อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 216 ค่ำคืนนี้
ตอนพิเศษ 216 ค่ำคืนนี้
ตอนพิเศษ 216 ค่ำคืนนี้
ไป๋หลิวอี้และเย่ฉิงเป่ยเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน แล้วเหวินหย่าก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ตั้งแต่เนี่ยนเนี่ยนหายตัวไป เหวินหย่าก็โกรธโม่เพียวมาก จึงไม่สนใจนางมาหลายวันแล้ว
เมื่อรู้ว่านางถูกจับ นางก็มองโม่เพียวด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อให้ได้
ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้นางจึงกลับมาที่ฝั่งของเย่ฉิงเป่ย เพราะต้องการหาเนี่ยนเนี่ยนให้พบโดยเร็วที่สุด
ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ในโรงเตี๊ยมจวี้เป่า หลังจากที่เหวินหย่าเข้าประตูมา นางก็พยักหน้าให้ไป๋หลิวอี้ก่อน จากนั้นจึงยื่นจดหมายในมือให้เย่ฉิงเป่ย “เป่ยเป่ย มีคนแอบยื่นสิ่งนี้ให้ข้า”
เย่ฉิงเป่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นี่อาจเป็นจดหมายอีกฉบับที่เกี่ยวกับเนี่ยนเนี่ยนใช่หรือไม่?
ก่อนที่เขาจะมีเวลาคิดต่อ เขาก็รีบเปิดซองจดหมาย หลังจากเห็นลายมือที่คุ้นเคยบนหน้าซอง สีหน้าของเขาก็สดใสขึ้นทันที “จากพี่ใหญ่”
ไป๋หลิวอี้ตกตะลึง เหวินหย่าก็ประหลาดใจเช่นกัน
เย่ฉิงเป่ยรีบอ่านจดหมายสิบบรรทัดอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า “พี่ใหญ่บอกว่าเขาพาพี่สะใภ้ไปดินแดนเหมิง แต่เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นที่นี่ เขาจึงไม่ได้อยู่ในดินแดนเหมิงแล้ว เพราะรีบเปลี่ยนเส้นทางมาหาท่านทันที”
พี่ใหญ่รักและให้ความสำคัญกับเนี่ยนเนี่ยนเสมอ ดังนั้นเขาย่อมมาทดสอบว่าที่น้องเขยของเขา
ไป๋หลิวอี้ยังจำเหตุการณ์ในตำหนักอ๋องซิว ตอนที่เขาอายุแปดขวบได้ เมื่อนึกถึงเย่ฉิงหนานในตอนนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
แต่ในเมื่อเย่ฉิงหนานกำลังมา ก็จะได้รู้เบาะแสของเนี่ยนเนี่ยนในไม่ช้า ตอนนี้แม้ว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องการมีอยู่ของเป่ยเป่ย แต่ก็ยังไม่รู้เรื่องการมาถึงของเย่ฉิงหนาน ซึ่งช่วยได้มาก
ไป๋หลิวอี้รู้สึกโล่งใจขึ้น
“แม้แต่เสด็จลุงก็ยังไม่ทราบเรื่องการมาของพี่ใหญ่ ท่านบอกให้เราไปพบตอนเที่ยงคืนคืนนี้”
“ตกลง” ไป๋หลิวอี้พยักหน้า “ข้าจะกลับไปเตรียมตัว”
จากนั้นทั้งสองก็แยกจากกัน เพื่อไปทำธุระของตัวเอง
ขณะนี้เนี่ยนเนี่ยนกำลังนอนหมดอาลัยตายอยากอยู่ในห้อง นางอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว เนื่องจากวันนั้นนางหนีไปไม่สำเร็จ นางจึงพยายามอีกสองรอบ ซึ่งทั้งสองรอบนี้ก็จบลงด้วยการถูกชายสวมหน้ากากซัดฝ่ามือใส่ และอาเซิงเป็นคนพานางกลับมา
เนี่ยนเนี่ยนเห็นว่าสายตาของชายสวมหน้ากากดูร้อนรนและเหยียดหยามมากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้เขาจึงสั่งให้คนมามัดนางไว้อีกครั้ง เพื่อไม่ให้นางต้องลำบากอีกต่อไป
แม้ว่าเนี่ยนเนี่ยนจะแสร้งทำตัวอ่อนแอเป็นส่วนใหญ่ แต่นางก็ทนไม่ได้ที่จะถูกชายสวมหน้ากากทำร้ายหลายครั้งเช่นนี้
หลังจากกระอักเลือดออกมาสองครั้ง เนี่ยนเนี่ยนก็ไม่ผลีผลามอีกต่อไป หากยังเป็นเช่นนี้อีก อาการบาดเจ็บภายในของนางอาจไม่หายดีเสียที
แต่หลังจากหลบหนีไปได้สองสามครั้ง นางก็พอจะเข้าใจสถานการณ์บางอย่าง และมีเบาะแสที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันอยู่ในใจของนางมากมาย
อืม แต่แม้ว่ามันจะแยกส่วนกระจัดกระจาย แต่หากนำมารวมเข้าด้วยกัน ก็ทำให้นางคาดเดาได้อย่างกระจ่าง
ตอนนี้เป็นเวลาที่จะสะสมพลังไว้ให้ดี เพื่อรอคอยโอกาสหนีไปจากสถานที่ผีสิงแห่งนี้
เท่าที่นางรู้ คนเดียวในบ้านนี้ที่มีวรยุทธ์สูงกว่านางก็คือชายสวมหน้ากาก เนื่องจากเขาเป็นเจ้านาย เขาจึงต้องมีหลายสิ่งที่ต้องทำเสมอ เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในเรือนตลอดเวลา
หากต้องการหลบหนี จะต้องเลือกช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่
แต่การจะรู้ว่าเขาจะจากไปเมื่อใดนั้นค่อนข้างยาก
อาเซิงเข้ามาพร้อมกับอาหารกลางวัน เมื่อเห็นเนี่ยนเนี่ยนนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียงเหมือนคนตาย มุมปากของเขาก็อดกระตุกไม่ได้ ก่อนจะพูดว่า “ได้เวลากินแล้ว”
เนี่ยนเนี่ยนหันไปมองเขา จากนั้นถอนสายตาอย่างเฉื่อยชา แล้วถอนหายใจ “อาเซิง เจ้าคิดว่าข้าไม่มีโอกาสหลบหนีแล้วจริงหรือ?”
“จวิ้นจู่ควรล้มเลิกความคิดนี้เสีย ท่านได้รับบาดเจ็บภายในแล้ว หากพยายามหลบหนีโดยเปล่าประโยชน์อีก ท่านจะกินอะไรไม่อร่อย” อาเซิงกับนางถือว่าคุ้นเคยกันแล้ว แม้ว่าทั้งสองจะเป็นศัตรูกันก็ตาม แต่เนี่ยนเนี่ยนอยู่ที่นี่มาสองสามวันแล้ว คนเดียวที่พูดคุยด้วยได้คืออาเซิง
เนี่ยนเนี่ยนเหลือบมองเขาอีกครั้ง แล้วพ่นลมหายใจเบา ๆ “เป็นเพราะชายสวมหน้ากากคนนั้น วรยุทธ์ของเขาล้ำเลิศนัก หากไม่มีเขา ข้าเกรงว่าข้าคงออกไปได้นานแล้ว”
มุมปากของอาเซิงกระตุกอีกครั้ง นางไปเอาความมั่นใจในตัวเองแบบผิด ๆ มาจากที่ใด?
จากการเฝ้าสังเกตสองสามวันมานี้ อาเซิงพบว่านางเป็นเพียงหญิงสาวที่ไม่ค่อยรู้จักโลก ไม่ว่านางจะพูดอะไรหรือประพฤติตัวอย่างไร นางก็ดูเหมือนจะไร้เดียงสาอยู่เสมอ ความคิดของนางเพ้อฝันยิ่งนัก
มีสิ่งที่ยากและอันตรายมากมายในโลกนี้ แต่นางอาศัยอยู่แค่ในโลกที่อหังการของนางเท่านั้น เมื่อรู้ว่านายท่านจะไม่ฆ่านาง นางก็เริ่มเล่นกับความอดทนของนายท่านอย่างไม่ระมัดระวัง
นางไม่รู้หรือว่าความอดทนของทุกคนย่อมมีขีดจำกัด หากนางทำให้นายท่านขุ่นเคืองขึ้นมาจริง ๆ แม้ว่านางจะเป็นธิดาของท่านอ๋องซิว จุดจบของนางก็จะไม่ดีไม่ใช่หรือ?
เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนในอาณาจักรเฟิงชางหลงใหลนางมากเกินไป? ทำให้นางรู้สึกว่าทุกคนในโลกจะรักนาง และไม่ฆ่านางงั้นหรือ?
อาเซิงส่ายหน้า เมื่อนึกถึงรายงานที่ได้รับจากนายท่าน ก็ดูเหมือนว่าจวิ้นจู่จะเป็นสตรีผู้เป็นที่รักของผู้คนนับพัน
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเตือนนางด้วยหวังดีว่า “ต่อให้นายท่านจะไม่อยู่ที่นี่ เจ้าก็ไม่อาจหนีไปได้ ดังนั้นอย่าเสียเวลาดีกว่า อย่างไรเสีย เจ้าก็สามารถกินดีอยู่ดีที่นี่ได้ และนายท่านจะไม่ล่วงเกินเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่ต้องหาเรื่อง เข้าใจหรือไม่?”
เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองเขา “ไม่ล่วงเกินข้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าเห็นหรือไม่ว่าข้าโดนมัดอย่างไร? ตั้งแต่เด็กจนโต ข้ายังไม่เคยถูกทำร้ายเช่นนี้มาก่อนเลย แม้ว่าข้าจะแสร้งปลอมตัวเป็นหัวหน้าสาวใช้ของไป๋หลิวอี้ เมื่อนานมาแล้ว ก็ยังได้อยู่ห้องที่ดีที่สุด เป็นอิสระ อยู่อย่างสบาย แล้วตอนนี้มีอะไรเหมือนบ้าง?”
อาเซิงเบือนหน้าหนีเงียบ ๆ แสร้งปลอมตัวเป็นหัวหน้าสาวใช้ของไป๋หลิวอี้ แล้วยังจะทำตัวเป็นอิสระได้อยู่อีกหรือ? อาจเป็นเพราะไป๋หลิวอี้ เดาตัวตนของนางออกตั้งนานแล้วใช่หรือไม่? น้ำเสียงของนางไม่เหมาะกับการปลอมตัวเป็นสาวใช้เลย
อาเซิงก้าวเข้าไปแก้มัดให้นาง “กินข้าวก่อนเถิด อย่างไรเสีย ข้าก็อธิบายให้เจ้าฟังแล้ว หากเจ้ายังต้องการจะหนีอีก ความอดทนของนายท่านก็จะหมดลง”
เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองด้วยความโกรธจัด แต่ไม่คิดจะปล่อยให้ท้องตัวเองหิว นางจึงนั่งลงที่โต๊ะอย่างเชื่อฟัง
หลังอาหารเย็น อาเซิงก็นำยาอีกชามมาให้นาง
เนี่ยนเนี่ยนได้รับบาดเจ็บ พวกเขาย่อมไม่อาจปล่อยปละละเลยได้ แม้ว่านายท่านจะรู้ถึงความรุนแรงของการโจมตี และทำให้นางได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็ยังต้องระวัง
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกดีขึ้น หลังจากดื่มยาหมดภายในอึกเดียว นางก็จ้องไปที่อาเซิงอีกครั้ง แล้วนอนลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง
ครั้งนี้อาเซิงไม่ได้มัดนางอีก เขาเดินผ่านทางเดินทั้งสองเหมือนเคย แล้วเดินเข้าซุ้มประตูไปรายงานเจ้านายของเขา
เขาถ่ายทอดทุกคำพูดและการกระทำของเนี่ยนเนี่ยนอย่างละเอียดทุกวัน
ชายสวมหน้ากากจิบชา แล้วหัวเราะเบา ๆ “เย่ซิวตู๋เลี้ยงดูลูกชายมาอย่างดี แต่กลับเอาใจลูกสาวมากเกินไปจนเสียคน”
ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมที่อยู่ด้านข้างก็หัวเราะเช่นกัน “เพราะนางเป็นลูกสาวคนเดียว ทั้งยังมีรูปโฉมงดงามด้วย เขาจึงไม่มีทางสอนนางเหมือนที่สอนลูกชาย”
ชายสวมหน้ากากพยักหน้า หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็หันไปพูดกับเขาว่า “เช่นนั้นค่ำคืนนี้ เจ้าก็ไปช่วยนางได้เลย”
นัยน์ตาของชายหนุ่มเป็นประกาย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตอบว่า “ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว”
…………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานจะมาร่วมสืบเรื่องนี้ด้วยเหรอ
ไหหม่า(海馬)