อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 241 นอนกอด
ตอนพิเศษ 241 นอนกอด
ตอนพิเศษ 241 นอนกอด
ไป๋หลิวอี้ยกยิ้ม ก่อนจะจูงนางไปนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “แน่นอนว่าข้าจะใช้วิธีดาบนั้นคืนสนอง หากพวกเขาต้องการมาจวนซูกั๋วกง ข้าก็จะเปิดประตูรับพวกเขาให้เข้ามา”
“เช่นนั้น เจ้าจะให้พวกเขาเจอถงเวยหลินหรือ?”
ไป๋หลิวอี้เย้ยหยัน “เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องมีความสามารถมากพอที่จะเข้าไปในหอหลินเยว่ได้”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้าเห็นด้วย มีค่ายกลอยู่นอกหอหลินเยว่ ซึ่งนางเป็นคนสร้างมันเองตามที่ได้เรียนรู้มาจากท่านพ่อ ด้วยความสามารถของสองพ่อลูกสกุลหลิ่วแล้ว ก็อาจจะแอบเข้าไปไม่ได้
ถ้าพวกเขากล้าบุกรุกเข้าไปในเรือนที่จวิ้นจู่อาศัยอยู่ หากพวกเขาตายก็จะไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะมันเป็นความผิดของพวกเขาเอง
แต่ว่า…
“หากพวกเขาจับฮูหยินเฒ่าไป๋เป็นตัวประกัน แม้ว่าพวกเขาจะแตกหักกับซูกั๋วกง พวกเขาก็จะเปิดเผยตัวเองเช่นกัน แล้วนั่นไม่ใช่…” การฆ่าตัวตายหรอกหรือ? เป็นการบอกทุกคนอย่างเปิดเผย ว่าพวกเขามีแผนร้ายและต้องการกบฏ?
ไป๋หลิวอี้นั่งข้างนาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าเกรงว่านี่จะเป็นแผนการของคนตระกูลเจี่ยง คนตระกูลหลิ่วเป็นเพียงหมากเบี้ยที่พวกเขาเดินไป การแลกเปลี่ยนตระกูลหลิ่วกับจวนของซูกั๋วกงไม่ใช่เรื่องเสียหายสำหรับพวกเขา ตระกูลถงเพิ่งประสบกับโศกนาฏกรรม ทุกคนจึงให้ความสนใจกับการหาตัวฆาตกร แม้โลกภายนอกจะมีข่าวลือว่าเป็นฝีมือของราชวงศ์ แต่อีกสามตระกูลก็มีความสามารถเช่นกัน จึงมีบางคนที่มุ่งความสนใจไปที่พวกเขา หากมีอะไรเกิดขึ้นในจวนซูกั๋วกงตอนนี้ความสนใจของทุกคนจะถูกเบี่ยงเบนไปที่ตระกูลหลิ่ว ถึงตอนนั้นหากตระกูลเจี่ยงใช้เล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง ก็อาจจะโยนความผิดโทษฐานกวาดล้างตระกูลถงมาให้พวกเราก็ได้”
เนี่ยนเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง พูดได้มีเหตุผลดี
แต่จากเหตุผลดังกล่าวนั้น มีหรือที่คนตระกูลหลิ่วจะไม่รู้ความจริงข้อนี้?
หรือว่าพวกเขาไม่สนใจ?
ไป๋หลิวอี้เลิกคิ้วขึ้น “ไม่ว่าพวกเขาจะสนใจหรือไม่ พวกเขาก็ต้องทำ อีกทั้งมันเป็นเวลาที่เหมาะสมและสะดวกที่สุดแล้วสำหรับพวกเขาในการจัดการกับจวนซูกั๋วกง หลิ่วเชียงและคนของเขาถูกพ่อของข้าปราบปรามอย่างรุนแรง คงจะสะสมความแค้นมานาน จึงทนห้ามใจไม่ทำลายจวนซูกั๋วกงด้วยตัวเองไม่ได้”
แม้ว่าตระกูลหลิ่วและตระกูลไป๋จะเกี่ยวข้องกันด้วยการแต่งงาน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลไป๋พัฒนารุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตระกูลหลิ่วกลับค่อย ๆ เสื่อมลง
หลิ่วเชียงมักเอาแต่ใจและหยิ่งผยอง
โดยเฉพาะในช่วงปีแรก ๆ ที่เขาถูกพากลับไปยังตระกูลไป๋ หลิ่วซื่อส่งเสียงดังมากที่สุด ในฐานะคนในครอบครัวพ่อแม่ของหลิ่วซื่อ หลิ่วเชียงย่อมต้องพูดสนับสนุนน้องสาวตัวเอง
แต่ซูกั๋วกงไม่ได้เกรงกลัวคนตระกูลหลิ่วเลย นับประสาอะไรกับหลิ่วเชียง อีกทั้งเงื่อนไขที่หลิ่วเชียงหยิบยกขึ้นมาก็ยังอุกอาจมาก เพราะถึงกับเรียกร้องให้ทุบตีไป๋หลิวอี้ ที่ซึ่งเป็นลูกชายของคนนอกให้ตาย
มันเป็นเรื่องตลกร้าย ไม่ว่าซูกั๋วกงจะสับสนกับการปรากฏตัวของไป๋หลิวอี้ในเวลานั้นมากเพียงใด แต่นั่นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอง เขาจะฟังคนอย่างหลิ่วเชียง แล้วฆ่าไป๋หลิวอี้ได้อย่างไร?
ซูกั๋วกงไม่เพียงไม่ฟังเขาเท่านั้น แต่ยังด่าทอและตะเพิดเขาออกจากจวนซูกั๋วกงด้วย
ต่อมาหลิ่วเชียงก็เข้ามาสร้างปัญหาอีกหลายครั้ง แต่เนื่องจากสถานะของซูกั๋วกง เขาจึงเคยได้เปรียบเลย
บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลิ่วเชียงจะมีการติดต่อปกติและเป็นมิตรกับซูกั๋วกง แต่เขามีความคับแค้นฝังลึกอยู่ในใจมานาน จึงต้องการเหยียบย่ำซูกั๋วกงไว้ใต้เท้า
หลังจากเนี่ยนเนี่ยนได้ฟังคำพูดนั้น ก็ยิ่งนึกดูถูกหลิ่วเชียงมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความสามารถที่จะสานต่อตระกูลหลิ่วได้ แต่ก็เอาแต่เรียกร้องอย่างไม่มีเหตุผลเหมือนพวกอันธพาล ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการช่วยตระกูลหลิ่วให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุดเท่านั้น แต่ยังทำให้ตระกูลหลิ่วตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ นับเป็นเรื่องที่แปลกจริง ๆ
ตอนนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่านั้น เขาดึงทั้งตระกูลหลิ่วไปสู่ก้นบึ้งแห่งหายนะชั่วนิรันดร์
ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลิ่วยางยางไม่เจียมตนบ้างเลย ยังคงหลงผิดด้วยการจะจับไป๋หลิวอี้ให้ได้ ซึ่งนั่นเป็นความคิดเพ้อฝันชัดๆ
เนี่ยนเนี่ยนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าหงุดหงิด ขณะรอยยิ้มผุดบนใบหน้าของไป๋หลิวอี้
ทั้งสองปรึกษาหารือกันเรื่องแผนการรับมือตระกูลหลิ่วอยู่นาน แล้วเนี่ยนเนี่ยนก็เริ่มง่วงนอน
ไป๋หลิวอี้จูงนางเข้าไปในห้องชั้นใน แล้วปล่อยให้นางนอนบนเตียงของเขาเอง
เนี่ยนเนี่ยนไม่ค่อยพอใจ ไป๋หลิวอี้กอดอกขณะเลิกคิ้วถามนางว่า “เจ้าไม่อยากนอนที่นี่ หรือเป็นเพราะว่าเจ้าจะกลับไปที่หอหลินเยว่? มีถงเวยหลินนอนอยู่ที่นั่น เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าสองคนนอนในห้องด้วยกันหรือ?”
ขณะที่เขาพูด เขาก็นอนลงข้างนาง แล้วนอนกอดเอวนางหลับไป
เนี่ยนเนี่ยนสังหรณ์ใจว่า ‘ต่อจากนี้ไป เขากับนางจะต้องนอนกอดกันหลับไปเช่นนี้’…
นางเม้มปาก อย่างไรเสียสถานการณ์เช่นนี้ก็เคยเกิดขึ้นแล้ว นางรู้สึกว่าหากต้องอยู่ในห้องเดียวกับถงเวยหลินนั้น อยู่ห้องเดียวกับไป๋หลิวอี้ยังจะดีกว่า นางจึงสงบสติอารมณ์ พยายามไม่คิดมาก แล้วหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทรา
จนกระทั่งถึงยามอรุณรุ่ง ไป๋หลิวอี้ก็ตื่นขึ้นมาอุ้มนางเงียบ ๆ เพื่อพากลับไปที่หอหลินเยว่
เหวินหย่าตื่นขึ้นแล้ว เมื่อเห็นไป๋หลิวอี้อุ้มเนี่ยนเนี่ยนมาส่ง นางก็จัดเตียงแล้วปล่อยให้นางนอนโดยไม่พูดอะไร
สองวันต่อมา ซูกั๋วกงยุ่งกับเรื่องต่าง ๆ จึงไม่ได้อยู่จวน
ไป๋หลิวอี้ก็ออกจากจวนไปตั้งแต่เช้า และเข้าไปในวังหลวง
คนสองคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกจวนซูกั๋วกงรีบวิ่งกลับไปยังบ้านตระกูลหลิ่วที่แทบจะว่างเปล่า เพราะคนส่วนใหญ่จากไปเกือบหมดแล้ว
เมื่อได้ยินดังนั้น หลิ่วเชียงและหลิ่วเหวยก็เดินไปจวนซูกั๋วกงทันที โดยบอกว่าพวกเขามาที่นี่ในฐานะแขก เพื่อมาเยี่ยมหลิ่วซื่อกับหลิ่วยางยาง และทักทายฮูหยินเฒ่าไป๋ด้วย
ผู้ดูแลแขกเห็นพวกเขา จึงรีบรายงานหัวหน้าไป๋ทันที
หัวหน้าไป๋สั่งให้คนพาแขกไปที่ห้องโถงด้านหน้า จากนั้นไปรายงานฮูหยินเฒ่าไป๋และเนี่ยนเนี่ยนที่โถงเล่อฝูด้วยตนเอง
เนี่ยนเนี่ยนพูดกับหัวหน้าไป๋ด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าไปบอกท่านหลิ่วและนายน้อยหลิ่วว่าฮูหยินเฒ่าไม่สบาย จึงไม่สะดวกรับแขก และให้พาเขาไปหาฮูหยิน แล้วปล่อยให้พี่น้องพูดคุยกัน”
ฮูหยินเฒ่าไป๋ตกตะลึง แล้วมองเนี่ยนเนี่ยนด้วยความงุนงง
สองสามวันมานี้นางมีเนี่ยนเนี่ยนอยู่เคียงข้าง ร่างกายของนางจึงสดชื่นขึ้นบ้าง และไม่มีปัญหาที่จะเจอคนตระกูลหลิ่ว เหตุใดเนี่ยนเนี่ยนถึงพยายามขัดขวางนางเต็มที่?
หัวหน้าไป๋ตอบรับ แล้วหันหลังวิ่งกลับไปหาสองพ่อลูกสกุลหลิ่ว
นายท่านกับคุณชายใหญ่อธิบายไว้แล้วว่า วันนี้…ให้เชื่อฟังจวิ้นจู่ในทุกเรื่อง
ฮูหยินเฒ่าไป๋นั่งข้างเนี่ยนเนี่ยน แล้วถามนางว่า “เจ้าไม่ชอบคนจากตระกูลหลิ่วหรือ? เพราะหลิ่วซื่อและหลิ่วยางยางใช่หรือไม่?”
เมื่อก่อนหลิ่วซื่อทำเรื่องไม่ค่อยดีกับหลิวอี้ เนี่ยนเนี่ยนคงเห็นว่าหลิวอี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ส่วนหลิ่วยางยางก็ต้องการแต่งงานกับหลิวอี้ จึงเป็นเรื่องปกติที่นางจะรู้สึกเช่นนั้น
ฮูหยินเฒ่าไป๋เข้าใจ จึงส่ายหน้าและไม่ได้เอ่ยคำใด ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานางก็ไม่ชอบคนตระกูลหลิ่วเช่นกัน หลิ่วเชียงมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมหลิ่วซื่อเท่านั้น ไม่ได้สำคัญว่าเขาจะมาทักทายนางหรือไม่
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตา นางไม่ชอบคนตระกูลหลิ่วจริง ๆ แต่วันนี้เป็นข้อยกเว้น เพราะมีเหตุผลพิเศษ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อหลิ่วเชียงและหลิ่วเหวยได้ยินว่าฮูหยินเฒ่าไป๋ไม่พร้อมรับแขก พวกเขาก็มองหน้ากันและลอบถอนหายใจ แต่ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร เพียงแค่หันหน้าเดินไปยังเรือนของหลิ่วซื่อ
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ร้ายกาจ นอนกอดน้องทุกครั้งที่มีโอกาสเลยสินะ ยังไม่แต่งก็ขนาดนี้ ถ้าแต่งแล้วจะขนาดไหน
ไหหม่า(海馬)