อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 253 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า
ตอนพิเศษ 253 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า
ตอนพิเศษ 253 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า
“ท่านลุง ท่านเรียกนางหรือขอรับ?” จู่ ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังมาจากด้านข้าง
ดวงตาของหลิ่วเชียงเบิกกว้างทันที เขามองไป๋หลิวเจวี๋ยที่กำลังเดินเข้ามาอย่างไม่เชื่อสายตา และอาอวิ๋นที่ถูกปิดปากก็ถูกเขาจับตัวไว้ด้วย
“เจ้า…” ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ จู่ ๆ ก็เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ข้อศอกของเขา เขาทำได้เพียงร้องคร่ำครวญออกมาพร้อมกับอ้อมแขนที่ว่างเปล่า เนี่ยนเนี่ยนที่แต่เดิมถูกเขารัดไว้ในอ้อมแขนได้ดิ้นหลุดออกไปอย่างง่ายดาย ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
หากจะจับนางอีกครั้งก็สายเกินไปแล้ว เขาจึงได้แต่เฝ้ามองเนี่ยนเนี่ยนก้าวไปอย่างรวดเร็วปานลมพัด หลังจากเดินไปอีกสองสามก้าว นางก็ไปยืนอยู่ข้างไป๋หลิวเจวี๋ยแล้ว
ข้างหลังไป๋หลิวเจวี๋ยคือหัวหน้าไป๋และเหวินหย่า เมื่อครู่นี้เหวินหย่ากำลังแก้เชือกให้โม่เพียวและหลิ่วซื่อ แล้วทั้งสามคนก็มายืนอยู่ข้างหลังไป๋หลิวเจวี๋ย
อาอวิ๋นร้องโวยวายพลางดิ้นสุดแรง แต่ก็ถูกโม่เพียวที่เดินมาจากด้านหลังตบอย่างแรง
“ค่อยทำให้ข้าโล่งใจขึ้นนิดหน่อย”
อาอวิ๋นจ้องมองโม่เพียวด้วยดวงตาเบิกกว้าง
โม่เพียวเย้ยหยัน “มองอะไรไม่ทราบ? เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถโค่นข้าได้ ด้วยทักษะอันน้อยนิดของเจ้าหรือ? หากข้าไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้า ข้าคงทุบเจ้าจนน้ำตาไหลไปแล้ว กล้าดีอย่างไรมาตบข้า? ข้าอุตส่าห์ปล่อยให้เจ้าตบข้า…”
โม่เพียวง้างมือขึ้นตบนางอีกครั้ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
มุมปากของเหวินหย่ากระตุก ก่อนจะเผลอส่ายหน้า
หลิ่วเชียงถอยหลังไปสองก้าวทันที “เจ้า พวกเจ้า…”
“ท่านลุง ลูกพี่ลูกน้องถูกจับกันหมดแล้ว ท่านเองก็ยอมให้จับโดยละม่อมเถิดขอรับ” สายตาของไป๋หลิวเจวี๋ยซับซ้อน มือของเขากำดาบแน่น
อันที่จริงเขามาที่นี่ตั้งนานแล้ว ทั้งเขาและหัวหน้าไป๋ถูกเหวินหย่าพามาอย่างเงียบ ๆ
สิ่งที่หลิ่วซื่อพูดก่อนหน้านี้… เขาได้ยินเกือบทั้งหมด จึงมีความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ได้ในใจ และมีความมุ่งมั่นมากขึ้น
หากเหวินหย่าไม่ห้ามเขาไว้ เขาก็อาจจะรีบเข้ามาช่วยตั้งนานแล้ว
ขณะที่เนี่ยนเนี่ยนและหลิ่วเชียงกำลังคุยกันเสียงดัง พวกเขาก็ถือโอกาสจัดการอาอวิ๋นในตอนที่หลิ่วเชียงไม่ทันได้สนใจ
หลิ่วเชียงประมาท จึงไม่ได้ยินเสียงต่อสู้ของอาอวิ๋น
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” หลิ่วเชียงตกใจ “เหวยเอ๋อร์และยางยางถูกจับทั้งคู่เลยหรือ? เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ พวกเขาสองคนแค่…”
เสียงของเขาเงียบลงอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองหลิ่วซื่อ สายตาของเขาพลันฉายวาวโรจน์ “เป็นเจ้า เป็นเจ้าที่ใช้กลอุบายบางอย่างใช่หรือไม่? ไป๋หลิวเจวี๋ยถึงไม่ได้ส่งผู้อารักขาออกไปเลย เขาไปปกป้องฮูหยินเฒ่าไป๋ใช่หรือไม่? พวกเจ้าวางกับดัก”
เนี่ยนเนี่ยนแสยะยิ้ม “ท่านไม่ได้วางกับดักเองหรอกหรือ? ท่านจัดการคนของเจ้าเองทั้งในและนอกจวน เพื่อวางแผนจับตัวข้าและฮูหยินเฒ่าไป๋เป็นตัวประกันไม่ใช่หรือ?”
หลิ่วเชียงหรี่ตาลงทันที แล้วจ้องมองไปที่เนี่ยนเนี่ยน เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าเป็นความจริง หญิงสาวคนนี้รู้จักฝีเท้าตระกูลลู่ เมื่อนางหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขา นางก็เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วยิ่งนัก เห็นได้ชัดว่านางจงใจออมมือให้เขา
จู่ ๆ เขาก็นึกถึงสิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่นี้ขึ้นมาได้ ให้ตายเถอะ เขาพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปแล้ว
เมื่อคิดว่าคนเหล่านี้รวมหัวกันจัดการเขา หลิ่วเชียงก็ยิ่งรู้สึกเสียใจและขุ่นเคืองกว่าเดิม เมื่อมองคนไม่กี่คนที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาก็อยากจะเคี้ยวกินทุกคนทั้งเป็น
หลิ่วเชียงกำหมัดแน่นในทันใด สายตาของเขาดุร้าย ไม่รู้ว่าในมือเขามีอาวุธอะไรซ่อนอยู่ ทันใดนั้นมันก็พุ่งไปที่เนี่ยนเนี่ยนและคนอื่น ๆ “ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว พวกเจ้าทุกคนจะต้องตาย…”
ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบประโยค ก็มีอีกคนหนึ่งปรากฏกายขึ้นตรงหน้าเขา คนผู้นั้นเพียงแค่สะบัดแขนเสื้อ อาวุธที่เขาซ่อนอยู่ทั้งหมดก็พุ่งออกไป กระแทกเข้ากับกรอบประตูด้านหนึ่ง
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยกขาขึ้นถีบหลิ่วเชียงกระเด็นออกไป
“อั่ก… แค่ก” หลิ่วเชียงกระอักเลือดออกมาเต็มปาก พลางกุมหน้าอกแน่นและแทบหมดสติ
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงุนงงอีกครั้ง ก็รู้สึกเพียงว่ามีคนยืนมาอยู่ตรงหน้า
หลังจากมองเห็นได้ชัดเจนในที่สุด รูม่านตาของเขาก็อดไม่ได้ที่จะขยาย “เจ้า เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าเจ้า เจ้า…”
“ไม่ใช่ว่าอะไรหรือ?” ไป๋หลิวอี้หัวเราะ พลางปัดฝุ่นบนชายเสื้อออกเบา ๆ ท่าทางของเขาอ่อนโยนและสง่างามสุดจะพรรณนา
“เจ้าไม่ได้ไม่อยู่ในจวนซูกั๋วกงหรอกหรือ?” หลิ่วเชียงไม่สนใจความเจ็บปวดในร่างกาย ทันใดนั้นก็พลิกตัวลุกขึ้นนั่ง
รอยยิ้มของไป๋หลิวอี้กว้างขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าช้า ๆ สองสามก้าว ย่างก้าวของเขามั่นคงและทรงพลัง จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าหลิ่วเชียง
“ใครบอกว่าข้าไม่ได้อยู่ในจวนซูกั๋วกง? ใช่คนที่เจ้าส่งมาเฝ้าจวนซูกั๋วกงหรือไม่? แล้วพวกเขา… ได้บอกเจ้าหรือเปล่าว่าคนที่ออกไปดูเหมือนข้าเป๊ะเลย?”
หลิ่วเชียงสูดหายใจเข้า “เจ้า เจ้าหมายความว่า…” คนที่ออกไปจากจวน เพียงแค่สวมเสื้อผ้าของเขา เพื่อปลอมตัวเป็นเขางั้นหรือ?
ไป๋หลิวอี้นั่งลง ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังเลือดสีแดงสดที่มุมปากหลิ่วเชียง แล้วส่ายหน้าช้า ๆ “ท่านหลิ่ว คนเช่นเจ้ายังมีหน้าคิดจะเหยียบจวนซูกั๋วกงอีกหรือ? เจ้าคิดว่า… ตัวเจ้ามีคุณสมบัติพอแล้วหรือ?”
เขาพูดอย่างชัดเจนด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาดูอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด แต่ความหมายในคำพูดของเขานั้นเฉียบคมพอที่จะทำให้หลิ่วเชียงแทบกระอักเลือด
เขาไม่มีคุณสมบัติพอด้วยซ้ำงั้นหรือ?
“ไป๋หลิวอี้ เจ้า เจ้า…” หลิ่วเชียงตกใจมากจนพูดไม่ออก เขาอยากจะลุกขึ้นยืน แต่เขาเจ็บหน้าอกมาก
ฝีเท้าของไป๋หลิวอี้ที่เตะเมื่อครู่นี้ ช่างทรงพลังเหลือเกิน
ตอนนี้เองเขาเพิ่งรู้ว่าคำพูดของเจี่ยงโม่เซิงนั้นเป็นจริง ไป๋หลิวอี้เป็นคนคมในฝักที่แท้จริง
ใช่แล้ว ซ่อนเร้นทักษะตนเองไว้จริง ๆ เขาประเมินชายผู้นี้ต่ำไป
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วมองลงมาที่เขา “อย่างที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้ อยากจับข้าเป็นตัวประกันนั้น เป็นความคิดที่บรรเจิดเหลือเกิน”
ในที่สุดหลิ่วซื่อที่มีไป๋หลิวเจวี๋ยคอยประคองอยู่ ก็เข้าใจสิ่งที่เนี่ยนเนี่ยนบอก ปรากฏว่านางได้เตรียมการไว้แล้ว และไป๋หลิวอี้ก็อยู่ในหอหลินเยว่มาโดยตลอด ไม่น่าแปลกใจเลยที่นางมั่นใจมาก
ส่วนเหวินหย่าก็ไม่ได้ออกไปไหน โม่เพียวกล่าวเช่นนั้นก็เพียงเพื่อให้พี่ใหญ่ของนางโล่งใจ
ทักษะของเนี่ยนเนี่ยนก็ดูเหมือนจะไม่ธรรมดานัก
หลิ่วซื่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจ โชคดีที่นางมองออกได้ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่ม และอยู่ข้างจวนซูกั๋วกงตั้งแต่ต้นจนจบ โชคดีที่… นางไม่เคยอยากให้ไป๋ชูเฟิงตาย
ไม่เช่นนั้นทั้งนางและหลิวเจวี๋ยจะกลายเป็นคนทรยศ และคงต้องตายโดยไม่มีที่ฝัง
ถูกต้องแล้ว ลักษณะนิสัยและไหวพริบของพี่ใหญ่ จะเทียบกับไป๋ชูเฟิงและไป๋หลิวอี้ได้อย่างไร? ไป๋ชูเฟิงเก่งเรื่องวางแผนการและกลอุบาย ส่วนไป๋หลิวอี้ก็เป็นคนที่สอบไป่กวนผ่านแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะถูกหลอกอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
หลิ่วเชียงหายใจไม่ทั่วท้อง เขาพยายามลุกขึ้นหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว เขาจึงรู้สึกสิ้นหวัง มองไป๋หลิวอี้ก่อนจะกัดฟันถามว่า “ในเมื่อตอนนี้ก็ตกอยู่ในมือเจ้าแล้ว ข้าไม่มีอะไรจะพูด เจ้าจะจัดการกับข้าอย่างไร?”
อย่างไรก็กลายเป็นลูกไก่ในกำมือไปแล้ว
ไป๋หลิวอี้ยืนขึ้น ก่อนจะจับมือเนี่ยนเนี่ยนถอยไปสองก้าว แล้วหันมาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องวิธีจัดการกับท่าน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า”
ทันทีที่พูดจบ ประตูฝั่งตรงข้ามก็ถูกเปิดออกทันที แล้วร่างหนึ่งก็ค่อย ๆ ปรากฏกายออกมาจากด้านใน
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทางนี้วางแผนดักไว้แล้วจ้า วางแผนเนียนด้วย อย่ามาท้าคนที่สอบไป่กวนผ่านนะ
ไหหม่า(海馬)