อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 269 ตัวตนของเขา
ตอนพิเศษ 269 ตัวตนของเขา
ตอนพิเศษ 269 ตัวตนของเขา
มีคุกใต้ดินที่อยู่ชั้นล่างอีกทางด้านซ้าย ลูกกรงยังคงเปื้อนไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง
ข้างในนั้นดูเหมือนจะมีร่างหนึ่งนอนขดตัวอยู่ ผมเผ้ากระเซิง มีบาดแผลทั่วร่างกายและหายใจรวยรินยิ่งกว่าเยว่เอ๋อร์
เนี่ยนเนี่ยนเห็นแล้วก็วางเยว่เอ๋อร์ลงกับพื้นอย่างระมัดระวัง แล้วบอกให้นางเอนตัวไปด้านข้าง “เจ้ารอข้าสักครู่”
เยว่เอ๋อร์เปล่งเสียงแผ่วเบาในลำคอ แล้วเอนกายพิงประตูเหล็ก
เนี่ยนเนี่ยนมองไปยังแม่กุญแจบนลูกกรงเหล็ก จากนั้นใช้มีดสั้นฟันลงไปอย่างแรงสองครั้ง แม้ว่าจะเป็นมีดที่คมกริบจนสามารถตัดโซ่เหล็กได้เหมือนโคลน แต่ก็ไม่สามารถตัดแม่กุญแจออกได้ เพราะมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าโซ่เหล็กที่พันธนาการเยว่เอ๋อร์เมื่อครู่นี้
เนี่ยนเนี่ยนพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะดึงปิ่นออกจากผม โชคดีที่ท่านยายฮ่วนเคยสอนทักษะการสะเดาะแม่กุญแจแบบง่ายให้นางในตอนนั้น นางจึงสามารถสะเดาะแม่กุญแจที่ไม่ซับซ้อนเกินไปได้อย่างง่ายดาย
เนี่ยนเนี่ยนใช้ปิ่นหมุนรูกุญแจสองครั้ง กดแล้วยกขึ้น จากนั้นเสียง ‘คลิก’ ก็ดังขึ้น แล้วแม่กุญแจบนประตูเหล็กก็หลุดออกไป
เยว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้นก็อดถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้
เนี่ยนเนี่ยนก้มตัวเข้าไปในห้องขังอย่างรวดเร็ว แล้วมองดูชายที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ยื่นมือออกไปปัดผมที่ยุ่งเหยิงปกคลุมทั่วใบหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่มีริ้วรอยทว่ายังคงหล่อเหลา
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่าจมูกและริมฝีปากของเขาดูคุ้นเคยเหมือนใครบางคน
ทว่าคนผู้นี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเนี่ยนเนี่ยนจับชีพจรของเขา ก็พบว่ากำลังภายในของคนผู้นี้อยู่ในระดับสูง แต่ถูกแรงกดดันภายนอกระงับไว้ ประกอบกับการถูกทรมานหลายครั้ง อวัยวะภายในทั้งห้าได้รับความเสียหาย เขาจึงหมดสติไป
เนี่ยนเนี่ยนหยิบเข็มเงินออกมาปักลงบนศีรษะของเขา ชายคนนั้นขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด หลังจากผ่านไปนาน เขาก็ครางออกมาเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ฟื้นขึ้น
“เป็นอย่างไรบ้าง?” เนี่ยนเนี่ยนดึงเข็มออก แล้วเดินเข้าไปหาเขา
ชายวัยกลางคนไอเบา ๆ ทันใดนั้นกลิ่นคาวก็ตีขึ้นมาจากลำคอ ก่อนที่เขาจะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
โชคดีที่เนี่ยนเนี่ยนมีสายตาเฉียบคมและมือว่องไว นางรีบถอยหลังหนีไปหนึ่งก้าว ก่อนจะยกมือทาบอก
ร่างของชายวัยกลางคนอ่อนปวกเปียกไปหมด แต่ยังคงจ้องมองเนี่ยนเนี่ยนตาไม่กะพริบ “เจ้าเป็นใคร?”
“ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยนาง” เนี่ยนเนี่ยนเอื้อมมือออกไปชี้เยว่เอ๋อร์
“แม่นางเยว่เอ๋อร์หรือ?” ชายวัยกลางคนดูเหมือนจะรู้จักนาง เขาผงะไปครู่หนึ่งแล้วมองเนี่ยนเนี่ยน “แม่นาง เจ้า…”
เนี่ยนเนี่ยนโบกมือ “เยว่เอ๋อร์ขอให้ข้าช่วยท่านด้วย แต่ท่านก็รู้ว่าสถานที่นี้อยู่ที่ใด ช่วยนางเพียงคนเดียวก็ยากมากสำหรับข้าแล้ว นับประสาอะไรกับการช่วยท่านออกไปด้วย พวกท่านทั้งสองคนบาดเจ็บเสียจนไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะออกจากคุกใต้ดินนี้ได้แล้ว”
ตอนนั้นเองที่เยว่เอ๋อร์รู้สึกตัวว่าตนดูเหมือน… จะทำให้เรื่องยากสำหรับนางจริง ๆ
นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันทีที่ริมฝีปากของนางขยับ ความเจ็บปวดก็ทำให้นางแทบจะเป็นลม
ชายวัยกลางคนเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “ข้าเข้าใจ แม่นาง เจ้าแค่ต้องช่วยแม่นางเยว่เอ๋อร์ออกไป คนแก่เช่นข้าไม่สำคัญอีกต่อไป แต่ถ้าเจ้าออกไปอย่างปลอดภัยได้ โปรดส่งข้อความของข้าไปยังจวนซูกั๋วกง เตือนซูกั๋วกงและเสนาบดีฝั่งขวาให้ทูลฮ่องเต้ ว่าตระกูลเจี่ยงและจวนท่านอ๋องเลี่ยก่อกบฏ”
ใช่แล้ว จวนท่านอ๋องเลี่ย
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในคุกของจวนท่านอ๋องเลี่ย และท่านอ๋องเลี่ยเป็นท่านอ๋ององค์เดียว ที่มีสกุลต่างจากองค์อื่นในอาณาจักรเทียนอวี่
เนื่องจากความห้าวหาญทางการรบที่โดดเด่นของเขา ฮ่องเต้จึงเห็นคุณค่าเขามาก
คดีปล้นก่อนที่นางจะมาถึงอาณาจักรเทียนอวี่ เขายังเป็นผู้พาคนไปกวาดล้างด้วยตัวเอง เพราะไป๋หลิวอี้เป็นผู้ให้ความคิดแก่เขา เขาจึงมองไป๋หลิวอี้ในแง่ดีมาก ในระหว่างการสอบไป่กวน เขาไม่ได้ทำให้ไป๋หลิวอี้ต้องอับอายเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังเยาะเย้ยอู่หยวนโหวที่คิดจะจัดการกับไป๋หลิวอี้อีกด้วย
ในเวลานั้นเนี่ยนเนี่ยนจึงยิ่งรู้สึกดีกับเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
ทว่าไป๋หลิวอี้และเป่ยเป่ยค้นพบในภายหลังว่า กลุ่มโจรที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่เลือกหน้าในเวลานั้น ไม่ใช่คนของใครอื่นนอกจากท่านอ๋องเลี่ย
เขาเป็นคนที่ทะเยอทะยานมานานแล้ว จึงได้ตั้งกองทหารเป็นการส่วนตัวและต้องการก่อปัญหา เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง ในเหตุการณ์วางยาพิษไท่จื่อเฟย เพื่อจัดการกับราชวงศ์เมื่อห้าปีก่อน
มันยากสำหรับเนี่ยนเนี่ยนที่จะจินตนาการว่าขุนพลที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความชอบธรรมจะมีความคิดอุกอาจเช่นนี้ได้
นางถอนหายใจ เมื่อนึกถึงเลี่ยหวางเฟยและซื่อจื่อองค์โตที่นางเห็นเมื่อไม่นานมานี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังตื่นเต้นมาก และกำลังร้อนรน
“…ข้าเกรงว่าจะมีคนทรยศในสี่ตระกูลใหญ่ เจ้าต้องบอกให้ทุกคนระวัง…” ชายวัยกลางคนกระแอมเบา ๆ แล้วพูดเพิ่มอีกหนึ่งประโยค
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นมองเขาด้วยความแปลกใจ แล้วถามว่า “ท่านเป็นใคร?”
ชายวัยกลางคนตกตะลึง แต่แล้วก็ก้มหน้าลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความละอาย
“หากท่านไม่บอกว่าท่านเป็นใคร ผู้คนจะเชื่อข้าได้อย่างไร?” เนี่ยนเนี่ยนกล่าวเสริม น้ำเสียงของนางหนักแน่น
“… ถงเทียนอวี้”
นัยน์ตาของเนี่ยนเนี่ยนเบิกกว้างทันที นางอ้าปากค้าง “ถงเทียนอวี้? ผู้นำตระกูลแห่งตระกูลถงหรือ? ท่านยังไม่ตายหรือ?”
จะเป็นไปได้อย่างไร? พ่อของถงเวยหลิน… ถูกฆ่าในหายนะครั้งนั้นไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ต่อหน้านางได้อย่างไร?
ถงเทียนอวี้ยกยิ้มฝืดเฝื่อน “ข้าก็ไม่รู้ ข้าคิดว่าตอนนั้นข้าคงกำลังจะตายจริง ๆ แล้ว ข้าถูกแทงหลายครั้งจนสูญเสียกำลังภายในทั้งหมดไป แต่เมื่อข้าตื่นขึ้นมา ข้าก็อยู่ที่นี่แล้ว” เขาพูดพลางขมวดคิ้ว “พวกเขาน่าจะไปหาศพที่คล้ายกับข้ามาปลอมเป็นข้ากระมัง”
เนี่ยนเนี่ยนยังตั้งสติไม่ค่อยได้ นางไม่เคยพบถงเทียนอวี้ แต่คนที่อยู่ตรงหน้านาง…
ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าเหตุใดเมื่อครู่นี้ นางถึงรู้สึกว่าจมูกและริมฝีปากของเขาดูคุ้นตานัก ใช่แล้ว เขาคล้ายกับถงเวยหลินมาก
เนี่ยนเนี่ยนเชื่อแล้ว แต่แค่สงสัยว่า “เหตุใดพวกเขาถึงต้องขังท่านไว้ที่นี่ด้วย?”
“ในฐานะครอบครัวที่มีอายุเก่าแก่นับศตวรรษอย่างตระกูลถง ย่อมมีสิ่งที่พวกเขาต้องการอยู่เสมอ” ถงเทียนอวี้ไม่ได้บอกว่ามันคืออะไร
เขามองเนี่ยนเนี่ยนแล้วเร่งเร้า “เจ้ารีบเร็วเข้าเถิด ที่นี่ไม่ปลอดภัย ข้าเกรงว่าอีกไม่นานพวกเขาจะมาที่คุกนี้อีก หลังจากที่เจ้าออกไปแล้ว… อย่าลืมนำคำพูดของข้าไปบอกด้วย”
เนี่ยนเนี่ยนพูดด้วยความลำบากใจ “ข้าคิดว่า… ออกไปด้วยกันเถิด” พ่อของถงเวยหลิน นางทิ้งเขาไว้ที่นี่ไม่ได้
แม้ว่าตัวตนของเขาจะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่อีกไม่นานก็จะชัดเจนหลังจากที่เขาออกจากคุกแห่งนี้ได้
“ตอนนี้ข้าจับชีพจรท่านแล้ว และพบว่ากำลังภายในของท่านถูกแรงกดดันภายนอกระงับไว้ ข้าจะฝังเข็มให้ท่านเดี๋ยวนี้ หากท่านมีกำลังภายใน แม้ว่าอาจช่วยได้ไม่มากนัก ทว่าอย่างน้อยก็สามารถออกไปจากที่นี่ได้ ท่านไม่ต้องกังวล จวนท่านอ๋องเลี่ยกำลังอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย จึงยังมีโอกาสสูงที่เราจะใช้โอกาสนี้หลบหนี”
“เจ้า…” ถงเทียนอวี้มองนางด้วยความประหลาดใจ
เนี่ยนเนี่ยนไม่สนใจเขา และปักเข็มหลายเล่มบนร่างกายของเขา
ถงเทียนอวี้รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เขาจึงทำได้เพียงตั้งสมาธิ และรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ราวกับว่ามีกระแสน้ำอุ่นไหลเวียนในร่างกายของเขา จากนั้นก็ตระหนักว่าร่างกายของเขามีพละกำลังเพิ่มขึ้น ความเจ็บปวดในร่างกายก็ลดลงมาก
หลังจากนั้นไม่นาน เนี่ยนเนี่ยนก็ดึงเข็มออก แล้วพูดกับเขาว่า “พอเท่านี้ก่อน ออกไปก่อน”
“ได้” ถงเทียนอวี้ถูกประคองให้ยืนขึ้น จากนั้นก็เดินไปสองสามก้าว รู้สึกดีขึ้นมากจริง ๆ
เนี่ยนเนี่ยนรีบมาที่ประตูโดยแบกเยว่เอ๋อร์ไว้บนหลังอีกครั้ง ขณะที่ทั้งสามกำลังจะออกไป ก็มีเสียงประตูหินเปิดออก
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
จะช่วยผู้นำตระกูลถงออกไปได้ไหมน้า
แต่ประหลาดใจมากเลยที่คนนิสัยดีอย่างอ๋องเลี่ยในตอนแรกกลับกลายเป็นเลี่ยหู้ได้ขนาดนี้
ไหหม่า(海馬)