อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 256 ทำอะไรไม่ถูก
ตอนพิเศษ 256 ทำอะไรไม่ถูก
ตอนพิเศษ 256 ทำอะไรไม่ถูก
เย่ฉิงหนานได้ยินเสียงฝีเท้าของนางตั้งนานแล้ว เมื่อเขาเห็นว่าจู่ ๆ นางก็โผล่เข้ามา เขาก็มองนาง “ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่”
ฮูหยินเฒ่าไป๋โบกมือให้นาง แล้วพูดอย่างกระวนกระวายว่า “เร็ว มานี่เร็ว ให้ข้าดูหน่อย”
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปอยู่ข้างนางทันที ฮูหยินเฒ่าไป๋ดึงตัวนางขึ้นลง แล้วกวาดสายตามองนาง “เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าเป็นอะไรหรือไม่? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“ไม่เจ้าค่ะ ข้าปลอดภัยดี”
“ให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?” ฮูหยินเฒ่าไป๋จับนางหมุนตัวอีกครั้ง ในที่สุดสายตาของนางก็จับจ้องไปที่คอของเนี่ยนเนี่ยน สีหน้าพลันเปลี่ยนไป “ไม่เป็นอะไรงั้นหรือ? ช้ำไปหมดแล้ว ปลอดภัยดีตรงไหนกัน?”
เนี่ยนเนี่ยนแอบตะโกนในใจว่าเมื่อครู่นี้ใจนางไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเพราะถูกไป๋หลิวอี้แกล้ง นางลืมไปด้วยซ้ำว่าหลิ่วเชียงบีบคอนางขณะพูดตอนนั้น
นางรีบยื่นมือมาปิดคอ แล้วหัวเราะแห้ง ๆ “ไม่เป็นไรจริง ๆ เจ้าค่ะ แค่ดูน่ากลัวนิดหน่อย แต่ท่านก็เห็นว่าข้าสบายดี ยังกระโดดโลดเต้นได้อยู่นี่เจ้าคะ”
ขณะที่พูดนั้น นางก็แอบหันไปมองพี่ชายของนาง
เย่ฉิงหนานกำลังดื่มชา หลังเห็นว่านางจ้องมองมา เขาก็เม้มปาก แล้วเหลือบมองนางด้วยรอยยิ้มอ่อน
ตั้งแต่ตอนที่เนี่ยนเนี่ยนเข้ามา เขาเห็นรอยที่คอของนางแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้เอ่ยทัก
หัวใจของเนี่ยนเนี่ยนเต้นไม่เป็นจังหวะ นางรีบอธิบายทันทีว่า “เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครเป็นคนกวาดล้างตระกูลถง การเสียสละบางอย่างเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เจ้าค่ะ”
“เสียสละหรือ?” เย่ฉิงหนานถามนางด้วยรอยยิ้ม
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก แล้วรีบพูดเสริมว่า “พี่ใหญ่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับไป๋หลิวอี้ ท่านก็รู้ว่าเป้าหมายของหลิ่วเชียงคือข้า ข้าเท่านั้นจึงจะทำเรื่องนี้ได้ เราต้องคิดถึงเหตุผล”
เย่ฉิงหนานวางถ้วยชาของเขาลง “ข้าพูดอะไรเกี่ยวกับไป๋หลิวอี้หรือยัง?” คำกล่าวที่ว่าลูกสาวไม่ควรแต่งงานช้าเกินไปคงเป็นความจริง ตอนนี้นางยังไม่ได้ออกเรือน จึงช่วยพูดให้เขา
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกหงุดหงิด “พี่ใหญ่ ท่านเองก็รู้แผนการนี้ แต่ท่านก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางเช่นกัน”
เขาไม่ได้เข้าไปขัดขวางจริง ๆ แต่เขาไม่รู้ว่าหลิ่วเชียงจะบีบคอนางจนเต็มไปด้วยรอยแดงช้ำเช่นนี้
ไม่แปลกใจเลยที่เนี่ยนเนี่ยนขอให้เขามาอยู่เคียงข้างฮูหยินเฒ่าไป๋ เจ้าบ้าไป๋หลิวอี้นั่นยืนเฉยเฝ้าดูเนี่ยนเนี่ยนถูกรังแก
เย่ฉิงหนานมีอคติกับไป๋หลิวอี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในเวลานั้นที่หลิ่วเชียงเข้าไปในห้องชั้นในพร้อมกับเนี่ยนเนี่ยน ไป๋หลิวอี้และคนอื่น ๆ อยู่หลังประตูของอีกห้องหนึ่ง จึงไม่รู้ชัดเจนว่าทำอะไรบ้าง และคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าคำอธิบายนั้นฟังดูรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมองสีหน้าของพี่ใหญ่ ก็ราวกับว่าเขาต้องการจะสับไป๋หลิวอี้ออกเป็นชิ้น ๆ
นางรีบหุบปาก แล้วมองฮูหยินเฒ่าไป๋
ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเช่นกัน นางโกรธมากจนตบโต๊ะ แล้วพูดด้วยความโกรธเคืองว่า “หลิวอี้แค่เฝ้าดูเจ้าถูกบีบคอจริงหรือ? เจ้าเด็กบ้าคนนี้ ประเดี๋ยวข้าต้องสอนบทเรียนเขาให้หนัก เนี่ยนเนี่ยน ต่อไปเจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้ เรื่องอันตรายข้างนอกปล่อยให้บุรุษทำไป เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปอีก หากเจ้าบาดเจ็บหนักจริงเล่า?”
เย่ฉิงหนานมองฮูหยินเฒ่าไป๋อย่างเสียไม่ได้ สองคนนี้กำลังปกป้องไป๋หลิวอี้
เขาส่ายหน้าเบา ๆ “เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นข้าขอตัวไปก่อนนะขอรับ”
ฮูหยินเฒ่าไป๋รู้สึกใจหายทันที “เจ้าจะไปแล้วหรือ?”
“ตอนนี้คนตระกูลหลิ่วถูกจับแล้ว แต่พวกเราจะชะล่าใจไม่ได้ ทางที่ดีควรแก้ไขปัญหาเรื่องคนตระกูลเจี่ยง ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้าจะกลับมาพบท่านอีกครั้งเมื่อเรื่องจบลงขอรับ”
ฮูหยินเฒ่าไป๋จำต้องพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ “เช่นนั้นก็ระวังตัวด้วย”
เนี่ยนเนี่ยนที่มองจากด้านข้างวางหน้าไม่ถูก เหตุใดนางถึงรู้สึกเหมือนพี่ใหญ่เป็นหลานแท้ ๆ ของฮูหยินเฒ่าไป๋เลยเล่า?
ส่วนสองพี่น้องไป๋หลิวอี้และไป๋หลิวเจวี๋ย เหมือนเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง
เย่ฉิงหนานสวมผ้าคลุมหน้าสีดำอีกครั้ง ก่อนจะออกไปตามทางที่เขามา ซึ่งก็คือหลังคา แล้วหายไปในชั่วพริบตา
เนี่ยนเนี่ยนมองขึ้นไปบนหลังคาที่เป็นรูขนาดใหญ่ แล้วอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
พี่ใหญ่คิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะหล่อขึ้นหรือ? ทำลายเรือนของฮูหยินเฒ่าแล้ว เหตุใดไม่จ้างช่างมาซ่อมแซมในภายหลัง? แล้วใครควรเป็นคนจ่ายเงิน?
เนี่ยนเนี่ยนแอบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ส่วนฮูหยินเฒ่าไป๋สั่งให้แม่นมอวี๋ไปเอายาทามาแล้ว
เมื่อหันกลับมา ก็ทายาที่คอของนางด้วยตัวเอง พลางพูดว่า “หลิ่วเชียงช่างโหดเหี้ยมนัก ถึงได้ทำร้ายสาวน้อยตัวเล็ก ๆ เช่นเจ้าได้ลงคอ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจวนซูกั๋วกงปฏิบัติต่อเขาด้วยความกรุณาเสมอ คุณธรรมของเขาคงถูกสุนัขกัดกินไปหมดแล้ว”
ขณะที่พูด ก็นึกถึงหลิ่วยางยางขึ้นมาอีก “… นั่นก็เป็นหมาป่าตาขาวที่เลี้ยงไม่เชื่อง มาอาศัยอยู่ในจวนซูกั๋วกงเป็นเวลานาน และรับสิ่งดี ๆ มากมาย แต่สุดท้ายก็หันมาแว้งกัดเราจนได้ เลี้ยงไม่เชื่องเลยจริง ๆ”
เมื่อฮูหยินเฒ่าไป๋พูดเช่นนี้ นางก็หยุดมือทันที ก่อนจะเม้มปาก แล้วถามนางด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “หลิ่วซื่อ… เป็นอย่างไรบ้าง?”
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะ “ไป๋หลิวเจวี๋ยพานางกลับไปพักผ่อนที่เรือนแล้วเจ้าค่ะ นางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพื่อช่วยข้า”
อืม นางต้องการช่วยจริง ๆ จึงถูกหลิ่วเชียงผลักออกไปจนเป็นแผลถลอก
ฮูหยินเฒ่าไป๋ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นพยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดว่า “ในบรรดาคนตระกูลหลิ่ว มีนางคนเดียวที่ใช้ได้”
เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้เอ่ยคำใด แม้ว่าวันนี้นางจะประหลาดใจกับพฤติกรรมของหลิ่วซื่อ แต่นางก็ยังไม่อาจปล่อยวางบางสิ่งในใจได้ อย่างเรื่อง…นางเคยรังแกไป๋หลิวอี้
นางรับประทานอาหารกลางวันกับฮูหยินเฒ่าไป๋อีกครั้ง แล้วพูดคุยกันสักพัก ตกเย็นลู่อวี่ก็มา
เขาอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังหลับไหลไว้ในอ้อมแขน หน้าตานางน่ารักจิ้มลิ้ม ค่อนข้างคล้ายคลึงกับถงเวยหลิน
ฮูหยินเฒ่าไป๋มาดูแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ “นี่คือเด็กหญิงตัวน้อยสกุลถงหรือ?” เนี่ยนเนี่ยนเพิ่งบอกนางว่าลู่อวี่จะส่งเด็กมาที่นี่ “เหตุใดถึงผอมนัก?”
ลู่อวี่วางเด็กไว้บนเก้าอี้ยาวข้างเขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อนว่า “เด็กคนนี้ไม่เคยกินหรือดื่มเลย ตั้งแต่นางมาที่จวนลู่ ไม่ว่าแม่ของข้าจะให้อะไรกับนางก็ตาม เพียงแค่เข้าใกล้นาง นางก็จะร้องไห้และอาละวาดทันที ต่อมาข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวางของกินไว้บนโต๊ะ แล้วให้ทุกคนถอยออกไป แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังคงเอาแต่นั่งอยู่ที่มุมห้องโดยไม่ขยับ เมื่อนางหิวมาก จึงไปกินอาหารที่เย็นชืดแล้ว”
ลองทุกวิธีแล้ว ไม่ว่าใครในจวนลู่ก็ไม่มีทางเข้าใกล้ได้
ลู่อวี่ก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน เมื่อรู้ว่าถงเวยหลินยังมีชีวิตอยู่ เขาจึงคิดจะส่งเด็กมาที่นี่
“ตอนที่ข้าพานางมาส่งที่นี่ นางก็ไม่ยอม ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสกัดจุดนาง ไม่เช่นนั้นนางไม่มีทางออกจากห้องได้” ลู่อวี่กล่าว
สายตาของฮูหยินเฒ่าไป๋จับจ้องไปยังเด็กหญิงตัวน้อย สีหน้านางหดหู่เมื่อได้ยินเช่นนั้น “เด็กน้อยที่น่าสงสาร…”
เนี่ยนเนี่ยนรู้ว่านางกำลังจะคิดถึงแม่เฒ่าถงอีกครั้ง จึงรีบก้าวเข้าไปจับมือของนางไว้ แล้วพูดว่า “ข้าคิดว่าอาการของนางจะดีขึ้น เมื่อนางได้พบกับถงเวยหลิน ไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ”
ฮูหยินเฒ่าไป๋พยักหน้า ลู่อวี่หันกลับมายื่นห่อเล็ก ๆ ให้เนี่ยนเนี่ยน “นี่คือสิ่งที่นางต้องใช้ แม่ของข้าเตรียมไว้ให้ด้วยใจจริง”
เนี่ยนเนี่ยนหยิบรับมันมา แล้วมอบให้โม่เพียว
ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นที่บ้านของลู่อวี่ เขาจึงอธิบายอีกเล็กน้อยแล้วรีบจากไป
จากนั้นเนี่ยนเนี่ยนก็หันไปมองเด็กน้อย แล้วพูดกับโม่เพียวว่า “ไปกันเถอะ รีบส่งนางไปอยู่ข้างถงเวยหลิน เพราะหากนางฟื้นขึ้นมาก่อน เราจะทำอะไรไม่ถูก”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สงสารน้องจัง เด็กตัวเท่านั้นแต่ต้องมาเจอเหตุการณ์ขวัญผวาขนาดนั้น ขอให้ถงเวยหลินช่วยน้องได้ด้วยเถอะ
ไหหม่า(海馬)