อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 244 กลอุบาย
ตอนพิเศษ 244 กลอุบาย
ตอนพิเศษ 244 กลอุบาย
แน่นอนว่าหลิ่วซื่อสูดหายใจเข้าลึก ก่อนมองหลิ่วเชียง“พี่ใหญ่ ข้าต้องทำอย่างไร?”
“เจ้าจงหาข้ออ้างเพื่อจะเข้าไปในหอหลินเยว่กับเย่ชิ่นซี โดยต้องพาอาหลาน อาหมี่และอาอวิ๋นไปด้วย ส่วนข้าจะแอบตามเจ้าไป หลังจากเข้าไปในหอหลินเยว่ได้แล้ว ข้าจะจัดการกับสาวใช้สองคนของนาง ส่วนอาอวิ๋นจะจัดการกับเย่ชิ่นซี”
หลิ่วซื่อตะลึง “แล้วเหวยเอ๋อร์กับยางยางเล่า?”
“ยางยางจะพาเหวยเอ๋อร์ไปทักทายฮูหยินเฒ่าไป๋ หากฮูหยินเฒ่าไป๋อยู่ห่างจากเย่ชิ่นซีแล้ว ก็จะถูกรายล้อมไปด้วยคนรับใช้ที่ทำอะไรไม่ถูก เหวยเอ๋อร์จะได้จับตัวนางได้ง่ายขึ้น ตราบใดที่มีฮูหยินเฒ่าไป๋และเย่ชิ่นซีอยู่ในมือของเรา เราก็ไม่ต้องกลัวซูกั๋วกงและไป๋หลิวอี้อีกต่อไป และจะจับพวกเขาได้โดยละม่อม”
หลิ่วซื่อเม้มปากขณะขมวดคิ้ว
หลิ่วเชียงเห็นเช่นนั้นก็จ้องมองนางด้วยความไม่พอใจ “เจ้ายังจะลังเลอะไรอยู่?”
“พี่ใหญ่ ข้าเกรงว่ามันจะไม่ได้ผลเจ้าค่ะ”
“อย่างไร?”
หลิ่วซื่อลดเสียงลงขณะพูดว่า “เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตระกูลถง ทั้งจวนซูกั๋วกงจึงได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้อารักขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แม้ว่าเราจะจับฮูหยินเฒ่าไป๋และเย่ชิ่นซีได้ ก็ไม่อาจออกจากจวนของซูกั๋วกงไปได้ง่าย ๆ”
หลิ่วเชียงเย้ยหยัน “เจ้าคิดจริงหรือว่าพวกเรามีกันอยู่แค่สองคน?”
หลิ่วซื่อตกตะลึง “พี่ใหญ่หมายความว่าอย่างไร ยังคนอื่นอีกหรือเจ้าคะ?”
“ยังมีคนของข้าอีกสองสามคนในจวนหลังนี้ ในเวลานั้นพวกเขาจะจุดไฟเผาสถานที่หลายแห่งในจวนและส่งเสียงดัง ตราบใดที่สามารถดึงดูดความสนใจของคนส่วนใหญ่ได้ เจ้ายังจะกลัวว่าเราจะไม่อาจพาคนสองคนออกไปได้อีกหรือ? เจ้าเป็นฮูหยินแห่งจวนซูกั๋วกง ตราบใดเท่าที่เจ้าบอกว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับจวนหลิ่ว ทำให้ต้องรีบกลับบ้าน ก็ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าขวางเจ้าไว้ อีกทั้งข้ายังได้ส่งคนจำนวนมากมาคอยเฝ้าอยู่นอกจวนซูกั๋วกงแล้วด้วย”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด หลิ่วซื่อก็ถอนหายใจ “พี่ใหญ่ยังคงรอบคอบ หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะเรียกหลิวเจวี๋ยให้มาที่นี่เดี๋ยวนี้”
“เจ้าเรียกหลิวเจวี๋ยมาทำอะไร?” หลิ่วเชียงขมวดคิ้ว เขาคิดว่าเป็นการดีกว่าที่จะปกปิดเรื่องนี้จากไป๋หลิวเจวี๋ย
เพราะเขามาจากจวนไป๋ และตัวเขาเองต้องจัดการกับย่า พ่อและพี่ชายของเขา เขาแตกต่างจากหลิ่วซื่อตรงที่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับทุกคนในจวนไป๋
หลิ่วซื่อหัวเราะเบา ๆ “พี่ใหญ่ไม่รู้หรอกเจ้าค่ะ เนื่องจากตระกูลถงมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทุกวันนี้นายท่านและไป๋หลิวอี้จึงไม่ได้อยู่จวน พวกเขายุ่งอยู่กับการออกไปข้างนอก ดังนั้นทุกเหตุการณ์สำคัญในจวนหลังนี้จึงตกอยู่กับหลิวเจวี๋ย และหลิวเจวี๋ยก็เป็นคนจัดการผู้อารักขาในจวนด้วย หากข้าเรียกให้เขามา แล้วสั่งให้เขาช่วยจัดการเรื่องผู้อารักขาให้ มันจะไม่ช่วยให้พวกเราสะดวกขึ้นหรือเจ้าคะ? พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่กังวลเรื่องอะไร ข้ารู้ว่าอะไรควรบอกให้เขารู้ และอะไรไม่ควรบอกให้เขารู้เจ้าค่ะ”
หลิ่วเชียงเห็นว่าสิ่งที่นางพูดมีเหตุผล เขาจึงพยักหน้า “หากเจ้าพูดกับเขาแล้ว ก็ระวังอย่าให้หลุดปาก”
“เจ้าค่ะ” หลิ่วซื่อตอบรับ สายตาของนางฉายแววเด็ดเดี่ยวและดุดัน ท่าทางราวกับพร้อมสู้เต็มที่ ดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างคาดไม่ถึง
นางเปิดประตูไปบอกอาหลานที่ด้านนอกประตูว่า “ไปเรียกซื่อจื่อมา”
“เจ้าค่ะ” อาหลานหันมาตอบรับ
หลิ่วซื่อเม้มริมฝีปาก นางต้องคิดหาข้ออ้างที่จะใช้ล่อเนี่ยนเนี่ยนกลับไปที่หอหลินเยว่
นางไม่เคยเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นมาก่อน ตอนนี้หากนางเสนอให้ไปที่นั่น ก็อาจทำให้คนอื่นสงสัยได้
คิ้วของหลิ่วซื่อขมวดจนแทบจะผูกเป็นปม หลังจากคิดอยู่นาน ในที่สุดนางก็หัวเราะออกมา
นางเรียกอาหมี่มาถามว่า “ช่วงนี้แมวของฮูหยินเฒ่าอยู่ที่ใด?”
“เพราะเรื่องเฟิงหลิงครั้งที่แล้ว ฮูหยินเฒ่าจึงกลัวว่าจะมียาพิษบางอย่างในตัวเสี่ยวฮวาเหวิน นางจึงไม่ได้แตะต้องมันมานานแล้วเจ้าค่ะ ช่วงนี้มันอยู่ที่สวนหลังบ้าน และสาวใช้กำลังดูแลมัน แต่มันดูไม่ค่อยสบอารมณ์นักเจ้าค่ะ” อาหมี่ตอบ
หลิ่วซื่อพยักหน้า ก่อนจะลูบคางแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าไปจับแมวตัวนั้นมาที่นี่”
อาหมี่อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วจึงรีบพยักหน้าและจากไป
หลังจากนั้นไม่นาน อาหลานก็พาไป๋หลิวเจวี๋ยเข้ามา เมื่อเห็นหลิ่วเชียงและลูกชาย เขาก็ผงะเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ยังทักทายลุงของตนด้วยความเคารพ
หลิ่วเชียงเชิดคางขึ้นเล็กน้อยและพยักหน้า ค่อนข้างพอใจกับการอบรมสั่งสอนของหลิ่วซื่อ
จากนั้นไป๋หลิวเจวี๋ยก็เดินไปหาหลิ่วซื่อ แล้วถามว่า “ท่านแม่ ท่านเรียกลูกมาหา มีอะไรหรือเปล่าขอรับ? ลูกยังมีบางสิ่งที่ต้องทำ ลูกกำลังจะสั่งให้คนมาบอกท่านแม่ ว่าลูกไม่อาจอยู่กินข้าวกับท่านลุงและท่านพี่ได้ขอรับ”
หลิ่วซื่อเอื้อมมือไปปัดเสื้อของเขา จัดคอเสื้อที่ยับย่นเล็กน้อยให้ตรง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าจะทำเรื่องอะไรสำคัญอะไรอีก? เรื่องจัดการผู้อารักขาใช่หรือไม่? พ่อของเจ้าก็ไม่ได้ให้เจ้าทำเรื่องหนักหนามากนัก เพียงแค่ดูแลความเรียบร้อยในจวนเท่านั้น อย่างไรเสียเขาควรพาเจ้าออกไปพบปะสังสรรค์ และเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นก็เกรงว่าพี่ชายของเจ้า จะแย่งความโดดเด่นไปเสียหมด”
ไป๋หลิวเจวี๋ยทำอะไรไม่ค่อยถูก เขาจับมือหลิ่วซื่อ ก่อนถอนหายใจและพูดว่า “ท่านแม่ เรื่องเหล่านี้ในจวนก็มีความสำคัญมากเช่นกันขอรับ เหตุใดการจัดการผู้อารักขาจะไม่ใช่เรื่องหนักหนาเล่าขอรับ? ความปลอดภัยของจวนแห่งนี้ขึ้นอยู่กับข้าคนเดียว”
“เอาล่ะๆ เจ้าคิดว่าเจ้าประสบความสำเร็จมากแล้วก็ดี แม่เรียกเจ้ามาที่นี่ เพราะจะคุยกับเจ้าเรื่องนี้นี่แหละ” หลิ่วซื่อดึงเขาให้นั่งลงข้าง ๆ “ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าเป็นหญิงสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือน นางบอกว่าช่วงนี้นางมักได้ยินเสียงแปลก ๆ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจมาก ดังนั้นเจ้าช่วยย้ายคนจากสวนจิ่นเฟิง ไปเฝ้าสวนหลิงสุ่ยของลูกพี่ลูกน้องของเจ้าที”
ไป๋หลิวเจวี๋ยประหลาดใจ “แต่ว่าพี่ใหญ่…”
“แม่รู้ว่าเจ้าให้ความสำคัญกับพี่ใหญ่ของเจ้า และต้องการดูแลความปลอดภัยของเขา แต่ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าเป็นหญิงสาวบอบบางและไม่มีอำนาจ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของนางหรือ? อีกทั้งพี่ใหญ่ของเจ้าก็ไม่อยู่จวนในตอนกลางวันด้วย เจ้าย้ายคนไปที่สวนหลิงสุ่ยในช่วงกลางวัน แล้วค่อยย้ายกลับไปที่เรือนพี่ใหญ่ของเจ้าในตอนกลางคืน ได้หรือไม่?”
“นั่น…” ไป๋หลิวเจวี๋ยเกาหัว เมื่อเขาหันกลับมา ก็บังเอิญเห็นสีหน้าบึ้งตึงของหลิ่วเชียง ช่างเถิด ในใจของเขาลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่สำคัญเท่าพี่ใหญ่ของเขา “ข้าคิดว่าข้าควรพายางยางกลับไปที่จวนหลิ่วจะดีกว่า”
เมื่อพูดถึงประเด็นนี้ ไป๋หลิวเจวี๋ยก็ไม่เห็นด้วย เพราะจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนตระกูลหลิ่วได้อีก ปัญหาเดียวคือสวนจิ่นเฟิงอยู่ใกล้กับหอหลินเยว่ ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่สั่งไว้ว่า ไม่จำเป็นต้องส่งคนไปเฝ้าหอหลินเยว่ เพราะที่นั่นมีค่ายกลอยู่แล้ว คนนอกจึงไม่สามารถผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาจัดคนสองสามคนที่มีฝีมือดีไว้ในสวนจิ่นเฟิง และในขณะเดียวกัน ก็ให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวของหอหลินเยว่ด้วย แต่ตอนนี้…
หลิ่วซื่อเร่งเร้าเขา “เอาล่ะๆเจ้ารีบส่งคนไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ขอรับ” ไป๋หลิวเจวี๋ยเม้มปาก ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
หลิ่วซื่อมองร่างของเขาหายลับออกไปจากเรือน จากนั้นหันกลับมาเห็นอาหมี่กลับมาพร้อมแมวในอ้อมแขน ดวงตาของนางเป็นประกาย ขณะพูดกับอาหมี่ด้วยรอยยิ้มว่า “ไปโถงเล่อฝูกับข้า”
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทางนี้วางแผนล่อหลอกตัวประกันแล้ว ฝ่ายเนี่ยนเนี่ยนจะแก้กลได้ไหมนะ
ไหหม่า(海馬)