อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 248 เป็นใคร?

ตอนพิเศษ 248 เป็นใคร?

ตอนพิเศษ 248 เป็นใคร?

หลิ่วยางยางกรีดร้องลั่น ร่างของนางลอยคว้างไปในอากาศ แล้วไปกระแทกโต๊ะที่อยู่ไม่ไกล

‘โครม’ หลังของนางกระแทกกับมุมโต๊ะอย่างแรง นางหน้าเขียวด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงกับพื้น เจ็บปวดมากจนไม่อาจลุกขึ้นได้

การต่อสู้ของหลิ่วเหวยและไป๋หลิวเจวี๋ยหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง พวกเขามองไปยังชายชุดดำสวมหน้ากากที่ยืนอยู่ตรงหน้าฮูหยินเฒ่าไป๋อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

ชายผู้นี้แผ่รังสีจิตสังหารออกมาทั่วร่างกาย นัยน์ตาฉายแววเหี้ยมเกรียมแรงกล้า ราวกับว่าหลุดมาจากแดนชำระบาป

เพียงสายตาเย็นชาคู่นั้นจ้องมองหลิ่วเหวย อีกฝ่ายก็รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งร่างราวกับว่าติดอยู่ในห้องใต้ดินน้ำแข็ง เย็นยะเยือกไปถึงกระดูก

แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็กัดฟันพุ่งไปหาฮูหยินเฒ่าไป๋อีกครั้ง

ชายสวมหน้ากากแค่นเสียงเย็นชา แล้วยกมือขึ้นสกัดเขาไว้

แม้ไป๋หลิวเจวี๋ยจะไม่รู้ว่าคนที่จู่ ๆ ก็มาปรากฏตัวเป็นใคร แต่เขาก็ตัดสินใจได้รวดเร็ว จึงรีบไปยืนตรงหน้าฮูหยินเฒ่าไป๋ทันที แล้วถามขณะหอบหายใจว่า “ท่านย่า ท่านเป็นอะไรหรือไม่ขอรับ?”

ฮูหยินเฒ่าไป๋ยังคงสงบนิ่ง หลังจากถอนหายใจยาว นางก็ค่อย ๆ ส่ายหน้า แล้ววางมือบนไหล่ของไป๋หลิวเจวี๋ย และพูดว่า “ไม่เป็นอะไร”

ขณะที่พูด สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่ชายชุดดำที่กำลังต่อสู้กับหลิ่วเหวยด้วยความงุนงง “เขาเป็นใครกัน?”

แม่นมอวี๋มองเช่นกัน แล้วเดาว่า “น่าจะเป็นผู้พิทักษ์ทมิฬของจวนเจ้าค่ะ นายท่านใหญ่คงจัดไว้เป็นพิเศษ เพื่อปกป้องฮูหยินเฒ่าแบบลับ ๆ เจ้าค่ะ”

ทว่าไป๋หลิวเจวี๋ยกลับเม้มปาก แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “คงไม่ใช่หรอก… ชายผู้นี้วรยุทธ์ล้ำเลิศยิ่งนัก การต่อสู้กับหลิวเหวยนั้นง่ายดายสำหรับเขามาก เขามีคลื่นพลังอันแข็งแกร่งในทุกย่างก้าว ในจวนไม่น่าจะมีผู้พิทักษ์ทมิฬเช่นนี้”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนผู้นี้ได้แผ่พลังจิตสังหารออกมาแรงกล้า หลิ่วเหวยจึงถูกเขาบดขยี้จนแหลก ไม่มีโอกาสให้โต้กลับได้เลย

ไป๋หลิวเจวี๋ยจ้องมองเขาอย่างตั้งใจ จากนั้นก็ผงะเล็กน้อย “เคล็ดวิชาฝีเท้าตระกูลลู่ ลู่อวี่หรือ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก “หากคนตระกูลลู่อยู่ที่นี่ ทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อยดี”

แต่ไป๋หลิวเจวี๋ยยังคงค่อนข้างสับสน คลื่นพลังของลู่อวี่น่าจะอ่อนโยนกว่านี้ อีกทั้งรูปร่างก็ดูไม่เหมือนเขาเลย หรือว่าจะเป็นคนอื่นที่รู้จักฝีเท้าตระกูลลู่ เป็นสมาชิกคนอื่นของตระกูลลู่หรือไม่?

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลิ่วเหวยก็ถูกควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนหลิ่วยางยางเป็นลมหมดสติไป จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของท่านย่าแล้ว

“เจ้าเป็นใคร? เข้ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง” หลิ่วเหวยถูกซ้อมเสียจนสะบักสะบอม เขาจึงเริ่มอารมณ์เสีย ไม่รู้ว่ามีดสั้นมาอยู่ในมือเขาตั้งแต่เมื่อใด คมมีดอาบยาพิษเปล่งประกายเย็นเยือก

ไป๋หลิวเจวี๋ยตกใจจนโพล่งออกมา “ระวัง…”

ชายชุดดำแค่นเสียงเย้ยหยัน เขาใช้ฝ่ามือซัดแล้วดึงข้อมือกลับมา เมื่อขัดขวางการเคลื่อนไหวของหลิ่วเหวยได้ก็เตะอีกครั้ง หลังถีบเขาออกไปก็บิดข้อมือของหลิ่วเหวยพร้อมกับคว้ามีดอาบยาพิษกลับมา

หลิ่วเหวยถูกทุบตีจนตาพร่ามัว เจ็บปวดหน้าอกอย่างรุนแรง จากนั้นนอนอยู่บนพื้นแล้วกระอักเลือดออกมาเต็มปาก

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งสติ ขณะที่เงยหน้าขึ้น ชายชุดดำก็เดินเข้ามาใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบหน้าอกเขาไว้ แล้วมีดอันคมกริบในมือของเขาก็ปักลงบนพื้นทันที คมมีดสะท้อนแสงเย็นยะเยือกอยู่ห่างจากใบหน้าหลิ่วเหวยไม่ถึงนิ้ว

ทันใดนั้นใบหน้าของหลิ่วเหวยก็ซีดเผือด ริมฝีปากสั่นสะท้าน สีหน้าเปลี่ยนไปมาก และดิ้นรนถอยห่างจากคมมีด

ชายชุดดำเย้ยหยัน “ว่าอย่างไร เจ้าเป็นคนป้ายยาพิษเอง ไม่อยากลองสัมผัสมันหน่อยหรือ?”

เสียงของเขาแผ่วเบา เมื่อฮูหยินเฒ่าไป๋และไป๋หลิวเจวี๋ยได้ยิน ก็รู้สึกแปลกใจมาก

ไม่ใช่ลู่อวี่!! ฮูหยินเฒ่าไป๋มั่นใจมาก

นัยน์ตาของหลิ่วเหวยเบิกกว้างด้วยความสยดสยอง พยายามสูดหายใจเข้าลึก

แต่ชายชุดดำตบเขาทันที แล้วตะคอกด้วยเสียงเย็นชา “ไม่เจียมตัว”

หลังจากพูดจบก็ชกเข้าที่ท้องเขาอย่างแรงอีกรอบ

หลิ่วเหวยรู้สึกราวกับว่าเส้นประสาททั่วร่างกายเขาแตกสลาย ซี่โครงหลายซี่น่าจะหัก เขากระอักเลือดออกมาอีกครั้ง เมื่อถูกชายชุดดำทุบตีเข้าเต็ม ๆ เขาก็หลับตาหมดสติไป

มีเสียงดังมาจากนอกเรือน หัวหน้าไป๋รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับผู้อารักขาสองสามคน และรู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นชายชุดดำ

แต่ชายชุดดำลุกขึ้นยืน ก่อนจะชี้ไปยังหลิ่วเหวยที่นอนสลบอยู่บนพื้น แล้วพูดว่า “นายน้อยสกุลหลิ่วพยายามสังหารฮูหยินเฒ่าไป๋” ขณะที่เขาพูด เขาก็ยกมีดสั้นในมือขึ้น แล้วบอกว่า “นี่คือหลักฐาน”

มุมปากของไป๋หลิวเจวี๋ยกระตุก เห็นได้ชัดว่าหลิ่วเหวยใช้มีดสั้นเพื่อจัดการกับเขา หากบอกว่าคิดจะสังหารฮูหยินเฒ่าไป๋ ก็เกรงว่าจะไม่อาจ… เรียกว่าเป็นหลักฐานได้

ชายชุดดำช่างเชี่ยวชาญในการพูดโกหกหน้าตายนัก

มีเพียงฮูหยินเฒ่าไป๋ที่รู้สึกว่านิสัยของคนผู้นี้ค่อนข้างคุ้นเคย

หัวหน้าไป๋ขมวดคิ้ว “เจ้าเป็นใคร?” ด้วยใบหน้าที่อำพรางไว้ใต้หน้ากาก และเสียงที่ไม่คุ้นเคย เขาจึงต้องระแวดระวัง

หัวหน้าไป๋โบกมือให้ผู้อารักขาสองคนไปยืนขวางหน้าฮูหยินเฒ่าไป๋

ฮูหยินเฒ่าไป๋โบกมือก่อนสั่งหัวหน้าไป๋ “แค่ทำตามที่เขาบอกก็พอ มัดหลิ่วยางยางแล้วคุมตัวนางไว้ด้วย นางซ่อนความสามารถของตนไว้”

หัวหน้าไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าทันที แล้วสั่งคนให้จับหลิ่วเหวยและหลิ่วยางยาง จากนั้นจึงห่อมีดสั้นอาบยาพิษอย่างระมัดระวังด้วยผ้าเช็ดหน้า แล้วเดินไปขวางหน้าฮูหยินเฒ่าไป๋อีกครั้ง

ไป๋หลิวเจวี๋ยรู้สึกงุนงง “หัวหน้าไป๋ เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ช้านัก?”

“จวิ้นจู่ส่งแม่นางเหวินหย่ามากระจายข่าว โดยบอกว่าในจวนตอนนี้ไม่น่าไว้ใจนัก ให้ข้าสังเกตให้ดีว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ แล้วให้พาคนมาจับคนร้ายขอรับ” หัวหน้าไป๋เกาหัวและพูดว่า “จวิ้นจู่กล่าวถูกแล้วจริง ๆ ขอรับ เมื่อครู่นี้หลายที่ในจวนไฟไหม้พร้อมกัน ข้าจึงส่งคนไปจับผู้ลอบวางเพลิงได้หลายคน ตอนนี้พวกเขาถูกจับได้ทั้งหมดแล้ว และไฟก็ถูกควบคุมแล้วด้วยขอรับ”

ไป๋หลิวเจวี๋ยขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนตระกูลหลิ่วน่าจะเตรียมการไว้หมดแล้ว “เหตุใดไม่มีผู้อารักขาแม้แต่คนเดียวที่โถงเล่อฝู” ตอนที่เขาจัดเตรียมกำลังพล เขาได้จัดผู้อารักขาจำนวนมากไว้ในสวนจิ่นเฟิงและโถงเล่อฝู ทั้งแบบเปิดเผยและแบบแฝงตัว

หัวหน้าไป๋หลุบตาลง ด้วยความรู้สึกลังเลที่จะพูด อย่างไรเสียไป๋หลิวเจวี๋ยก็เป็นซื่อจื่อ ทว่าเขาก็ยังฟัง… คำสั่งของเนี่ยนเนี่ยนมากกว่า เสียงของเขาจึงแผ่วเบามาก ขณะตอบว่า “จวิ้นจู่บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงที่โถงเล่อฝู จะมีคนคอยปกป้องฮูหยินเฒ่าอยู่แล้วขอรับ”

ขณะที่เขาพูด หัวหน้าไป๋ก็มองไปที่ชายชุดดำด้วยความงุนงง เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาคือคนที่จวิ้นจู่พูดถึง?

มุมปากของเขากระตุก หัวหน้าไป๋อดไม่ได้ที่จะลำบากใจ มาปกป้องก็คือมาปกป้อง จะปิดบังอำพรางใบหน้าเพื่ออะไร? นี่ไม่ได้ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเขาเป็นคนร้ายหรอกหรือ?

ฮูหยินเฒ่าไป๋จ้องมองชายชุดดำด้วยความสงสัยเช่นกัน “เจ้าคือ…”

ชายชุดดำเม้มปาก ทันใดนั้นก็หัวเราะ แม้ว่าจะมองไม่เห็นรอยยิ้มของเขา ทว่าดวงตาของเขากลับแสดงความอ่อนโยน เขาเดินไปหาฮูหยินเฒ่าไป๋ แล้วกระซิบข้างหูนางว่า “ท่านย่าขอรับ”

ฮูหยินเฒ่าไป๋ตัวสั่นสะท้าน ท่านย่าหรือ? นางมองชายร่างสูงในชุดดำข้างนางด้วยความประหลาดใจ น้ำตาพลันเอ่อคลอทันที

……………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ใครกันนะ จะใช่อย่างที่คิดไหมนะ? วรยุทธ์สูงส่งขนาดนี้ แถมไม่ใช่คนตระกูลลู่ด้วย

ไหหม่า(海馬)