อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 234 ขยายอาณาเขต
ตอนพิเศษ 234 ขยายอาณาเขต
ตอนพิเศษ 234 ขยายอาณาเขต
คนที่นั่งอยู่บนพื้นยืดตัวขึ้นช้า ๆ แล้วพิงมุมโต๊ะด้านข้างในท่าทางสบายๆ
ได้ยินเช่นนั้นก็อดขำไม่ได้ “ในโลกนี้ คนเราไม่จำเป็นจะต้องถวายชีวิตตัวเองเสมอไปหรอก มีคนมากมายที่ยอมพลีกายถวายชีวิต คนอย่างพวกข้าไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะยังมีอยู่หรือไม่ และทั้งชีวิตไม่เคยเป็นไปตามความสมัครใจของตัวเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุใดถึงไม่เลือกคนที่ต้องการสังเวยชีวิตให้เองเล่า?”
เนี่ยนเนี่ยนคิดว่าสิ่งที่นางพูดนั้นช่างเหลวไหลและไร้เดียงสา “เลือกเองงั้นหรือ? เริ่นเมิ่ง ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปากเจ้า”
สีหน้าของเริ่นเมิ่งนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนีและเงียบไป
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ยกยิ้มมีเลศนัย “จบเท่านั้นแหละ ข้าไม่มีอะไรจะพูด”
เนี่ยนเนี่ยนยกยิ้ม “ไม่มีอะไรจะพูดแล้วหรือ? เจ้าบอกว่าอยากคุยกับข้าเพียงลำพังไม่ใช่หรือ? เหตุใดตอนนี้เจ้าถึงดูเหมือนไม่มีอะไรจะพูดแล้วเล่า?”
จากนั้นเริ่นเมิ่งก็เงยหน้าขึ้นจ้องเนี่ยนเนี่ยนเขม็ง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ข้าถือว่าเจ้าเป็นสหายเสมอจากก้นบึ้งของหัวใจ คนอย่างข้าไม่เคยกล้าร้องขอมิตรภาพ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ข้าถึงได้รู้สึกว่าข้ามีความสัมพันธ์พิเศษกับเจ้า น่าเสียดาย เราเป็นเจ้านายของเราเอง คงจะดีมากหากเจ้าไม่ใช่จวิ้นจู่น้อยจากอาณาจักรเฟิงชาง“
“คงจะดีหากเจ้าไม่หักหลังเจ้านายคนเก่า” เนี่ยนเนี่ยนก็รู้สึกเสียดายเช่นกัน
แม้ว่าเริ่นเมิ่งจะมีสถานะเช่นนั้น แต่นางก็เป็นคนดีจริง ๆ นับตั้งแต่ที่พวกนางเดินทางถึงเมืองหลวง นางก็ไม่เคยละความพยายามที่จะปกป้องพวกนางตลอดทางเลย เปรียบเสมือนพี่สาวที่คอยห่วงใยและดูแลคนอื่น ๆ ได้ และครั้งล่าสุดที่หลิ่วยางยางส่งคนมาฆ่านาง เริ่นเมิ่งก็เข้ามาช่วยโดยไม่ลังเล
ในเวลานั้น เริ่นเมิ่งที่เป็นผู้พิทักษ์ทมิฬไม่ควรปรากฏตัวเพื่อยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่น แต่เริ่นเมิ่งกลับจับตัวคนร้าย แล้วพาเขาเข้าไปในห้องเล็ก ๆ พร้อมกับนาง เพื่อสอบสวนหาตัวผู้บงการเบื้องหลัง
นางคิดว่าบ้านร้างหลังนั้นอาจไม่ใช่บ้านธรรมดา เริ่นเมิ่งถึงได้พานางไปที่นั่นได้อย่างสบายใจ
เนี่ยนเนี่ยนคิดว่านางเป็นผู้พิทักษ์ทมิฬของเสด็จลุง ดังนั้นย่อมจะมีโอกาสได้พบกันในอนาคต ในเวลานั้น หากพวกนางเจอกันอย่างเปิดเผยและจริงใจ ก็อาจกลายเป็นสหายที่ดีต่อกันจริง ๆ
ไม่คาดคิดว่าเมื่อมาพบกันอีกครั้งจะกลายเป็น… ศัตรู
“เจ้ารู้ตัวตนของข้าตั้งแต่เมื่อใด?” เนี่ยนเนี่ยนถาม
เริ่นเมิ่งเงยหน้าขึ้นมองนาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อันที่จริงข้าจงใจหลีกเลี่ยงเรื่องนี้มาโดยตลอด แม้จะคิดว่าเจ้าไม่ใช่คนธรรมดา แต่ข้าก็ไม่ได้ตรวจสอบ… หลังจากกลับเมืองหลวงได้ไม่นาน เจ้านายก็สั่งให้ข้าออกไปจากเมืองหลวงอีกครั้ง เมื่อข้ากลับมาอีก ข้าก็บังเอิญเห็นโจรป่ากำลังจะฆ่าเจ้า ตอนนั้นข้ายังดีใจมากที่ได้พบเจ้าอีก แต่ข้าไม่คาดคิดเลยว่าอีกสองวันต่อมา เจ้านายจะมอบรูปเหมือนให้ข้า… โดยบอกว่าคนผู้นี้เป็นเนี่ยนเนี่ยนธิดาของท่านอ๋องซิวแห่งอาณาจักรเฟิงชาง ตอนนั้นข้า… ตกใจมาก”
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก “แสดงว่าเจ้าวางยาเสด็จลุง ก่อนที่เจ้าจะรู้ตัวตนของข้างั้นหรือ?”
เริ่นเมิ่งยิ้มฝืดเฝื่อน “ใช่” หากรู้ตัวตนของเนี่ยนเนี่ยนก่อนหน้านี้ นางจะใช้ยาพิษที่เนี่ยนเนี่ยนให้มาได้อย่างไร?
เดิมทีเนี่ยนเนี่ยนให้ยาพิษนางสองขวด แต่นางไม่เชื่อในประสิทธิภาพของยา ต่อมาเจ้านายทำขวดแตก วันรุ่งขึ้นนางเห็นหนูหลายตัวตายข้างขวดยาที่แตก นางจึงตระหนักได้ว่ายาที่เนี่ยนเนี่ยนให้นางนั้นได้ผลจริง
นางรู้ว่าเจ้านายต้องการชีวิตของไท่จื่อมาโดยตลอด และขวดยาที่เหลืออยู่ในมือของนางก็เป็นพิษที่ไม่ทำให้อาการปรากฏ หมอทั่วไปจึงไม่อาจตรวจพบได้
ดังนั้นในวันที่สองหลังจากช่วยเนี่ยนเนี่ยนแล้ว นางก็ใช้โอกาสนี้มารายงานสถานการณ์ให้ถังมู่เทียนทราบ แล้วแอบใช้กลอุบายวางยา
แน่นอนว่าไม่มีอาการผิดปกติอื่นใด นอกจากดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย เมื่อไท่จื่อเรียกหมอหลวงมาจับชีพจร หมอหลวงก็ตรวจไม่พบ และบอกเพียงว่าเป็นเพราะยุ่งกับงานจนเหนื่อยล้าเกินไป
ต่อมาเริ่นเมิ่งเห็นภาพเหมือนของเนี่ยนเนี่ยน จึงรู้ตัวตนของเนี่ยนเนี่ยน ขณะนั้นนางค่อนข้างกังวล เพราะเกรงว่าเนี่ยนเนี่ยนจะรู้ว่าไท่จื่อถูกวางยาพิษ แต่โชคดีที่เจ้านายสั่งว่าจะไม่ปล่อยให้นางเข้าวังหลวง หรือไปพบไท่จื่อแน่นอน นางจึงรู้สึกโล่งใจ
แต่นางไม่คาดคิดว่าเนี่ยนเนี่ยนที่ควรจะถูกจับอยู่ จะมาปรากฏตัวในวังหลวงวันนี้ เรื่องนี้…เจ้านายไม่ได้บอกนาง
แน่นอนว่านางเป็นคนปรุงยาพิษ แม้ว่าไท่จื่อจะดูปกติดี แต่เนี่ยนเนี่ยนจะดูไม่ออกได้อย่างไร?
นางยัง… ถูกเปิดโปงด้วย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เริ่นเมิ่งก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ โลกนี้มีเรื่องบังเอิญกี่เรื่องกัน?
นางเงยหน้าขึ้นมองเนี่ยนเนี่ยน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “แล้วเจ้าเล่า? เจ้ารู้ว่าข้าเป็นผู้พิทักษ์ทมิฬตั้งแต่เมื่อใด?”
“ตั้งแต่แรก”
เริ่นเมิ่งตกตะลึง ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “ตั้งแต่แรกหรือ?”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า “เจ้ามีสัญลักษณ์ประจำตัวติดตัวอยู่ ข้ารู้ว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของผู้พิทักษ์ทมิฬแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ ข้าจึงช่วยเหลือเจ้าตอนนั้น ไม่เช่นนั้นเป่ยเป่ยกับข้าก็คงไม่ยุ่งเกี่ยว”
เริ่นเมิ่งตกตะลึง “เจ้ารู้จริงหรือว่าสัญลักษณ์ของผู้พิทักษ์ทมิฬเป็นอย่างไร?”
ฮ่องเต้และไท่จื่อแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ รักองค์หญิงเทียนฝูที่อภิเษกสมรสกับคนอาณาจักรเฟิงชาง มากถึงเพียงนั้นเลยหรือ?
แม้แต่เรื่องกลุ่มผู้พิทักษ์ทมิฬที่ทรงพลังและลึกลับที่สุด ก็ยังเปิดเผยให้พวกเขารู้ด้วยหรือ?
คิ้วของเริ่นเมิ่งขมวดแน่น ลางสังหรณ์ไม่ดีพลันผุดขึ้นในใจนางทันที
ความสัมพันธ์ระหว่างองค์หญิงเทียนฝู… และราชวงศ์แห่งอาณาจักรเทียนอวี่… ดูเหมือนจะใกล้ชิดกว่าที่คิดไว้….
แต่เมื่อห้าปีที่แล้ว เมื่อเหตุการณ์ใหญ่เช่นนั้นเกิดขึ้นในอาณาจักรเทียนอวี่ อวี้ชิงลั่วไม่ได้มาปรากฏตัวให้เห็นชัดเจน
ทันใดนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองเนี่ยนเนี่ยน “ถ้า… ข้าหมายถึงถ้าฮ่องเต้ ฮองเฮาและไท่จื่อแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ ถูกสังหารทั้งหมด และราชวงศ์ถูกเปลี่ยนมือ อุปราชแห่งอาณาจักรเฟิงชางจะทำเช่นไร?”
“ส่งกองกำลังมา!!” เนี่ยนเนี่ยนตอบโดยไม่ลังเล
เริ่นเมิ่งหรี่ตาลงด้วยความไม่เชื่อ “เจ้าแน่ใจหรือว่าพ่อของเจ้าจะทำเช่นนั้น? เขาเป็นอุปราชของอาณาจักร หากมีการรบราฆ่าฟันกันในอาณาจักรเทียนอวี่ เขาจะเข้ามาแทรกแซงโดยพลการด้วยความเห็นแก่ตัวของเขาเองได้อย่างไร?”
“จะถือว่าเป็นความเห็นแก่ตัวได้อย่างไร?” เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะ “หากอาณาจักรของเทียนอวี่เกิดความวุ่นวายภายใน ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ในการส่งกองกำลังไปขยายอาณาเขตไม่ใช่หรือ?”
ขณะที่นางพูดเช่นนั้น ใบหน้าของนางเรียบเฉย แล้วพูดต่อว่า “หากอาณาจักรเทียนอวี่ไม่มีคนสกุลถังแล้วจริง ๆ อาณาจักรเฟิงชางก็อยากจะรวมอาณาจักรเทียนอวี่ไว้ในดินแดนของอาณาจักรเฟิงชาง มากกว่าที่จะปล่อยให้เจ้านายของเจ้าได้ครอบครองตำแหน่งสูง ด้วยการสังหารหมู่สกุลถังอันเก่าแก่ และทำลายอาณาจักรเทียนอวี่ที่มีมานานหลายร้อยปี”
เริ่นเมิ่งรู้สึกตกตะลึง อยากจะให้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเฟิงชางมากกว่า ปล่อยให้อาณาจักรเทียนอวี่ไม่มีคนสกุลถังไม่ได้งั้นหรือ?
ถูกต้องแล้ว การขยายอาณาเขตจะนับว่าเป็นความเห็นแก่ตัวได้อย่างไร?
จู่ ๆ เริ่นเมิ่งก็เริ่มตัวสั่นเบา ๆ นางจ้องมองเนี่ยนเนี่ยนด้วยแววตามุ่งมั่น “เช่นนั้นข้าคงทำได้เพียงขัดขวางเจ้า”
ขณะที่นางพูด นางก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น เชือกเส้นหนาที่มัดมือนางถูกแก้ออกตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ จากนั้นนางก็เดินไปหาเนี่ยนเนี่ยนทีละก้าว สายตาของนางดูซับซ้อนทว่าแน่วแน่
……………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ยังไงหนอ เนี่ยนเนี่ยนจะรอดไหม สืบความไปมาจนอีกฝ่ายแก้เชือกได้แล้ว
ไหหม่า(海馬)