อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 227 ประหารทั้งตระกูล
ตอนพิเศษ 227 ประหารทั้งตระกูล
ตอนพิเศษ 227 ประหารทั้งตระกูล
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว “ว่าอย่างไร?”
“ตระกูลถง… ถูกประหารทั้งตระกูล” เหวินหย่าพยายามพูดอย่างยากลำบาก แววตาของนางเต็มไปด้วยความสยดสยอง
เนี่ยนเนี่ยนลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที “เจ้าว่าอย่างไรนะ? ตระกูลถงไหน?”
เหวินหย่ากลืนน้ำลาย “หนึ่งในสี่ตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่… ตระกูลถง”
เนี่ยนเนี่ยนตัวแข็งค้าง ตระกูลถงหรือ? ตระกูลถงที่เป็นหนึ่งในตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่? ถูกประหารทั้งตระกูลหรือ?
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ครอบครัวที่ทรงพลังเช่นนี้ จะถูกกำจัดภายในวันเดียวได้อย่างไร
นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ
“ตระกูลถง… สิ้นไปหมดแล้วหรือ?” เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกคอแห้งผาก และหนาวสะท้านไปทั้งตัว
เหวินหย่าส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้สถานการณ์ชัดเจนเช่นกัน ตอนนี้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินตามท้องถนนแล้ว ตอนที่ข้าออกไปตรวจสอบ ข้าเห็นเจ้าหน้าที่และทหารจำนวนมากออกมาจากจวนถง ตอนนี้จวนถงถูกปิดล้อมไว้หมดแล้ว ข้าจึงได้แต่มองจากระยะไกล แม้ว่าข้าจะยืนอยู่ห่างไกล ทว่ากลิ่นคาวเลือดก็ยังตลบอบอวล คาดว่า… สถานการณ์ค่อนข้างน่าสลดใจ”
เนี่ยนเนี่ยนกำมือแน่น จวนถง นางจำได้ว่านางเคยพบนายน้อยแห่งจวนถงถึงสองครั้ง เขาเป็นคนร่าเริงมีชีวิตชีวามาก มีนิสัยตรงไปตรงมา หากตระกูลนี้ถูกฆ่าล้างตระกูล…
“เนี่ยนเนี่ยน” เหวินหย่าเรียกเบา ๆ “เจ้าลองคิดดู…”
“อืม” เนี่ยนเนี่ยนรู้ว่านางหมายถึงอะไร ตระกูลถงถูกกำจัด ฝ่ายที่มีแนวโน้มว่าเป็นผู้โจมตีมากที่สุดคือตระกูลเจี่ยง หากตระกูลเจี่ยงต้องการก่อกบฏ คนกลุ่มต่อไปที่จะต้องถูกกำจัดก็คือตระกูลใหญ่อีกสามตระกูล
แม้ว่าตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่จะไม่ได้มีส่วนร่วมในราชสำนัก แต่สถานะของพวกเขาในอาณาจักรเทียนอวี่ และความภักดีต่อราชวงศ์ของอาณาจักรเทียนอวี่นั้นแข็งแกร่งมาก
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปากแน่น กล่าวกันว่าตระกูลถงเป็นตระกูลเก่าแก่นับศตวรรษ ในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่น่าจะต่ำเกินไป แล้วพวกเขาจะถูกกำจัดจนหมดสิ้นภายในชั่วข้ามคืนได้อย่างไร?
“คุณหนู ใกล้จะรุ่งสางแล้ว ข้าคิดว่าน่าจะมีข่าวเร็ว ๆ นี้ ท่านควรนั่งพักสักครู่ก่อนเถิดเจ้าค่ะ” โม่เพียวหายจากอาการตกใจแล้ว แม้ว่าจะยังรู้สึกหดหู่ใจมาก แต่ก็ยังแสดงสีหน้าจริงจัง และพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม
เมื่อนางพูดจบ ทันใดนั้นแม่นมอวี๋ก็เดินมาถึง เมื่อนางเห็นเนี่ยนเนี่ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เนี่ยนเนี่ยนอดประหลาดใจไม่ได้ที่เห็นนางร้อนรน จึงคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับฮูหยินเฒ่าไป๋ จึงรีบวิ่งไปหา “มีอะไรหรือ?”
“จวิ้นจู่ ฮูหยินเฒ่าเรียกหาท่านเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนตกใจ เมื่อคิดว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้น นางก็รีบวิ่งไปโถงเล่อฝูโดยไม่เอ่ยคำใดสักคำ
แม่นมอวี๋รู้สึกแค่ว่าคนตรงหน้าหายตัวไปในพริบตา ทันใดนั้นนางก็รู้สึกตัว แล้วรีบพูดกับร่างที่หายไปแล้วว่า “อ๊ะ จวิ้นจู่ ช้าลงหน่อยเจ้าค่ะ ฮูหยินเฒ่าสบายดี”
เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้ยิน แต่หลังจากนั้นไม่นาน นางก็มายืนอยู่ที่ประตูโถงเล่อฝูแล้ว
ทันทีที่นางเข้าไปในห้องหลัก ก็เห็นฮูหยินเฒ่าไป๋เอนกายหลับตาอยู่บนเตียง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า นางก็รีบลืมตาและเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นนาง จึงรีบโบกมือเรียก “เจ้ามานี่สิ”
“ฮูหยินเฒ่า ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” เนี่ยนเนี่ยนเดินเข้าไปใช้นิ้วจับชีพจรนางทันที
ฮูหยินเฒ่าไป๋แตะหลังมือของนาง พูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดว่า “เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?”
เนี่ยนเนี่ยนผงะไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าฮูหยินเฒ่าไป๋น่าจะรู้เรื่องตระกูลถงแล้ว ใช่แล้ว ซูกั๋วกงรีบจากไปกลางดึก ฮูหยินเฒ่าไป๋จึงน่าจะตื่นตระหนก เรื่องใหญ่เช่นนี้ ซูกั๋วกงคงจะส่งคนกลับมารายงาน
ฮูหยินเฒ่าไป๋พูดเสียงสั่น “ตระกูลถง… ตระกูลใหญ่ที่มีผู้คนมากมาย สิ้นไปในพริบตา ฮูหยินเฒ่าถง… มาคุยกับข้าเมื่อสองเดือนก่อน มาช่วยกันเลือกเสื้อผ้า ตกลงกันไว้ว่า… เมื่อหลิวอี้แต่งงาน … จะมาร่วมฉลองกันที่นี่… จะให้เวยหลินในครอบครัวของพวกเขาแต่งงานโดยเร็วที่สุด… เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่กระตือรือร้นมาก… ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
เนี่ยนเนี่ยนเสียใจเมื่อได้ยินคำพูดของนาง และพบว่ามือของแม่เฒ่าที่กำลังจับมือนางกำลังสั่นสะท้าน นางจึงเม้มปากแน่น “ฮูหยินเฒ่า ท่านอย่ากังวลเลยเจ้าค่ะ ยังไม่ทราบข่าวจากที่นั่นชัดเจน บางที… เรื่องอาจไม่ได้ไปในทิศทางที่เลวร้ายที่สุดก็ได้เจ้าค่ะ”
ฮูหยินเฒ่าไป๋มองด้วยสายตาเศร้าหมอง ราวกับว่าต้องการเห็นคำยืนยันในทางที่ดีจากนัยน์ตานาง เมื่อมีเนี่ยนเนี่ยนอยู่เคียงข้าง นางก็รู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง
เพียงแต่ว่าอารมณ์ยังไม่ค่อยคงที่ ค่อย ๆ กลายเป็นความขุ่นเคือง “ใครกันที่โหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ แม้แต่คนแก่ที่อ่อนแอ สตรีและเด็กก็ยังไม่ไว้ชีวิต ไม่เกรงกลัวบาปกรรมตามสนองบ้างเลยหรือ?”
เนี่ยนเนี่ยนจับมือนางแน่น “บาปกรรมย่อมมีจริงเจ้าค่ะ” มีแน่นอน ตระกูลเจี่ยง… จะไม่จบลงด้วยดี
ฮูหยินเฒ่าไป๋เหนื่อยล้า นางเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าแม่นมอวี๋กลับมาแล้ว นางจึงโบกมือแล้วพูดว่า “เนี่ยนเนี่ยนอยู่ที่นี่กับข้า เจ้าไปตามหลิ่วซื่อและหลิวเจวี๋ยมารายงานข่าว เรื่องใหญ่เช่นนี้ พวกเขาเองก็น่าจะมีความเห็นในใจบ้าง”
แม่นมอวี๋เพิ่งกลับมา นางยังคงหายใจหอบ นางพยักหน้าเมื่อได้ยินคำสั่ง จากนั้นหันหลังเดินออกไปอีกครั้ง
ไม่นานนัก ไป๋หลิวเจวี๋ยและหลิ่วซื่อก็มาอย่างรวดเร็ว ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
หนึ่งในสี่ตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ถูกกำจัดเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ตามจะต้องตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ นับประสาอะไรกับไป๋หลิวเจวี๋ยและหลิ่วซื่อ
เมื่อนึกถึงตระกูลหลิ่ว เนี่ยนเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองหลิ่วซื่อ
เรื่องเกี่ยวกับตระกูลถง เกรงว่าตระกูลหลิ่วอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
หากวันหนึ่งตระกูลหลิ่ว เริ่มเผชิญหน้ากับจวนซูกั๋วกงอย่างเปิดเผย หลิ่วซื่อจะมีท่าทางและปฏิกิริยาอย่างไร?
ใบหน้าของหลิ่วซื่อยังคงค่อนข้างซีด นางเดินไปหาฮูหยินเฒ่าไป๋ แล้วนั่งลง “ท่านแม่…”
ฮูหยินเฒ่าไป๋เพียงแค่พยักหน้า จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองไป๋หลิวเจวี๋ย แล้วพูดว่า “เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเช่นนี้ พ่อและพี่ชายของเจ้าคงจะอยู่ในจวนถง ตอนนี้ทั้งจวนซูกั๋วกงจำเป็นต้องพึ่งเจ้าแล้ว จวนถงเผชิญชะตากรรมที่น่าเศร้า ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ และไม่รู้ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อจวนไป๋ของเราหรือไม่ เจ้าต้องเตรียมการให้ดี อย่าให้จวนไป๋วุ่นวาย”
ใบหน้าของไป๋หลิวเจวี๋ยจริงจัง เขาพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “ขอรับ ท่านย่า”
ทันใดนั้น เขาก็หันหลังเดินออกจากโถงเล่อฝูไป
ในขณะนี้ท้องฟ้าสว่างเต็มที่แล้ว ผู้คนทั้งเมืองหลวงต่างตกตะลึงและตื่นตระหนก เพราะเรื่องการฆ่าล้างตระกูลถง
แม้แต่ตระกูลถงที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ยังต้องเผชิญโศกนาฏกรรมเช่นนี้ แล้วคนธรรมดาจะอยู่อย่างสงบสุขได้อย่างไร?
กระทั่งเด็กสามขวบที่ไม่รู้หนังสือก็ยังรู้สึกได้ว่า… ท้องฟ้าในเมืองหลวงแห่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไป
ทั้งเนี่ยนเนี่ยนและหลิ่วซื่อกินอาหารเช้ากับฮูหยินเฒ่าไป๋ที่โถงเล่อฝู แต่ก็ยังไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับตระกูลถง
อาจเป็นเพราะทั้งจวนถงถูกปิดล้อมเอาไว้ จึงไม่มีข่าวใดแพร่ออกมาได้
เนี่ยนเนี่ยนค่อนข้างกังวล หลังจากช่วยพยุงฮูหยินเฒ่าไป๋กลับไปที่เตียงแล้ว ทันใดนั้นนางก็เห็นเหวินหย่าโผล่หน้ามาจากข้างนอก
นางผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนบอกกับฮูหยินเฒ่าไป๋ แล้วออกประตูไปอย่างรวดเร็ว
เหวินหย่าเดินมาข้างหน้า “เนี่ยนเนี่ยน เจ้ามากับข้า”
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เรื่องใหญ่แล้วสิ เกรงว่าอาณาจักรเทียนอวี่จะเกิดกลียุคเสียแล้ว
ไหหม่า(海馬)