ใครขุ่นเคืองใจหรือ? ถึงมีคนยอมจ่ายเงินจ้างคนมาฆ่าท่าน?”
“ข้าเองก็แปลกใจเช่นกัน ข้าเป็นคนรักสงบมาโดยตลอด” เมื่อครู่นี้เนี่ยนเนี่ยนเดาว่าเป็นหลิ่วเหวย แต่ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ หลิ่วเหวยต้องการจัดการกับนาง เพื่อให้จวนซูกั๋วกงมีความผิด ดังนั้นหากเขาต้องการโจมตีนาง เขาจะต้องเลือกลงมือในจวนไป๋เหมือนอย่างที่เฟิงหลิงทำในตอนนั้น และจะไม่รอจนกว่านางจะออกจากจวน เพื่อให้คนร้ายมาจัดการนาง
เริ่นเมิ่งเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะกลอกตาแล้วพูดว่า “ไม่เช่นนั้นก็จับเขามัดไว้ แล้วสอบปากคำเขาดีหรือไม่?”
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเห็นนัยน์ตาของนางฉายแสงแวววับ มุมปากของนางก็อดไม่ได้ที่จะกระตุก
ผู้พิทักษ์ทมิฬไม่ได้รักสงบและชอบเก็บตัวหรอกหรือ? นางดูตื่นเต้นอะไรปานนั้น?
แต่นางก็ต้องการทำเช่นนั้นเช่นกัน
ทั้งสองมองหน้ากัน เริ่นเมิ่งหัวเราะแล้วก้มลงโดยไม่ได้เอ่ยคำใดต่อ เพื่อมัดร่างชายที่หมดสติบนพื้น
นางไม่ต้องการให้เนี่ยนเนี่ยนช่วย ผลักเนี่ยนเนี่ยนออกไปแล้วพูดว่า “ข้าจะทำเอง ท่านไปดูด้านข้างสิว่ามีเชือกหรือไม่”
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนไม่ต้องลงมือเอง นางก็พึงพอใจมาก นางรีบเดินไปด้านข้างเพื่อดูรอบ ๆ แน่นอนว่านางได้เชือกที่ไม่ได้ยาวมากมาสองเส้น แล้วโยนให้เริ่นเมิ่ง
มือเท้าของเริ่นเมิ่งคล่องแคล่วว่องไว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางเคยชินกับการทำเรื่องเช่นนี้หรือไม่ นางรีบมัดมือมัดเท้าของชายผู้นั้นจนแน่น จากนั้นจึงยกเขาขึ้นแล้วลากเขาออกไป
นางมีพละกำลังมหาศาล แม้จะมีชายร่างใหญ่อยู่ในมือ ทว่านางก็ไม่แสดงท่าทางเหมือนออกแรงเลยแม้แต่น้อย
เริ่นเมิ่งดูเหมือนจะคุ้นเคยกับภูมิประเทศของเมืองหลวงเป็นอย่างดี นางพาเนี่ยนเนี่ยนเลี้ยวไปสองตรอก แล้วหยุดที่สวนหลังบ้านแห่งหนึ่ง
เนี่ยนเนี่ยนหันไปมองนางด้วยความประหลาดใจ “นี่คือ…”
“บ้านร้าง ไม่มีคนอยู่” นางปล่อยชายคนนั้น ทันใดนั้นก็คว้าแขนของเนี่ยนเนี่ยน ก่อนจะกระโดดทะยานพานางขึ้นไปบนกำแพง แล้วกระโดดลงมา จากนั้นก็พูดกับนางว่า “ท่านรอข้าอยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปนำตัวชายคนนั้นเข้ามา”
เนี่ยนเนี่ยนกระแอมเบา ๆ และพยักหน้า ความจริงแล้วนางอยากจะบอกว่านางสามารถปีนข้ามกำแพงได้เอง
ก่อนที่นางจะอธิบายมากไปกว่านี้ เริ่นเมิ่งก็กลับเข้ามาพร้อมกับคนผู้นั้น
นางลากชายคนนั้นเข้าไปในบ้าน แล้วเหวี่ยงเขาลงกับพื้น สักพักก็หยิบถังน้ำจากบ่อน้ำในสวนมา แล้วราดลงบนศีรษะของชายคนนั้นเสียงดังซ่า…
“อื้อ…” ชายคนนั้นตัวสั่นอย่างแรง แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น
เริ่นเมิ่งสวมผ้าคลุมหน้าอีกครั้ง นางมองเขาอย่างเย็นชาขณะถามว่า “เจ้าชื่ออะไร?”
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว พยายามขยับมือและเท้า และพบว่าตนถูกมัดแน่นจนไม่อาจคลายออกได้เลย
ใบหน้าของเขาฉายแววเหี้ยมเกรียมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคำรามใส่ทั้งสอง “นางหญิงชั่วทั้งสอง รีบปล่อยข้าเร็ว ๆ มิฉะนั้นข้าจะถลกหนังของเจ้าออกเสีย”
เนี่ยนเนี่ยนคิดว่ามันช่างน่าขัน “ตอนนี้เป็นเจ้าที่กำลังจะถูกฆ่า สิ่งที่เจ้าควรทำในตอนนี้คือการอ้อนวอนต่อเราเพื่อให้เราไว้ชีวิตเจ้า หากเจ้ายังตะโกนอีก เจ้าจะถูกตอนเป็นขันที”
เริ่นเมิ่งที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าอย่างจริงจัง “อืม นั่นเป็นความคิดที่ดี”
นางพูดจบก็ชักมีดสั้นออกมา สายตาจับจ้องไปยังหว่างขาของชายคนนั้น
รูม่านตาของชายคนนั้นหดลง ใบหน้าเหยเกทันที ก่อนจะรีบถอยหนีกลับด้วยความหวาดกลัว “พวก พวกเจ้าจะทำอะไร?”
“ไม่ได้ทำอะไรหรอก แค่อยากให้เจ้าตอบเราตามจริง” เริ่นเมิ่งคุกเข่าลง พลางเขย่ามีดสั้นในมือ
ชายคนนั้นเริ่มดิ้นรนให้พ้นจากการถูกมัด แต่เริ่นเมิ่งเป็นใคร? หากเขาสามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของนางได้ นางก็คงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นผู้พิทักษ์ทมิฬแล้ว
เชือกที่มัดมือยิ่งตึงขึ้นเรื่อย ๆ
ในไม่ช้า ชายคนนั้นก็ตระหนักได้ว่าตนทำได้เพียงหยุดเคลื่อนไหวเท่านั้น เขากัดฟันจ้องมองหญิงสาวสองคนที่อยู่ตรงหน้า และค่อย ๆ สงบลง
แต่เนี่ยนเนี่ยนไม่เปิดโอกาสให้เขาเลย ไม่รู้ว่ามีเข็มสองเล่มปรากฏขึ้นในมือของนางตั้งแต่เมื่อใด นางเล็งไปยังตำแหน่งกลางกระหม่อมของเขา แล้วแทงเข็มเข้าไป
ชายคนนั้นรู้สึกว่าจู่ ๆ ทั้งตัวก็สั่นสะท้าน ความเจ็บปวดรุนแรงพลันเพิ่มขึ้นทันที “อ๊าก เจ้ากำลังทำอะไร? เจ้าทำอะไรลงไป?”
“ไม่มีอะไร ข้าแค่จะแก้แค้นเจ้า เมื่อครู่นี้เจ้าทำให้ข้ากลัวแทบตายด้วยดาบเล่มใหญ่ ตอนนี้ข้าจึงแค่ให้เจ้าได้ลิ้มลองวิธีของข้าบ้าง” นางพูดเสียงเรียบด้วยใบหน้าจริงจัง
เริ่นเมิ่งที่อยู่ด้านข้างกระแอมเบา ๆ นางรู้ว่าเนี่ยนเนี่ยนเป็นหมอที่มีทักษะทางการแพทย์ดี ดังนั้นนางย่อมรู้ตำแหน่งจุดฝังเข็มในร่างกายมนุษย์ดี และหาจุดที่ทำให้เจ็บปวดที่สุดได้อย่างง่ายดาย
บนหน้าผากของชายคนนั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน สีหน้ายังคงดุร้ายเช่นเดิม “อ๊าก เจ้า เจ้าหยุดนะ ข้า ข้าแค่รับเงินของคนจ้าง ไม่เกี่ยวกับข้า ถ้าเจ้าต้องการล้างแค้น…เจ้าก็ไปล้างแค้นคนที่ต้องการฆ่าเจ้าสิ”
“สิ่งที่เรากำลังรอคือคำตอบของเจ้า” เริ่นเมิ่งดูตื่นเต้น “รีบบอกมาว่าผู้ใดเป็นคนจ้างเจ้า”
ชายคนนั้นสะดุ้ง และกัดริมฝีปากแน่น
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าเขาไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา จึงหยิบเข็มอีกเล่มออกมา แล้วค่อย ๆ ปักเข้าไปบนศีรษะของเขา
“อ๊าก…” ชายคนนั้นกรีดร้องสุดเสียง เหงื่อเย็นไหลโซมกาย รู้สึกราวกับทั้งร่างกำลังจะระเบิด
…………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เห็นความร้ายกาจของทายาทหมอปีศาจยังล่ะ ไม่อยากทรมานจนตายก็บอกความจริงซะ
ไหหม่า(海馬)