อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 262 บางเรื่องไม่อาจมองเพียงผิวเผินได้
ตอนพิเศษ 262 บางเรื่องไม่อาจมองเพียงผิวเผินได้
ตอนพิเศษ 262 บางเรื่องไม่อาจมองเพียงผิวเผินได้
เขาจ้องมองเนี่ยนเนี่ยนอยู่นานก่อนจะละสายตาไป นิ้วมือที่เกร็งได้คลายออก ขณะหลุบตาลงเล็กน้อย
เนี่ยนเนี่ยนเสียใจยิ่งกว่าเดิม “เจ้าพักผ่อนเถิด ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว ข้าจะออกไปข้างนอก” นางคิดได้ว่าเขาน่าจะอยากอยู่คนเดียว
แต่เมื่อเนี่ยนเนี่ยนลุกขึ้นและกำลังก้าวจากไป เขาก็ดึงนางกลับมา
ร่างของนางซวนเซก่อนกระแทกบาดแผลของเขา ไป๋หลิวอี้ร้องออกมาทันที ทำให้เนี่ยนเนี่ยนรีบลุกขึ้นด้วยความตกใจ “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ไป๋หลิวอี้หายใจออกช้า ๆ ส่ายหน้า แล้วกอดนางไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาและเหนื่อยล้า “เนี่ยนเนี่ยน บางเรื่อง… ไม่อาจมองเพียงผิวเผินได้”
เนี่ยนเนี่ยนส่งเสียง “อืม” เบา ๆ
นางไม่ถามอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าในอดีตซูกั๋วกงจะปฏิบัติกับไป๋หลิวอี้อย่างไร แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าซูกั๋วกงจะดีกับเขามาก และเห็นได้ชัดว่าเป็นห่วงเขามาก ไป๋หลิวอี้ไม่ได้มีความแค้นต่อซูกั๋วกง ช่างเถิด เรื่องก่อนหน้านี้จบลงแล้ว
แต่หลังจากที่ไป๋หลิวอี้เงียบอยู่นาน ก็ดูเหมือนว่าจะปรับอารมณ์ได้ในที่สุด เขาถอนหายใจยาว แล้วพูดว่า “ท่านพ่อ… รักท่านแม่มาก”
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง “ถ้าเจ้าไม่บอกก็ไม่เป็นไร ข้า…”
ขณะที่นางพูด นางก็กำลังจะเงยหน้าขึ้น แต่ไป๋หลิวอี้จับใบหน้านางกดไว้แนบอกเขา “เฮ้อ ฟังนะ มีบางอย่างที่ข้าคิดว่า… ข้าควรจะบอกเจ้า”
จากนี้ไปเนี่ยนเนี่ยนจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา แม้ว่ามันจะนานมาแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเอ่ยถึง แต่เขาก็ไม่อยากให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าใจบางคนและบางอย่างผิดไป
เขารู้นิสัยใจคอของเนี่ยนเนี่ยนดี นางอาจพูดว่าไม่สนใจแล้วผิวเผิน แต่ในใจของนางต้องไม่พอใจกับทัศนคติก่อนหน้านี้ของซูกั๋วกงเป็นแน่
ไม่ดีเลยที่จะมี…ความคลางแคลงใจเช่นนี้
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก จากนั้นรู้สึกโล่งใจอีกครั้ง มือเล็ก ๆ ของนางโอบรอบเอวของเขา แล้วส่งเสียง “อืม” เบา ๆ
“แม่ของข้า… เป็นสตรีที่งดงามยิ่งนัก”
เนี่ยนเนี่ยนกะพริบตา นางไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับแม่ของไป๋หลิวอี้ นางได้ยินเพียงว่าตอนที่ไป๋ชูเฟิงไปเที่ยวข้างนอก เขาได้พบกับหญิงคนหนึ่ง และทั้งสองก็ตกหลุมรักกัน จึงกลายเป็นเรื่องผิดจารีต ต่อมาเมื่อซูกั๋วกงกลับจวน เดิมทีเขาต้องการขอให้ใครสักคนไปขอหญิงคนนั้นเพื่อจะแต่งงาน แต่จู่ ๆ หญิงคนนั้นก็หายตัวไป
ซูกั๋วกงส่งคนไปค้นหาทุกหนทุกแห่ง แต่ก็ไม่พบ ต่อมาภายใต้การตัดสินใจของผู้เฒ่าไป๋และฮูหยินเฒ่าไป๋ เขาได้แต่งงานกับหลิ่วซื่อเพื่อสืบสกุลให้ตระกูลไป๋ และปัดเป่าความกังวลของผู้เฒ่าไป๋ก่อนที่จะเสียชีวิต
ต่อมาได้ข่าวว่าแม่ของไป๋หลิวอี้ป่วยหนัก จึงต้องส่งเด็กมาให้ญาติของเขาได้รับรู้ แต่แม้ว่าญาติจะยอมรับ แต่ตัวตนของไป๋หลิวอี้ก็ชวนอึดอัดใจ
ดังนั้นตอนที่อยู่ในตระกูลไป๋จึงเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน และชีวิตของไป๋หลิวอี้ก็ลำบากมาก
“คนนอกบอกว่าเพราะแม่ของข้าป่วยหนัก พวกเขาจึงให้ข้ากลับไปหาตระกูลไป๋ เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษ” เสียงของไป๋หลิวอี้ดังขึ้นเบา ๆ ข้างหูนางอีกครั้ง
เนี่ยนเนี่ยนไม่รู้ว่านางคิดไปเองหรือเปล่า ดูเหมือนนางจะได้ยินน้ำเสียงดูถูกตัวเองเล็กน้อย
“แต่มันไม่ใช่ความจริง”
เนี่ยนเนี่ยนประหลาดใจ ไม่ใช่ด้วยเหตุผลนี้หรอกหรือ?
น้ำเสียงของไป๋หลิวอี้ไม่ค่อยมั่นคง “เป็นเพราะ…แม่ของข้าทรยศต่อพ่อของข้า”
ทันใดนั้นดวงตาของเนี่ยนเนี่ยนก็เบิกกว้าง แม่ของเขาหักหลังซูกั๋วกงหรือ? นี่คือความจริงหรือ?
“แม่ของข้างดงามมาก จึงมีคู่ครองมากมาย เมื่อพ่อของข้ากลับมาที่จวน เพื่อจะไปขอแม่ของข้าแต่งงาน ปรากฏว่ามีบุรุษคนหนึ่งหลงใหลในตัวนาง สัญญาว่าจะไม่ทำให้นางเสียใจ เขาไม่สนใจว่านางจะเป็นเช่นไร ไม่ว่านางจะต่อต้านหรือไม่สนใจ หรือกระทั่งรู้ว่านางตั้งครรภ์ เขาก็ไม่รังเกียจ และยังสัญญาว่าจะปฏิบัติต่อข้าเหมือนลูกของตัวเอง ยิ่งกว่านั้น เขาเต็มใจจะตายเพื่อแม่ของข้า แม่ของข้า… ตอนนั้นตามืดบอด จึงเชื่อเขาและจากไปกับเขา”
นางหนีตามไปกับชายคนนั้นในขณะที่ตั้งครรภ์ และจงใจทิ้งจดหมายถึงไป๋ชูเฟิง โดยบอกว่านางเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรง
“พ่อของข้าไม่เชื่อ ในเมื่อเขายังไม่เห็นนางเลย แล้วเหตุใดเขาถึงจะยอมแพ้ เพียงเพราะจดหมายฉบับเดียว? เขาตามหาแม่ของข้าทุกหนทุกแห่ง แต่ก็ไม่พบ หลังจากกลับมาที่จวนซูกั๋วกง ปรากฏว่าปู่ของข้าสุขภาพไม่ดี เขาจึงอุทิศตัวรับใช้คนป่วยที่ข้างเตียง หลิ่วซื่อจึงฉวยโอกาสตอนที่ท่านพ่อเหนื่อยล้าเข้าหาเขา ตอนที่แม่ของนางพานางมาจวนซูกั๋วกงด้วย เมื่อคนอื่นเห็นเข้า พ่อของข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องรับผิดชอบ”
ไม่เช่นนั้นด้วยนิสัยของหลิ่วเชียง ไม่ต้องพูดถึงผู้เฒ่าไป๋หรอก แม้แต่ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็ยังคิดหนัก
เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดมากกว่านี้ หลิ่วซื่อกลายเป็นฮูหยินแห่งจวนซูกั๋วกง และให้กำเนิดลูกชาย ส่วนผู้เฒ่าไป๋ถึงแก่กรรม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหลิ่วซื่อก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
“ตั้งแต่นั้นมาท่านพ่อก็เลิกตามหาท่านแม่” ในเมื่อแต่งงานมีลูกแล้ว ต่อให้เจอ…แล้วอย่างไรต่อ?
ทว่าในใจยังคงมีความคะนึงหาอยู่เสมอ ยังคงตั้งตารอ เฝ้าคิดถึงและความรู้สึกเริ่มลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความปวดร้าวในใจของซูกั๋วกง
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องมากมายกับซูกั๋วกง
“แล้ว… เจ้าล่ะ?” นางกังวลมากที่สุด ว่าชายคนนั้นจะถือว่าเขาเป็นลูกชายของตนจริงหรือไม่
ไป๋หลิวอี้ยกยิ้มอีกครั้ง แต่สายตาของเขาฉายแววเย็นชา
“การมีอยู่ของข้า จะไม่ทำให้ชายผู้นั้นเจ็บปวดใจได้อย่างไร?” แล้วจะถือว่าเป็นลูกของตนได้อย่างไร?
เพียงประโยคเดียวก็เพียงพอแล้ว เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกสงสารมาก บางทีตั้งแต่ตอนที่ไป๋หลิวอี้เกิดมา คนเหล่านั้นอาจไม่เคยหยุดกลั่นแกล้งเขาเลย
“ความงามย่อมมีวันโรยรา ไม่ว่าใครจะงดงามสักเพียงใด หากได้เป็นภรรยาและมีลูก แล้วต้องดิ้นรนในครอบครัวใหญ่ ในไม่ช้าก็ต้องด้อยกว่าเด็กสาวเหล่านั้น”
ชายผู้นั้นเบื่อหน่ายนางแล้ว ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะการมีตัวตนของไป๋หลิวอี้ หรือเพราะแม่ของเขาให้กำเนิดลูกสาวกับชายคนนั้น หรือเพราะเขาได้พบอนุที่งดงามและอายุน้อยกว่า ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อแก้ตัวของชายคนนั้นหรือไม่ก็ตาม มันก็เป็นความจริงที่ว่าแม่ของเขาถูกปฏิเสธ
แม่ของเขาจึงรู้สึกว่าเหตุผลที่สำคัญที่สุดเป็นเพราะเขา ลูกชายที่ไม่รู้จักพ่อผู้ให้กำเนิด
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนได้ยินเช่นนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะกำมือแน่น “ในตอนนั้นเจ้าคงทนทุกข์ทรมานมาก”
“ที่จริงก็ไม่เป็นอะไรมาก” ไป๋หลิวอี้ยกยิ้ม
เขาโตเกินวัย จึงเข้าใจว่าสถานะของตนนั้นน่าอายเพียงใดตั้งแต่อายุยังน้อย เจ้านายก็ไม่ใช่ บ่าวก็ไม่เชิง กลับเป็นเด็กที่ทั้งนายและบ่าวสามารถรังแกได้
ทุกครั้งที่ชายคนนั้นเห็นเขา เขาจะนึกถึงการนอกใจของแม่ และรู้สึกเหมือนถูกชายชู้หยามเหยียด
ในความเป็นจริง คนที่ต้องการชีวิตของเขาเป็นคนแรกคือชายคนนั้น
ครั้งหนึ่งเขาเคยพยายามบอกแม่ แต่แม่ของเขาหน้ามืดตามัว เอาแต่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น นับประสาอะไรกับการฟังเขา
หลังจากนั้นไม่กี่ครั้ง เขาก็เริ่มมองหาวิธีป้องกันตัวเอง
ดังนั้นการที่เขาถูกหลิ่วซื่อข่มเหง จึงไม่หนักหนานักในความคิดของเขา
เนี่ยนเนี่ยนสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นธรรมชาติ ในเสียงหัวเราะของเขา และรู้สึกสงสารกว่าเดิม “แล้วเหตุใดต่อมาเจ้าถึงกลับไปที่จวนซูกั๋วกง?”
“หลังจากนั้น” ไป๋หลิวอี้ลากเสียงยาว “มีบางอย่างเกิดขึ้น”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เรื่องราวของหลิวอี้ช่างซับซ้อนนัก สงสารหลิวอี้ตอนเด็กๆ เลย ทำไมผู้ใหญ่ชอบสร้างเรื่องให้เด็กมาคอยเก็บกวาดด้วยนะ?
ไหหม่า(海馬)