อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 250 เนี่ยนเนี่ยนกลายเป็นตัวประกัน
ตอนพิเศษ 250 เนี่ยนเนี่ยนกลายเป็นตัวประกัน
ตอนพิเศษ 250 เนี่ยนเนี่ยนกลายเป็นตัวประกัน
โม่เพียวที่เดินตามมาข้างหลังมองอาอวิ๋นด้วยความสงสัย “เจ้ากำลังมองหาอะไรอยู่?”
อาอวิ๋นชะงัก ก่อนหัวเราะแห้ง ๆ แล้วก้มศีรษะพูดว่า “ข้า ข้ากำลังมองหาเสี่ยวฮวาเหวิน จะดูว่ามันมาที่นี่หรือไม่”
เสี่ยวฮวาเหวินหรือ? เมื่อรู้ว่ามันเป็นชื่อของแมวที่อยู่ข้างกายฮูหยินเฒ่าไป๋ โม่เพียวก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ตั้งแต่อยู่ที่หอหลินเยว่มา ข้าไม่เคยเห็นเสี่ยวฮวาเหวินเลย”
“จริง จริงหรือ? บางทีมันอาจจะซ่อนตัวอยู่มุมใดมุมหนึ่งก็ได้” สายตาของโม่เพียวคนนี้ช่างเฉียบคมเสียจริง นางแค่หันหน้าไปมองสองสามครั้งก็ถูกจับได้แล้ว
เมื่อเห็นว่าอาอวิ๋นถูกโม่เพียวเบี่ยงเบนความสนใจ หลิ่วซื่อก็รีบสะกิดเนี่ยนเนี่ยน “เจ้า…”
เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้น ก่อนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ”
เมื่อพูดจบ นางก็เดินไปข้างใน พร้อมกับพูดว่า “โม่เพียว ชงชาให้ท่านป้าด้วย ส่วนพวกเจ้ารออยู่ตรงนี้ ข้าจะเข้าไปดูว่ามีแมววิ่งเข้ามาหรือไม่”
ขณะที่หลิ่วซื่อกำลังจะตอบตกลง อาอวิ๋นก็หรี่ตาลงและขยิบตาให้นาง บุ้ยใบ้ให้นางตามไปด้วย
หลิ่วซื่อไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินตามเนี่ยนเนี่ยนไปด้วยรอยยิ้ม “ประเดี๋ยวข้าจะไปช่วยเจ้าหาด้วย”
ฝีเท้าของเนี่ยนเนี่ยนหยุดทันที แล้วหันมามองหน้าหลิ่วซื่อด้วยยิ้มฝืดเฝื่อน “อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้าจะเข้าไปเอง นี่คือห้องส่วนตัวของข้า ข้าไม่คุ้นเคยกับการให้คนอื่นเข้าไปด้วย ข้าต้องขอโทษจริง ๆ ท่านป้านั่งดื่มชารอข้างนอกจะดีกว่าเจ้าค่ะ”
“แต่ว่า…”
“แค่มองหาแมวเท่านั้น ข้าคิดว่าข้าทำเองได้เจ้าค่ะ” นางเอ่ยอย่างสุภาพ แต่แสดงท่าทางหนักแน่นยิ่ง
ท่าทางเช่นนี้ไม่ต่างจากต้องการปกปิดซ่อนเร้น แต่กลับกลายเป็นเปิดเผยให้โลกรู้
อาอวิ๋นหรี่ตาลงเล็กน้อย และพยายามจะมองเข้าไปในห้องชั้นใน
หลิ่วซื่อไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดและนั่งลง “เช่นนั้นก็รบกวนเจ้าด้วย”
นางยังคงวิตกกังวล จึงได้นั่งกำมือแน่นอยู่บนเก้าอี้ และไม่ได้แตะต้องชาที่โม่เพียวนำมาให้เลย
เนี่ยนเนี่ยนเห็นดังนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ แล้วเปิดประตูห้องชั้นในเดินเข้าไป
รูม่านตาของอาอวิ๋นหดตัวทันที กลิ่นคาวเลือดที่โชยออกมาแตะปลายจมูกนาง ทำให้นัยน์ตานางเป็นประกาย
ถูกต้อง มีกลิ่นคาวเลือดโชยออกมา แสดงว่ามีคนได้รับบาดเจ็บอยู่ข้างใน
มุมปากของนางกระตุก ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปยืนนิ่งอยู่ข้างหลังหลิ่วซื่อ แต่ตำแหน่งนั้นอยู่ใกล้กับประตูห้องชั้นในมาก นางจึงเอนกายไปด้านข้างเล็กน้อย แล้วกลั้นหายใจฟังเสียงความเคลื่อนไหวภายใน
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงที่เนี่ยนเนี่ยนจงใจพูดให้แผ่วเบา “เจ้าไปซ่อนก่อน…”
เสียงนั้นแผ่วเบายิ่งนัก ทั้งหลิ่วซื่อและโม่เพียวยังไม่ได้ยิน
หากอาอวิ๋นไม่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็อาจจะไม่รู้เรื่องนี้
นางไม่อาจกลั้นยิ้มได้อีกต่อไป ซ่อนหรือ? ใครต้องซ่อนตัว? ถงเวยหลินหรือ?
ขณะที่นางกำลังคิด เสียงของเนี่ยนเนี่ยนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ พวกนางถึงมาที่นี่ หากข้าไม่พานางมาที่นี่ ก็เกรงว่าจะทำให้ยิ่งระแวงและก่อปัญหามากขึ้น เจ้าซ่อนตัวก่อน แล้วข้าจะรีบส่งพวกนางออกไปโดยเร็ว แล้วก็ระวังอย่าให้บาดแผลบนร่างกายฉีก นี่คือยาแก้ปวด อดทนไว้ก่อน อย่าส่งเสียง ตอนนี้เจ้าเป็นคนเดียวที่ช่วยตระกูลถงได้ ดังนั้นต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า”
นัยน์ตาของอาอวิ๋นเป็นประกายมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ผิดแน่ นางได้ยินคำว่าตระกูลถง แน่นอนว่าถงเวยหลินถูกซ่อนไว้ในหอหลินเยว่ของเย่ชิ่นซี
นางค่อย ๆ เดินไปอยู่ข้างหลิ่วซื่อ ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นกระแอมเสียงดัง
หลิ่วซื่อตัวแข็งทื่อ ขณะมองอาอวิ๋นด้วยความประหลาดใจ
นางรู้ว่าตอนนี้อาอวิ๋นส่งสัญญาณแจ้งพี่ใหญ่ของนาง ว่าถึงเวลาลงมือได้แล้ว
มันจะเร็วถึงเพียงนั้นได้อย่างไร? นางยืนยันได้แล้วหรือว่าถงเวยหลินอยู่ในหอหลินเยว่?
ก่อนที่หลิ่วซื่อจะทันได้คิดออก อาอวิ๋นก็กระโจนเข้าใส่โม่เพียว โดยเล็งไปที่ใบหน้าของนางและเริ่มโจมตี
โม่เพียวถอยหลังอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ แล้วพูดด้วยความโกรธว่า “เจ้ากำลังทำอะไร?”
หลิ่วซื่อยืนขึ้นด้วยความตกใจจนเก้าอี้ที่อยู่ข้างหลังนางล้มลง และถ้วยชาในมือของนางก็ร่วงลงสู่พื้นจนแตกเป็นเสี่ยง ทำให้เกิดเสียงดังเปรื่องคมชัด
เสียงของเนี่ยนเนี่ยนในห้องชั้นในดังขึ้นทันที “เกิดอะไรขึ้น?”
ก่อนที่หลิ่วซื่อจะทันได้พูด นางก็ได้ยินเสียงมือของเนี่ยนเนี่ยนเปิดประตู ในอีกด้านหนึ่ง หลิ่วเชียงได้ลงมาจากชายคาบ้าน แล้วมองไปที่ประตูด้วยสายตาดุดัน
หลิ่วซื่อตกใจ แล้วรีบตะโกนว่า “เนี่ยนเนี่ยน อย่าออกมา มันอันตราย”
แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว ทันทีที่เนี่ยนเนี่ยนเปิดประตู หลิ่วเชียงก็กางนิ้วเป็นกรงเล็บหมายจะจับตัวนางไว้
เนี่ยนเนี่ยนเบี่ยงตัวหลบ ทันใดนั้นก็กระโจนข้ามศีรษะหลิ่วเชียง แล้วยกมือขึ้นป้องกันอย่างราบรื่น
หลิ่วเชียงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็นึกเย้ยหยัน ฝ่ามือของเขาโจมตีเนี่ยนเนี่ยนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
หลิ่วซื่อที่ยืนมองอยู่ด้านข้างตื่นตระหนก นางชำเลืองมองโม่เพียวที่กำลังต่อสู้กับอาอวิ๋น และเห็นว่าโม่เพียวกำลังลำบาก เพราะนางทำได้เพียงป้องกันตัวเองเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน โม่เพียวก็ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป จึงถูกอาอวิ๋นฟาดหน้าแข้งเข้าใส่จนล้มลงอย่างแรง จากนั้นก็ถูกอาอวิ๋นกดลงกับพื้นอย่างแน่นหนา จนไม่อาจขยับตัวได้เลย
โม่เพียวตะโกนด่าทอทันที “เจ้ามันชั่วร้าย ช่างกำเริบเสิบสานนัก เจ้าจะทำอะไร? รนหาที่ตายหรือ? ข้าเป็นคนที่อยู่เคียงข้างจวิ้นจู่ กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องข้า?”
อาอวิ๋นหัวเราะเยาะ แล้วตบหน้าโม่เพียวทันที “พูดให้ดีหน่อย หากเจ้าพูดเหลวไหลอีก ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งเสีย”
เมื่อพูดจบ นางก็หยิบมีดออกมาจากแขนเสื้อ แล้วโบกไปมาต่อหน้าโม่เพียว
โม่เพียวกลืนน้ำลาย และปิดปากตัวเองทันที
เนี่ยนเนี่ยนที่อยู่ตรงนั้นเหลือบมองมาด้วยจิตใจอันร้อนรุ่ม อาอวิ๋นผู้นี้กล้าลงมือตบหน้านางเลยหรือ? นางมองโม่เพียวอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าโม่เพียวกำลังทำสีหน้าขมขื่น ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ นางถึงอยากจะหัวเราะออกมาอย่างไม่มีเหตุผล
แต่หลิ่วซื่อกำลังหวาดกลัวมาก โดยเฉพาะเมื่อเห็นหลิ่วเชียงกำลังโจมตีหนักขึ้น ซึ่งทำให้เนี่ยนเนี่ยนล่าถอยไปเรื่อย ๆ นางรู้สึกเหมือนหัวใจของนางแทบจะกระเด็นออกมา
เนี่ยนเนี่ยนถอยหลังไปสองก้าว หลิ่วเชียงเย้ยหยันก่อนยกมือขึ้นหมายจะคว้าคอนาง
ในขณะที่เนี่ยนเนี่ยนกำลังจะถูกเขาจับอย่างไม่มีทางสู้ หลิ่วซื่อผู้มีสายตาเฉียบคมและมือว่องไว ก็รวบรวมแรงทั้งหมดพุ่งเข้าไปกระแทกหลิ่วเชียง
หลิ่วเชียงไม่ทันได้ตั้งตัว เนี่ยนเนี่ยนก็ตกตะลึงเช่นกัน นัยน์ตาของอาอวิ๋นและโม่เพียวก็เบิกกว้าง
เมื่อถูกหลิ่วซื่อวิ่งเข้ามาชนอย่างแรง หลิ่วเชียงจึงรู้สึกวิงเวียนและเดินเซไปทางซ้ายสองก้าว ก่อนที่จะตั้งสติได้ จากนั้นนัยน์ตาของเขาก็ฉายแววเดือดดาล แล้วตะโกนว่า “เจ้ามันคนไร้ประโยชน์ ทั้งยังล้มเหลวยิ่งกว่าล้มเหลว ถึงกับกล้าช่วยพวกนาง”
ตอนที่เนี่ยนเนี่ยนเปิดประตู นางก็ตะโกนเสียงดัง ทำให้เขารู้สึกว่าน้องสาวของตนทำตัวดื้อรั้น แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ว่านางไม่คิดจะยืนเคียงข้างเขาเลย
หลิ่วเชียงโกรธมาก เขาเล็งฝ่ามือไปที่หลิ่วซื่อหมายจะโจมตีนาง
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว นางสัญญากับไป๋หลิวเจวี๋ยไว้แล้วว่าจะช่วยหลิ่วซื่อ
เนี่ยนเนี่ยนกัดฟันกระโจนเข้าไปผลักหลิ่วซื่อออกไปทันที แล้วยกมือขึ้นกั้นฝ่ามือของหลิ่วเชียง จากนั้นนางก็ถูกเขาใช้แขนรัดรอบคอเอาไว้ และกลายเป็นตัวประกันไปในที่สุด
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
กล้าลงมือจับตัวเนี่ยนเนี่ยนไว้นี่ไม่กลัวพี่ชายเขาตามมาทุบเลยนะ
ไหหม่า(海馬)