อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 23 หนานหนานหน้าไม่อาย
ตอนพิเศษ 23 หนานหนานหน้าไม่อาย
ตอนพิเศษ 23 หนานหนานหน้าไม่อาย
มันคือไข่มุกเม็ดใหญ่เป็นมันเงาแวววาวราวกับหยก สีสันชวนดึงดูดใจ
หลานสุ่ยชิงหยิบไข่มุกขึ้นมา รู้สึกว่าเย็นสบายมือมาก
ทันใดนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วถามเสียงเบาว่า “นั่นเจ้าหรือ??”
นอกจากสายลมยามค่ำคืนที่พัดโชยมาแล้ว ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ไร้วี่แววการตอบสนอง
นางจ้องมองไข่มุกในมือ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลานสุ่ยชิงรู้สึกว่าเขานำไข่มุกเม็ดนี้มาไว้บนขอบหน้าต่างห้องนางโดยไม่มีเหตุผล แต่ในเมื่อเขามาแล้ว เหตุใดจึงไม่ออกมา?
เขายังอยู่ในจวนหลาน เขายังอยู่ที่เรือนของนางหรือไม่?
หลานสุ่ยชิงเม้มปาก จากนั้นก็อ้าปากอีกครั้ง แต่ยังหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้น นางนั่งลงที่หน้าโต๊ะอีกครั้ง ยืดไหล่ให้ตรง และเริ่ม…ฝึกคัดลายมือต่อ
แต่ในขณะนี้ หลังจากที่เย่ฉิงหนานกระโดดขึ้นลงอยู่สองสามครั้ง เขาก็ได้มาถึงอีกด้านหนึ่งของสวนหลังจวนหลานแล้ว เขาจ้องมองเรือนหลังใหญ่เบื้องหน้าเขาด้วยสายตาเย็นชา
เขามีแผนผังจวนหลานอยู่ในมือ เมื่อเทียบกับความซับซ้อนของตำหนักอ๋องซิว เขาเพียงแค่ดูแผนผังจวนหลานเพียงครั้งเดียวก็จดจำได้ขึ้นใจแล้ว
เรือนหลังนี้เป็นที่ที่หลานสุ่ยหยวน ลูกสาวคนรองของจวนหลานอาศัยอยู่
ยิ่งเย่ฉิงหนานมองไปยังเรือนนั้นมากเท่าใด โทสะในใจของเขาก็ยิ่งพลุ่งพล่าน
เกิดอะไรขึ้นกับหญิงที่ถูกรังแกคนนั้น? เรือนที่นางอาศัยอยู่ช่างทรุดโทรม เล็กและมืด แต่เรือนของหลานสุ่ยหยวนนั้นใหญ่กว่าของนางมาก มีสวนดอกไม้บานสะพรั่งที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต
สภาพแวดล้อมที่พวกนางสองคนอาศัยอยู่นั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
เห็นได้ชัดว่าหลานสุ่ยชิงเป็นคนฉลาด คราวที่แล้วนางทำให้เขาเสียเปรียบได้ไม่ใช่หรือ? แล้วนางปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
ใบหน้าของเย่ฉิงหนานมืดมนยิ่งนัก เขาเขย่งเท้าลงไปที่หน้าต่างหลังเรือนของหลานสุ่ยหยวน
เช่นเดียวกับหลานสุ่ยชิง คืนนี้หลานสุ่ยหยวนก็นอนไม่หลับเช่นกัน
ขณะนี้นางกำลังนั่งคุยกับหลานสุ่ยเถียนอยู่ในห้อง เรื่องที่นางกำลังพูดถึงคือเรื่องจวิ้นจู่จิ่นซิ่วจะมาเยี่ยมในวันพรุ่งนี้
เมื่อพูดถึงความใกล้ชิดที่อธิบายไม่ได้ระหว่างจวิ้นจู่จิ่นซิ่วกับหลานสุ่ยชิง หลานสุ่ยหยวนก็อดไม่ได้ที่จะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“จวิ้นจู่จิ่นซิ่วตาบอดไปแล้วหรือ? หญิงแพศยาเช่นนั้น นางยังยอมคุยด้วยอีก เพิ่งรู้จักกันได้วันเดียว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมาหาในวันพรุ่งนี้ ข้าว่าไม่ใช่แค่ตาบอดเท่านั้น แต่ยังสติไม่ดีอีกด้วย”
หลานสุ่ยเถียนพ่นลมหายใจเบา ๆ จากนั้นลดเสียงลง “พี่รอง ข้าคิดว่าหลานสุ่ยชิงต้องใช้แผนการบางอย่างหลอกลวงจวิ้นจู่จิ่นซิ่วเป็นแน่ อันที่จริงมันเป็นเรื่องดีที่จวิ้นจู่จะมาวันพรุ่งนี้ เหตุใดเราไม่ทำให้นางเห็น ‘ใบหน้าที่แท้จริง’ ของหลานสุ่ยชิงเล่าเจ้าคะ?”
หลานสุ่ยหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อมองเห็นรอยยิ้มมีเลศนัยของหลานสุ่ยเถียน นางก็ตระหนักได้ทันที “เจ้าหมายถึง…”
“พรุ่งนี้ทำให้หลานสุ่ยชิงต้องขายหน้า เพื่อให้จวิ้นจู่จิ่นซิ่วเข้าใจว่าคนไม่เอาไหน หยาบคาย และอกตัญญูเช่นนี้จะฉุดนางลง”
ใบหน้าของหนานหนานนอกหน้าต่างมืดมนลงอีกครั้ง การสนทนาของหญิงทั้งสองในห้องทำให้เขาโกรธมาก
เสียง ‘ชิ้ง’ ดังขึ้นแผ่วเบา ดาบสองเล่มปรากฏขึ้นในมือของเขา ทันทีที่เขากระชับนิ้ว และกำลังจะเหวี่ยงมันไปยังร่างที่อยู่ข้างใน ทันใดนั้นข้อความที่เย่ฉิงเป่ยบอกเขาก็ผุดขึ้นมาในใจของเขาทันทีอย่างอธิบายไม่ได้
เมื่อนึกดูแล้ว หากลูกสาวคนรองและคนที่สามของสกุลหลานถูกสังหารในจวน รองเจ้ากรมหลานและไท่ฮูหยิน ก็จะไปหาเรื่องหลานสุ่ยชิงและแม่ของนาง
หลานสุ่ยชิงไม่กลัวปัญหาดังกล่าว แต่แม่ของนาง…
คิ้วของหนานหนานขมวดมุ่น ก่อนจะเก็บดาบเงียบ ๆ
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยพวกนางไป
เขาแอบนึกเย้ยหยัน ก่อนหันหลังจากไป
สองพี่น้องสกุลหลานยังคงช่วยกันวางแผนจัดการหลานสุ่ยชิง โดยไม่รู้เลยว่ามีคนข้างนอกเข้ามาและออกไปอย่างเงียบเชียบ
หนานหนานกลับไปที่เรือนของหลานสุ่ยชิง แต่ก่อนที่เขาจะร่อนลงจากกำแพง จู่ ๆ เขาก็เลิกคิ้วขึ้นและถลกแขนเสื้อขึ้น
เมื่อม้วนแขนเสื้อขึ้นก็เผยให้เห็นผ้าพันแผลที่พันรอบแขนเขาอยู่ มันพันแผลไว้อย่างแน่นหนา
นั่นคือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อจัดการกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อีกทั้งยังช่วยปกป้องเหวินเกอจากคมดาบด้วย แผลไม่ได้ลึกมาก และเขาก็ดูแลมันอย่างดี มันจึงน่าจะหายเป็นปกติในอีกไม่กี่วัน
แค่วันนี้…
หนานหนานเริ่มคลายผ้าพันแผลที่แขนออก แล้วกดบาดแผลแรง ๆ สองครั้ง
บาดแผลที่ถูกทายาห้ามเลือดไว้ทั่ว กลับชุ่มไปด้วยสีแดงอีกครั้ง
หลังจากนั้นเขาก็ดึงแขนเสื้อลงอย่างสงบ พลิกตัวและกระโดดลงไปในเรือน
ไฟในห้องยังไม่คงสว่างอยู่ เขายังคงมองเห็นร่างที่กำลังนั่งคัดลายมืออยู่ที่โต๊ะ
หนานหนานเม้มปาก นางชอบฝึกคัดลายมือมากขนาดนั้นเลยหรือ?
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น จู่ ๆ หลานสุ่ยชิงก็วางพู่กันลง สายตาของนางจับจ้องไปยังไข่มุกที่วางอยู่ข้างโต๊ะ และนางก็ใช้มือเขย่ามันเบา ๆ
นางมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง แต่คนในจินตนาการของนางก็ยังไม่ปรากฏตัว
หลานสุ่ยชิงเริ่มหมดความอดทน นางถอนหายใจเงียบ ๆ จ้องมองไข่มุกในมือแล้วพูดว่า “ถ้ายังไม่โผล่มาอีก ข้าจะนำไข่มุกเม็ดนี้ไปขาย ไข่มุกเม็ดใหญ่และเกลี้ยงเกลาเช่นนี้ต้องมีมูลค่ามหาศาลเป็นแน่”
ไม่รู้ว่าเขาไปเอามาจากไหน หายไปตั้งหลายวัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาแค่ไปหาไข่มุกเม็ดนี้?
หลานสุ่ยชิงรู้สึกหลงตัวเองเล็กน้อย
นางจ้องมองไข่มุกบนฝ่ามืออย่างโกรธแค้น ราวกับจะใช้สายตาเจาะทะลวงมันจนเป็นรู
“ข้าใช้เวลานานมากกว่าจะหาสิ่งนี้เจอ เจ้ากลับคิดจะขายมันไปเลยหรือ?” จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลังนาง
หลานสุ่ยชิงเบิกตากว้าง นางรีบหันหน้าไปทันที และเห็นร่างที่วนเวียนอยู่ในจิตใจนับครั้งไม่ถ้วนยืนอยู่ข้างหลังนาง
“เจ้า เหตุใดเจ้าถึง…”
หนานหนานก้าวไปข้างหน้า เมื่อเห็นกระดาษที่มีลายมือนางวางอยู่ไว้บนโต๊ะ หว่างคิ้วของเขาก็กระตุกเล็กน้อย กลายเป็นว่าลายมือของนางงดงามมาก เป็นการคัดลายมือที่สวยจริง ๆ
“เหตุใดข้าถึงมาอยู่ที่นี่งั้นหรือ?” หนานหนานถามนางกลับ
หลานสุ่ยชิงจ้องมองเขา แล้วเดินไปหยิบไข่มุกมาใส่มือเขา “เอาของชิ้นนี้คืนไป ข้ารับไว้ไม่ได้…”
“โอ๊ย…” ก่อนที่หลานสุ่ยชิงจะพูดจบ หนานหนานก็ขมวดคิ้ว ราวกับว่ารู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัสจนหายใจไม่ออก
หลานสุ่ยชิงตกตะลึง “เจ้าเป็นอะไรไป?” วินาทีต่อมา นางก็ได้กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ โชยเข้าจมูก
หลานสุ่ยชิงตัวแข็งทันที แล้วรีบไปนำเชิงเทียนเข้ามาใกล้ แต่ไม่กล้าแตะต้องเขา และมองทั่วร่างกายเขาอยู่พักหนึ่ง
ในที่สุดสายตาของนางก็จับจ้องไปยังมือขวาของเขา ที่เขาตั้งใจซ่อนไว้ข้างหลัง
แม้ว่าเขาจะสวมชุดดำ แต่ตรงแขนเสื้อบริเวณมือขวาของเขามีสีเข้มผิดปกติ
“เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?” หลานสุ่ยชิงยื่นมือไปสัมผัส แล้วปลายนิ้วของนางก็เปื้อนเลือดทันที
นางรู้สึกกระวนกระวายอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขาดูมึนงง นางจึงรีบจูงมืออีกข้างของเขาให้ไปนั่งบนเก้าอี้ แล้วเปิดแขนเสื้อข้างขวาของเขาออกอย่างระมัดระวัง
“เจ้า เหตุใดเจ้าไม่บอกว่าเจ้าบาดเจ็บ? ที่เมื่อสักครู่นี้เจ้าไม่มา เป็นเพราะเจ้าไม่อยากให้ข้ารู้ว่าเจ้าบาดเจ็บใช่หรือไม่?” โชคดีที่บาดแผลไม่ลึกมาก
“อืม” หนานหนานเงยหน้าขึ้นมองคานเหนือศีรษะ แล้วยืนยันการคาดเดาของนางอย่างหน้าไม่อาย “ถ้าเจ้าไม่บอกว่าจะขายไข่มุก ข้าคงแอบมองเจ้าเงียบ ๆ อีกครั้งแล้วจากไป”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มารยาตั้งแต่เด็กจนโตเลยหนานหนานเอ๊ย ยอมเจ็บตัวเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับนางในดวงใจสินะ
ไหหม่า(海馬)