อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 231 สองสามคำ
ตอนพิเศษ 231 สองสามคำ
ตอนพิเศษ 231 สองสามคำ
ถงเวยหลินรู้สึกปวดศีรษะแทบระเบิด ราวกับว่ามีสัญชาตญาณป้องกันตัวเองตลอดเวลา ทั้งตัวเขาเกร็งขึ้นทันที
เนี่ยนเนี่ยนยื่นมือไปจับชีพจรของเขา แต่เขาสะบัดมือนางออกอย่างแรง
เนี่ยนเนี่ยนรีบชักมือออก แล้วเห็นถงเวยหลินลุกขึ้นนั่งทันที เขาหายใจหอบหนัก ขณะจ้องมองนางด้วยดวงตาแดงก่ำ “เจ้าคิดจะทำอะไร? คนทรยศ ข้าจะฆ่าเจ้า”
เมื่อเขาพูดจบก็เตรียมจะกระโจนเข้าไปหาเนี่ยนเนี่ยน ไป๋หลิวอี้มีดวงตาเฉียบคมและมือที่ฉับไว จึงรีบคว้ามือของเขา แล้วออกแรงซัดพลังกลับไป “เวยหลิน ข้าเอง”
บาดแผลบนร่างกายของถงเวยหลินปริออก แต่เขาไม่ได้สังเกต เขารู้สึกถึงเสียงที่คุ้นเคยดังกระทบโสตประสาท เขาจึงรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเป็นไป๋หลิวอี้ เขาก็ตกตะลึง
วินาทีต่อมา ภาพเหตุการณ์อันโหดร้ายทารุณก็ถาโถมเข้ามาในความทรงจำของเขา เลือดแดงฉานสาดกระเซ็น ศีรษะของสาวรับใช้กลิ้งมาแทบเท้าของเขา เสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่รู้จบ องครักษ์คนสนิทของเขาถูกดาบแทงทะลุหน้าอก
เขาถูกแทงสองสามครั้ง ทำให้ต้องทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวด กำลังภายในของเขาลดลงครึ่งหนึ่ง และอยู่ในอาการตื่นตระหนก
เขาพยายามปกป้องน้องชายคนสุดท้องอย่างสุดความสามารถ และต้องการพาน้องชายหนีไป แต่สุดท้ายเขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย น้องชายถูกแทงเข้าที่หัวใจ ขณะที่กำลังหนีไปกับเขาได้ครึ่งทาง จึงสลบไปขณะกอดน้องชายไว้ในอ้อมแขน
ถงเวยหลินเริ่มหายใจหอบ ภาพเหล่านั้นชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่ามันปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าต่อหน้าเขา
เขากุมศีรษะตัวเองแน่น อยากจะตะโกนออกไปดัง ๆ แต่สิ่งที่ออกมาจากปากของเขามีเพียงเสียงคร่ำครวญโหยหวน เหมือนลูกสัตว์ได้รับบาดเจ็บ ทำให้คนเห็นรู้สึกเหมือนถูกบีบหัวใจด้วยความเวทนา
เมื่อเห็นว่าปากแผลบนร่างกายของเขาเปิดออกอย่างแรง เนี่ยนเนี่ยนรีบก้าวเข้าไปสกัดจุดเขาสองสามครั้ง แล้วป้อนยาอีกเม็ดให้
จากนั้นร่างอ่อนปวกเปียกของถงเวยหลินก็เซไปด้านหลัง แต่เขายังคงกัดฟันแน่นไม่ยอมปล่อย แม้ว่าจะมีเลือดไหลออกจากมุมปากก็ตาม
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก แล้วช่วยรักษาบาดแผลให้เขาอีกครั้ง โดยไม่ได้เอ่ยคำใดสักคำ
ไป๋หลิวอี้รู้ว่าเขากำลังรู้สึกแย่มาก จู่ ๆ ก็พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อเห็นสมาชิกในครอบครัวของตนถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา จะให้ทนได้อย่างไร?
เขารอให้อีกฝ่ายระบายอารมณ์ด้วยวิธีนี้ เมื่อเห็นน้ำตาไหลพรากลงมาจากหางตาเงียบๆ เขาก็เบือนหน้าหนี
เหวินหย่าและโม่เพียวได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว จึงเดินเข้ามาเงียบ ๆ
เมื่อเห็นถงเวยหลินเศร้าโศก โม่เพียวก็หน้าแดงทันที แล้ววิ่งออกไปอีกครั้ง
เหวินหย่ากัดริมฝีปากล่างตัวเองเบา ๆ แล้วเข้าไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน
หลังจากนั้นไม่นาน เนี่ยนเนี่ยนก็หยุดมือแล้วมองถงเวยหลินที่อ่อนล้า ตอนนี้คนที่ควรจะหลับไหลกลับลืมตาขึ้นอย่างสิ้นหวัง เขาเจ็บปวดร้าวรานเสียจนไม่อาจแม้แต่จะหลับตา
“จวนถง…” ถงเวยหลินจ้องเขม็งอยู่เช่นนั้นเกือบหนึ่งชั่วยาม ก่อนจะหอบหายใจ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “… เหลือใครอีก?”
ขณะที่เขาพูด ริมฝีปากของเขาสั่นไปหมด
ไป๋หลิวอี้สูดหายใจลึก วางมือขวาบนไหล่ของเขา จากนั้นครู่หนึ่งก็พูดด้วยเสียงทุ้มว่า “แม่ของเจ้า… และเสี่ยวฮ่วนเหนียง”
เสี่ยวฮ่วนเหนียง เด็กน้อยวัยห้าขวบที่ถูกแม่นมซ่อนไว้ ไป๋หลิวอี้ไม่ได้เล่าสถานการณ์ให้นางฟัง เมื่อพาตัวนางกลับมาได้ นางจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ในที่สุดถงเวยหลินก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เขาเบือนหน้าหนีแล้วร้องไห้ออกมา
ตระกูลถงของพวกเขามีสมาชิกมากมาย แต่กลับเหลือเพียง…พวกเขาสามคนเท่านั้น
ส่วนท่านพ่อ พี่ชาย พี่สาว น้องสาว ท่านอา ท่านลุง ไม่มีใครรอดชีวิตเลย
ถงเวยหลินรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกแทงจนกลวงโบ๋ ราวกับต้องทัณฑ์นรกที่เจ็บปวดแสนสาหัส
เนี่ยนเนี่ยนพาเหวินหย่าออกไป ไป๋หลิวอี้ยังคงนั่งข้างเขาตลอดเวลา คอยปกป้องเขาและปล่อยให้เขาระบายอารมณ์
ถงเวยหลินยังคงอยู่ในความเจ็บปวดแสนสาหัส ส่งเสียงคร่ำครวญที่ไม่ดังมากนัก
เนี่ยนเนี่ยนไม่รู้ว่านางรออยู่ในห้องของตนนานเพียงใด ขณะที่ไป๋หลิวอี้ยังไม่มา นางยังคงได้ยินเสียงร่ำไห้ของถงเวยหลินดังมาจากห้องข้าง ๆ เป็นระยะ
เนี่ยนเนี่ยนนึกไม่ออกเลยว่าหัวใจเขาเจ็บปวดเพียงใด สิ่งที่นางทำได้ในตอนนี้ คือพยายามช่วยชีวิตถงเวยหลินอย่างดีที่สุด
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ นางก็ค่อย ๆ ผล็อยหลับไป
เช้าวันต่อมา นางตื่นแต่เช้าอีกครั้ง เมื่อมองโม่เพียวที่เข้ามาในห้อง นางก็ขยี้ตาแล้วถามว่า “ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง?”
โม่เพียวถอนหายใจ นัยน์ตาของนางยังคงแดงเล็กน้อย ขณะพูดเบา ๆ ว่า “คุณชายใหญ่นั่งบนเตียงของคุณชายใหญ่ถง อยู่กับเขาตลอดทั้งคืน โดยที่ทั้งสองไม่เอ่ยคำใดสักคำเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว เขาไม่นอนทั้งคืนอีกแล้วหรือ? คนผู้นี้เป็นเทพหรืออย่างไร?
นางเม้มปากเดินไปยังห้องของถงเวยหลิน แน่นอนว่านางเห็นไป๋หลิวอี้นั่งหลังตรงราวต้นสน
ถงเวยหลินลืมตามองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อเหลือบไปเห็นผ้าพันแผลพันอยู่รอบตัวถงเวยหลิน มุมปากของนางก็กระตุก
พิจารณาจากสถานการณ์แล้ว ปากแผลของเขาคงเปิดอีกครั้งกลางดึก ไป๋หลิวอี้คงพันผ้าพันแผลให้เขา แต่วิธีการพันผ้านั้นแย่มาก
นางเงยหน้าขึ้นจ้องมองไป๋หลิวอี้ เมื่อเห็นว่าโชคดีที่บาดแผลของถงเวยหลินไม่ร้ายแรงนัก
ถงเวยหลินดูเหมือนยังไม่ได้สติ เขาปล่อยให้เนี่ยนเนี่ยนทำแผล ขณะยังคงจ้องมองเพดานด้วยอาการเหม่อลอย
เพียงแต่ดวงตายังคงแดงก่ำ ไรฟันมีเลือดซึมเพราะการกัดฟันแน่นตลอดเวลา สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
หลังจากจัดการเรียบร้อย เนี่ยนเนี่ยนก็ยืนขึ้นและขยิบตาให้ไป๋หลิวอี้
อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่านางหมายถึงอะไร
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกหงุดหงิด จึงดึงเขาขึ้นจากเตียงทันที แล้วพูดว่า “เจ้าไม่ได้นอนหลับสนิทมาสองสามวันแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”
ไป๋หลิวอี้ไม่มีทางเลือก “เนี่ยนเนี่ยน ตอนนี้ข้าไม่มีเวลาพักผ่อน ข้ามีธุระต้องไปทำอีก ก่อนอื่น…”
“เจ้ามีอะไรก็บอกให้อาเวินทำไปก่อน อย่างน้อยเจ้าก็ต้องนอนสักหนึ่งหรือสองชั่วยาม” น้ำเสียงของเนี่ยนเนี่ยนหงุดหงิด ไม่พอใจมาก
โลกนี้ไม่ได้มีไป๋หลิวอี้คนเดียว นางเชื่อว่าตระกูลลู่และตระกูลหวงสามารถรับมือได้ และตระกูลเจี่ยงจะไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม หากทั้งสองตระกูลเตรียมพร้อม
นางจะไปดูสถานการณ์ที่วังหลวงภายหลัง ส่วนคนอื่นก็มีคนคอยดูอยู่เสมอ
แม้ว่าเป่ยเป่ยจะถูกจับตามอง แต่ด้วยความสามารถของเขา มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะกำจัดคนเหล่านั้น
ไม่ใช่ว่าโลกจะหมุนไปไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ลู่อวี่และหวงชิวผู่ไม่ได้โง่เขลา พวกเขาจะทำในสิ่งที่ต้องทำหลังจากรู้ข้อเท็จจริงบางอย่าง ตอนนี้พวกเขาไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง
ไป๋หลิวอี้มองเนี่ยนเนี่ยน เมื่อเห็นนางจ้องมาด้วยสายตาแน่วแน่ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า
“ในเมื่อเจ้ากำลังจะเข้าวังหลวง เช่นนั้นก็ช่วยทูลไท่จื่อสักสองสามคำ”
“เจ้าพูดมา”
ไป๋หลิวอี้เม้มปาก สีหน้าของเขาแปลกไป ก่อนที่เนี่ยนเนี่ยนจะทันได้มองอย่างชัดเจน เขาก็ยับยั้งสีหน้านั้นไว้ได้
จากนั้นเอนตัวไปใกล้หูของเนี่ยนเนี่ยน แล้วกระซิบสองสามคำ
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที “เขา… เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังจริงหรือ?”
“… อืม” ไป๋หลิวอี้ลดเสียงลง
เนี่ยนเนี่ยนกัดฟัน ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะเข้าไปในวังหลวงแล้ว ไม่ต้องห่วง ข้าจะให้เหวินหย่าอยู่คุ้มกันที่นี่”
นางพูดจบก็ผลักไป๋หลิวอี้ออกไปข้างนอก
ใครจะรู้ว่าหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงแหบพร่าของถงเวยหลินก็ดังมาจากด้านหลัง “พวกเจ้ารู้ตัวฆาตกรที่ฆ่าคนตระกูลถงหรือไม่?”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ฮือ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะถงเวยหลิน เจ้าเก่งมากแล้วที่ผ่านเหตุการณ์สยดสยองแบบนี้มาได้โดยไม่เป็นบ้าไปก่อน บางคนนี่ฟื้นมาแล้วเสียสติเป็นบ้าไปเลยนะ
ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันนะ อยากรู้แล้ว
ไหหม่า(海馬)