อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 217 เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่
ตอนพิเศษ 217 เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่
ตอนพิเศษ 217 เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่
“ระวังตัวให้ดี คืนนี้ข้าไม่อยู่ที่เรือน และกำลังคนครึ่งหนึ่งจะถูกถอนออกไป จะทำเช่นไรต่อไปก็แล้วแต่เจ้า”
ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกายมากขึ้นเรื่อย ๆ เขากำมือแน่นขึ้นอย่างกระตือรือร้นที่จะลอง
ชายสวมหน้ากากขมวดคิ้ว แล้วเตือนเขาว่า “อย่าลืมตัวตนของเจ้าด้วย”
“ไม่ต้องห่วง ข้ารู้ว่าข้าควรทำอะไร” ชายหนุ่มเชิดคางเล็กน้อย “หลังจากหลายปีมานี้ ก็ไม่มีใครรู้ว่าข้าเป็นใครไม่ใช่หรือ?”
ชายสวมหน้ากากพยักหน้า แล้วโบกมือให้อาเซิงออกไป ก่อนเงยหน้าขึ้นมองไปนอกประตู และถอนหายใจเบา ๆ
หลังจากผ่านไปนาน เขาก็พึมพำกับตัวเองว่า “หลังจากเตรียมการมาหลายปี ก็ถึงเวลาต้องลงมือแล้ว”
ชายหนุ่มไม่ตอบ เพียงก้มหน้าลงเล็กน้อย โดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองคนก็พูดขึ้นอีกครั้ง พวกเขาคุยกันเรื่องแผนการที่จะดำเนินการคืนนี้อยู่นาน ก่อนจะแยกกันไปพักผ่อน
ราตรีนั้นเงียบสงัด ท้องฟ้ายามค่ำคืนมืดสนิท
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกได้ชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติ ราวกับว่า… จะมีบางอย่างเกิดขึ้น
นางนอนกำมือแน่นอยู่บนเตียง แม้จะดึกมากแล้ว นางก็ยังคงนอนลืมตามองม่านโปร่งเหนือศีรษะ พลางเม้มปากโดยไม่พูดอะไรสักคำ
มีเสียงกุกกักดังมาจากนอกประตู เนี่ยนเนี่ยนกลั้นหายใจตั้งใจฟังอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นปลายจมูกก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือด…
นางรีบพลิกตัวจากเตียง แล้วลุกขึ้นนั่งทันใด กลิ่นคาวเลือดหรือ? เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว
จมูกของนางไวต่อกลิ่นเลือดมาก เช่นเดียวกับมารดาของนาง แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังได้กลิ่น
ทันใดนั้นก็มีเสียงคมดาบปะทะกันดังโช้งเช้งมาจากข้างนอก เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้วทันที แล้วกระโดดขึ้นไปซ่อนอยู่บนขื่อ
วินาทีต่อมา ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ชายสองคนที่เฝ้าประตูห้องของบุกเข้ามา ทั้งสองรีบพุ่งตัวมาที่เตียง
เมื่อพวกเขาเห็นเตียงว่างเปล่า สีหน้าก็เปลี่ยนไปพร้อมกัน
“คนอยู่ที่ไหน?” คนหนึ่งยกผ้าห่มขึ้นเขย่าอย่างแรง
“หนีไปแล้วหรือ?” อีกฝ่ายก้มลงมองใต้เตียง
เนี่ยนเนี่ยนยกชายเสื้อขึ้นทันที เพื่อซ่อนตัวอยู่หลังเสา เส้นประสาททั่วทั้งร่างกายตึงเครียด
โชคดีที่เป็นเวลาเที่ยงคืน ทั้งเป็นคืนเดือนมืดและไม่มีเทียนไขในห้อง ดังนั้นแม้ว่าทั้งสองจะเงยหน้าขึ้นมอง พวกเขาก็ยังมองไม่เห็นนาง
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสองช่วยกันค้นทั่วทั้งห้อง เปิดดูข้างเตียง ใต้โต๊ะในตู้ หรือแม้แต่เปิดฝาถังน้ำ และในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมองคาน แต่หรี่ตามองเพียงใดก็ไม่เห็นเนี่ยนเนี่ยนที่กำลังซ่อนตัวอยู่
“ไป ไปตามจับมาให้ได้ หากหาไม่พบ พวกเราจะตายกันหมด”
ทั้งสองโกรธจัด หลังจากสบถออกมาเบา ๆ ก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เนี่ยนเนี่ยนยังคงอยู่บนคาน พลางหรี่ตาฟังการเคลื่อนไหวข้างนอก
ยังคงมีเสียงของคมดาบปะทะกันอยู่ ราวกับว่ามีคนผู้หนึ่งกำลังประจันหน้ากับผู้คนมากมาย
เนี่ยนเนี่ยนสงสัยว่ามีคนบุกเข้ามาในบ้านหลังนี้หรือ? ใครกัน?
มีเรื่องโกลาหลครั้งใหญ่เกิดขึ้น… ชายสวมหน้ากากไม่ได้อยู่ที่นี่หรือ?
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาลงทันที ชายสวมหน้ากากไม่อยู่! ชายสวมหน้ากากไม่อยู่!
เนี่ยนเนี่ยนกระโดดลงมาจากขื่อและฟังอย่างตั้งใจ สิ่งที่ทำให้นางแปลกใจ ก็คือพวกยามรักษาการณ์ที่แอบเฝ้าอยู่รอบบ้านในช่วงสองสามวันที่ผ่านมากลับหายไปหมด
เสียงการต่อสู้ข้างนอกดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทันใดนั้น เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น “เร็วเข้า ขวางเขาไว้ อย่าให้เข้ามาในเรือน”
“รีบส่งสัญญาณไปบอกนายท่าน”
เสียงดังขึ้นไม่ขาดสาย เนี่ยนเนี่ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับฝีเท้ากระโจนออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทาง กลิ่นเลือดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ คนมากมายนอนระเกะระกะอยู่บนทางเดิน
เนี่ยนเนี่ยนย่อตัวลงตรวจสอบดู คนเหล่านี้… ตายหมดแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนหยุดฝีเท้า เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีคนมาช่วยนาง? ใครกัน? ไป๋หลิวอี้หรือเป่ยเป่ย?
นางคิดแล้วก็ตัดสินใจกลับไปดู หากคนที่ต่อสู้กับพวกผู้รักษาการณ์ที่ซ่อนอยู่เหล่านี้คือไป๋หลิวอี้หรือเป่ยเป่ย นางจะไม่ทิ้งเขาไว้คนเดียว
คิดได้ดังนั้นก็รีบเดินกลับไป การเคลื่อนไหวของนางเป็นไปอย่างเงียบเชียบ
เมื่อมาถึงบริเวณที่ได้ยินเสียงการต่อสู้เมื่อครู่นี้ นอกจากศพสองสามศพก็ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว
นางตั้งใจฟัง แต่ก็ไม่ได้ยินอะไรเลย นอกจากเสียงลมที่ดังหวีดหวิวเป็นครั้งคราว
เนี่ยนเนี่ยนก้าวไปข้างหน้าด้วยความหงุดหงิด
ทั้งบ้านเงียบกริบ นอกจากกลิ่นอันน่าสะอิดสะเอียนในอากาศและซากศพที่กระจัดกระจายบนพื้น ก็ไม่มีเสียงอื่นใด
เนี่ยนเนี่ยนยกชายกระโปรงขึ้น เม้มปากแน่น และก้าวไปข้างหน้าเงียบ ๆ
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าที่เงียบเชียบแบบเดียวกันก็ดังมาจากด้านหน้า ตรงเข้ามาหานางช้า ๆ
เนี่ยนเนี่ยนหายใจแรงขึ้น แล้วทะยานขึ้นไปอยู่บนหลังคา
เมื่อมองลงไปด้านล่าง ก็พบว่าคนด้านล่างหน้าตาคุ้นเคยนัก
รูม่านตาของเนี่ยนเนี่ยนหดตัว นางกระโดดลงไปทันที
การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันทำให้คนด้านล่างตกใจ เขายกอาวุธขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดาบในมือของเขาเกือบจะโจมตีใบหน้าของเนี่ยนเนี่ยน
“ช้าก่อน นี่ข้าเอง” เนี่ยนเนี่ยนพูด ชายคนนั้นหยุดชะงัก แล้วมองนางด้วยความดีใจ
“จวิ้นจู่หรือขอรับ?”
“อาเวิน เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เนี่ยนเนี่ยนมองเขา และพบว่านอกจากรอยเลือดเล็กน้อยบนร่างกายแล้ว ตัวเขาก็ค่อนข้างสะอาดและไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่อาเวินเดินมาหานางด้วยความตื่นเต้น พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า “จวิ้นจู่ ในที่สุดข้าก็พบท่าน ข้า…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากข้างหลัง จากนั้นคนสองคนก็ยกดาบเล็งไปที่หน้าของอาเวิน แล้วโจมตี
อาเวินขมวดคิ้วและรีบยกดาบขึ้นสกัดกั้น การเคลื่อนไหวของเขาพลิ้วไหวดุจสายน้ำและปุยเมฆ ท่วงท่าเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก เขาเป็นระดับปรมาจารย์ที่ไม่อาจหยั่งถึง
คนทั้งสองคงไม่คาดคิดว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะรวดเร็วขึ้นทันใด แต่พวกเขาก็ชุลมุนอยู่แต่กับอาเวินเพียงลำพัง โดยไม่สนใจเนี่ยนเนี่ยนที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้าง
จู่ ๆ เนี่ยนเนี่ยนก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย นางก็ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยแท้ ๆ เป็นไปได้หรือไม่ที่พวกเขาตาบอดทั้งคู่? ไม่เห็นนางหรืออย่างไร? อย่างไรเสีย นางก็งดงามราวกับบุปผาแรกแย้ม และเป็นตัวประกันที่เจ้านายของพวกเขา อยากจะจับไปมัดและขังไว้ วิธีปฏิบัติต่อตัวประกันเช่นนี้ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
แต่นางเห็นว่าทักษะของอาเวินนั้นสามารถจัดการพวกเขาได้สบาย นางยังบาดเจ็บอยู่ ดังนั้นนางจะแค่นั่งพักอยู่ด้านข้าง
คิดได้ดังนั้น นางก็เดินไปที่ทางเดินและนั่งบนราวบันได
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นาน อาเวินก็ปาดคอของชายทั้งสองด้วยความโกรธ จากนั้นหยิบดาบเปื้อนเลือดกลับเข้าฝัก แล้วเตะทั้งสองคนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เพื่อเป็นการยืนยันว่าตายสนิทแล้ว
เขากลับมาอยู่ข้างเนี่ยนเนี่ยนอีกครั้งด้วยสีหน้าตึงเครียด แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างกระวนกระวาย “จวิ้นจู่ มันไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน รีบไปกับบ่าวเถิดขอรับ”
“… ตกลง” เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า แล้วลุกขึ้นเดินตามหลังเขาไป “ว่าแต่อาเวิน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่?”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอ อาเวินรู้ได้ยังไงนะ มีคนส่งข่าวบอกเหรอ?
ไหหม่า(海馬)