อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 266 ลากเนี่ยนเนี่ยนออกไป
ตอนพิเศษ 266 ลากเนี่ยนเนี่ยนออกไป
ตอนพิเศษ 266 ลากเนี่ยนเนี่ยนออกไป
เนี่ยนเนี่ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยอมตกลง และวางกล่องกลับเข้าไปในมือของเขา
มันเป็นกล่องไม้สี่เหลี่ยม เล็กกว่ากล่องบนโต๊ะเครื่องแป้งของนางเล็กน้อย ถือแล้วไม่หนักมือ น้ำหนักค่อนข้างเบา ข้างในน่าจะมีของไม่มากนัก
ไป๋หลิวอี้ปลดสลักแล้วยกฝาปิดขึ้น
มีจดหมายหลายฉบับวางอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม ซึ่งด้านบนเขียนถึงไป๋หลิวอี้
เนี่ยนเนี่ยนยื่นหน้าไปดูด้วยความสงสัย นิ้วของนางกำลังจะขยับ รู้สึกอยากจะหยิบจดหมายออกมาอ่านมาก
ไป๋หลิวอี้รู้สึกแปลกใจเช่นกัน เขาหยิบจดหมายออกมา และเมื่อเขามองไปที่ซองด้านล่าง รูม่านตาของเขาก็หดตัวลงเล็กน้อย
เนี่ยนเนี่ยนสังเกตเห็นว่าซองด้านล่างเป็นชื่อของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นชื่อที่พวกเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ไป๋หลิวอี้วางกล่องไว้ข้าง ๆ จากนั้นเปิดจดหมายที่เขียนถึงตัวเอง แล้วอ่านมันขณะเม้มปาก
แม้เนี่ยนเนี่ยนจะอยากรู้อยากเห็น แต่นางก็ยังคงยับยั้งความปรารถนาของตนอย่างหนัก และจับจ้องไปที่กล่องไม้
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงแผ่วเบาดังมาจากด้านข้าง เนี่ยนเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าสีหน้าของไป๋หลิวอี้เคร่งเครียด และจดหมายในมือก็ถูกขยำแน่น
นางอดขมวดคิ้วไม่ได้ และยื่นมือไปจับมือเขา “เกิดอะไรขึ้น? ในจดหมายบอกว่าอย่างไร?”
ไป๋หลิวอี้ถอนหายใจยาว เสียงของเขาแหบพร่า “เนี่ยนเนี่ยน… ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าข้ามีน้องสาว?”
เนี่ยนเนี่ยนกะพริบตา ไป๋หลิวอี้มีน้องสาวหลายคน เพราะซูกั๋วกงยังมีอนุจอมขี้ขลาดอีกสองคน ที่ดูเหมือนจะไม่มีตัวตนเลย…
ประเดี๋ยวก่อน…
นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสื่อ
เนี่ยนเนี่ยนนึกขึ้นได้ ใช่แล้ว ตอนที่ไป๋หลิวอี้เล่าถึงความคับข้องใจของพ่อแม่กับเขา เขากล่าวว่าแม่ของเขามีลูกสาวกับชายที่ทำร้ายและรังแกเขา
เนี่ยนเนี่ยนไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อครอบครัวนั้น นางจึงไม่สนใจมากนัก
เหตุใดถึงยกเรื่องนี้ขึ้นมาตอนนี้?
“น้องสาวคนนั้น… เป็นอะไรไปหรือ?” เนี่ยนเนี่ยนถามเสียงเบา แล้วยืดคอไปอ่านจดหมายในมือเขา
“ชื่อของนางคือเยว่เอ๋อร์ นางหนีออกจากบ้านไปเมื่อหกปีก่อน และหายตัวไปอย่างไร้สาเหตุ บัดนี้ยังไม่ทราบที่อยู่ของนาง” ก่อนที่แม่ของเขาและชายคนนั้นจะเสียชีวิต เยว่เอ๋อร์ได้หายตัวไป แต่คาดไม่ถึงเลยว่าหกปีต่อมาจะได้รับข่าวจากนางอีกครั้ง
“นางเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงข้า”
เนี่ยนเนี่ยนเงยหน้าขึ้นทันที “เจ้าหมายความว่า เจ้ารู้ว่านางอยู่ที่ไหนแล้วหรือ?”
“…ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นางทำงานเป็นสาวใช้ในบ้านของคนอื่น” ไป๋หลิวอี้ลูบหัวนาง แล้วหยิบกล่องมาอีกครั้ง “จดหมายในกล่องนี้เป็นข่าวทั้งหมดที่คนตระกูลเจี่ยงส่งให้บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง เยว่เอ๋อร์ นาง… ใช้วิธีบางอย่างเพื่อขโมยมันออกมา”
เนี่ยนเนี่ยนไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวของไป๋หลิวอี้จะเป็นคนหาหลักฐานให้เขา เยว่เอ๋อร์คนนั้น นาง…
“นางยังสบายดีหรือไม่?”
ไป๋หลิวอี้ส่ายหน้า “ไม่รู้…”
แม้เขาจะพูดเช่นนั้น แต่ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความกังวล เช่นเดียวกับนิ้วที่กำแน่นอย่างเห็นได้ชัด
บอกว่าไม่รู้ แต่มีความหวังเล็กน้อยในใจ
หากต้องการคิดดูจริง ๆ เกรงว่าเยว่เอ๋อร์…คงจะโชคร้ายยิ่งนัก
‘กึก’ ไป๋หลิวอี้ปิดกล่องอีกครั้ง ก่อนเม้มปากแล้วพูดว่า “หลักฐานนี้สำคัญมาก เนี่ยนเนี่ยน มอบมันให้เป่ยเป่ย ให้เขาส่งไปที่วังหลวง”
เย่ฉิงเป่ยนำมันมาให้เขาเพื่อขอความคิดเห็น เพราะสุดท้ายมันก็เป็นสิ่งที่น้องสาวของเขาเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้มา
เนี่ยนเนี่ยนเป็นห่วงเขา แต่นางยังคงเม้มปากและไม่พูดอะไร ก่อนหยิบกล่องไปหาเย่ฉิงเป่ย
นางคิดว่าเยว่เอ๋อร์คงจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไป๋หลิวอี้ ไม่เช่นนั้นจะมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
ในขณะนี้มีหลักฐานชิ้นนี้อยู่ในมือแล้ว ดังนั้นก็ใกล้จะรู้แล้วว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง
เย่ฉิงเป่ยน่าจะรู้ว่านางจะมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้เขาจึงยืนพิงกำแพงเฝ้าดูนางอยู่นอกบ้าน
“เอามาให้ข้า” เย่ฉิงเป่ยหัวเราะ “เรื่องนี้จะจบลงในไม่ช้า”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า หลังจากโยนกล่องให้เขาแล้ว นางก็กลับไปที่ห้องอีกครั้ง
ไป๋หลิวอี้นอนหลับตาอยู่บนเก้าอี้ยาว คิ้วของเขาขมวดแน่น ดูเหมือนว่าเรื่องความปลอดภัยของเยว่เอ๋อร์ จะยังคงอยู่ในใจของเขา
เนี่ยนเนี่ยนนั่งข้างเขา แล้วกระซิบว่า “เจ้าต้องการเล่าเรื่องเยว่เอ๋อร์ให้ข้าฟังหรือไม่?”
“เอ๊ะ?” ไป๋หลิวอี้ประหลาดใจ ขณะมองไปที่เนี่ยนเนี่ยน
เขาถอนหายใจ แล้วดึงเนี่ยนเนี่ยนมาด้านข้าง จับมือเล็ก ๆ ของนาง แล้วพูดว่า “เยว่เอ๋อร์แก่กว่าเจ้าสองปี นางดูเหมือนแม่ของข้ามาก งดงามและใจดีมากตั้งแต่นางยังเด็ก”
อันที่จริงเขามีความทรงจำเกี่ยวกับเยว่เอ๋อร์ไม่มากนัก
แต่สิ่งที่ทำให้ข้าประทับใจที่สุดคือในบรรดาคนครอบครัวนั้น เยว่เอ๋อร์เป็นคนที่เป็นมิตรกับเขาที่สุด
เมื่อเขาไปที่จวนไป๋ เยว่เอ๋อร์อายุได้ห้าขวบแล้ว แม้ว่านางจะยังเด็ก แต่ความทรงจำบางอย่างก็ฝังลึกอยู่ในหัวใจนางแล้ว
ต่อมานางได้แอบเขียนจดหมายถึงเขา ซึ่งไม่มากนัก ปีละหนึ่งฉบับเท่านั้น จนกระทั่งหกปีที่แล้ว นางก็หายตัวไปอย่างไร้วี่แวว
ไป๋หลิวอี้อยากออกตามหา แต่เด็กอายุสิบขวบไม่สามารถไปไหนไกลเพียงคนเดียวได้
แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเยว่เอ๋อร์จะอยู่ใกล้เขามาก
เนี่ยนเนี่ยนคว้ามือของเขาเงียบ ๆ
ไป๋หลิวอี้คงจะเหนื่อยเล็กน้อย หลังจากพูดคุยไปสักพัก เขาก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เนี่ยนเนี่ยนวางเขาลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง ห่มผ้าห่มให้ จากนั้นนั่งขัดสมาธิเฝ้า
ในตอนบ่าย อาเวินพาเหวินหย่ามาดูแลโม่เพียว
เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเจี่ยงโม่เซิงเกิดขึ้นอีก เขาได้พาคนที่มีทักษะสองสามคนมายืนคุ้มกันข้างนอก
เหวินหย่าเจ็บใจที่ไม่อาจหลอมเหล็กเป็นเหล็กกล้าได้ นางจึงจ้องมองโม่เพียวที่หมดสติไปแล้ว แต่นางยังคงเปลี่ยนเสื้อผ้าและเช็ดคราบเลือดให้โดยไม่บ่น และป้อนยาให้นาง
จนกระทั่งท้องฟ้ามืด ไป๋หลิวอี้ก็ยังไม่ตื่น
เนี่ยนเนี่ยนเรียกอาเวิน “เจ้าดูแลนายของเจ้าให้ดี ข้าจะกลับไปที่หอหลินเยว่”
อาเวินงุนงง “จวิ้นจู่ลืมอะไรหรือเปล่าขอรับ? บ่าวจะช่วยไปนำมาให้ท่าน…”
“ข้าจะไปคนเดียว เรื่องต่าง ๆ ต้องถูกเก็บเป็นความลับ มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้”
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้ว อาเวินก็ทำได้เพียงปิดปากอย่างเชื่อฟัง พยักหน้าและให้สัญญาอย่างเคร่งขรึม “จวิ้นจู่ไม่ต้องกังวลขอรับ บ่าวจะดูแลนายท่านอย่างดี”
เนี่ยนเนี่ยนอธิบายให้เขาฟังอีกสองสามคำ ยื่นขวดยาในมือให้เขา และบอกให้เขาระวังอาการบาดเจ็บของไป๋หลิวอี้ จากนั้นหันหลังเดินออกจากลานบ้านไป
เมื่อออกจากจวนเสนาบดีฝั่งขวาแล้ว นางก็มองไปยังทางไปจวนซูกั๋วกง แต่กลับมุ่งหน้าไปยังอีกทางหนึ่ง จุดหมายไม่ได้อยู่ที่หอหลินเยว่อย่างที่นางบอก
เนี่ยนเนี่ยนรีบไปจนสุดทาง และหยุดอยู่หน้าจวนหลังหนึ่ง หลังจากเดินมาเกือบครึ่งชั่วยาม
เมื่อเทียบกับจวนซูกั๋วกง จวนที่อยู่ตรงหน้าดูน่าเกรงขามกว่ามาก
นางหรี่ตาลงและกำลังจะเดินไปที่มุมถนน ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามาข้างหลังนาง ก่อนปิดปากนางอย่างแรง แล้วลากนางออกไปอย่างรวดเร็ว
……………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น้องของหลิวอี้ต้องรอดสิ น้องคือเบื้องหลังความสำเร็จของพี่เลยนะ
ใครมาลักพาตัวเนี่ยนเนี่ยนไปเนี่ย จะมีใครมาช่วยไหม
ไหหม่า(海馬)