อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 255 ส่งคนมา
ตอนพิเศษ 255 ส่งคนมา
ตอนพิเศษ 255 ส่งคนมา
ทั้งสองดูเหมือนจะลังเลที่จะพูด หลังจากเงียบไปชั่วครู่ พวกเขาก็มองไป๋หลิวอี้กับเนี่ยนเนี่ยนแล้วถามว่า “ถงเวยหลิน…ตอนนี้อยู่ที่ใด?”
ไป๋หลิวอี้หัวเราะ “แน่นอนว่าเขาอยู่ในที่ปลอดภัย แต่เจ้าก็เห็นว่าตอนนี้เขายังไม่ปลอดภัยนัก ยิ่งมีคนรู้ที่อยู่ของเขาน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น หลังจากเรื่องนี้จบลง ข้าจะพาพวกเจ้าไปพบเขาเอง”
ทั้งลู่อวี่และหวงชิวผู่ขมวดคิ้ว ลู่อวี่จ้องมองเขาแล้วพูดเบา ๆ ว่า “เจ้ากำลังปกปิดเรื่องใหญ่จากข้า”
ไป๋หลิวอี้ยังคงยกยิ้มอ่อนโยน “แม้แต่พ่อของข้าก็ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะการทำลายล้างตระกูลถงนั้นเป็นเรื่องใหญ่เกินไป พวกเราคงไม่มีใครคิดหรอก ว่ามันเป็นฝีมือของคนตระกูลเจี่ยง ใช่หรือไม่?”
หวงชิวผู่พยักหน้าด้วยความเจ็บปวดที่ยังคงฉายชัดอยู่บนใบหน้า “ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป็นเจี่ยงโม่เซิง ปกติเขาประพฤติตัวเหมาะสมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับกลายเป็นคนโหดเหี้ยม ตระกูลถง… เฮ้อ”
เขาส่ายหน้า สหายของเขาที่คบกันมาหลายปี มีความทะเยอทะยานแบบหมาป่า ทั้งยังหลอกลวงตบตาพวกเขาทุกคนด้วย เรื่องนี้ช่างน่าผิดหวัง และชวนอึดอัดใจอย่างสุดจะพรรณนา
หวงชิวผู่สูดหายใจเข้าลึก ๆ “โชคดีที่เจ้าค้นพบความจริงได้เร็ว และแจ้งให้พวกเราทราบทันเวลา หลังจากที่ปู่และพ่อของข้าได้ฟังคำพูดของท่านป้าห้า ก็เริ่มให้ความสนใจกับความผิดปกติในจวน แล้วไส้ศึกสองสามคนก็ถูกจับได้จริง ๆ แม้แต่คนสนิทของพ่อข้าก็ถูก…คนตระกูลเจี่ยงซื้อไป แม้ว่าเรื่องจะยังไม่ร้ายแรงเท่ากับตระกูลถง แต่เมื่อถึงช่วงเวลาวิกฤต ผลที่ตามมาก็จะเป็นหายนะ”
ลู่อวี่พยักหน้า ตระกูลลู่ก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกันเช่นกัน เมื่อเทียบกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของตระกูลถง สมาชิกตระกูลลู่และตระกูลหวงค่อนข้างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากกว่า แต่พวกเขาไม่อาจหยุดยั้งคนที่ต้องการแยกจากครอบครัว หรือคนรอบข้างได้
“เรื่องนี้มาถึงจุดนี้แล้ว ข้าต้องกลับไปคุยกับปู่และพ่อของข้า เช่นนั้นข้าขอตัวออกไปก่อน” หวงชิวผู่ประสานมือ แล้วพูดกับไป๋หลิวอี้
พ่อลูกสกุลหลิ่วถูกจับไปแล้ว ดูจากท่าทางของไป๋หลิวอี้แล้วก็คิดว่าคงหาทางรับมือไว้แล้ว จากการกระทำล่าสุดของเขา เห็นทีเขาคงไม่ให้โอกาสตระกูลเจี่ยงได้หาทางโต้กลับเป็นแน่ เขาจึงต้องรีบกลับไปแจ้งให้ตระกูลหวงเตรียมตัว หากตระกูลเจี่ยงบ้าคลั่งขึ้นมา ก็อาจไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร
หลังจากที่หวงชิวผู่พูดจบ เขาก็หันกลับมามองลู่อวี่ “แล้วเจ้าล่ะ?”
ลู่อวี่นิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นเงยหน้าขึ้นพูดกับไป๋หลิวอี้ว่า “ไม่สำคัญว่าข้าจะรู้ที่อยู่ของถงเวยหลินหรือไม่ คือว่า… ช่วงนี้เด็กหญิงตัวน้อยจากตระกูลถง มีอาการไม่ค่อยดีนัก”
ไป๋หลิวอี้และเนี่ยนเนี่ยนมองหน้ากัน แล้วคิ้วขมวด “อย่างไร?”
“เหตุการณ์คืนนั้นสร้างความปวดร้าวให้นางมากเกินไป ตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมา อารมณ์ของนางก็ไม่คงที่ แม้แม่ของข้าจะคอยดูแลนาง นางก็จะนั่งตัวสั่นสะท้านอยู่ที่มุมห้องตลอดทั้งวัน และไม่พูดคุยกับใคร เมื่อมีเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังขึ้นในห้อง นางจะตะโกนว่ามีคนกำลังจะฆ่านาง ในสองวันที่ผ่านมา อาการบาดเจ็บของฮูหยินถงดีขึ้นเล็กน้อย แม่ของข้าให้พวกนางพบเจอและพูดคุยกัน แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะฮูหยินถงไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดของนาง นางจึงไม่เปิดใจ ข้าจึงคิดว่าจะส่งนางมาที่นี่ และปล่อยให้นางได้พบกับถงเวยหลิน เพราะว่า…ถงเวยหลินเข้ากับน้องชายและน้องสาวของเขาได้ดี และปกติเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นก็ชอบอยู่กับเขาด้วย”
ถงเวยหลินนิสัยดี ร่าเริง แจ่มใส บางครั้งเมื่อออกจากบ้าน แล้วไปเห็นของเล่นแปลกตาน่ารัก ก็มักจะเอากลับไปแบ่งปันให้น้อง ๆ เสมอ ความสัมพันธ์ของเขากับเด็ก ๆ จึงอาจใกล้ชิดกว่าความสัมพันธ์กับนายท่านถงด้วยซ้ำ
เนี่ยนเนี่ยนเห็นอกเห็นใจคนตระกูลถงมาก ตอนนี้ในตระกูลถงเหลือเพียงถงเวยหลินและน้องสาววัยห้าขวบของเขา จึงต้องไม่มีข้อผิดพลาดอีกต่อไป
ไป๋หลิวอี้หลุบตาลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า “ตกลง เจ้าพาเด็กมามอบให้เนี่ยนเนี่ยนเถิด”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก นางจะเข้ากับเด็กได้หรือ
ลู่อวี่มองเนี่ยนเนี่ยน จากนั้นหันหลังเดินจากไปพร้อมกับหวงชิวผู่
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตามองไป๋หลิวอี้ “ข้าไม่เคยรับมือกับเด็กเล็กเช่นนั้นมาก่อน”
ไป๋หลิวอี้หัวเราะ “ทำความคุ้นเคยเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะไม่ไร้ประโยชน์ในอนาคตแน่นอน” ได้ยินมาว่าท่านน้าชิงเลี้ยงหนานหนานเพียงลำพัง จนกระทั่งเขาอายุห้าขวบ จึงต้องมีหลายวิธีที่ทำให้หนานหนานเชื่อฟังได้ แล้วเหตุใดเนี่ยนเนี่ยนถึงต้องกลัวด้วย?
เนี่ยนเนี่ยนหน้าแดงกับคำพูดที่ชี้นำของเขา จึงหันหน้าหนีทันที “คุ้นเคยอะไรกันเล่า”
ไป๋หลิวอี้เลิกคิ้วขึ้น เขารู้สึกว่าทุกครั้งที่เนี่ยนเนี่ยนหน้าแดง ช่างดูเย้ายวนใจและชวนลิ้มลองเสมอ ทำให้เขาอยากจะเข้าไปกัดสักที
น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่ใช่ยามปกติ จึงต้องจัดการกับทุกสิ่งที่ต้องจัดการก่อนจะดีกว่า
ไป๋หลิวอี้หรี่ตา แล้วเดินจูงมือเนี่ยนเนี่ยนออกจากหอหลินเยว่ “ข้ายังต้องไปหาพ่อของข้า เจ้าควรจะไปโถงเล่อฝูก่อน เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ท่านย่าฟัง อย่าปล่อยให้นางกังวลใจ”
“ได้เลย” เนี่ยนเนี่ยนเชื่อฟังมาก หลังจากตอบแล้ว นางก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ไป๋หลิวอี้มองฝ่ามือว่างเปล่าของตนเอง แล้วลอบถอนหายใจ เมื่อใดจะได้จูงมือนางเดินต่อหน้าผู้คนอย่างเปิดเผยเสียที นางจะได้ไม่ต้องเดินออกไปโดยไม่ได้จูงมือเขา
เขาส่ายหน้าและหัวเราะอีกครั้ง จนกระทั่งแผ่นหลังของเนี่ยนเนี่ยนถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ และในที่สุดก็หายลับไปที่มุมถนน จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึมจริงจัง ก่อนเอามือไพล่หลัง ยืนตรงระหว่างหอหลินเยว่และสวนจิ่นเฟิง แล้วพูดเสียงเข้ม “อาเวิน”
อาเวินรีบเดินมาด้านข้างอย่างรวดเร็ว แล้วก้มศีรษะทำความเคารพ “นายท่าน”
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” ไป๋หลิวอี้เดินไปข้างหน้าขณะพูด
อาเวินรีบตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “มีคนมากกว่าร้อยคนอยู่ข้างนอกจวนซูกั๋วกง แต่ทุกคนถูกกวาดล้างหมดแล้วขอรับ พวกเราหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ บ่าวได้จัดเตรียมหมอมาช่วยเหลือพวกเขาแล้ว ส่วนคนที่จุดไฟเผาจวนก็ถูกหัวหน้าไป๋จับไว้หมด ตอนนี้พวกเขาทุกคนถูกขังไว้ในห้องเล็ก ๆ ทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ บ่าวได้จัดคนหลายคนคอยเฝ้าพวกเขาไว้แล้ว และจะสอบปากคำหลังจากที่ซูกั๋วกงเสร็จสิ้นภารกิจแล้วขอรับ”
ไป๋หลิวอี้เม้มปาก “ท่านย่าอยู่ที่ใด?”
อาเวินเม้มปาก แล้วหัวเราะเบา ๆ “อยู่กับเย่ซื่อจื่อขอรับ หลิ่วเหวยและหลิ่วยางยางไม่อาจแตะต้องแม้ชายเสื้อของฮูหยินเฒ่าได้เลย ในขณะนี้ฮูหยินเฒ่าได้ไล่ทุกคนในโถงเล่อฝูออกไป แล้วพูดคุยกับเย่ซื่อจื่ออยู่ข้างในขอรับ”
“จริงหรือ?” ไป๋หลิวอี้ยกยิ้ม แล้วฝีเท้าให้เร็วขึ้นเล็กน้อย
ขณะนี้ เนี่ยนเนี่ยนที่หน้าแดงก่ำตลอดทางมาถึงโถงเล่อฝูแล้ว
เมื่อเห็นแม่นมอวี๋มาเฝ้าอยู่ข้างนอก นางก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ตั้งสติ แล้วเดินเข้าไปข้างในด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
แม่นมอวี๋ยังคงสงสัยว่าชายชุดดำที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวนั้นเป็นใคร เมื่อนางเห็นเนี่ยนเนี่ยนเดินเข้ามา นางก็รีบทักทาย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “จวิ้นจู่ ฮูหยินเฒ่ามีแขกอยู่ข้างใน จึงสั่งไม่ให้ผู้ใดเข้าไป ท่านดูสิ…”
เนี่ยนเนี่ยนแอบถอนหายใจ พี่ใหญ่ช่างร้ายกาจเสียจริง ถึงได้ทำให้ฮูหยินเฒ่าไป๋ไล่แม่นมอวี๋ออกมาเพราะเขาได้
นางเดินไปหาแม่นมอวี๋ด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าคนที่อยู่ข้างในเป็นใคร ไม่เป็นไรหรอก ข้าจะเข้าไปแล้ว”
“เอ่อ… เอ๊ะ?” แม่นมอวี๋อยากจะห้ามนาง แต่ก็สายเกินไป เพราะเนี่ยนเนี่ยนแหวกม่านเดินเข้าไปแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พี่น้องได้เจอหน้ากันเสียที ว่าแต่หนานหนานจะว่าอะไรไหมเนี่ย สภาพน้องสาวเพิ่งโดนคนบีบคอมาแบบนั้น
ไหหม่า(海馬)