อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 245 คำใบ้
ตอนพิเศษ 245 คำใบ้
ตอนพิเศษ 245 คำใบ้
หลิ่วซื่อพูดจบ ก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว
แต่จู่ ๆ พลันเหมือนกับครุ่นคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหยุดเดินแล้วพูดกับอาอวิ๋นที่เดินมากับนางว่า “แบบนี้คงไม่เหมาะ เจ้าต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
เดิมทีอาอวิ๋นมาในฐานะสาวใช้ของหลิ่วยางยาง หลิ่วยางยางยังเป็นสาวแรกรุ่น เสื้อผ้าของสาวใช้รอบกายนางจึงมีสีสันสดใส
ส่วนนางเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว สาวใช้ส่วนใหญ่ที่อยู่รอบกายนาง จึงมีบุคลิกสุขุมและจริงจัง สีชุดของพวกนางก็เช่นกัน
หลิ่วเชียงนิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบอาอวิ๋นกับอาหมี่ที่อยู่ด้านข้าง หลิ่วซื่อก็พยักหน้า แล้วพูดกับนางว่า “ไปเปลี่ยนเสีย”
จากนั้นอาอวิ๋นก็เดินตามเข้าไปในห้องชั้นใน
หลิ่วซื่ออุ้มแมวส่งให้อาหลาน แล้วบอกนางว่า “ดูแมวไว้ อย่าปล่อยให้วิ่งหนีไปได้”
จากนั้นนางก็หันไปพูดกับหลิ่วเชียงว่า “พี่ใหญ่ มีการสร้างค่ายกลไว้ที่เรือนของเย่ชิ่นซี ท่านควรระวังเมื่อตามข้าเข้ามาทีหลัง”
“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้ารู้ตัวดี ย่อมต้องใส่ใจเดินตามทุกย่างก้าวของพวกเจ้าอยู่แล้ว”
หลิ่วซื่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก ด้วยความวิตกกังวลเล็กน้อย นางจึงรินน้ำใส่แก้วแล้วดื่มลงไปแรง ๆ
แต่สีหน้าของไป๋หลิวเจวี๋ยที่ออกจากประตูไปก่อนหน้านี้ กลับกลายเป็นจริงจังมาก หลังจากที่เขาเดินออกจากลานบ้านมาแล้ว เขาก็ยกมือขึ้นมาดู
จากนั้นเขาก็รีบเดินไปที่โถงเล่อฝูของฮูหยินเฒ่าไป๋ เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง เขาก็รอไม่ไหวแล้ว จึงถอนหายใจแล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังคา เพื่อใช้ทางลัดไปยังโถงเล่อฝู
แม่นมอวี๋กำลังถือของว่างเดินไปตามทางเดิน นางก็เกือบถูกเขาชน ทำให้ของในมือนางเกือบกระเด็นไป
นางรีบประคองถาด ลูบอกตัวเอง ก่อนจะขมวดคิ้วมองคนที่เดินผ่านไป “คุณชายรอง เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ? รีบถึงเพียงนั้นเลยหรือเจ้าคะ”
ไป๋หลิวเจวี๋ยไม่เคยสนใจนางเลย ทันใดนั้นก็เปิดม่านประตู แล้วกระโจนเข้าไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
โชคดีที่ทุกครั้งที่เนี่ยนเนี่ยนมาที่โถงเล่อฝู นางจะกันสาวใช้ในเรือนออกไป จึงไม่มีใครเห็นการกระทำอันบ้าบิ่นของไป๋หลิวเจวี๋ย
ฮูหยินเฒ่าไป๋กับเนี่ยนเนี่ยนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องต่างตกใจเพราะการกระทำของเขา
ฮูหยินเฒ่าไป๋เหลือบมองเขาด้วยความโกรธเคือง “นี่มันอะไรกัน? เข้าประตูมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง เนี่ยนเนี่ยนก็ยังอยู่ในห้องนี้ด้วย หากตกใจจนเป็นลมขึ้นมาจะทำอย่างไร?”
ราวกับว่าไม่ได้ยินคำพูดของฮูหยินเฒ่าไป๋ ไป๋หลิวเจวี๋ยรีบเดินมาหานางด้วยอาการเหนื่อยหอบ “ท่านย่า ไปเร็วขอรับ”
“ไปหรือ?” ฮูหยินเฒ่าไป๋ผงะ “ไปไหน? เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อเห็นสีหน้าตึงเครียดของไป๋หลิวเจวี๋ย และเหงื่อเม็ดเล็กบนหน้าผากของเขา สีหน้านางก็เคร่งขรึมมาก และอดไม่ได้ที่จะเครียดไปด้วย
“ข้าไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่…” ไป๋หลิวเจวี๋ยสูดลมหายใจอีกครั้ง ก่อนจะพูดว่า “แต่เมื่อครู่นี้แม่ของข้าเรียกข้าไปหา และพูดคุยกับข้า ในเวลานั้น ลุงและลูกพี่ลูกน้องของข้าก็อยู่ด้วย ทั้งยังมีผู้อารักขาคอยเฝ้าอยู่ข้างนอก พวกเขาน่าจะกำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่ขอรับ”
ฮูหยินเฒ่าไป๋ถอนหายใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “แล้วมีอะไรให้ต้องเครียดถึงเพียงนั้น ลุงของเจ้ามาที่นี่เมื่อใดก็มาพูดคุยกันเช่นนี้ไม่ใช่หรือ?”
“ไม่ขอรับ” ไป๋หลิวเจวี๋ยส่ายหน้า ทันใดนั้น เขาก็กางฝ่ามือออกต่อหน้านาง “ท่านย่าดูสิขอรับ”
ฮูหยินเฒ่าไป๋รู้สึกงุนงง นางยื่นหน้าไปมองฝ่ามือของเขา พลางหรี่ตาลง
เนี่ยนเนี่ยนก็มองตามสายตาของนางไปด้วย ในวินาทีต่อมา รูม่านตาของนางหดลงทันที
บนฝ่ามือของไป๋หลิวเจวี๋ยมีรอยเล็บที่เห็นได้ชัด รอยครูดนั้นเป็นคำว่า ‘หนี’
“หนีหรือ?” ฮูหยินเฒ่าไป๋มองเห็นได้อย่างชัดเจน นางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “หมายความว่าอย่างไร?”
“ตอนที่ท่านแม่คุยกับข้า ท่านแม่เอาแต่จะจับมือข้าไว้ตั้งแต่แรก ท่านแม่พยายามจะใช้เล็บครูดฝ่ามือของข้าอย่างเต็มที่ ทั้งยังส่งสัญญาณไม่ให้ข้าส่งเสียงหรือพูดอะไร และมองไปทางโถงเล่อฝูเป็นครั้งคราวด้วยขอรับ เมื่อข้าออกมาแล้ว ข้าก็เห็นคำนี้บนฝ่ามือ ข้าคิดว่าท่านแม่ต้องพยายามบอกให้ข้าพาพวกท่านย่าหนีไปเป็นแน่ขอรับ” ขณะที่ไป๋หลิวเจวี๋ยกล่าว เขากลืนน้ำลายอย่างหนัก สีหน้าและแววตาของเขาลนลาน “ตอนนั้นมีครอบครัวของท่านลุงอยู่ด้วย ข้าคิดว่าที่ท่านแม่ไม่ได้บอกตามตรง น่าจะเป็นเพราะมีท่านลุงอยู่ด้วย ก็เลย ก็เลยสงสัยว่า…”
“เจ้าสงสัยว่าลุงของเจ้ากำลังจะทำร้ายพวกเรา แม่ของเจ้าจึงส่งสัญญาณให้เราหนีไปงั้นหรือ?” เนี่ยนเนี่ยนพูดออกมา
นางก็ตกใจมากเช่นกัน นางคิดว่าหลิ่วซื่อจะอยู่ข้างตระกูลหลิ่ว เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมใด นางก็น่าจะช่วยหลิ่วเชียง ไม่เช่นนั้นสถานะของนางในจวนซูกั๋วกง…
แต่ตอนนี้นางน่าจะยังคงยืนอยู่ฝั่งจวนซูกั๋วกงอย่างชัดเจน ทั้งยังสามารถตัดสินใจในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้ และปล่อยให้ไป๋หลิวเจวี๋ยมาส่งข่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
เมื่อมองไปยังข้อความบนฝ่ามือของไป๋หลิวเจวี๋ย รอยเล็บนั้นลึกมากจนมีเลือดซึมออกมาแล้ว ไม่ว่าใครก็มองออกว่าตอนนั้นหลิ่วซื่อทำใจให้แข็งแกร่งได้มากเพียงใด แม้แต่ลูกชายที่นางรักและห่วงใยตลอด นางก็ไม่สนว่าเขาจะเจ็บหรือจะมีรอยแผลเป็นหรือไม่
เนี่ยนเนี่ยนจำสิ่งที่ไป๋หลิวอี้พูดให้นางฟังได้ทันใด ดูเหมือนเขาจะพูดว่า “หลิ่วซื่อจะไม่…”
จะไม่อะไร? จะไม่ทรยศจวนซูกั๋วกงหรือ?
เนี่ยนเนี่ยนเข้าใจทันที ว่าบางทีคนในจวนซูกั๋วกงที่รู้จักหลิ่วซื่อดีที่สุด อาจเป็นคนที่นางเกลียดที่สุดอย่างไป๋หลิวอี้
ไป๋หลิวอี้เป็นคนช่างคิด ส่วนหลิ่วซื่อก็ได้คิดหาวิธีจัดการเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเชี่ยวชาญหลักการรู้เขารู้เราเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าใจนิสัยใจคอของหลิ่วซื่ออย่างถ่องแท้ และไม่ผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย
เนี่ยนเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า หลิ่วซื่อไม่อาจสู้กับไป๋หลิวอี้ได้เลยจริง ๆ
ขณะที่นางกำลังครุ่นคิด ก็ได้ยินน้ำเสียงกังวลกว่าเดิมของไป๋หลิวเจวี๋ยข้างนาง “ท่านแม่ยังเรียกข้าไปที่นั่น เพื่อบอกให้ข้าย้ายผู้อารักขาในเรือนของพี่ใหญ่ ไปอยู่ที่สวนหลิงสุ่ยของลูกพี่ลูกน้อง ข้าคิดว่าท่านแม่กำลังบอกเป็นนัยว่า เนี่ยนเนี่ยนกำลังจะถูกโจมตี”
เพราะสวนจิ่นเฟิงอยู่ข้างหอหลินเยว่ หากมีผู้อารักขาน้อยกว่า ก็หมายความว่าหอหลินเยว่สูญเสียการป้องกันอีกชั้นหนึ่งไป
“ท่านย่า ท่านกับเนี่ยนเนี่ยนรีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถิดขอรับ ไม่ว่าอย่างไร เราก็ไม่รู้ว่าท่านลุงและคนอื่น ๆ ต้องการจะทำอะไร และเราไม่รู้ว่าพวกเขาเตรียมการไว้อย่างไร แต่อย่างน้อยก็ต้องออกไปจากที่นี่ก่อนขอรับ”
ไป๋หลิวเจวี๋ยไม่รู้ แต่เนี่ยนเนี่ยนรู้
นางเหลือบมองฮูหยินเฒ่าไป๋และไป๋หลิวเจวี๋ย ในที่สุดก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ข้ารู้”
“อะไรนะ?” ทั้งสองมองไปที่เนี่ยนเนี่ยนพร้อมกัน
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก แล้วพูดเสียงเบาว่า “ตระกูลหลิ่วกับตระกูลเจี่ยงสมรู้ร่วมคิดกันก่อการกบฏ วันนี้หลิ่วเชียงและลูกชายของเขาต้องการฉวยโอกาสตอนที่ท่านลุงและไป๋หลิวอี้ไม่อยู่ เข้ามาจับกุมข้าและฮูหยินเฒ่าในจวนไปเป็นตัวประกัน”
ก่อ ก่อ ก่อกบฏหรือ?
ฮูหยินเฒ่าไป๋และไป๋หลิวเจวี๋ยมองเนี่ยนเนี่ยนด้วยความประหลาดใจ แม่เฒ่ารีบคว้ามือนาง แล้วถามอย่างกระวนกระวายว่า “ที่เจ้าพูดเป็นความจริงหรือ?”
ไป๋หลิวเจวี๋ยนั่งลงบนเก้าอี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ลุงของเขา… คิดจะก่อกบฏจริงหรือ?
“เนี่ยนเนี่ยน เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
ก่อนที่เนี่ยนเนี่ยนจะทันได้ตอบ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกโถงเล่อฝู
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หลิวซื่อแอบช่วยอยู่ลับๆ นี่ รักลูกมากแหละถึงได้วางแผนซ้อนกลพี่ชาย
ไหหม่า(海馬)