อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 222 เป่ยเป่ยผู้ได้รับบทเรียน
ตอนพิเศษ 222 เป่ยเป่ยผู้ได้รับบทเรียน
ตอนพิเศษ 222 เป่ยเป่ยผู้ได้รับบทเรียน
เป่ยเป่ยเดินหน้ามุ่ยเข้ามา หูของเขาแดงเหมือนถูกใครบางคนดึงอย่างแรง
เนี่ยนเนี่ยนเบิกตากว้าง พี่ใหญ่สอนบทเรียนให้เขาจริงหรือ?
ให้บทเรียนด้วยการ… บิดหูงั้นหรือ?
นางจะไม่หัวเราะได้อย่างไร? แต่กระนั้นสายตาคมกริบของเย่ฉิงเป่ยจ้องมองมาที่นางอย่างดุดัน
เนี่ยนเนี่ยนรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ และพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่ แต่หลังจากคิดดูแล้ว เรื่องนี้เขาก็ผิดเต็มประตู เขาสมควรได้รับบทเรียนแล้ว เหตุใดยังมีหน้ามาจ้องนางอีก?
คิดได้ดังนั้น เนี่ยนเนี่ยนก็เงยหน้าขึ้นจ้องเขาตอบด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
มุมปากของเย่ฉิงเป่ยอดกระตุกไม่ได้ ไม่รู้จริง ๆ ว่าคนไหนเป็นพี่คนไหนเป็นน้องกันแน่
เย่ฉิงหนานมองการสบตาระหว่างทั้งสองตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนี้เขาอดไม่ได้ที่จะหรี่ตา แล้วพูดว่า “เป่ยเป่ย เนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่สาวของเจ้า เจ้ายังกล้าจ้องมองนางอีกหรือ?”
เย่ฉิงเป่ยตัดสินใจไม่คุยกับสองคนนี้อีกต่อไป พี่ใหญ่ไม่เคยจะปกป้องเขาบ้างเลย เขาเอาอกเอาใจเนี่ยนเนี่ยนมากว่าสิบปี ไม่ว่าเนี่ยนเนี่ยนจะพูดหรือทำอะไร ไม่ว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่ก็ตาม เขาจะยืนหยัดเคียงข้างนาง โดยปราศจากเหตุผลและศีลธรรม น้องชายเช่นเขาช่างสงสาร มันน่าเศร้าที่ไม่ได้รับความรักความเอาใจใส่จากพี่น้องบ้างเลย
เนี่ยนเนี่ยนยกยิ้ม แล้วเดินไปข้างเย่ฉิงหนาน และจับแขนของเขา “พี่ใหญ่”
“อืม” เย่ฉิงหนานพยักหน้าเบา ๆ ให้นาง จากนั้นถามว่า “เหตุใดเจ้าจึงให้ไป๋หลิวอี้เรียกเรามา?”
ขณะที่เขาพูด เขาก็มองไป๋หลิวอี้ด้วยสายตาเย็นชา ดูรังเกียจเดียดฉันท์ยิ่งนัก
อีกฝ่ายไม่ได้สนใจ ด้วยเข้าใจความคิดของเย่ฉิงหนานดี
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนได้ยินเขาพูดถึงเรื่องนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะยืดตัวตรง สีหน้าของนางดูจริงจังขึ้น นางบอกเย่ฉิงเป่ยว่า “เป่ยเป่ย เจ้าไปปิดประตูก่อน”
“…” เย่ฉิงเป่ยแอบถอนหายใจภายใต้การจ้องมองของพี่ใหญ่ แล้วเดินไปปิดประตู
เนี่ยนเนี่ยนกล่าวว่า “ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ข้าอยู่ในบ้านพักและพยายามหลบหนี แต่ข้าถูกชายวัยกลางคนที่สวมหน้ากากขัดขวางไว้ ชายคนนั้นมีวรยุทธ์ล้ำเลิศยิ่งนัก จึงไม่ง่ายที่จะจัดการ ข้ากับเขาเคยสู้กัน แต่ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย อีกทั้งตอนที่เขาต่อสู้กับข้า เขายังจงใจปกปิดความแข็งแกร่งและวรยุทธ์ด้วย แต่ยิ่งปิดบังก็ยิ่งชัดเจน ข้าสังเกตมาหลายวันแล้ว…”
เนี่ยนเนี่ยนเงียบไปครู่หนึ่ง เม้มปากเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานนางก็พูดว่า “ข้ามีผู้ต้องสงสัยอยู่ในใจ”
“ใคร?” เย่ฉิงหนานถาม
เนี่ยนเนี่ยนลดเสียงลง แล้วตอบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “หนึ่งในสี่ตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่… ตระกูลเจี่ยง”
ตระกูลเจี่ยงหรือ? เจี่ยงโม่เซิงหรือ?
ไป๋หลิวอี้ขมวดคิ้วแน่น แม้ว่าเขาจะสงสัยว่าใครบางคนจากสี่ตระกูลใหญ่ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เขามีมิตรภาพกับปรมาจารย์รุ่นเยาว์ของตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ เจี่ยงโม่เซิงเป็นคนที่มั่นคงและฉลาดที่สุดในบรรดาสี่ตระกูลนี้เสมอ คงจะน่าเสียดายหากเขามีใจที่แตกต่างออกไป
ทุกคนในห้องเงียบลง เรื่องเริ่มร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงของเย่ฉิงเป่ย “ข้าจะเข้าวังหลวงไปรายงานเรื่องนี้กับเสด็จลุง”
“อืม ไปเถอะ” เย่ฉิงหนานโบกมือ “แล้วก็บอกพวกเขาด้วยว่าเนี่ยนเนี่ยนปลอดภัย ไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้จะไปเข้าเฝ้าเขาในวังหลวง”
“ได้ขอรับ” เย่ฉิงเป่ยและไป๋หลิวอี้มองหน้ากัน จากนั้นเย่ฉิงเป่ยก็รีบหันหลังเดินจากไป
เย่ฉิงหนานมองเนี่ยนเนี่ยนอีกครั้ง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “ข้าจะทิ้งเรื่องยุ่ง ๆ พวกนั้นไว้กับไป๋หลิวอี้และเย่ฉิงเป่ยชั่วคราว เนี่ยนเนี่ยน ถ้าเจ้าได้รับบาดเจ็บ ก็กลับไปพักผ่อนให้ดีที่จวนซูกั๋วกงก่อน เจ้าไม่อยู่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็คงจะเป็นห่วงมาก เจ้าควรกลับไปรายงานความปลอดภัยของตัวเองก่อน ช่วงสองสามวันนี้เจ้าควรอยู่เคียงข้างฮูหยินเฒ่าไป๋ที่จวนซูกั๋วกง”
เขากับไป๋หลิวอี้มีความเห็นเหมือนกัน และเนี่ยนเนี่ยนก็คิดแบบเดียวกัน นางจึงพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
พูดจบก็ลุกเดินออกจากห้องไป
ไป๋หลิวอี้ก็เดินตามหลังไปหนึ่งก้าว แล้วพูดกับเย่ฉิงหนานว่า “พี่ใหญ่ ข้าขอตัวกลับก่อน หากมีข่าวอะไรข้าจะรีบติดต่อไปทันที”
“…” เย่ฉิงหนานเม้มปากแน่น ขณะมองไป๋หลิวอี้เดินตามเนี่ยนเนี่ยนไป เส้นเลือดบนหน้าผากของเขากระตุกอย่างแรง ใครคือพี่ใหญ่ของเจ้า? เรียกใครว่าพี่ใหญ่? เรียกสนิทสนมเช่นนั้น คิดว่าข้ายอมหรืออย่างไร?
อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ว่านอกจากเป่ยเป่ยแล้ว คนที่เนี่ยนเนี่ยนกำลังจะฟ้องก็คือเขา แต่ตอนนี้เป็นช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติ จึงทำให้เขาลำบากใจไม่ได้จริง ๆ
เมื่อเรื่องนี้จบลง เย่ฉิงหนานก็ไม่รังเกียจที่จะทุบตีเขาให้อ่วมไปเลย
ปล่อยให้เขาฉวยโอกาสจากน้องสาว ปล่อยให้เขาหลอกลวงเนี่ยนเนี่ยน ปล่อยให้เขาพร่ำเพ้อถึงเนี่ยนเนี่ยนมาหลายปี
อายุแปดขวบแต่ดันแก่แดด ต้องการเอาเนี่ยนเนี่ยนไปเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุแปดขวบ ช่างไร้ยางอาย!!!
เย่ฉิงหนานเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เขาไม่มีความรู้สึกดีต่อไป๋หลิวอี้เลย การเป็นน้องเขยของเขาจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?
ไป๋หลิวอี้ไม่รู้เลยว่า ว่าที่พี่ชายภรรยาของเขารักน้องสาวแบบจริงจัง เขาเดินเร็วเพียงไม่กี่ก้าวก็ตามทันเนี่ยนเนี่ยน และช่วยพยุงนางขึ้นรถม้าด้วยท่าทางอ่อนโยน
เนี่ยนเนี่ยนอยากจะสะบัดมือเขาออก แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเขา นางก็รู้สึกมึนงงและทำได้เพียงปล่อยเขาไป
เมื่อนางเข้าไปในรถม้า นางก็นั่งพิงผนังรถม้าโดยไม่พูดอะไรอีกครั้ง ไม่ยอมคุยกับเขา
อย่าคิดว่านางจะให้อภัยเขา หลังจากที่เขาทำอาหารอร่อยให้กิน
ไป๋หลิวอี้หัวเราะ และไม่ได้เอ่ยคำใดเช่นกัน รถม้าแล่นเข้าไปในจวนซูกั๋วกง
จวนทั้งสองแห่งอยู่ไม่ห่างกันนัก ใช้เวลาเพียงหนึ่งในสี่ชั่วยามก็ถึง เนี่ยนเนี่ยนลงจากรถม้า
เมื่อคนรับใช้ที่เฝ้าประตูเห็นนางกับไป๋หลิวอี้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นทันที แล้วเขารีบหันไปสั่งคนให้ไปบอกหัวหน้าไป๋
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเดินผ่านสวนหน้าบ้าน แม่นมอวี๋ก็พยุงฮูหยินเฒ่าไป๋เดินออกมา เมื่อนางเห็นเนี่ยนเนี่ยนก็พิจารณาอยู่นาน จากนั้นจับมือนาง แล้วพูดด้วยความเป็นห่วงว่า “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ? อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไร? เป็นแผลตรงไหนหรือเปล่า?”
ขณะที่พูดนั้น นางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางจึงหันไปดุไป๋หลิวอี้ว่า “เจ้านี่เหลือเกินจริง ๆ รู้ว่าเนี่ยนเนี่ยนได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าไม่รู้จักสั่งให้คนไปเอาเสลี่ยงมาให้ เจ้าดูแลนางเช่นนี้หรือ? เนี่ยนเนี่ยนต้องเจ็บตัวเพราะเจ้า เจ้านี่ช่าง…”
ฮูหยินเฒ่าไป๋พูดจบก็มองเขาด้วยสายตาดุดัน จากนั้นหันไปบอกแม่นมอวี๋ทันทีว่า “เร็วเข้า ให้ใครสักคนมาแบกเกี้ยว แล้วพาเนี่ยนเนี่ยนกลับไปที่หอหลินเยว่อย่างระมัดระวัง”
ขณะที่นางหันไปพูด เนี่ยนเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะมองไป๋หลิวอี้ด้วยความประหลาดใจ ก่อนโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูเขาว่า “เจ้าบอกฮูหยินเฒ่าไป๋ว่าข้าบาดเจ็บหรือ? แล้วที่บอกว่าข้าเจ็บตัวเพราะเจ้านั่นหมายความว่าอย่างไร เกิดอะไรขึ้น?”
นางโน้มตัวเข้าไปใกล้มาก ลมหายใจอุ่น ๆ กระทบใบหูของเขา ไป๋หลิวอี้รู้สึกเหมือนรูขุมขนทั่วร่างของเขาเปิดออก เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็หัวเราะ “ท่านย่าพูดอะไร เจ้าก็แค่พยักหน้าไปก่อนเถิด แล้วข้าค่อยคุยกับเจ้าทีหลัง”
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ต่อให้รอดการลงโทษจากหนานหนาน ก็ไม่รอดฮูหยินเฒ่าไป๋ไปอยู่ดีแหละน้าหลิวอี้
ไหหม่า(海馬)