อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 210 ประลอง
ตอนพิเศษ 210 ประลอง
ตอนพิเศษ 210 ประลอง
ในขณะนี้เนี่ยนเนี่ยนกำลังนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสองของร้านสุราเยว่ไหลตรงข้ามโรงเตี๊ยมจวี้เป่า นางนั่งเอกเขนกอยู่ที่โต๊ะ สั่งอาหารและเครื่องดื่มมากินตามลำพังอยู่ข้างหน้าต่าง
นางกำลังคิดวิธีสังหารไป๋หลิวอี้ เย่ฉิงเป่ยและเหวินหย่า คนหนึ่งคือคู่หมั้น คนหนึ่งคือน้องชายและอีกคนคือสหายที่ดี พวกเขาทั้งสามร่วมมือกันปกปิดเรื่องสำคัญจากนาง หากไม่ได้ทรมานพวกเขาก่อนตาย นางก็รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับตัวเอง
ทว่าเมื่อนางคิดวิธีที่ห้าสิบได้ก็รู้สึกว่ามันไม่รุนแรงพอ และยังคงมีความคิดบ้า ๆ มากมายต่อไป
นางเห็นภาพไป๋หลิวอี้และอาเวินวิ่งจากโรงเตี๊ยมจวี้เป่าไปยังจวนซูกั๋วกง และจากจวนซูกั๋วกงกลับมาที่โรงเตี๊ยมได้อย่างชัดเจน พร้อมกับนึกเย้ยหยันอยู่ในใจ
แต่เมื่อเห็นท่าทางวิตกกังวลของพวกเขา นางก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
แต่! นางสบายใจขึ้นเพียงแค่เล็กน้อย แค่เล็กน้อยเท่านั้น ใจจริงยังคงอยากจะฆ่าเขาเหมือนเดิม
ช่างดีเหลือเกินที่นางรู้สึกผิดและโทษตัวเองเป็นเวลาหลายวัน ช่างดีเหลือเกินที่นางรู้สึกผิดและรู้สึกไม่สบายใจมากเพราะโกหกเขา ช่างดีเหลือเกินที่นางเข้าครัวไปทำอาหารบำรุงร่างกายให้เขาจนผมของนางเกือบไหม้
แต่แล้วเป็นเช่นไรเล่า? นางดูเหมือนคนโง่เขลาตั้งแต่ต้นจนจบ
เนี่ยนเนี่ยนรินสุราให้ตัวเอง ก่อนจะดื่มหมดในอึกเดียว หลังจากนั้นไม่นานก็ขมวดคิ้ว แล้วปาจอกทิ้งไป ช่างดื่มยากนัก
นางกินไปสักพักก็หมดความสนใจ จึงเอนกายพิงเก้าอี้ครุ่นคิดเรื่องต่าง ๆ
สิ่งที่น่าแปลกก็คือแม้ว่าเรื่องต่าง ๆ จะพัฒนามาถึงจุดนี้แล้ว แต่ในบรรดาความคิดนับพันที่แวบเข้ามาในหัวของเนี่ยนเนี่ยน นางก็ไม่เคยคิดที่จะ… ถอนหมั้น
นางเม้มปากมองไปยังท้องฟ้ายามราตรีอันมืดมิดด้านนอก ในที่สุดก็ยืนขึ้นช้า ๆ แล้วเดินลงไปชั้นล่าง
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเดินไปที่ประตู ลมหนาวก็พัดโชยมาจนกายสั่นสะท้าน นางขมวดคิ้วแล้วไปยังโรงเตี๊ยมใกล้ ๆ
ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาอาหารค่ำอันเร่งด่วน เถ้าแก่ที่อยู่หน้าโต๊ะจึงกำลังยุ่งมาก
เนี่ยนเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รอสักพัก ก่อนจะก้าวเข้าไปบอกว่า “ข้าต้องการห้องชั้นบน”
เถ้าแก่ชำเลืองมองนาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขออภัยด้วยแม่นาง ห้องสุดท้ายเพิ่งถูกจองไปเมื่อครู่”
ไม่มีห้องเหลือเลยหรือ? เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว กิจการที่นี่ดีมากถึงเพียงนั้นเลยหรือ?
“ไม่มีห้องว่างแล้วหรือ?”
“ยังมีเรือนต้าทงอยู่” เถ้าแก่ยิ้ม “แต่ดูจากการแต่งตัวของแม่นางแล้ว การไปพักอยู่กับพวกพ่อค้าเร่เหล่านั้นก็คงไม่ดีใช่หรือไม่? ห้องรับรองแยกต่างหากนั้นถูกจองไปหมดแล้ว”
เขาไม่มีทางเลือก ไม่เช่นนั้นเขาจะปล่อยแขกเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าวันนี้นางโชคไม่ดีเอาเสียเลย นางกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่กลับหันไปชนเข้ากับใครบางคน
นางขมวดคิ้ว ก่อนที่นางจะทันได้พูด ก็ได้ยินเสียงเย็นชาระคนประหลาดใจของชายคนนั้น “เหตุใดถึงเป็นเจ้า?”
เนี่ยนเนี่ยนผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองคนที่คลับคล้ายคลับคลาว่าคุ้นหน้าตรงหน้านาง นางกะพริบตาขณะพยายามนึกชื่อของเขา “เจ้าคือ… เจี่ยง…”
ขณะที่นางยังคงคิดถึงชื่อของเขา เถ้าแก่ข้างโต๊ะก็ออกมาแล้ว และเดินไปหาผู้มาเยือน จากนั้นพูดด้วยความเคารพว่า “คำนับนายน้อยขอรับ”
เมื่อรวมกับคำพูดนี้ เนี่ยนเนี่ยนก็นึกขึ้นได้ในทันที “เจ้าคือเจี่ยงโม่เซิงใช่หรือไม่?”
นายน้อยสกุลเจี่ยงแห่งสี่ตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่งั้นหรือ? เนี่ยนเนี่ยนจำได้ว่านางเคยพบเขาสองครั้ง ครั้งล่าสุดคือในวังหลวง นางเกือบจะเปิดเผยตัวออกไปแล้ว
เจี่ยงโม่เซิงพยักหน้า แล้วมองนางด้วยความแปลกใจ “สาวใช้ของเจ้าอยู่ที่ใด?”
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนนึกถึงโม่เพียว มุมปากของนางก็อดไม่ได้ที่จะกระตุก นางคงจะกลับไปแล้วใช่หรือไม่?
เมื่อเห็นว่านางไม่ตอบ เจี่ยงโม่เซิงก็ไม่ได้สนใจจะถามต่อ แต่เพียงมองไปยังเถ้าแก่ข้างเขา เถ้าแก่พูดทันที “แม่นางผู้นี้ต้องการเข้าพัก แต่ห้องพักตอนนี้เต็มแล้วขอรับ ดังนั้น…”
เจี่ยงโม่เซิงพยักหน้า คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วบอกเถ้าแก่ว่า “ทำความสะอาดหอตงเหมย แล้วให้แม่นางผู้นี้เข้าไปพัก”
เถ้าแก่ตกตะลึง หอตงเหมยเป็นห้องที่ดีที่สุดในโรงเตี๊ยม และมันว่างตลอดเวลา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ครอบครัวเจี่ยง เพราะบางครั้งก็จะเชิญแขกผู้มีเกียรติของครอบครัวให้มาพักที่ห้องนี้
แล้ว… เมื่อมองรูปลักษณ์ของสตรีผู้นี้และครอบครัวของนายน้อย ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเข้ากันนัก ความจริงแล้วครอบครัวของนายน้อย…
แต่เขาเป็นเถ้าแก่ จึงไม่มีสิทธิ์พูดอะไร ทำได้เพียงสั่งให้เสี่ยวเอ้อร์ไปทำความสะอาดห้องทันที
เนี่ยนเนี่ยนมองเจี่ยงโม่เซิงด้วยความประหลาดใจ “หอตงเหมยเป็นห้องสำรองของพวกเจ้าไม่ใช่หรือ?” นางรู้ว่าในโรงเตี๊ยมทั่วไปจะเก็บห้องที่ดีที่สุดไว้หนึ่งหรือสองห้อง สำหรับกรณีฉุกเฉิน
ตอนนี้เจี่ยงโม่เซิงยกห้องนั้นให้นาง ไม่ได้มีแผนอื่นซ่อนอยู่ใช่หรือไม่?
เมื่อเจี่ยงโม่เซิงเห็นแววตาสงสัยของนาง เขาก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ข้ามีคำถามที่อยากขอให้แม่นางช่วยตอบ”
เขาพูดจบก็พานางไปที่หอตงเหมย “มาคุยระหว่างเดินกันเถอะ”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก ดูเหมือนว่านางจะยังไม่ทันได้ตกลงว่าจะอยู่ที่นี่เลย เขาอาจหาญมากเกินไปหรือเปล่า?
แต่นางก็ขี้เกียจเกินกว่าจะมองหาโรงเตี๊ยมอื่นอีก โรงเตี๊ยมนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเตี๊ยมจวี้เป่า ซึ่งนางสามารถสังเกตการณ์ได้อย่างสะดวก
“แม่นางร่ำเรียนมาจากที่ใดหรือ?”
การถามคำถามตรง ๆ ตั้งแต่แรกเช่นนี้มันดีจริงหรือ?
เนี่ยนเนี่ยนหันมามองเขา “เหตุใดเจ้าถึงถามเช่นนี้?”
“ข้าหลงใหลการร่ำเรียนวิทยายุทธมาตลอดชีวิต ครั้งล่าสุดแม่นางสามารถเดินต่อหน้าคนจากสี่ตระกูลใหญ่ได้ โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า แสดงว่าแม่นางต้องมีทักษะอันล้ำเลิศ ข้าจึงต้องการขอคำแนะนำจากแม่นาง” ขณะที่เขาพูดเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย แม้แต่ใบหน้าที่ปกติจะเฉยเมยของเขา ก็ฉายแววตื่นเต้นและสดใสมากขึ้น
เนี่ยนเนี่ยนนึกถึงท่านลุงฟ่านซิวอวิ๋นผู้หลงใหลการฝึกวิทยายุทธเหมือนกัน เมื่อใดก็ตามที่เขาบอกว่าเขาต้องการประลองวรยุทธ์กับคนอื่น เขาจะมีสีหน้าเหมือนกับเจี่ยงโม่เซิงตอนนี้เสมอ
นางหันหน้าหนีไปเงียบ ๆ เหตุใดคนเช่นนี้ถึงชอบมาปรากฏตัวรอบกายนาง?
เมื่อนางหันกลับไปอีกครั้ง นางก็พูดอย่างจริงจังว่า “เจ้าคิดมากไปเอง ที่ข้าไม่เปลี่ยนสีหน้าเพราะจิตใจของข้าแข็งแกร่งมากเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับวิทยายุทธเลย ดังนั้นเราหยุดพูดเรื่องนี้กันเถอะ อย่าพูดไปมากกว่านี้เลย”
เจี่ยงโม่เซิงขมวดคิ้วอย่างไม่เต็มใจ “แต่ว่า…”
เนี่ยนเนี่ยนมาถึงประตูหอตงเหมยแล้ว นางยื่นมือออกทันทีด้วยท่าทางบ่งบอกให้หยุด “ไม่มีแต่ ข้าไม่มีวรยุทธ์เลยจริง ๆ”
“ในตอนนั้น เราทั้งสี่คนต่างปลดปล่อยคลื่นพลังกดดันที่หนักมาก แม้จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม คนส่วนใหญ่อาจทนไม่ได้และล้มลง ทว่าแม่นาง… แม่นางจะรอช้าอยู่ไย? อาณาจักรเทียนอวี่ เป็นสถานที่ใช้ที่วิทยายุทธสร้างมิตรภาพ แม่นางกับข้ามาประลองกัน ประลองกับคนจากสี่ตระกูลใหญ่ของเรา แล้วจะได้ผูกมิตร…”
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะแห้ง วิทยายุทธสร้างมิตรภาพงั้นหรือ? ประลองกับสี่ตระกูลใหญ่เพื่อเรียนรู้วิทยายุทธและผูกมิตร? ล้อกันเล่นหรือเปล่า นางเป็นสตรี เป็นสตรีนะ วิธีการผูกมิตรที่หยาบคายเช่นนี้ไม่เหมาะกับนาง เข้าใจหรือไม่? คนที่มีคุณธรรมจริยธรรมเช่นนางจะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?
นางเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปทันที “วิทยายุทธสร้างมิตรภาพนับเป็นเรื่องที่ดี วันนี้ขอบคุณมาก” เมื่อนางพูดจบก็หันกลับมา และกำลังจะปิดประตู
เจี่ยงโม่เซิงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปโจมตีนาง ความเร็วนั้นเร็วมากเสียจนเนี่ยนเนี่ยนรีบถอยหลังไปสองก้าว
……………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มาหลบอยู่ที่นี่เอง แถมมีหนุ่มมาสร้างไมตรีด้วยการประลองยุทธ์ด้วย จะรับมือไหวไหมนะ
ไหหม่า(海馬)