อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 213 ตาสุนัขมองคนต่ำ
ตอนพิเศษ 213 ตาสุนัขมองคนต่ำ
ตอนพิเศษ 213 ตาสุนัขมองคนต่ำ
โสตประสาทได้ยินเสียงน้ำหยดทีละหยด ชัดเจนยิ่งนัก
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกปวดหัวแทบระเบิด กระดูกทั่วร่างกายของนางปวดร้าวไปหมด เปลือกตาของนางก็หนักอึ้งเสียจนไม่อาจยกขึ้นได้
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็ลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก แล้วกวาดสายตามองห้องอันเย็นเยียบ
ทั้งห้องเงียบกริบ ไร้วี่แววผู้คน มีเพียงเปลวเทียนที่อยู่ไม่ไกลกำลังลุกโชน น่าจะเป็นเวลากลางคืนแล้ว
มีเสียงน้ำหยดดังมาจากข้างนอก หลังจากตั้งใจฟังสักพัก เนี่ยนเนี่ยนก็ตระหนักได้ว่าเป็นน้ำที่ตกลงมาจากหลังคาบ้าน มีกลิ่นอับชื้นในอากาศเหมือนฝนเพิ่งตก
เนี่ยนเนี่ยนขยับตัวเล็กน้อย ทันใดนั้น นางก็ตระหนักได้ว่าตนถูกมัดด้วยเชือกทั้งตัว จนดูเหมือนกับบ๊ะจ่างก้อนใหญ่
มุมปากของนางกระตุก จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก
ข้อเท้ายังคงปวดหนึบ นางไม่อาจลุกขึ้นเดินได้ จึงทำได้เพียงนอนบนพื้นแล้วกลิ้งไปที่ประตู พลางส่งเสียงฮึดฮัด
ด้วยสภาพเหมือนหนอนผีเสื้อ นางก็ลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล แล้วมองออกไปข้างนอกผ่านรอยแตกเล็ก ๆ ที่ประตู
ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน ดูเหมือนจะมีคนสองคนเฝ้าประตู ยืนนิ่งไม่ไหวติงราวกับเทพเจ้าผู้รักษาประตู
นางพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเม้มปาก ก่อนกลิ้งตัวไปนั่งพิงมุมโต๊ะด้านข้าง แล้วครุ่นคิดว่าใครจับนางมา
ไม่ต้องการปลิดชีวิตนาง นั่นหมายความว่านางยังมีประโยชน์กับพวกเขา
เนี่ยนเนี่ยนเริ่มคิดถึงประโยชน์ของตัวเอง ทักษะทางการแพทย์หรือ? ดูเหมือนว่าน้อยคนนักที่รู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของนางดีเพียงใด
วรยุทธ์หรือ? ดูสิว่าตอนนี้นางหงุดหงิดมากเพียงใด ทั้งยังถูกมัดเป็นบ๊ะจ่างแบกกลับมาด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สิ่งนี้
เอาล่ะ หลังจากคิดอยู่สักพัก เนี่ยนเนี่ยนก็พบว่าตัวเองไม่มีประโยชน์เลย สิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับคนอื่น… น่าจะเป็นตัวตน
ในฐานะธิดาของอุปราชแห่งอาณาจักรเฟิงชาง นางรู้สึกว่าตัวตนนี้ล้ำค่ายิ่งนัก
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เนี่ยนเนี่ยนก็รู้สึกสบายใจขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นที่หน้าประตู เนี่ยนเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วลืมตาขึ้นมองไปที่ประตู
ไม่นานประตูห้องก็เปิดออก ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาจากประตู ตามด้วยคนอีกสามคน ทุกคนต่างมีรูปร่างสูงกำยำ
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาเพ่งมองไป ในวินาทีต่อมา นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
อืม แม้ว่าจะเต็มไปด้วยคลื่นพลัง แต่ว่า… ใส่หน้ากากบ้าอะไรเนี่ย?
หน้ากากเหล่านั้นน่าเกลียดยิ่งนัก น่าเกลียดจนนางทนมองเต็มตาไม่ได้
เนี่ยนเนี่ยนรีบสงบลง พยายามระงับรอยยิ้มเอาไว้ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือน แล้วถามว่า “เจ้าเป็นคนส่งคนมามัดข้า แล้วจับมาไว้ที่นี่หรือ?”
“หากแม่นางเชื่อฟังมากกว่านี้ ข้าก็จะไม่ให้ใครมามัดเจ้าหรอก ข้าจะได้เดือดร้อนน้อยลง” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมาก คนที่อยู่ข้างหลังเขายกเก้าอี้มาให้เขานั่งลง
เขานั่งลงตรงหน้าเนี่ยนเนี่ยนอย่างสุภาพ ขณะมองเนี่ยนเนี่ยนที่ยังคงนั่งพิงขาโต๊ะอยู่บนพื้น
เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้น ฟังจากเสียงแล้วน่าจะมีอายุเกินครึ่งร้อย
“เจ้าเป็นใคร? เราไม่ได้เป็นศัตรูคู่แค้นกันทั้งในอดีตและปัจจุบัน จึงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลยไม่ใช่หรือ?” แม้ว่าเนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าเขาคงไม่ตอบคำถามของตน แต่นางก็ยังจำเป็นต้องถาม
แน่นอนว่าชายคนนั้นหัวเราะ และไม่ตอบนาง แต่พูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ปลิดชีวิตเจ้าหรอก ข้าแค่อยากให้เจ้าสงบสติอารมณ์ที่นี่สักพัก แล้วก็บอกน้องชายของเจ้าด้วยว่าอย่าผลีผลาม”
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง เป่ยเป่ยหรือ?
ทันใดนั้น นางเงยหน้าขึ้นมองชายสวมหน้ากากตรงหน้านาง คิ้วของนางขมวดแน่น
บอกเป่ยเป่ยว่าอย่าผลีผลาม ช่วงนี้มีเพียงเรื่องเดียวที่เป่ยเป่ยกำลังตรวจสอบ เขากำลังขัดผลประโยชน์ของคนผู้หนึ่ง… คนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบสังหารราชวงศ์เมื่อห้าปีก่อน
คนผู้นี้เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังจริงหรือไม่?
เจอตัวบงการใหญ่เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ? ไม่น่าเป็นไปได้
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะ “น้องชายอะไร? เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?”
“เหตุใดต้องแสร้งทำเป็นโง่เขลาด้วย? แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเย่ฉิงเป่ยจะเป็นความลับ แต่ก็ไม่ได้ปราศจากข้อบกพร่อง” ชายคนนั้นหยิบถ้วยชาที่ลูกน้องส่งมาให้ แล้วยกขึ้นมาจิบ
กลิ่นหอมของชาอบอวลไปทั่วห้อง เนี่ยนเนี่ยนกลืนน้ำลาย นางต้องการดื่มด้วย
แต่… เย่ฉิงเป่ย เจ้าลูกหมูถูกจับได้แล้ว และนางก็มีส่วนพัวพันด้วย
เนี่ยนเนี่ยนนึกโกรธอยู่ในใจ แต่ยังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า “เป่ยเป่ยของข้าเป็นแค่เด็ก ทุกสิ่งที่เขาทำนั้นไร้เดียงสา ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้า แล้วเหตุใดเจ้าถึงมายุ่งกับข้าเล่า?”
ชายคนนั้นแสยะยิ้ม มือที่ถือถ้วยชาอยู่หยุดนิ่ง จากนั้นเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะ “เด็กหรือ? โอรสของท่านอ๋องซิวนั้น ต่อให้อายุเพียงห้าขวบก็ไม่ควรประมาท ตอนที่เย่ฉิงหนานยังเด็ก เขาสามารถก่อเรื่องสะท้านโลกันตร์ไว้ตั้งมากมาย”
เนี่ยนเนี่ยนกัดฟันแน่น นางอยากบอกว่านางเป็นคนถ่อมตน ถ่อมตน ถ่อมตน นั่นมันเป็นวีรกรรมของพี่น้องของนาง หากจะไม่น่าเชื่อถือก็ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้นางกลับต้องมาพัวพันด้วย นางเป็นผู้บริสุทธิ์
“เจ้าประเมินพวกเราสูงเกินไป”
“ก็ไม่เชิง ข้าประเมินเย่ฉิงเป่ยไว้สูงมาก แต่สำหรับเจ้านั้น…”
เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองเขา หมายความว่าอย่างไร? ดูถูกนางงั้นหรือ? เขาจะพูดว่าอะไร
ชายคนนั้นจิบชาอีกครั้ง พลางมองดวงตาของเนี่ยนเนี่ยนที่เบิกกว้างด้วยความโกรธ แล้วส่ายหน้า “ทักษะของเจ้าทำให้ข้าค่อนข้างประหลาดใจ ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริง ไม่ใช่ทุกคนในตำหนักอ๋องซิวที่มีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ แม้ว่าฝีมือของเย่ฉิงหนานจะไร้เทียมทาน แต่เจ้ากลับดูธรรมดามาก”
เนี่ยนเนี่ยนยังคงจ้องมองเขาด้วยตาสุนัขมองคนต่ำ*
(*狗眼看人低 หมายถึง ดูถูกผู้อื่น)
“ข้าจะเป็นเหมือนแม่ของข้าไม่ได้หรือ?… ไม่สิ มันเป็นเพราะข้าข้อเท้าแพลงและได้รับบาดเจ็บ ไม่เช่นนั้น เจ้าคิดหรือว่าจะจับข้าได้ด้วยคนเพียงยี่สิบคน? ช่างน่าขัน” เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองเขา ขณะรู้สึกว่ายังโชคดีที่พ่อของนาง ให้คนไปปล่อยข่าวลือในตอนนั้น โดยบอกว่าลูกสาวของเขามีนิสัยแปลก ๆ และมีความสามารถในระดับปานกลาง ซึ่งไม่อาจเทียบกับเย่ฉิงหนานได้เลย
ต้องบอกว่าท่านพ่อมองการณ์ไกลมาก เขาคงจะคิดว่าความสามารถของพี่ใหญ่ของนางนั้น ล้ำเลิศเสียจนผู้คนให้ความสนใจมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงต้องซ่อนลูกสาวคนเดียวของเขาไว้ให้ดี
ตำหนักอ๋องซิวเป็นสถานที่ที่มีการคุ้มกันแน่นหนา จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะทราบสถานการณ์ของนางภายในตำหนักอ๋องซิว
คนเหล่านี้คงรู้เพียงว่านางมีทักษะทางการแพทย์ และมีวรยุทธ์เพียงแค่พื้นฐาน ที่พอใช้ป้องกันตัวได้บ้างเท่านั้น เกรงว่าพวกเขาน่าจะไม่รู้อะไรมากนัก
แต่พวกเขาก็ยังคงส่งจอมยุทธ์กว่ายี่สิบคนไปปิดล้อมนาง นับว่าเป็นงานยากทีเดียว
“ค่อนข้างปากแข็งนัก” ชายคนนั้นยกยิ้มอย่างไม่แยแส “ช่วงนี้แค่อยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟัง แล้วข้าจะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเลวร้าย อย่าหาเรื่องและอย่าพยายามหลบหนี ทุกคนที่อยู่ข้างนอกคือคนของข้า หากเจ้าทำตัวไม่ดี คนเหล่านั้นก็ไม่รังเกียจที่จะฆ่าเจ้าทิ้งเสีย”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ยื่นถ้วยชาให้กับคนข้าง ๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็คิดอะไรบางอย่างได้ จึงรีบพูดว่า “เจ้าไปได้ แต่เจ้าต้องแก้เชือกให้ข้าก่อน เฮ้ เฮ้ ถูกมัดเช่นนี้มันอึดอัดมาก”
เนี่ยนเนี่ยนดิ้นอย่างแรงสองครั้ง แต่เชือกยังคงรัดแน่น นางเคลื่อนไหวเหมือนดักแด้ไหม แต่ชายที่สวมหน้ากากเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เนี่ยนเนี่ยนอดเดือดดาลไม่ได้ อยากจะถ่มน้ำลายใส่หลังเขาเสียจริง
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใครกันนะที่อยู่เบื้องหลังคดีใหญ่เรื่องนี้ น่าจะจัดการไม่ง่ายเสียด้วย
ไหหม่า(海馬)