อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 224 คิดถึง
ตอนพิเศษ 224 คิดถึง
ตอนพิเศษ 224 คิดถึง
ขอให้ฟ้าผ่างั้นหรือ?
ในยุคนี้ ผู้คนยังคงถือและเคร่งครัดต่อการสาบานมาก เมื่อได้ให้คำสัตย์สาบานแล้ว ก็ไม่กล้าทำผิดสัญญาง่าย ๆ
เนี่ยนเนี่ยนไม่คาดคิดเลยว่า ไป๋หลิวอี้ไม่เพียงแต่จะช่วยโกหกฮูหยินเฒ่าไป๋ให้นางเท่านั้น แต่ยังสาบานด้วย…
แต่งงานงั้นหรือ? ใครจะแต่งงานกับเขากัน? ช่างกะล่อนนัก
ขณะที่นางกำลังคิด เสียงฝีเท้าเบา ๆ ก็ดังมาจากข้างนอก เหวินหย่าหันไปมองแล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “ฮูหยินเฒ่าไป๋กับคุณชายใหญ่มาแล้ว”
หลังจากพูดจบ นางก็ก้าวเข้าไปห่มผ้าห่มให้เนี่ยนเนี่ยน แล้วกระซิบว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเมื่อคุณชายใหญ่ใช้ข้ออ้างเช่นนั้น เจ้าก็ควรตามน้ำไปก่อน เจ้าไม่อาจบอกความจริงแก่ฮูหยินเฒ่าได้”
ความจริง… แน่นอนว่าไม่อาจบอกได้
เนี่ยนเนี่ยนเชื่อฟังโดยดี ปล่อยให้เหวินหย่าพยุงนางนอนลงบนเตียง ห่มผ้าห่มให้นาง แล้วเอนตัวพิงหัวเตียง เพื่อรอดูฮูหยินเฒ่าไป๋และไป๋หลิวอี้เดินเข้ามาจากประตู
ทันทีที่ฮูหยินเฒ่าไป๋เข้าประตูมา นางก็สะบัดมือของไป๋หลิวอี้ นั่งลงบนขอบเตียงของเนี่ยนเนี่ยนด้วยสีหน้าลำบากใจ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เป็นความผิดของหลิวอี้ที่ทำให้เจ้าต้องทนทุกข์ เขารู้แล้วว่าสถานะของตัวเองไม่เหมือนเดิม แต่เขาก็ไม่ได้พาทหารองครักษ์มาอยู่ข้างกายเขาอีกสักสองสามคน จึงทำให้เจ้าถูกทำร้ายไปด้วย ไม่ต้องห่วง ข้าสั่งสอนเขาให้แล้ว ถ้าเจ้ายังไม่รู้สึกสบายใจอีก เจ้าก็สามารถจัดการกับเขาเองได้เลย”
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกละอายใจเล็กน้อย นางเงยหน้าขึ้นมองไป๋หลิวอี้เงียบ ๆ
ฝ่ายหลังเอาแต่ยกยิ้ม และไม่แม้แต่จะโต้เถียงคำพูดของฮูหยินเฒ่าไป๋
“ข้าสบายดีแล้วเจ้าค่ะ เป็นแค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ดูหน้าข้าสิเจ้าคะ ไม่มีอะไรผิดปกติ” เนี่ยนเนี่ยนชี้ไปที่ใบหน้าตัวเอง แม้นางได้รับบาดเจ็บภายใน แต่ก็ไม่ร้ายแรง
ฮูหยินเฒ่าไป๋ส่ายหน้า “ถึงอย่างนั้นข้าก็เห็นว่าซีดไปหน่อย”
“…” ท่านเห็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร? ซีดตรงไหนกัน?
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะแห้ง ๆ เมื่อรู้ว่าไม่ว่านางจะพูดมากเพียงใด ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็ยังจะเชื่อว่านางอ่อนแอ
ฮูหยินเฒ่าไป๋กังวลมาก หลังจากพูดคุยปลอบโยนอยู่นาน นางก็ลุกขึ้นและบอกเหวินหย่าว่า “เจ้าคอยดูแลนางให้ดี อย่าปล่อยให้นางลุกจากเตียง พรุ่งนี้ข้าจะมาหานางอีก”
พรุ่งนี้จะมาอีกหรือ? เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกเหนื่อยใจมาก เมื่อรอจนกระทั่งฮูหยินเฒ่าจากไปแล้ว นางก็ขมวดคิ้วมองไป๋หลิวอี้ “เจ้าบอกฮูหยินเฒ่าว่าข้าสบายดี พรุ่งนี้ไม่ต้อง…”
“เจ้าบอกว่าท่านย่าควรเดินมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ? แค่นี้พอแล้วหรือ?” เดินจากโถงเล่อฝูไปยังหอหลินเยว่หลังอาหารเย็น ระยะทางกำลังพอดี
เนี่ยนเนี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่ง เม้มปากและไม่เอ่ยคำใด
แต่แล้วก็ต้องอึ้งไปอีกครั้ง ไม่สิ ถูกต้องแล้วที่ฮูหยินเฒ่าไป๋จะเดินให้มากขึ้น แต่ปัญหาคือ… นางจะต้องอยู่บนเตียงนานเพียงใด?
“ไม่ต้องห่วง ข้าติดต่อหมอเว่ยแล้ว พรุ่งนี้ข้าให้เขามาจับชีพจรเจ้า แล้วบอกท่านย่าว่าเจ้าสบายดี ไม่ต้องนอนอยู่แต่บนเตียง” ไป๋หลิวอี้จัดชายผ้าห่มของนางพลางพูดด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่ารู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
เหวินหย่าและโม่เพียวที่อยู่ข้างหลังเขาออกไปอย่างรู้งาน เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเห็นว่าตนอยู่ในห้องกับเขาสองต่อสอง เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เมื่อเห็นการกระทำของเขาเมื่อครู่นี้
“เหตุใดเจ้าถึงบอกฮูหยินเฒ่าว่าข้าได้รับบาดเจ็บ เพราะเข้าไปขวางฝ่ามือที่กำลังจะซัดเจ้า?” เนี่ยนเนี่ยนหันไปถามด้วยเสียงแผ่วเบา
ไป๋หลิวอี้แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดนางก็เต็มใจจะฟังคำอธิบายของเขา
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มอธิบายว่า “ประการแรก มันป้องกันการซุบซิบนินทาได้ ประการที่สอง ท่านย่าจะได้เอ็นดูเจ้ามากขึ้น ในอนาคตนางจะได้ปกป้องและช่วยเหลือเจ้า หากวันหนึ่งเราสองคนทะเลาะกัน นางก็จะอยู่เคียงข้างเจ้า ประการที่สาม ก็เพื่อบอกคนเหล่านั้นว่าเราสองคนรักกันมาก แบบที่ไม่มีผู้ใดมาพรากไปจากกันได้”
“…” เดี๋ยวนะ รักบ้าบออะไรกันเนี่ย?
เนี่ยนเนี่ยนหันขวับไปมองเขาทันที เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋หลิวอี้ มุมปากของนางก็กระตุก ก่อนจะยกเท้าขึ้นหมายจะเตะเขา “อย่าพูดราวกับว่าข้ารักเจ้ามากสิ คิดว่าข้ารักเจ้ามากถึงขนาดยอมตายเพื่อเจ้าเลยหรือ?”
ทันทีที่นางเตะ ไป๋หลิวอี้ก็จับเท้าของนางไว้
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกร้อนรุ่ม ราวกับว่าเท้าขวาของนางกำลังถูกแผดเผา นางจึงดึงเท้ากลับมาอย่างแรง
คาดไม่ถึงว่าเมื่อเท้าถูกดึงกลับมา ไป๋หลิวอี้ก็ถูกดึงเข้ามาด้วยเช่นกัน
ระยะห่างระหว่างทั้งสอง…อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เนี่ยนเนี่ยนกะพริบตา แทบจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน
นางชะงักกึก ก่อนเอื้อมมือไปผลักเขาออกไป
ทว่าไป๋หลิวอี้กอดเอวนาง แล้วกดตัวนางเข้ากับแผ่นอกของเขาด้วยแรงทั้งหมด
“เจ้า เจ้า เจ้าทำอะไร?” เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองเขาอย่างหวาดระแวง
ไป๋หลิวอี้ถอนหายใจช้า ๆ แขนของเขาโอบรอบเอวนางแน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างนาง น้ำเสียงของเขาราบเรียบขณะพูดช้า ๆ “เมื่อครั้งที่ข้าเห็นเจ้าครั้งแรกตอนข้าอายุแปดขวบ เจ้ากำลังจับงูพิษอย่างชำนาญ ตอนนั้นข้าคิดว่าเจ้ายังเด็กนัก เหตุใดถึงไม่กลัวสัตว์เลือดเย็นและมีพิษเช่นนั้น?”
เนี่ยนเนี่ยนตัวแข็งทื่อไปชั่วครู่ ร่างกายที่กำลังพยายามดิ้นรนจะลุกขึ้นนิ่งไปทันที เหตุใดจู่ ๆ เขาถึงพูดเช่นนี้?
“ต่อมา ท่านอารองช่วยขอหมั้นหมายเจ้ากับพ่อแม่ของเจ้า ในใจข้าก็นึกว่าไม่ค่อยดีนัก แต่ก็บอกไม่ถูกว่าไม่ดีอย่างไร ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้ข้าเข้าไปในห้องที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน และมีเจ้าอยู่ด้วย ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมอบหยกที่ห้อยคอเจ้าให้ข้า”
เมื่อไป๋หลิวอี้พูดจบ ทันใดนั้นเขาก็หยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากอก แล้วลูบมันอย่างแผ่วเบา
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่ามันดูคุ้นตา นางจึงจ้องมองมันอยู่นาน
“ในตอนนั้นทุกคนในห้องหัวเราะ แล้วเจ้าก็เดินจากไป เมื่อหลิวเจวี๋ยเห็นจี้หยกในมือของข้า เขาก็รีบวิ่งมาคว้ามัน แล้วตะโกนบอกให้ข้ายกมันให้เขา บอกว่ามันเป็นของเขา จากนั้นไม่นาน หลังจากที่ข้าถูกพากลับมาที่จวนไป๋ ชีวิตข้าก็ลำบากทันที สถานะของข้าในจวนไป๋นั้นน่าอับอายยิ่ง ข้าจึงไม่คิดจะต่อสู้กับเขา แต่ข้าปฏิเสธที่จะยอมยกจี้หยกนี้ให้เขา ทำให้หลิวเจวี๋ยถึงกับข่วนหน้าข้า”
เนี่ยนเนี่ยนจำสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่นางอายุสามขวบไม่ได้ แต่หลังจากฟังคำบอกเล่าของเขา นางก็พบว่าเหตุการณ์นั้น… น่าสนใจมาก
“ต่อมาหลิวเจวี๋ยก็เริ่มร้องไห้ไม่หยุด ไม่ว่าใครจะปลอบก็ไม่ยอมหยุด ท่านอารองไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากบอกว่าจี้หยกนั้นไร้ประโยชน์ และคำพูดเด็กก็จะไม่ถูกถือเป็นจริงจัง ต่อมาท่านอารองก็ซื้อจี้หยกอีกอันหนึ่งให้เขา ไป๋หลิวเจวี๋ยจึงหยุดร้องไห้ ทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านอารองพูด และถือว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องตลก จึงปล่อยผ่านเลยไป”
หากปราศจากการหารืออย่างเป็นทางการของผู้ใหญ่แล้ว จะถือเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร?
แต่ในขณะนั้น ไป๋หลิวอี้ได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจแล้ว เนี่ยนเนี่ยนอยู่ในใจของเขามาโดยตลอด
“แต่ข้ายังคงดื้อรั้น เพราะรู้สึกว่าเจ้าได้ตัดสินใจเลือกข้าแล้ว เรื่องนี้ไม่อาจนิ่งดูดายปล่อยไว้ได้ หากผู้ใหญ่ไม่จริงจัง เช่นนั้นข้าก็จะคิดเอง คิดถึงร่างเล็ก ๆ ที่ตั้งใจใส่งูเข้าไปในตะกร้าไม้ไผ่ คิดถึงร่างที่เดินแกว่งตัวไปมา แต่น่ารักน่าเอ็นดู คิดถึงร่างที่ยัดจี้หยกใส่มือข้าอย่างแรง แล้วหันหลังจากไปโดยไม่เอ่ยคำใดสักคำ คิดว่า…เจ้าต้องเป็นภรรยาของข้าในอนาคต”
…………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
หลิวอี้รุกแรงมาก เนี่ยนเนี่ยนเขินหน้าแดงยัง
ไหหม่า(海馬)