อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 252 ไม่มีความเคลื่อนไหว
ตอนพิเศษ 252 ไม่มีความเคลื่อนไหว
ตอนพิเศษ 252 ไม่มีความเคลื่อนไหว
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้วด้วยความอึดอัด เสียงของนางแหบพร่า “ข้าไม่รู้ว่าพวกท่านกำลังพูดถึงอะไร ไม่มีใครอยู่ในห้องของข้า”
“ไม่มีใครงั้นหรือ? คิดว่าข้าจะเชื่อหรือ?” หลังจากได้ยินสิ่งที่อาอวิ๋นพูด หลิ่วเชียงก็ย่อมมั่นใจมากขึ้น ว่ามีใครบางคนอยู่ในห้องของเนี่ยนเนี่ยน
เขาพาเนี่ยนเนี่ยนเดินเข้าไปในห้องชั้นใน แล้วเริ่มค้นรอบ ๆ ห้อง แต่ก็เห็นเพียงพื้นรกที่อาอวิ๋นคุ้ยหา และไม่เห็นใครเลย เขากัดฟันพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น “ข้าถามเจ้าว่าถงเวยหลินอยู่ที่ใด?”
เนี่ยนเนี่ยนอ้าปากค้าง และมองเขาด้วยความประหลาดใจ “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าถงเวยหลินอยู่กับข้าที่นี่…” นางแสร้งทำเป็นเผลอหลุดปาก แล้วรีบปิดปากตัวเองด้วยท่าทางตื่นตระหนก
หลิ่วเชียงหรี่ตาลง แล้วพูดอย่างเย้ยหยัน “ในเมื่อเขาอยู่ที่นี่กับเจ้า ก็รีบส่งตัวเขามา”
เขาพูดจบ ก็เริ่มออกแรงบีบแน่นอีกครั้ง
เนี่ยนเนี่ยนยืดคอด้วยความอึดอัด แล้วพูดอย่างยากลำบาก “ท่าน ท่านตามหาถงเวยหลินไปเพื่ออะไร? หลิ่วเชียง เป็นไปได้หรือไม่ว่าการกวาดล้างตระกูลถง มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่าน? ท่านจะทำอะไรเขา ฆ่าปิดปากเขาหรือ?”
“แล้วอย่างไรเล่า? ข้าบอกให้เจ้าจะมอบตัวเขามาเสียดี ๆ หรือไม่ก็… เจ้าต้องยอมตายเพื่อเขา” สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดุร้าย พร้อมกับแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าจิตของเขาไม่ค่อยปกติ ราวกับว่าเขาถูกกระตุ้นมากเกินไปจนเสียสติไปแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว แล้วรีบพูดว่า “เหตุใดท่านถึงต้องการทำลายตระกูลถง? ตระกูลพวกเขาไม่มีความคับข้องใจหรือเป็นปฏิปักษ์กับท่าน เหตุใดท่านถึงต้องการทำเช่นนี้? พวกท่านต้องการโยนความผิดให้กับราชวงศ์ใช่หรือไม่? ท่านคิดจะเป็นกบฏหรือ?”
“พวกเขาบอกว่าเจ้าไร้เดียงสา แต่ความจริงแล้วเจ้าค่อนข้างฉลาด”
“พวกเขา พวกเขาคือใคร? ท่านยังมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังอีกหรือ?”เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาลง “ใช่แล้ว ตระกูลถงเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ ตระกูลหลิ่วของท่านไม่มีทางทำได้แน่นอน พวกเดียวที่สามารถต่อกรกับตระกูลถงได้คืออีกสามตระกูล พวกเขาคือใคร? ตระกูลเจี่ยง ตระกูลลู่ หรือตระกูลหวง?”
หลิ่วเชียงตวาดทันที “หุบปาก บอกข้ามาว่าเขาอยู่ที่ใด เจ้าไม่ควรรู้เรื่องอื่น”
“ท่านลนลานอะไรถึงเพียงนั้น? โกรธที่ข้าเดาหรือ? หรือว่าข้าเดาถูก? มันคือคนตระกูลเจี่ยงใช่หรือไม่? สีหน้าของท่านถึงเปลี่ยนไปเมื่อข้าพูดถึงพวกเขาเมื่อครู่นี้”
“หุบปาก ๆๆ ใครบอกให้เจ้าพูดเช่นนั้น?”
“แน่นอนว่าเป็นตระกูลเจี่ยงจริง ๆ ท่านจึงมาที่จวนซูกั๋วกงเพื่อจับกุมข้าในวันนี้ มันเป็นคำสั่งของคนตระกูลเจี่ยงใช่หรือไม่? พวกเขาช่างกล้าหาญเสียจริง พวกเขาไม่กลัวว่าพ่อแม่ของข้าจะมาที่อาณาจักรเทียนอวี่เพื่อคิดบัญชีกับพวกเขาหลังจากที่รู้เรื่องเลยหรือ?”
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกอึดอัดที่ถูกเขาบีบคอ ชายคนนี้ออกแรงโดยไม่รู้ตัวเมื่อรู้สึกร้อนใจเอาเสียเลย แต่ก็นางยังคงรีบพูดอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้คิดใคร่ครวญ เพราะยืนกรานจะดึงบางสิ่งออกจากปากของหลิ่วเชียงให้ได้
“ฮ่าๆ คิดบัญชีหรือ? พ่อแม่ของเจ้าอยู่ห่างไกลถึงในอาณาจักรเฟิงชาง หากพวกเขาจะรีบมาที่นี่ เมื่อรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเจ้า มันก็คงจะสายเกินไปแล้ว ยิ่งกว่านั้นคือที่นี่คืออาณาจักรเทียนอวี่ ถ้าหากพ่อแม่ของเจ้ามา แล้วจะอย่างไรต่อ? ตระกูลของพวกเขาร่ำรวยและมีอำนาจ มีคนฝีมือระดับปรมาจารย์มากมายอยู่รอบกายพวกเขา เว้นแต่ว่าพ่อแม่ของเจ้าจะยกกองกำลังมาต่อสู้ที่นี่ ไม่เช่นนั้นก็ไร้ประโยชน์”
“ฮ่า ตระกูลร่ำรวยและมีอำนาจ มีคนฝีมือระดับปรมาจารย์มากมายอยู่รอบกาย แล้วเหตุใดวันนี้เขาถึงส่งแค่คนงี่เง่าเช่นท่านมาที่จวนซูกั๋วกง เพื่อจัดการกับข้าเล่า? จวนซูกั๋วกงอยู่ที่ใด? ท่านคิดว่าลำพังพ่อลูกสกุลหลิ่วอย่างพวกท่านจะทำสำเร็จจริงหรือ? เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทอดทิ้งพวกท่าน และจะฝังพวกท่านไปพร้อมกับซูกั๋วกง”
“เจ้าพูดจาเหลวไหล ทอดทิ้งข้าอะไรกัน? ที่ให้ข้ามาจวนซูกั๋วกง ก็เพราะเชื่อมั่นในความสามารถของข้ากับลูกชายต่างหาก ข้าเป็นพี่ชายของฮูหยินแห่งจวนซูกั๋วกง จึงสามารถเข้าออกจวนซูกั๋วกงได้สะดวกกว่ามาก มีใครอีกนอกจากข้าที่จะจัดการกับจวนซูกั๋วกงได้?”
“ฮ่าๆๆ มีแค่ท่านเท่านั้นที่หลงเชื่อคำพูดเช่นนี้ เข้าออกจวนซูกั๋วกงได้สะดวกหมายความว่าอย่างไร? หากเป็นคนในสี่ตระกูลนั้นมาที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ย่อมไม่ถูกปฏิเสธอยู่แล้ว แล้วท่านคิดว่าตัวเองสะดวกกว่าอย่างไร? ท่านชักชวนให้ฮูหยินซูกั๋วกงไปเป็นผู้ช่วยของท่านด้วยใช่หรือไม่? ท่านทำใช่หรือไม่? ช่างน่าขันนัก ข้าคิดว่าท่านกำลังถูกคนตระกูลเจี่ยงปั่นหัวเล่นเสียแล้ว พวกเขาคงหัวเราะเยาะท่านลับหลัง เมื่อท่านตายพวกเขาก็คงดีใจที่ไม่ได้รั้งท่านไว้”
“หุบปาก มันเป็นเรื่องเหลวไหล เจี่ยงโม่เซิงบอกเองว่าข้าเป็นเสาหลักตระกูลที่มีความสามารถ แค่ตระกูลหลิ่วขาดโอกาสเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะด้อยกว่าซูกั๋วกงได้อย่างไร?”
เนี่ยนเนี่ยนตาเป็นประกาย นางถามต่อไปว่า “บอกว่าท่านเป็นเสาหลักตระกูลที่มีความสามารถงั้นหรือ? แล้วคนที่เกลี้ยกล่อมท่าน ท่านเชื่อเขาหรือ? เขาแค่พูดประโยคดังกล่าวเพียงเพื่อให้ท่านยอมสละชีวิตเพื่อเขา เมื่อท่านตายไป สิ่งที่เรียกว่าเสาหลักตระกูลที่มีความสามารถ ก็เป็นเพียงแค่คำพูดธรรมดาทั่วไป”
“เจ้าพูดบ้าอะไร เขาสัญญาว่าข้าจะได้เป็นเสนาบดี เมื่อภารกิจอันยิ่งใหญ่สำเร็จในอนาคต ข้า…”
หลิ่วเชียงหุบปากทันที ให้ตายเถอะ เขาพูดเช่นนี้เพื่ออะไร? เขาหลงกลนางได้อย่างไร? เขาต้องค้นหาตัวถงเวยหลินสิ
สีหน้าของหลิ่วเชียงแข็งทื่อทันที ก่อนจะตวาดด้วยความโกรธ “อย่าเปลี่ยนเรื่องเพื่อถ่วงเวลา บอกข้ามาว่าถงเวยหลินอยู่ที่ใด?”
ลำคอของเนี่ยนเนี่ยนร้อนผ่าว หลังจากพูดมากขณะถูกรัดคออยู่ นางก็รู้สึกเจ็บปวดที่คอมาก มันเจ็บจริง ๆ
โชคดีที่หลิ่วเชียงยังคงพูดบางอย่างที่เป็นประโยชน์ เมื่อเขารู้สึกตื่นเต้นและสับสน
นางขมวดคิ้ว “ข้าไม่ได้ถ่วงเวลา ข้าแค่อยากจะบอกความจริงให้ฟัง เหตุใดท่านต้องทำงานหนักเพื่อคนอื่น? กว่าจะมีวันที่ดี ก็ต้องล้มจวนซูกั๋วกงให้ได้ก่อน ข้าหลวงต้องมีคุณธรรมและรักราษฎร ท่านไม่กลัวว่าจะปลุกระดมความโกรธของราษฎรหรือ หากท่านต้องการต่อต้านเขา?”
หลิ่วเชียงเย้ยหยัน “พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าจะนับถึงสามเท่านั้น หากเจ้าไม่บอกที่อยู่ของถงเวยหลินอีก ก็อย่ามาหาว่าข้าว่าไร้ความปรานี”
“เอ๊ะ จะขู่สตรีอ่อนแอเช่นนี้ไปเพื่ออะไร? หากท่านมีความสามารถ ท่านก็ไปหาซูกั๋วกงหรือไป๋หลิวอี้ก็ได้…”
“หนึ่ง” หลิ่วเชียงไม่ฟังนาง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ต่อให้จะฆ่าข้าไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เวรกรรมจะติดตัวไป ท่าน…”
“สอง” เสียงของหลิ่วเชียงเบาลงเล็กน้อย
“ไม่ใช่ ข้าจะบอกท่านว่า…”
“สาม” หลังจากที่หลิ่วเชียงพูด ใบหน้าของเขาก็เหี้ยมเกรียม ก่อนจะชักมีดสั้นออกมาเล็งไปที่แขนของเนี่ยนเนี่ยน และกำลังจะแทง
“ช้าก่อน ข้ายอมบอกแล้ว” เนี่ยนเนี่ยนรีบพูดเสียงดัง
หลิ่วเชียงหัวเราะ แล้วชักมีดสั้นกลับคืนไป แต่ยังคงโบกมันต่อหน้านางเพื่อข่มขู่ “ถงเวยหลินอยู่ที่ใด?”
“บน บนเตียงตรงนั้น” เนี่ยนเนี่ยนยื่นมือชี้ไปที่เตียงไม่ไกล “ตรงนั้นมีห้องลับอยู่…”
หลิ่วเชียงเชิดคางขึ้นเล็กน้อย แล้วสั่งทันทีว่า “อาอวิ๋น เจ้าไปดูสิ”
“……”
ไม่มีความเคลื่อนไหว
หลิ่วเชียงขมวดคิ้ว “อาอวิ๋น?”
“……”
ยังคงเงียบกริบ
ทันใดนั้นลางสังหรณ์ไม่ดีก็ผุดขึ้นในใจของหลิ่วเชียง เขารีบหันกลับไปดู แน่นอนว่าข้างหลังเขาว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย
“อาอวิ๋น เจ้ากำลังทำอะไร?” เขาตะโกนเสียงดัง
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เรื่องพูดถ่วงเวลาดูเหมือนว่าเนี่ยนเนี่ยนจะได้แม่มาเต็มๆ เลยนะเนี่ย
เงียบแบบนี้แสดงว่าอาอวิ๋นโดนเก็บไปเรียบร้อยแล้วมั้ง ไม่ต้องเรียกแล้ว
ไหหม่า(海馬)