อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 268 ยิ่งกว่าเดรัจฉาน
ตอนพิเศษ 268 ยิ่งกว่าเดรัจฉาน
ตอนพิเศษ 268 ยิ่งกว่าเดรัจฉาน
เนี่ยนเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ยินใครบางคนวิ่งมาทางด้านนี้อย่างรวดเร็ว
“หวางเฟย ซื่อจื่อ ท่าไม่ดีแล้วขอรับ” ใบหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความวิตกกังวล สีหน้าของเขาลุกลี้ลุกลน เขาหมอบลง แล้วคลานไปจนถึงตรงหน้าหวางเฟย
หวางเฟยได้สวมชุดเกราะแล้ว แม้จะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังดูเปี่ยมพลังอำนาจและความกล้าหาญหลังจากสวมใส่ชุดเกราะ
นางคว้าคอเสื้อชายคนนั้น แล้วตวาดด้วยความโกรธเคือง “ตื่นตกใจอะไรถึงเพียงนั้น? เกิดอะไรขึ้น รีบบอกข้ามาเสียโดยดี”
ชายคนนั้นตัวสั่นเทา สูดหายใจเสียงดังสองสามที แล้วพูดตะกุกตะกัก “จวน จวนของเราถูกปิดล้อมแล้วขอรับ อู่หยวนโหวพาเจ้าหน้าที่และทหารจำนวนมากมาล้อมทั้งจวนด้วยตัวเอง โดย…โดยบอกว่าได้รับคำสั่งให้มาจับคนทรยศ ให้ ให้พวกเราทุกคนยอมให้จับกุมแต่โดยดีขอรับ”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” หวางเฟยเหวี่ยงเขาออกไป
ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างก็หน้าซีดเผือดเช่นกัน “ท่านแม่ ดูเหมือนว่าเราต้องสู้กันตอนนี้เท่านั้น ไปสมทบกับรองแม่ทัพหลิวข้างนอก จากนั้นตรงไปที่วังหลวง”
หวางเฟยขมวดคิ้ว แล้วมองไปยังคนในจวนที่เตรียมการแล้วทุกคน สีหน้าของนางตึงเครียด
นางมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ ใช่ ผิดปกติมาก
เนี่ยนเนี่ยนก็รู้สึกแปลก ๆ เช่นกัน ขณะที่นางกำลังจะกวาดสายตาพลางครุ่นคิด ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านข้าง
นางหันไปเห็นพี่ชายของนางเข้ามาใกล้ แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เยว่เอ๋อร์อยู่ในคุกส่วนตัวหลังสวนเฟิงเหอทางทิศตะวันออก ไปพานางออกไป”
เนี่ยนเนี่ยนกระซิบถามเขาว่า “แล้วท่านเล่า?”
“ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ”
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาลง “ความเคลื่อนไหวด้านนอกเกี่ยวข้องกับท่านหรือ? ท่านรู้เรื่องนี้แล้วใช่หรือไม่?”
เย่ฉิงหนานยกยิ้ม แล้วลูบหัวของนาง “เนี่ยนเนี่ยนฉลาดจริง ๆ เอาล่ะ ฮ่องเต้และไท่จื่อได้วางแผนเรื่องนี้ไว้แล้ว ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน เจ้าปล่อยส่วนนี้ไปเถิด ตอนนี้ทั้งจวนถูกปิดล้อมหมดแล้ว ข้าเกรงว่าพวกเขาจะโกรธน้องสาวของไป๋หลิวอี้ ดังนั้นเจ้ารีบไปพานางออกมาก่อนเถิด”
เนี่ยนเนี่ยนแอบพ่นลมหายใจ หากไม่อยากให้นางมีส่วนร่วม นางก็จะไม่ไปมีส่วนร่วม ไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างที่ฟังดูดีเช่นนี้หรอก
แต่จุดประสงค์ในการมาของนางคือเยว่เอ๋อร์ นางจึงไม่ต้องการสนใจเรื่องอื่นมากนักอยู่แล้ว
เนี่ยนเนี่ยนแอบมองค้อนเย่ฉิงหนาน จากนั้นหันหลังมุ่งหน้าไปยังสวนเฟิงเหอทางทิศตะวันออก
เสียงอื้ออึงของผู้คนชัดขึ้นเรื่อย ๆ เนี่ยนเนี่ยนไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วหวางเฟยตัดสินใจอย่างไร แต่ฟังดูแล้วคงจะออกไปต่อกรกับอู่หยวนโหวข้างนอก เพราะไม่มีทางเลือกอื่น
นางส่ายหน้า แล้วรีบเดินเร็วขึ้นโดยไม่วอกแวก
ในไม่ช้าเขาก็มาถึงสวนเฟิงเหอ เมื่อมองเห็นลานบ้านที่ค่อนข้างทรุดโทรม เนี่ยนเนี่ยนก็หันมองไปรอบ ๆ ในที่สุดก็มองไปยังหินก้อนใหญ่ที่อยู่ด้านหลังลานบ้าน
การออกแบบของที่นี่ดูเหมือนจะแยบยลเล็กน้อย แต่โชคดีที่เนี่ยนเนี่ยนเติบโตมากับค่ายกลหลากหลายรูปแบบของบิดานางตั้งแต่นางยังเด็ก ค่ายกลนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนาง
เนี่ยนเนี่ยนพบปุ่มนูนบนหินอย่างรวดเร็ว เมื่อกดเบา ๆ หินนั้นก็สั่นเบา ๆ ในไม่ช้าก็เผยให้เห็นกลไกที่เหมือนค่ายกล
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก แย่จริง มันมีถึงสองชั้น
นางจับคางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ค่ายกลนั้นจะต้องหมุน แต่ไม่รู้ว่าจะหมุนไปทางซ้ายหรือขวา หากนางหมุนผิด บางทีคุกอาจพังทลายลงมาก็เป็นได้
นางหลุบตาลงมองมันอย่างละเอียดอีกครั้ง พลางหรี่ตาดูลวดลาย
มีส่วนโค้งสองสามอันอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่ามันน่าจะเป็นรอยประทับที่หลงเหลือจากการถูกคนสร้างหมุน
ซ้ายและขวา… ขวา แล้วก็ขวา
เนี่ยนเนี่ยนตาเป็นประกาย นางยื่นมือไปกดบนลวดลาย จากนั้นหมุนไปทางขวา
เสียงกุกกักดังก้อง เนี่ยนเนี่ยนเงยหน้าขึ้น แล้วเห็นก้อนหินที่อยู่ไม่ไกลค่อย ๆ เคลื่อนออกไป เผยให้เห็นพื้นราบ จากนั้นพื้นดินก็ค่อย ๆ แหวกออกเป็นช่อง ช่องนั้นเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็ใหญ่ขึ้นจนเผยให้เห็นบันไดทอดยาวลงไปใต้ดิน
เนี่ยนเนี่ยนรีบวิ่งลงบันไดไป
หลังจากเดินลงมาแล้ว นางก็เห็นว่ามีค่ายกลเหมือนเดิมทุกประการอยู่ทางด้านซ้ายมือ นางใช้มือหมุนอีกครั้ง แล้วชั้นบนก็ปิดลงอีกครั้ง
เนี่ยนเนี่ยนหยิบตะบันไฟออกมา แล้วเดินเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง
ใต้ดินชื้นแฉะและกลิ่นแรงมาก ยิ่งเข้าไปข้างในกลิ่นอับก็ยิ่งแรงขึ้น
ข้างในมีห้องขังอยู่สองห้อง มันดูค่อนข้างสะอาด แต่คราบเลือดที่ติดอยู่ตามรั้วก็ยังน่าสะพรึงกลัว
นางขมวดคิ้ว เมื่อเดินเข้าไปข้างในได้ไม่กี่ก้าว เสียงหายใจแผ่วเบาสองเสียงก็ลอยมาเข้าหูของนาง
ดวงตาของเนี่ยนเนี่ยนเป็นประกายด้วยความดีใจ จากนั้นฝีเท้าของนางก็หยุดลง สองเสียงหรือ?
มีใครอีกนอกจากเยว่เอ๋อร์? เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้วแล้วเร่งฝึเท้าขึ้นเล็กน้อย
ในช่วงเวลาต่อมา ขอบเขตการมองเห็นเบื้องหน้านางก็กว้างขึ้น มีลูกปัดเรืองแสงติดอยู่บนผนังทั้งสองด้านผนัง ทำให้ทั่วคุกใต้ดินสว่างไสว
เนี่ยนเนี่ยนดับไฟทันที แล้วมองไปที่ยังร่างคนที่อยู่บนแท่นกลางห้องขัง
หญิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บถูกมัดไว้บนแท่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด มือและเท้าถูกมัดด้วยท่าทางบิดเบี้ยวผิดปกติ
เหมือน… เหมือนถูกใครหักแขนหักขา
เส้นเลือดบนหน้าผากของเนี่ยนเนี่ยนปูดออกมา หัวใจของนางเต้นไม่เป็นจังหวะ มือทั้งคู่สั่นเบา ๆ
นางพุ่งไปข้างหน้า แล้วดึงมีดสั้นในรองเท้าออกมาฟันไปข้างหน้า เพื่อตัดโซ่เหล็กออก
คนบนแท่นนิ่งราวกับหุ่นเชิด ล้มลงมาหาเนี่ยนเนี่ยน
นางรีบกอดร่างผอมบางของนางไว้ เมื่อมองไปยังรูปลักษณ์ที่สะบักสะบอมจนจำไม่ได้ของนาง หัวใจของนางก็พลันรู้สึกเจ็บแปลบ
“ใคร…” หญิงคนนั้นน่าจะรู้สึกตัวอยู่ เสียงของนางแผ่วเบานัก ริมฝีปากที่ถูกเย็บติดกันด้วยเข็มและด้ายกระตุกเล็กน้อย เลือดไหลทะลักออกมามากมาย ความเจ็บปวดทำให้เส้นเลือดของนางปูดโปน
เนี่ยนเนี่ยนทนดูไม่ได้ “เจ้าคือเยว่เอ๋อร์ใช่หรือไม่?” ไป๋หลิวอี้บอกไว้ว่ามีปานแดงที่ข้อมือของเยว่เอ๋อร์ ซึ่งเป็นปานแดงขนาดเล็กมาก
นางเห็นมันแล้ว
ดวงตาของหญิงคนนั้นเป็นประกาย นางลืมตาขึ้นเล็กน้อย แล้วส่งเสียงร้องอู้อี้ ขณะที่แผลบนเปลือกตาของนางเริ่มเจ็บอีกครั้ง
เนี่ยนเนี่ยนไม่ต้องการให้นางพูดอีกต่อไป “ข้าจะพาเจ้าออกไป”
“อืม…” ร่างกายของเยว่เอ๋อร์อ่อนปวกเปียก
เนี่ยนเนี่ยนแบกนางไว้บนหลัง มือและเท้าของเยว่เอ๋อร์หักทั้งหมด นางทำได้เพียงนอนบนหลังของเนี่ยนเนี่ยนอย่างไร้เรี่ยวแรง
ทว่าขณะที่เนี่ยนเนี่ยนเดินออกไปข้างนอกได้สองสามก้าว โดยมีนางอยู่บนหลัง เสียงของเยว่เอ๋อร์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เดี๋ยว…”
เสียงของนางไม่ชัดเจน เพราะมันเจ็บปวดมากหากต้องเอื้อนเอ่ยอะไรสักคำออกมา
เนี่ยนเนี่ยนหูไว นางจึงหยุดทันที “มีอะไรหรือ?”
เยว่เอ๋อร์หันหน้าไปทางซ้าย “และ…” มีอีกคนหนึ่ง
เนี่ยนเนี่ยนจำได้ทันทีว่าตอนที่นางเข้ามาเมื่อครู่นี้ นางได้ยินเสียงหายใจจากคนสองคน แต่เสียงนั้นก็แผ่วเบามากเช่นกัน
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว คงไม่ฉลาดเลยหากนางต้องพาคนอ่อนแอสองคนออกไปพร้อมกัน
แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็ยังคงกัดฟันหมุนตัวเดินไปทางซ้าย
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
น้องโดนทรมานโหดมากอะ ถึงขั้นเย็บปากเลย แสดงว่าความลับที่น้องรู้มามันต้องเป็นเรื่องสะเทือนตระกูลนี้แน่หากว่าถูกแพร่งพรายออกไป
ไหหม่า(海馬)