อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 225 ปากหวานเหลือเกิน
ตอนพิเศษ 225 ปากหวานเหลือเกิน
ตอนพิเศษ 225 ปากหวานเหลือเกิน
เนี่ยนเนี่ยนหน้าแดงเพราะคำพูดของเขา อารมณ์ที่อธิบายไม่ถูกพลุ่งพล่านขึ้นมา ทำให้นางเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง
ตอนนั้นมีใครบ้างที่คิดว่าเด็กอายุแปดขวบ จะไร้ยางอายถึงขนาดไม่ปฏิเสธจี้หยกของเด็กอายุสามขวบ? ชัดเจนว่า… เป็นเรื่องอบอุ่นหัวใจมาก
“หลังจากกลับมาอาณาจักรเทียนอวี่ ท่านอารองก็จะไปอาณาจักรเฟิงชางเป็นครั้งคราว ทุกครั้งที่เขากลับมา ข้าจะไปหาเขาเพื่อสอบถามเรื่องของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์ในการเรียนแพทย์ตั้งแต่เด็ก และข้ารู้ว่าเจ้าปรุงยาพิษเก่งมาก ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นที่รักและที่โปรดปรานของใครหลายคน รู้ว่าเจ้าเป็นคนฉลาดหลักแหลม และใส่ใจคนที่อยู่รอบตัวเจ้า… หลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองครั้ง ท่านอารองก็เข้าใจความคิดของข้า และถามว่าข้าคิดเช่นไรอย่างจริงจัง ต่อมา เมื่อเขากลับมาจากอาณาจักรเฟิงชาง เขาก็ให้ตำราสองสามเล่มแก่ข้า มันคือตำราฝึกยุทธ์ที่… ท่านอ๋องซิวมอบให้ข้า”
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง เงยหน้าขึ้นทันใด “พ่อของข้าหรือ?”
“ใช่ ท่านอ๋องซิวสอนวรยุทธ์ให้ข้าทางอ้อม เขาแอบส่งคนสองสามคนมาคอยชี้แนะข้า ทั้งยังสอนวิธีแก้ปัญหายาก ๆ ให้ข้าด้วย”
เนี่ยนเนี่ยนมองเขาด้วยความหงุดหงิด “เจ้าหมายความว่า พ่อของข้าเลี้ยงเจ้าให้เป็นว่าที่ลูกเขยตั้งแต่แรกงั้นหรือ?”
ไป๋หลิวอี้หัวเราะ แล้วใช้นิ้วลูบไล้ใบหน้าโกรธเคืองของนางเบา ๆ “ข้ามีความสุขมาก เขาไม่ปฏิเสธข้าตั้งแต่แรก”
เนี่ยนเนี่ยนเบือนหน้าหนี “พูดราวกับว่าเจ้าแข็งแกร่งนัก” ไม่แปลกใจเลยที่ท่านพ่อไม่ต่อต้านนางเลยตั้งแต่แรก ไม่แปลกใจเลยที่ท่านพ่อบอกว่าหากนางต้องการถอนหมั้น ก็ให้ไปที่อาณาจักรเทียนอวี่ด้วยตัวเอง มันคือการผลักนางเข้าไปในกองไฟชัด ๆ ท่านพ่อช่างกะล่อนและเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก
“ต่อหน้าเจ้า ต่อให้จะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไร้ประโยชน์”
“…” อย่าคิดว่าคำหวานเพียงไม่กี่คำจะทำให้นางใจอ่อนลงได้
“เมื่อเจ้าโตพอ ข้าแทบรอไม่ไหวที่จะส่งจดหมายขอแต่งงานให้เจ้า” รอยยิ้มของไป๋หลิวอี้สดใสขึ้น “ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม เจ้าก็ต้องเป็นของข้า”
เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองเขา เขามีแผนการอยู่ในใจจริง ๆ เหตุใดเขาถึงคิดว่านางจะต้องตกหลุมรักเขาแน่นอน?
“ข้ารู้ว่าเจ้าเดินทางมาอาณาจักรเทียนอวี่” ไป๋หลิวอี้กุมมือเนียนนุ่มของนาง “แต่ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะมาถึงเมื่อใด และไม่รู้ด้วยว่าแผนของเจ้าคืออะไร อันที่จริงข้าเฉยเมยมาก ข้าทำได้เพียงอยู่ในด้านสว่างเพื่อให้เจ้าตัดสินเอง ปล่อยให้เจ้าตัดสินว่าข้าเหมาะสม และมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นคนคนนั้นของเจ้าได้หรือไม่”
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก พูดราวกับว่านางมีความผิด
เอาล่ะ ดูเหมือนว่าจะใกล้ถึงเรื่องนั้นแล้ว
“ข้าไม่คาดฝันว่าจะพบเจ้าในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง วันนั้นที่โรงเตี๊ยมจวี้เป่า ข้าบังเอิญออกมาจากห้องโถง แล้วได้ยินคนเรียกชื่อเจ้า เมื่อข้าหันไปก็เห็นเจ้ายืนอยู่ข้างโต๊ะ พลางพูดตอบโต้ด้วยดวงตาสดใสเป็นประกาย ฟันขาวสะอาด ริมฝีปากบาง ในเวลานั้น ข้ารู้สึกราวกับว่าทั้งตัวของข้าถูกโยนลงไปในกระทะ และเลือดในกายข้าก็กำลังเดือดพล่าน เนี่ยนเนี่ยน เจ้าไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นข้าเขินอายมากเพียงใด ตอนนั้นข้าไม่กล้าแม้แต่จะมองเจ้าอีกด้วยซ้ำ ข้าจึงวิ่งหนีไป”
เนี่ยนเนี่ยนกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ ไม่กล้ามองเขา
ไป๋หลิวอี้ยังหลุบตาลงมองใบหน้าแดงก่ำของนาง แล้วพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะปลอมตัวเป็นสาวใช้มาหาข้า ข้าไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี จะเปิดโปงเจ้าหรือปล่อยให้เจ้าดำเนินการตามแผนต่อ ดูเหมือนว่าไม่ว่าข้าจะเลือกทางไหน ก็จะทำให้เจ้าโกรธอยู่ดี… แต่อย่างน้อยที่สุด หากปล่อยให้เจ้าปลอมตัวเป็นสาวใช้ต่อไป เจ้าก็จะได้อยู่ในจวนซูกั๋วกงต่อ อยู่เคียงข้างข้าต่อไป และจะได้เข้าใจว่าข้าเป็นคนเช่นไร หากข้าเปิดโปงเจ้าทันที ข้าก็เกรงว่าเจ้าคงจะไม่อยู่ถึงหนึ่งในสี่ชั่วยาม และคงหันหลังเดินจากไป ทำให้ข้าไม่มีโอกาสเลย”
เนี่ยนเนี่ยนคิดดูแล้ว ก็รู้สึกว่าเขาเข้าใจนางจริง ๆ
แต่ว่า… แต่ว่าเหตุใดจู่ ๆ เขาถึงมาเล่าเรื่องเหล่านี้ให้นางฟังเล่า?
“เนี่ยนเนี่ยน เจ้าให้ตัวเลือกที่ข้าเลือกไม่ได้ ข้าจึงได้แต่ทำตัวโง่เขลาต่อไป ความคิดเดียวในหัวของข้าตอนนั้นคือ ข้าไม่อยากให้เจ้าเสียใจ…”
เนี่ยนเนี่ยนเริ่มรู้สึกอึดอัด นางหันหลังให้เขา แล้วยื่นมือออกไปดึงผ้าห่มมาคลุมโปงทั้งตัว
ไป๋หลิวอี้หัวเราะ “เนี่ยนเนี่ยน แบบนั้นจะหายใจไม่ออกนะ”
“วันนี้ เหตุใดวันนี้เจ้าถึงพูดมากนัก?” เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกเพียงว่าหัวใจของนางกำลังเต้นรัว “เจ้าช่างเป็นคนกะล่อนและปากหวานเหลือเกิน”
ไป๋หลิวอี้ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “เนี่ยนเนี่ยน ถ้าข้าไม่อธิบายเช่นนี้ ข้าจะทำให้เจ้าเข้าใจว่าข้าคิดอะไรอยู่ได้อย่างไร?” เขาดึงผ้าห่มที่คลุมตัวนางอยู่ออก เพื่อให้นางหายใจ จากนั้นก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบา แต่น้ำเสียงของเขาไพเราะอ่อนหวาน “ข้ารู้ว่าอาณาจักรเทียนอวี่นั้นแปลกใหม่มากสำหรับเจ้า ที่นี่ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีพี่น้องที่คอยปกป้องเจ้าและรักเจ้า หากเจ้าแต่งงานกับข้าในอนาคต แม้จะถูกผิด มันก็ยากที่เจ้าจะฟ้องร้องต่อใครได้ ข้าพูดแบบนี้ให้เจ้าเข้าใจว่า ความรักของข้าที่มีต่อเจ้า และความเห็นใจของข้าที่มีต่อเจ้าในอนาคต จะไม่น้อยไปกว่าที่พ่อแม่พี่น้องของเจ้ามีให้เจ้า ข้าเฝ้าคิดถึงเจ้ามาสิบกว่าปี แล้วจะปล่อยให้เจ้าถูกรังแกได้อย่างไร?”
หัวใจของเนี่ยนเนี่ยนแทบจะหยุดเต้น นางรู้สึกวิงเวียนเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุน ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ? นางรู้สึก… ราวกับว่าใจของนางสงบลงแล้ว
“เนี่ยนเนี่ยน ที่ผ่านมาข้าผิดไปแล้ว อย่าโกรธกันได้หรือไม่?”
เนี่ยนเนี่ยนนอนนิ่งบนเตียงเหมือนนกกระจอกเทศ และไม่พูดอะไรอยู่นาน
ไป๋หลิวอี้ก็เงียบเช่นกัน แต่แขนยังคงโอบรอบเอวของนางไม่ยอมปล่อย ทั้งสองนอนเงียบ ๆ บนเตียง โดยไม่ได้เอ่ยคำใด
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกชัดเจนว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงเพียงใด นางไม่เคยคิดว่าเพียงแค่ฟังคำพูดของไป๋หลิวอี้ แล้วนางจะสูญเสียการควบคุมได้ถึงเพียงนี้
ตอนนี้นาง… เขินอายมาก เขินอายมาก
ห้องเงียบมาก ราวกับสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่นลงบนพื้น ห้องกว้างใหญ่ มีเพียงเสียงลมหายใจของกันและกันเท่านั้น
เนี่ยนเนี่ยนหันหลังให้เขา ไม่กล้าหันไปมอง นางก้มไปมองกระโปรงตัวเอง
ไม่นานนัก เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเริ่มจะเป็นเหน็บชา
แต่วินาทีต่อมา นางก็ตัวแข็งทื่อ
ไป๋หลิวอี้หลับตาและหายใจสม่ำเสมอ… ผล็อยหลับไปแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก แล้วค่อย ๆ หันกลับมา เห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของเขา นางก็รู้สึกลำบากใจ
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พักผ่อนมานานแล้ว แม้ว่าเมื่อเช้านี้นางจะผลักไสเขาไปนอนบนเก้าอี้ยาว แต่เขาก็คงนอนไม่หลับ
ตอนนี้ประสาทของเขากำลังผ่อนคลาย ราวกับว่ากำลังหลับลึกมาก
เนี่ยนเนี่ยนยื่นมือของนางออกไปใกล้ใบหน้าของเขา แล้วแตะเปลือกตาของเขาแผ่วเบา เหมือนช่วยปิดตาให้เขา จากนั้นจึงค่อย ๆ หลับตาลงในอ้อมแขนของเขา
แปลกนัก นางนอนมาทั้งวันแล้ว เหตุใดถึง… ง่วงอีกแล้ว?
หลังจากรออยู่ข้างนอกนานกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว แต่ก็ไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใด ๆ โม่เพียวที่อยากรู้อยากเห็นจึงก้าวเข้าไปในห้อง ภาพที่นางเห็นคือภาพคุณหนูของนาง กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเจ้านายในอนาคต
รูม่านตาของนางหดลงทันที ก่อนจะส่งเสียงกรีดร้อง…
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เจ้านายกำลังสวีทหวานกันอยู่ อย่าเพิ่งขัดสิโม่เพียว
ไหหม่า(海馬)